บทที่ 347 ยาพิษยอดเยี่ยมมากอย่างนั้นหรือ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 347 ยาพิษยอดเยี่ยมมากอย่างนั้นหรือ

“เทพธิดาวางใจ ข้าน้อยจะไปจัดการ”

หลังจากเถ้าแก่เดินจากไป

นางกำนัลทั้งสองคนเดินเข้ามาพร้อมยกน้ำชาและของว่าง หลังจากวางของเรียบร้อยแล้ว ก็ทำความเคารพแล้วถอยออกไป

หลานเยาเยารินชาหนึ่งถ้วย นำถ้วยชาไปที่ปลายจมูกแล้วดม สีหน้าเปล่งประกายเล็กน้อย จากนั้นพยักหน้าด้วยความพอใจอย่างมาก

“อืม ชาหอมน่ารื่นรมย์ ชาดี!”

หลังจากเม้มปากจิบไปหนึ่งคำ นางก็หยิบขนมขึ้นมากิน

หอมนุ่ม แต่ไม่เลี่ยน

ขนมที่มีรสชาติเช่นนี้ นางได้กินเป็นครั้งแรก

ดังนั้น หลานเยาเยา จึงย้ายไปนั่งข้างหน้าต่าง

หน้าต่างด้านในของชั้นสอง แตกต่างจากหน้าต่างอื่นๆ มันใหญ่กว่าและกว้างกว่า อีกทั้งหน้าต่างยังถูกเปิดไว้ต่ำมาก

หลานเยาเยานั่งลง ซึ่งสามารถนั่งพิงหน้าต่างและมองไปชมเวทีการแสดงที่ชั้นหนึ่งได้ บนหน้าต่างที่ม่านสีฟ้าโปร่งแสงม้วนไว้อยู่

ตอนนี้!

ที่เวทีชั้นหนึ่งกำลังมีการแสดงกายกรรมที่ยอดเยี่ยม เดิมหลานเยาเยาคิดว่านักแสดงชายหลักที่เถ้าแก่ได้เตรียมไว้จะต้องอยู่บนเวที และน่าจะขึ้นเวทีหลังจากที่การแสดงกายกรรมจบลง

กลับคิดไม่ถึง……

หลังจากการแสดงกายกรรมจบลง ก็ไม่เห็นนักแสดงชายขึ้นมาขับร้องบนเวที คนที่ขึ้นเวทีกลับเป็นนักระบำหญิงที่อ่อนช้อยงดงาม

ในขณะนี้

“ตึงตึงตึง……”

เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังเข้ามาในห้องพักส่วนตัว

“เข้ามา!”

หลังจากได้พูดออกไปตามใจคิด หลานเยาเยามองไปยังเวทีที่ชั้นหนึ่งอย่างเบื่อหน่ายมาก มือที่ขาวผ่องเหมือนหัวหอมหยิบของว่างขึ้นมากินจนหมด โดยไม่ได้มองคนที่เข้ามา

“เทพธิดา!”

เสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยนดังขึ้นช้าๆ ราวกับเสียงหยกที่อ่อนโยนและอบอุ่น

ทำให้หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะหันกลับมา

ตรงหน้าคือชายหนุ่มรูปงาม มีคิ้วยาวเหมือนต้นหลิว รูปร่างราวกับต้นหยก รูปร่างที่สูงเพรียวสวมเสื้อคลุมสีเขียวเข้มอย่างเย้ายวน

ผมยาวสีดำ ถูกมัดขึ้นไว้เพียงเล็กน้อย ส่วนที่เหลืออยู่ทั้งหมดถูกปล่อยยาวลงมา ผมหน้าม้าที่ยาวเป็นชั้นๆ จนเกือบจะปกปิดไปครึ่งใบหน้า

เป็นชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลางดงามมากคนหนึ่ง

ไม่แปลกใจเลยที่หลินเฟยหรันและฉินหลิงเจียวล้วนแต่ต่างตกหลุมรักเขา!

“เจ้าคือตัวหลักของที่นี่ใช่ไหม”

ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย และน้ำเสียงที่แผ่วเบาก็ค่อยๆ ดังขึ้น “ข้าน้อยยู่หลิวซู คารวะเทพธิดา”

“อืม!”

แม้ว่ายู่หลิวซูจะหล่อเหลางดงามมาก แต่เทียบไม่ได้กลับเทพบุตรตกสวรรค์อย่างเย่แจ๋หยิ่ง หานแสที่มีเสน่ห์ชั่วร้าย รวมทั้งเซียวจิ่นหยูที่มีความสุภาพเรียบร้อย และยังดูด้อยกว่าเล็กน้อย

“เริ่มการแสดงของเจ้าเถอะ!” หลานเยาเยากล่าวเบาๆ

สำหรับสายตาของเทพธิดาแล้วไม่ได้มีความประหลาดใจใดๆ เลย แต่ยู่หลิวซูกลับมีความประหลาดใจอยู่เล็กน้อย

แต่!

