บทที่ 348 ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถอดเสื้อผ้า

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 348 ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถอดเสื้อผ้า

จนกระทั่งหมอกควันสีขาวจางหายไป หลานเยาเยายกมือเท้าคาง อีกมือหนึ่งก็ถือของว่างไว้ ท่าทีดูสบายอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้

ยู่หลิวซูที่มีสีหน้าของความภาคภูมิใจ ใบหน้านั้นได้หุบลงในทันที เมื่อเห็นว่าหลานเยาเยาไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใด ที่แสร้งทำเป็นสบาย

“น่าเบื่อเกินไป!”

“เหอะ เมื่อกี้นี้มันคืออะไรหรือ” หลานเยาเยาถาม

ยู่หลิวซูพูดขึ้นอย่างประหลาดใจในทันที “เจ้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร อย่างนั้นทำไมถึงไม่มีปัญหา หรือพิษไม่อาจกล้ำกรายได้เจ้าได้”

“ก็บอกไปแล้ว ข้าคือผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษ การเล่นพิษต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษ มีแต่จะเป็นการดูถูกตนเอง”

ล้อเล่นอะไรหรือ

เธอมีระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่แข็งแกร่งจนแทบจะอยู่ยงคงกระพัน ตราบใดที่มีความผิดปกติตรงจุดใด ภายในร่างกายก็จะตรวจสอบด้วยตนเอง รักษาด้วยตนเอง ซึ่งคล้ายกันกับคนที่พิษไม่อาจกล้ำกรายได้

“เทพธิดาเก่งกาจจริง ๆ หลิวซูขอชื่นชม”

ยู่หลิวซูไม่มีวิธี เหลือบมองไปยังน้ำชาในมือ และดื่มมันเข้าไปอย่างไม่กะพริบตา

หลังจากดื่มหมด

เขาลุกขึ้นยืน เปลื้องผ้าออกโดยไม่พูดอะไรสักคำ พลางถอดเสื้อไปและมองนางด้วยสายตาอ่อนโยนไปด้วย

“เฮ้ เจ้าจะทำอะไร”

คงจะไม่ใช่การใช้กลอุบายของชายรูปงามใช่ไหม

นางไม่ได้มีความสุข เย่แจ๋หยิ่งรู้แล้วว่าไม่อาจจะแตะต้องผิวของนางได้

ยิ่งไปกว่านั้น

นางยังเป็นคนที่มุ่งมั่นมาก คงจะไม่ถึงกลับไปไม่เป็นเมื่อพบหนุ่มรูปงามได้

แต่ !

ก็เห็นว่าไม่น่าจะเป็นอะไร

“ความงามของเทพธิดาหาสิ่งใดเปรียบมิได้ อีกทั้งยังชาญฉลาดเป็นพิเศษ ใจของข้ารอคอยมานานแสนนาน และในตอนนี้เมื่อได้พบเจอ จึงต้องการทดสอบสักครั้งสองครั้ง เพื่อดึงดูดความสนใจของเจ้า

ตอนนี้หยั่งเชิงอยู่หลายครั้ง เทพธิดาก็ไม่ได้โกรธ เห็นได้ว่าเขายังคงรูปลักษณ์ของข้า ข้ายินดีที่จะปรนนิบัติเขาโดยไม่มีแปรผันใจ”

“……”

หลานเยาเยาป้องหน้าผากไม่พูดอะไร

นางดูไม่ออกว่ายู่หลิวซูชื่นชอบนางมานานแล้ว แต่สิ่งที่นางเห็นคือเล่ห์เหลี่ยมของเขา

และเขาจะไปมองเห็นที่ไหนว่านางนั้นพอใจในตัวเขา

ความสามารถที่จะปั้นน้ำเป็นตัวนั้นไปเรียนเรียนมาจากที่ใดได้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ยู่หลิวซูก็ได้ถอดชุดคลุมนอกออกแล้ว ตอนนี้ก็ได้เปิดเสื้อผ้าด้านในออก เผยให้เห็นอกของเขาที่ขาวและสมบูรณ์

ภายใต้การจ้องมองของหลานเยาเยา

เขาเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้ม อ่อนโยนเป็นอย่างมาก

เมื่อได้เห็นยู่หลิวซูนั่งอยู่ข้างกายนาง หลานเยาเยาก็ยิ้มจางๆ เดิมทีคิดจะขยับไปสักหน่อย แต่กลับพบว่ายู่หลิวซูได้ยื่นมือออกมาต้องการจะแตะไหล่ของนาง

หลานเยาเยาจึงรีบยื่นมือออกมาขวางมือของเขาไว้ทันที

ใครจะรู้……

มุมปากของยู่หลิวซูงอขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไป มือที่สัมผัสกับฝ่ามือของหลานเยาเยาก็ได้หมุนออกไป ทันใดนั้นก็ได้เห็นแมลงสีดำปนแดงปรากฏขึ้นเจาะเข้าไปยังกลางฝ่ามือของหลานเยาเยา

