ตอนที่ 392 ยาใดๆ ล้วนมีพิษ

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 392 ยาใดๆ ล้วนมีพิษ

วันเสาร์ มู่เถาเยากับพวกลู่จือฉินกินอาหารเช้าเสร็จ ภรรยาอาจารย์หลินก็โทรเข้ามาบอกว่าจะเข้ามารับ

หลังวางสาย มู่เถาเยาก็ขึ้นชั้นบนไปเอาสัมภาระของตัวเองลงมาพร้อมกับถังถัง เหลียงจี และปาอิน จากนั้นก็รอที่ห้องรับแขก

เมื่อวานตอนคุยเรื่องนี้ มู่เถาเยาบอกสองสามีภรรยาน่าหลานว่าจะพาคนที่เชี่ยวชาญเรื่องพิษไปด้วย

เมื่อทราบว่าคนที่จะพาไปด้วยเป็นผู้สืบทอดของตระกูลถัง สองสามีภรรยาน่าหลานก็ตอบรับด้วยความยินดี

ถึงแม้ตระกูลถังจะไม่ใช่ตระกูลปลีกวิเวก แต่กลับมีเอกลักษณ์เฉพาะ

ในบรรดาสี่ตระกูลใหญ่แม้จะไม่ได้ผูกมิตรกับตระกูลถัง แต่ก็ไม่มีทางเป็นศัตรูด้วย

ต่อให้วรยุทธ์สูงส่งขนาดไหนก็เอาชนะพิษไม่ได้!

แน่นอนว่าไม่หาเรื่องกันก็ย่อมสงบสุข แต่ถ้าผูกมิตรได้ก็ไม่มีใครปฏิเสธ

คนอย่างพวกเขาโอกาสที่จะถูกพิษโบราณเยอะกว่าคนทั่วไป

มู่เถาเยาเห็นลู่จือฉินกับศิษย์น้องถือสัมภาระลงมาจึงพูดขึ้น “อาจารย์สาม ศิษย์น้อง พี่เหลียงจี เสี่ยวอิน ออกเดินทางกันก่อนเถอะ”

สองศิษย์อาจารย์จะกลับหมู่บ้านตงจี๋ไปเยี่ยมเหล่าผู้อาวุโสกับเหมียวอี้ เหลียงจีไปส่ง ปาอินสนิทกับครอบครัวลู่ก็เลยตามไปด้วย

ลู่จือฉินพยักหน้า “ได้ ไปถึงแล้วจะส่งข่าวบอกนะ”

“ค่ะ”

ลู่จือฉินเรียกพวกสาวๆ ออกเดินทางไปขึ้นเครื่องบินในเซิ่งซื่อฉางอัน

พอทุกคนออกไปได้ไม่กี่นาทีศาสตราจารย์หลินกับสองสามีภรรยาน่าหลานก็มาถึงพร้อมหลินเฮ่าชุน

รถยนต์ธุรกิจแบบเจ็ดที่นั่ง บรรทุกคนได้พอดี

ตระกูลน่าหลานก็มีเครื่องบินของตัวเอง แต่จอดอยู่ที่ลานจอดเครื่องบินของโรงแรมที่พวกเขาพัก

เมืองเย่ว์ตูไม่เคยขาดแคลนคนร่ำรวย ยิ่งไปกว่านั้นไม่เคยขาดนักลงทุนหรือคนมาพักตากอากาศ โรงแรมหรูหลายแห่งจึงมีลานจอดเครื่องบินเป็นของตัวเอง

พอขึ้นรถเสร็จถังถังก็ดึงผ้าปิดปากลง มู่เถาเยาจึงเริ่มแนะนำให้รู้จักกัน “ศาสตราจารย์หลินคะ คุณน้า คุณน่าหลาน คุณนาย เฮ่าชุน คนนี้คือถังถังค่ะ”

สวีเสี่ยวเจิงคุณนายน่าหลานดวงตาเบิกโพลง “นึกไม่ถึงเลยว่าราชินีภาพยนตร์ก็คือผู้สืบทอดตระกูลถัง! มันเหลือเชื่อมาก”

ภรรยาศาสตราจารย์หลินยิ้มพูด “เรื่องถังถังย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูเคยเป็นที่โจษจันในหลายมหาวิทยาลัย”

ถังถังยิ้มหวานเหมือนดอกไม้บาน “มันเป็นอดีตไปแล้วค่ะ ตอนนี้หนูก็แค่นักศึกษาทั่วไป เดี๋ยวนี้น้องหลินต่างหากที่เป็นบุคคลโด่งดังของมหา’ลัย”

หลินเฮ่าชุนพูดด้วยความเขินอายเล็กน้อย “รุ่นพี่ถังชมเกินไปแล้วครับ ผมก็แค่อาศัยกระแสของท่านอธิการบดี”

