ตอนที่ 271

Great Doctor Ling Ran

แม้ว่าหลิงรันไม่เคยทำการรักษาหลอดลมของคนมาก่อน แต่เขาเคยรักษาหลอดลมของสุนัข

ถึงแม้ว่าในมหาวิทยาลัยการแพทย์จะไม่สามารถใช้คนเป็นๆมาทำการผ่าตัดเพื่อฝึกฝนได้จริง แต่มันก็ถูกทดแทนด้วยสัตว์ต่างๆแทนโดยที่โรงพยาบาลการแพทย์หยุนหัว สุนัขคือหนึ่งในสัตว์ที่กลายเป็นหนูทดลองฝึมือของแพทย์ฝึกหัดเหล่านี้

วิสัญญีแพทย์กล่าวว่า “โปโปโฟมักใช้กับสัตว์เลี้ยงมันถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทไอซีไอ เคมีของโรเจอร์เจมส์ แต่จะต้องใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ …ด้วยมันเรียกว่าอะไรสักอย่างนะ มิโด…”

“มิดาโซแลม เป็นยาระงับประสาท.” วิสัญญีที่ทำการรักษาสัตว์กำลังวิ่งเหยาะๆมาและนำเข็มมาแทงไปที่หัวของสุนัขและพูดว่า “มันเป็นการรวมกันของโซเดียมคลอไรด์, ดิไซด์ไดโซเดียม, เบนซิลแอลกอฮอล์และโซเดียมไฮดรอกไซด์เดียวผมจะผสมมันคุณลองตรวจสอบสุนัขคุณก่อนที่ผมใส่สายออกซิเจนให้ … “

วิสัญญีไปที่ตู้ยาและเริ่มมองหาส่วนผสม

หลิงรันเข้ามาฟังรายละเอียดและสวมหูฟังของเขา ในครั้งแรกเขาลองตรวจร่างกายของสุนัขและพบบางสิ่งบางอย่าง ถัดไปเขาตรวจสอบการทำงานของปอดของสุนัขก่อนที่จะคำนวณอัตราการหายใจ แม้ว่าเขาจะทำการตรวจร่างกายสุนัข แต่เขาก็ทำแบบเดียวกับที่เขาทำกับมนุษย์หลิงรัน เพราะเขาไม่ทราบว่ามีวิธีการตรวจร่างกายใด ๆ ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสุนัขหรือไม่ แต่ในสถาณการณ์นี้เขาจะใช้สิ่งที่มีให้เป็นประโยชน์ก่อน

“การหายใจสิบสี่ครั้งต่อนาที” หลังจากหลิงรันคำนวณจำนวนลมหายใจของสุนัขเขาจึงถามว่า “อัตราการหายใจของสุนัขควรจะเป็นเท่าไหร่”

พยาบาลพยายมค้นหาข้อมูลจากไบตู้ และพูดว่า “สิบถึงสามสิบต่อหน้าที”

“แล้วลมหายใจสิบสี่ครั้งต่อหน้าที่หมายความอย่างไร” ตอนนี้หลิงรันอยู่ในอาการของความวิตกกังวล

คุณหมอโจวก็ตะโกนด้วยมือของเขาประสานกันไว้ด้านหลัง ทันใดนั้นเขาก็อยากจะหัวเราะ เขากล่าวว่า “นี่เป็นคำถามประเภทที่แพทย์ฝึกหัดอย่างคุณควรจะถามหรอ”

เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์รอบตัวพวกเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

ในขณะนั้นวิสัญญีก็กลับมา หลังจากที่เขาได้ยินสัญลักษณ์ของสุนัขจากหลิงรันเขายกเข็มฉีดยาในมือของเขาแล้วพูดว่า “ฉันจะฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ”

หลังจากเขาพูดอย่างนั้นเขาก็ขยับเข้าไปที่เตียงและก้มศีรษะลงเพื่อดูบาดแผล จากนั้นเขาก็ฉีดยาชา

เกาลัดสุนัขตำรวจมีอาการกระตุกไปครู่หนึ่ง แต่เหมือนมันจะไม่มีแรงเท่าไร

ในไม่ช้าขาของสุนัขตำรวจก็คลายตัวและลมหายใจก็เบาลง

“เตรียมผิวหนังสุนัขให้พร้อมถ้าทำได้ให้ยึดขาสุนัขให้มั่นคง” วิสัญญีกล่าวเริ่มสั่งให้ทุกคนไปรอบ ๆ ขณะที่มองโทรศัพท์

พยาบาลพึมพำขณะที่เธอจ้องที่สุนัขตัวใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าสี่สิบปอนด์ด้วยท่าทางที่มีปัญหา “เตรียมสุนัขให้พร้อมหรือยัง?”

“ ใช่เตรียมผิวของสุนัขให้พร้อมโกนขนบริเวณคอให้เร็วขึ้นมันมีปัญหาในการหายใจแล้ว” หมอวิสัญญีแพทย์แนะนำให้พยาบาล

“คุณเป็นสัตวแพทย์มาก่อนหรือป่าว” หมอโจวถามวิสัญญี?