สีหน้าของหลานเยาเยาดูเจ็บปวด

มือหนึ่งกุมไว้ อีกมือหนึ่งใช้ฝ่ามือผลักไปยังยู่หลิวซู

ยู่หลิวซูถูกผลักเปิดออกไป ได้ถอยหลังไปสองสามก้าวจึงจะลุกขึ้นยืนได้อย่างมั่นคง เมื่อเห็นท่าทางที่ดูเจ็บปวดของนาง เขาจึงยกมุมปากขึ้นอีกครั้ง

แต่วินาทีต่อมา เขาก็บิดคิ้วอย่างรุนแรง และกระอักเลือดออกมา

“วรยุทธ์ของเทพธิดาทรงพลังยอดเยี่ยมมาก!”

ยู่หลิวซูเช็ดเลือกออกจากปาก น้ำเสียงยังคงอ่อนโยน แต่ในความอ่อนโยนนั้นก็ยังสั่นสะท้านอยู่บ้าง

“ดูเจ้าแล้วก็ไม่เหมือนนักฆาตกร ข้าไม่เคยพบเจ้ามาก่อนเลย

บอกมานะ! ต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อสังหารข้า เพื่ออะไรกันแน่”

หลานเยาเยาค้ำโต๊ะเตี้ยเอาไว้ ดวงตาขมุกขมัว

“เจ้าวางใจเถอะ ความผิดโทษฐานสังหารเทพธิดา ข้าน้อยไม่อาจจะรับผิดชอบได้ แต่การทำให้เทพธิดาหายไปสักระยะก็เป็นสิ่งที่ทำได้

ตอนที่ฮ่องเต้ให้รัชทายาทสอบสวนคดีการเสียชีวิตของฉินหลิงเจียว เคยให้เทพธิดาช่วยสอบสวน แม้ว่าคำพูดจะดูคลุมเครือมาก แต่คนที่มีสายตาชาญฉลาดย่อมฟังออก

หลินเฟยหรันถูกคุมขังในคุกของกรมอาญาไปเมื่อคืน วันนี้เทพธิดาก็มาตึกฟังงิ้ว คาดว่าน่าเป็นมาเพราะเรื่องของคดี

มีบางเรื่อง ข้าน้อยยังไม่ชัดเจน ดังนั้น จึงได้แต่ทำให้เทพธิดาต้องลำบากใจ

รอให้ข้าน้อยทราบชัดเจนทุกอย่างก่อน ก็จะปล่อยเทพธิดาไปแน่นอน”

ยู่หลิวซูพูดจบก็ไอขึ้นสองสามครั้ง จากนั้นก็เริ่มใส่เสื้อคลุมของเขา จนกระทั่งเขาสวมเสื้อคลุมเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เห็นว่าเทพธิดายังไม่สลบไป

จึงอดที่จะสงสัยไม่ได้

ไม่ว่ากำลังภายในจะลึกล้ำเพียงใด ในตอนนี้ก็ควรจะล้มลงแล้ว!

“เทพธิดา”

“เรียกข้าทำไม”

“……” ทำไมสมองยังแจ่มใสชัดเจน

เมื่อหลานเยาเยาได้เห็นท่าทางของเขา ก็ขี้เกียจแกล้งทำอีกต่อไป แต่ได้ดื่มชาเข้าไปอย่างใจลอย

“เจ้า เจ้า เจ้า……”

“เจ้าอะไรของเจ้า พูดติดอ่างหรือไง”

“แมลงพิษเมื่อกี้นี้……” เห็นได้ชัดเจนว่าได้เจาะเข้าไปในฝ่ามือของนางแล้ว

“เจ้าหมายถึงสิ่งนี่หรือ”

หลานเยาเยาวางมือลงบนโต๊ะ เมื่อขยับออก แมลงสีดำปนแดงตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนโต๊ะ และแน่นิ่งไม่ไหวติง น่าจะตายไปแล้ว

ไม่มีทาง

ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดจะถูกเก็บไว้ในช่องว่างที่ระบบรักษา เมื่อเข้าไปด้านในจึงตายทันที จะโทษนางไม่ได้

เมื่อได้เห็นแมลงพิษ ยู่หลิวซูอ่อนแรงทรุดลงกับพื้นทันที สีหน้าของเขาเศร้าเล็กน้อย ราวกับดูตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง

อีกแล้วหรือ

หลานเยาเยามองไปที่เขาด้วยสายตาดูถูก

“ความอดทนของมนุษย์มีจำกัด ละทิ้งการแสดงออกที่น่าละอายของเจ้าเสียเถอะ”