อธิการบดีเจียงรับเขาเป็นลูกศิษย์ส่วนตัว เขาก็เลยได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “อาจารย์อาเล็กชอบคนเก่งค่ะ ทุกครั้งที่รับใครเป็นศิษย์ก็จะดีใจไปนาน”

ศาสตราจารย์หลินดันแว่นตา ยิ้มพลางพูด “ท่านอธิการทุ่มเทผลิตบุคลากรเพื่อวงการแพทย์มากจริงๆ ควรค่าแก่การถูกทุกคนยกย่องชื่นชม”

ทุกคนพากันพยักหน้า

ความเสียสละของอธิการบดีเจียงเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา

น่าหลานรั่วเซิงยิ้มถาม “ได้ยินมาว่าตระกูลถังกับสำนักแพทย์โบราณมีความสัมพันธ์อันดีกันมาตลอดใช่ไหม” เดิมทีตระกูลถังก็ไม่ค่อยคบหากับคนภายนอก

พวกเขาไม่เหมือนสำนักซย่าโหวที่เอาแต่เก็บตัวฝึกยุทธ์จนไม่อยากสนใจคบค้าสมาคมกับใคร

ตราบใดที่ไม่มีคนมาระรานพวกเขา ใครจะคิดว่าพวกเขาไม่มีตัวตนก็ได้ พวกเขาก็ไม่เห็นคนอื่นมีตัวตนเช่นกัน

แต่ตระกูลถังเลี่ยงที่จะยุ่งกับคนอื่นเพราะเกี่ยวกับพวกพิษ อีกทั้งคนอื่นก็ไม่ค่อยกล้ายุ่งกับพวกเขาเช่นกัน

พอได้ยินคำว่าสำนักแพทย์โบราณ ถังถังก็ยิ้มมุมปาก ดวงตาโค้งมน “สำนักแพทย์โบราณเคยสอนปู่ทวดของหนูค่ะ อีกอย่าง การรักษาด้วยพิษหรือยาไม่มีแบ่งแยก”

หากคนเรียนแพทย์ไม่รู้จักยาก็เหมือนคนตาบอดม้าตาเสีย

เรียนรู้ยาไม่เรียนการรักษายิ่งไม่รู้อย่างแท้จริง

ส่วนพวกพิษ เนื่องจากตราบใดที่ใช้ยาย่อมบังเกิดพิษ จึงมีคำพูดที่ว่า ‘ยาใดๆ ล้วนมีพิษ’

ผลข้างเคียงจากการใช้ยาสามารถอธิบายปัญหาได้มากมาย

การแพทย์ ยา พิษ สามสิ่งนี้แยกกันไม่ได้

น่าหลานรั่วเซิงยิ้มพลางพยักหน้า “ถังถัง น้าจำได้ว่าปู่ทวดของหนูอายุร้อยกว่าปีแล้วใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ ปีนี้อายุร้อยยี่สิบห้าปีแล้ว ตอนนี้ใช้ชีวิตเกษียณอย่างมีความสุขอยู่กับปู่หยวนปู่ซย่าโหวที่หมู่บ้านบนเขาค่ะ”

“ดีจัง!” ทุกคนอดแสดงความรู้สึกอย่างจริงใจไม่ได้

คนเราพอมาถึงอายุเท่านี้ยังมีเพื่อนใช้ชีวิตถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ

สวีเสี่ยวเจิงพูดด้วยความกลุ้มใจเล็กน้อย “คนแก่ที่บ้านเราไม่ค่อยชอบออกไปไหน”

น่าหลานรั่วเซิง “ต้องหาทางให้พวกเขาออกไปบ้าง”

ถึงแม้สภาพร่างกายของคนฝึกยุทธ์จะแข็งแรงกว่าคนทั่วไปมาก แต่การได้ออกไปเจอโลกภายนอกจะช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง แบบนี้จะยิ่งช่วยต่ออายุให้ยืนยาวขึ้น

มู่เถาเยา “คุณปู่คุณย่าอายุเยอะแล้วเหรอคะ”

น่าหลานรั่วเซิง “เจ็ดสิบกว่าแล้วล่ะ”

“อายุเจ็ดสิบกว่ายังถือว่าไม่แก่สำหรับคนฝึกยุทธ์ ยังเดินไหวต้องพยายามออกไปเดินให้มากๆ”

สวีเสี่ยวเจิง “เสี่ยวเยาเยา ไม่งั้นช่วยพูดให้หน่อยได้ไหม คำพูดหมอพวกเขาฟังแน่ พวกเราพูดไปก็ไร้ผล เด็กในบ้านก็มีไม่เยอะ แถมยังไปเรียนกันอยู่ข้างนอก…”