หน้าตาที่สวยและสง่างามของเทพธิดา เมื่อเทียบกับข่าวลือแล้ว ไม่ได้มีอะไรที่น้อยไปกว่ากันเลย

ยู่หลิวซูก็เดินมาถึงในไม่ช้า หลังจากเข้าไปอยู่ใกล้กับม่านโปร่งแสงในห้องพักส่วนตัว ก็นั่งลงบนพื้น จัดวางกู่ฉินลงเรียบร้อย ก็เริ่มบรรเลงไปพลาง ขับร้องไปพลาง

เสียงเพลงของเขาเหมือนดั่งสายน้ำที่ไหลอย่างช้าๆ อบอุ่นและไพเราะ ราวกับสามารถชำระล้างจิตวิญญาณของมนุษย์ได้ และลบล้างความโศกเศร้าที่อยู่ภายในใจได้……

ฟังไปฟังมา

หลานเยาเยาก็รู้สึกว่าเปลือกตากำลังต่อสู้อยู่ จากนั้นก็เริ่มสะลึมสะลือ เคลิ้มหลับอีกครั้ง คล้ายกลับกำลังเข้าสู่สภาวะที่งดงาม

ในไม่ช้า ยู่หลิวซูก็หยุดขับร้องเพลง และหยุดบรรเลงด้วยเช่นกัน

เมื่อเห็นเทพธิดาที่กำลังคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะเตี้ย เขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ทะลุผ่านม่าน มายังด้านหน้าของโต๊ะเตี้ย

“เทพธิดา เทพธิดา เทพธิดา”

ตะโกนเบาๆ พบว่าเทพธิดาได้นอนหลับสนิทแล้ว จึงได้แต่แอบหัวเราะเบาๆ

“เทพธิดาผู้สง่างามก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ! ข้ายังเตรียมวิธีการรับมือไว้มากมาย”

ยู่หลิวซู นั่งลงที่ด้านข้างของหลานเยาเยา มองดูใบหน้าที่กำลังหลับใหลของนางอย่างละเอียด

“แต่ เป็นใบหน้าที่งดงามจนน่าทึ่งจริงๆ”

ทันใดนั้นความคิดที่ชั่วร้ายก็ผุดขึ้นมา เขาค่อยๆ ยื่นมือไปสัมผัสแก้มของหลานเยาเยา

แต่……

มือยังไม่ทันได้สัมผัสถึง ข้อมือก็ได้ถูกจับเอาไว้

“การแสดงจบแล้วหรือ” เสียงพูดดังขึ้นมาเบาๆ

“เจ้า……เจ้าแกล้งหรือ”

เมื่อเห็นเทพธิดาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองเขาอย่างเยือกเย็น ไม่ได้มีเรื่องอะไรเลย เขาก็ตกใจมาก

ท่าทางที่สงบนิ่งครู่หนึ่งก็เปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนกเล็กน้อย

ยู่หลิวซู ต้องการจะถอนมือออก แต่ข้อมือกลับถูกจับไว้แน่น ยิ่งขยับมากเท่าไหร่ ข้อมือยิ่งถูกรัดแน่นขึ้นเท่านั้น

“เสียงที่มีเสน่ห์เย้ายวนของเจ้ายอดเยี่ยมมากจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เย้ายวนข้าไม่ได้ บอกมา! เจ้าพัวพันกับหลินเฟยหรันได้อย่างไร”

“พัวพันอะไรกัน”

เมื่อยู่หลิวซูได้ยินคำนี้ ก็โกรธเล็กน้อย “ข้ายู่หลิวซูไม่จำเป็นต้องพัวพันกับผู้ใด”

“เจ้าจะบอกว่า พวกนางมาพัวพันกับเจ้าอย่างนั้นหรือ” หลานเยาเยาขมวดคิ้วเล็กน้อย

เจ้ายู่หลิวซูผู้นี้ดูเหมือนจะอ่อนโยน แต่จริงๆ แล้วโอหังอวดดี จะไปมีความเกี่ยวข้องกับหลินเฟยหรันและฉินหลิงเจียวได้อย่างไรกัน

“น่าเบื่อ!”

ยู่หลิวซูเหลือบมองนางเบาๆ มือยังคงพยายามที่จะหลุดออกจากพันธนาการของเทพธิดา จู่ๆ มือกลับผ่อนลง คนทั้งคนก็ถอยไปข้างหลัง ท่าทีดูน่าละอายเล็กน้อย

ทันทีที่เขาลุกขึ้น สีหน้าก็กลับสู่สภาวะเดิม หลังจากเข้าไปยังม่านโปร่ง ก็ได้หยิบกู่ฉินมายังด้านหน้าของหลานเยาเยา

โค้งคำนับด้วยความเคารพ

“บทเพลงที่มีชื่อเสียงของตึกฟังงิ้ว ได้บรรเลงจบแล้ว ข้าน้อยขอลา”

“จะไปแล้วหรือ” หลานเยาเยางอริมฝีปากขึ้น

อย่างไรก็ตาม !