พูดจบ

หลานเยาเยาหยิบเม็ดยาที่ใส่เก็บเอาไว้ก่อนหน้านี้ออกมา สีหน้าไม่มีความเลื่อนลอยแบบก่อนหน้านี้แล้ว

ความหมายชัดเจนอยู่แล้ว แค่เล่นลูกไม้ ปรนเปรอยาพิษ

ยู่หลิวซูมีสีหน้าเศร้าสร้อยในทันที

ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืน ประตูห้องพักส่วนตัวก็เปิดออกอีกครั้ง

ชายคนหนึ่งเดินเข้าประตูมา

ชายคนนั้นสวมเสื้อคลุมสีขาวลวดลายสวยงาม ตรงขอบตัดด้วยด้ายสีทอง

ใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างสูงเรียว และผมถูกรวบไว้ครึ่งหนึ่งอีกส่วนปล่อยลงมา ราวกับเดินออกมาจากภาพวาด

สุภาพเรียบร้อยมารยาทงดงาม แต่ไม่เป็นเช่นนี้ทั้งหมด

เซียวจิ่นหยูหรือ!

เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

“เทพธิดาอย่างเพิ่งโกรธ ยู่หลิวซูไม่ได้คิดร้าย”

หลานเยาเยาหยิบเส้นผมขึ้นมาเล่นในมือ มองพวกเขาทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็พูดกับเซียวจิ่นหยู

“เจ้าเป็นคนจัดการหรือ”

“……ใช่!” เห็นได้ชัดว่าเซียวจิ่นหยูไม่คาดคิดว่านางจะตรงไปตรงมาแบบนี้

“ในเมื่อเจ้ายอมรับก็ดี ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะมีเจตนาอย่างไร แม้ว่าจะมีเจตนาที่จะสังหารฆ่าจริง ๆ ข้าก็ไม่ฆ่าเขาหรอก

ไม่อย่างนั้นฝ่ามือนั้น ก็คงจะไม่อาเจียนเป็นเลือดแค่เท่านั้นหรอก

เล่นเป็นเพื่อนพวกเจ้ามาตั้งนาน ข้าก็ตกใจไปไม่น้อย ต้องได้รับค่าเสียหายทางจิตใจ”

เสียงนั้นพูดออกไป

เซียวจิ่นหยูก็ตกใจจนชะงัก

“เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ ค่าเสียหายทางจิตใจ”

สิ่งนี้ทำให้เซียวจิ่นหยูคิดขึ้นมาได้อย่างกะทันหันตอนที่เขาโปรยเงินเปิดทางลงบนถนน เงินได้ไปตกบนศีรษะของผู้หญิงคนหนึ่ง

นั้นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน

ค่าเสียหายทางจิตใจคือสิ่งที่นางพูดกับท่านหานซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบของร้านประมูลเสินตู ตอนที่อยู่หน้าประตูของร้านประมูลเสินตู

“ใช่แล้ว มันคือค่าเสียหายทางจิตใจ ไม่รู้ว่าค่าเสียหายทางจิตใจคืออะไรหรือ

พูดสั้นๆ ก็เนื่องจากพวกเจ้าหยั่งเชิงอยู่สองสามครั้ง ทำให้จิตวิญญาณของข้าได้รับบาดเจ็บ และยากที่จะเยียวยารักษา

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชยบางส่วน”

เรื่องการเอาข้อเสียเปรียบมาเคาะราคาเรียกเก็บเงิน หลานเยาเยาก็ต้องการที่จะดูคน สำหรับคนที่โปรยเงินเปิดทางแล้ว หากเคาะได้เล็กน้อยก็คือเล็กน้อย

ยู่หลิวซู “……”

เทพธิดาต้องการชี้ตัวอย่างนั้นหรือ

เห็นได้ชัดว่านางเล่นกับพวกเขามาตลอด และพวกเขาก็หลงกลมาตลอด ยังจะต้องชดเชยค่าเสียหายทางจิตใจให้อีก และยังไม่รีบไปคว้าอย่างตรงไปตรงมา

เซียวซื่อจื่อเป็นคนที่เข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ดี จะยอมให้นางมารีดไถเงินได้อย่างไร

ใครจะรู้……

“ได้ ชดเชยค่าเสียหายให้ ต้องการเท่าไรก็ได้ทั้งนั้น”

“……” ทำไมเคาะราคาได้ดีแบบนี้

“……”เซียวซื่อจื่อบ้าไปแล้วหรือ

หลานเยาเยามองไปยังเซียวจิ่นหยูด้วยความสงสัย ยู่หลิวซูก็มองไปยังเซียวจิ่นหยูด้วยความสงสัย ทำให้เซียวจิ่นหยูเห็นแล้วก็อายเล็กน้อย……