อันที่จริงเด็กๆ ในตระกูลมีไม่น้อย แต่สายตรงกับสายรองไม่ได้พักอยู่ที่เดียวกัน

“ไว้หนูตรวจอาการเสร็จจะพูดให้นะคะ”

สองสามีภรรยาน่าหลานพยักหน้า “ได้จ้ะ”

ภรรยาศาสตราจารย์หลินยิ้มถาม “เสี่ยวเยาเยาจ๊ะ ยาบำรุงความงามที่พวกหนูขายในเน็ตทำไมขาดตลาดแล้วล่ะ เมื่อสองวันก่อนน้าอยากกดซื้อแต่มันหมดแล้ว”

“ก่อนหน้านี้ฝนตกเยอะ ไปเก็บสมุนไพรลำบาก เดี๋ยวเดือนหน้าก็มีของแล้วค่ะ”

ภรรยาศาสตราจารย์หลินพยักหน้าเข้าใจ

“พี่คะ เหล้ายาที่ฉันส่งไปให้พ่อกับแม่ได้ผลดีมาก ตอนนี้พ่อกับแม่กระฉับกระเฉงขึ้นไม่น้อย ไม่งั้นพี่กับพี่เขยก็ซื้อกลับไปให้พ่อแม่ที่บ้านกินด้วยดีไหม ผลิตจากหมู่บ้านของเสี่ยวเยาเยา รับประกันคุณภาพ”

น่าหลานรั่วเซิงสนใจ เขาถาม “เสี่ยวเยาเยา ใครๆ ก็ดื่มได้เหรอ”

“ได้มันก็ได้อยู่ค่ะ แต่ต้องกินให้ถูกกับโรคถึงจะเกิดผลดี ถ้าไม่ถูกกับโรคกินเยอะแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ ไว้หนูตรวจอาการให้เสร็จจะแนะนำเหล้ายาที่เหมาะสมให้นะคะ”

สวีเสี่ยวเจิงถามต่อ “แล้วคนที่ไม่ได้ป่วยกินได้ไหม อย่างเช่นตัวน้าเอง”

เธอมักจิบเหล้าปริมาณน้อยทุกเย็น

“ผู้หญิงดื่มเป็นพวกเหล้าเพื่อบำรุงความงามได้นะคะ เช่น ไวน์ เหล้ากุหลาบ เหล้าดอกท้อ เหล้ามัลเบอร์รี่ เหล้าจตุ เป็นต้น”

“เหล้าจตุคืออะไรเหรอ”

“เป็นเหล้ายาที่มีส่วนผสมของตังกุย สูตี้ ชวนซง ไป๋เสา ช่วยให้เลือดลมไหลเวียน ลดอาการปวดประจำเดือน แก้มือเท้าเย็นได้ค่ะ ถ้าคุณนายอยากซื้อก็ไปที่ร้านได้ค่ะ พนักงานร้านมีความรู้พื้นฐานทางการแพทย์ อธิบายสรรพคุณของแต่ละชนิดอย่างละเอียดได้ เพื่อให้ลูกค้าเลือกเหล้ายาได้เหมาะสม”

“เอาสิ ร้านอยู่ที่ไหนเหรอจ๊ะ”

“ร้านสุราเถาหยวนตรงถนนหนานวานในเมืองเย่ว์ตูค่ะ ข้างร้านเป็นร้านขายใบชาที่มาจากหมู่บ้านเถาหยวนซาน ถ้าชอบก็ซื้อกลับได้ค่ะ ภูเขาชาของพวกเรารอบๆ จะเป็นสวนสมุนไพร ใบชาจะดูดซับสรรพคุณทางยาไปด้วยไม่มากก็น้อยค่ะ”

สวีเสี่ยวเจิงพูดด้วยความสนใจ “น้าจำไว้แล้ว ไว้ตอนกลับมาส่งพวกหนูจะไปซื้อแน่จ้ะ”

ภรรยาศาสตราจารย์หลิน “ตอนนี้ครอบครัวเราสามคนกินแต่เหล้ายากับใบชาของเสี่ยวเยาเยา ปู่ย่าของเฮ่าชุนก็เหมือนกัน พอกินหมดไม่รอให้พวกเราซื้อก็ไปซื้อกันเองแล้ว”

ยังมีพ่อแม่เธอกับคุณตาคุณยาย เว้นระยะหนึ่งเธอจะเอากลับไปฝากพวกคนแก่ให้กินเป็นยาบำรุง

มู่เถาเยาเน้นย้ำ “เป็นของหมู่บ้านเถาหยวนซานค่ะ” ไม่ใช่ของเธอคนเดียว

“เหมือนกันแหละเหมือนกัน ฮ่าๆ”

—————————————————-