ยู่หลิวซูหันกลับราวกับไม่ได้ยินแล้วจากไป แต่ในวินาทีถัดมา ร่างกายก็ได้ถูกพันด้วยเส้นไหมเงินที่ยาวและละเอียด

“เจ้ายังสามารถใช้กำลังภายในได้อีกหรือ”

เมื่อเห็นตนเองถูกมัด ยู่หลิวซูก็แอบสะดุ้งในใจ อดไม่ได้ที่จะบิดตัวไปมา และมองไปบนโต๊ะเตี้ย

“ใช่สิ! ทำไมหรือ”

“เจ้า……เป็นไปได้อย่างไร” ใบหน้าของยู่หลิวซูแสดงออกอย่างไม่อยากเชื่อ “นั่นคือยาหมดแรงจิ่วจื้อ!”

“ยาหมดแรงจิ่วจื้อแล้วทำไมหรือ เยี่ยมยอดหรือ”

หลานเยาเยาดึงตัวยู่หลิวซูไปยังโต๊ะเตี้ย จากนั้นก็คลายไหมเงิน

“ยาหมดแรงจิ่วจื้อเป็นการใช้วัตถุดิบยาพิษทั้งสี่สิบเก้าชนิดมาต้มรวมกัน หนึ่งในนั้นจำเป็นต้องใช้กระบวนการเก้าขั้นตอน การทรมานสิบครั้ง จึงสำเร็จเป็น ยาหมดแรงจิ่วจื้อที่แท้จริง

หากต้องการทำยาถอนพิษ นอกจากต้องรู้วัตถุดิบยาพิษทั้งสี่สิบเก้าชนิดนั้นว่าเป็นตัวไหน และกระบวนการเก้าชนิดไหนบ้าง

ดังนั้น คนที่ได้รับพิษของยาหมดแรงจิ่วจื้อ ก็เท่ากับไม่มียาใดสามารถถอนพิษได้” ยู่หลิวซูกล่าวอย่างมั่นใจมาก

“โอ้ น่าเสียดายที่ถูกข้าถอนได้แล้ว”

เมื่อพูดออกมาเช่นนี้

ยู่หลิวซู ก็รู้สึกห่อเหี่ยว แม้ว่าไม่อยากจะเชื่อ แต่กลับไม่สามารถโต้แย้งได้”

หลานเยาเยากล่าวต่อไปอีก “หรือเจ้าจะยังไม่รู้ว่าข้าชำนาญเรื่องอะไรที่สุด”

“ให้พรปวงประชา!” ยู่หลิวซูตอบกลับ

“……”

ไปถึงที่ไหนที่นั่นก็มีคนตาย อีกทั้งยังตายไปทีละเมือง จะเหมือนกับให้พรปวงประชาที่ไหนกัน”

แน่นอนว่าข่าวลือทำให้คนเข้าใจผิด!

การให้พรปวงประชาเป็นเพียงแค่ภาพที่จงใจสร้างขึ้นมาก็เท่านั้น

“ผิดแล้ว เป็นทักษะการแพทย์ นอกจากทักษะการแพทย์ ก็ยังชำนาญการใช้พิษ กล้าที่จะวางยาพิษต่อหน้าผู้ชำนาญการใช้พิษ เจ้านี่กำเริบเสิบสานนัก!” หลานเยาเยาเย็นชาให้เขาเป็นพิเศษ “ดื่มสิ!”

ยู่หลิวซูมองไปยังน้ำชาและส่ายหน้า

เขาไม่ดื่ม ให้ตายก็ไม่ดื่ม

“อย่างนั้นลองชิมยาพิษที่ข้าทำเองสิ!” วางใจเถอะ มันคือยาถอนพิษ

หลานเยาเยาผายมือไปที่เขา ยาพิษเม็ดกลมก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือทันที

“แค่กๆ !” ยู่หลิวซูส่งเสียงไอเบาๆ สีหน้าสั่นไหว หลังจากชั่งน้ำหนักผลดีและผลเสียแล้ว ก็ได้รับน้ำชาที่หลานเยาเยายื่นให้

น้ำชาแตะบนริมฝีปาก ยังไม่ได้ดื่มเข้าไป เขาก็วางลงอย่างรวดเร็ว

จากนั้นจู่ๆ ก็อาเจียนออกมาเป็นควันสีขาว พุ่งไปทางหลานเยาเยาในทันที ทันใดนั้นก็ปกคลุมไปทั่วทั้งใบหน้าของนาง…