“เพื่อนของผมเป็นสัตวแพทย์” แพทย์วิสัญญีแสดงท่าทางออกมาอย่างจริงจัง เขามองภาพบนโทรศัพท์ของเขาอีกครั้งและเห็นได้ชัดว่ามีการสอนการรักษาโผล่อยู่ในกวิดีโอที่เขาเปิด

แพทย์และพยาบาลสาวทุกคนที่หยุดงานชั่วคราวได้พักหนึ่ง แต่พวกเขาก็กลับมาทำงานต่อหลังจากนั้นไม่นาน

พวกเขาทำอะไรได้อีก เป็นเรื่องโชคดีที่มีคนให้คำแนะนำแก่พวกเขา

เมื่อต้องเผชิญกับหายนะที่เลวร้ายศัลยแพทย์ทุกคนต้องการคำแนะนำ

แพทย์ส่วนใหญ่ไม่สนใจว่าสุนัขจะมีชีวิตหรือตายไป แพทย์ทุกคนทำให้สุนัขเสียชีวิตสองสามตัวตอนเมื่อเป็นนักเรียนแพทย์ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ปัจจุบันนั้นแตกต่างกันเนื่องจากสุนัขที่เกี่ยวข้องเป็นสุนัขตำรวจและเป็นสุนัขตำรวจที่ช่วยชีวิตมนุษย์ แพทย์ยินดีที่จะใช้ความพยายามหนึ่งหรือสองชั่วโมงเพื่อช่วยชีวิตมันไว้ให้ได้

“พร้อมแล้ว.”

เมื่อถึงเวลาที่พยาบาลเตรียมผิวหนังของสุนัข สุนัขก็มีอาการปัญหาในการหายใจ

หลิงรันเลือกมีดผ่าตัดอย่างระมัดระวังและทำแผลแนวตั้งตามแนวคอที่เปลือยขนของสุนัข จากนั้นเขาก็วางมีดผ่าตัดและทำการผ่าทื่อบนชั้นกล้ามเนื้อของสุนัขเพื่อเผยให้เห็นหลอดลมของสุนัข

หลังจากทำแผลในแนวนอนบนหลอดลมของสุนัขแล้วหลิงรันก็สอดท่อเข้าไปอย่างถูกต้องและเชื่อมต่อกับถังออกซิเจน การหายใจของเจ้าเกาลัดสุนัขตำรวจก็กับมาราบรื่นในทันที่

ตลอดกระบวนการทั้งหมดหลิงรันไม่ได้พยายามอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าสถานการณ์ที่ผู้ป่วยหายใจลำบากและหายใจไม่ออกเกือบจะเป็นเรื่องเร่งด่วนมากตราบใดที่มันไม่เร่งด่วนจนถึงจุดที่พวกเขาไม่สามารถหายใจได้เลย

การเจาะคอมักจะมาพร้อมกับผลที่ตามมาและผลสืบเนื่องของการจัดการหลอดลมฉุกเฉินก็ยิ่งลำบาก ดังนั้นตราบใดที่ผู้ป่วยยังคงสามารถทนต่อความยากลำบากในการหายใจได้ การเจาะคอนั้นก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาแทนที่จะเป็นภาวะฉุกเฉินก็สามารถบรรเทาอาการได้ชั่วขณะหนึ่ง

แน่นอนว่าก็ไม่ควรมีความล่าช้านานเกินไป

คุณหมอโจวดูหลิงรันจากด้านข้างโดยกำมือไว้ด้านหลัง

แม้ว่ามันจะดูราวกับว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลยจริง ๆ แล้วเขายืนอยู่ข้าง ๆ หลิงรันเพื่อป้องกันไม่ให้หลิงรันทำผิด

ในแผนกฉุกเฉินการเจาะคอเพื่อจัดการกับหลอดลมเป็นการผ่าตัดเล็กมาก คนหนึ่งต้องทำแผลซึ่งทอดข้ามเนื้อเยื่อสี่ชั้นที่บริเวณเหนือหลอดลมและทำแผลเล็ก ๆ บนหลอดลมระหว่างกระดูกอ่อนทั้งสองซี่ก่อนที่จะใส่ท่อออกซิเจน ความเสียหายนั้นถือว่าน้อยมากและก็ไม่ได้เป็นขั้นตอนที่อันตรายเช่นกัน

ถึงกระนั้นก็เห็นได้ชัดว่ามักมีแพทย์ฝึกหัดที่ทำผิดพลาดเมื่อพวกเขาทำการผ่าตัดดังกล่าว

แค่คิดสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างการเรียนรู้งานฝีมือสำหรับเด็กนักเรียนหรือการที่ผู้ใหญ่บางคนประกอบเฟอร์นิเจอร์ที่บ้าน นั่นเป็นประเภทของความผิดพลาดที่แพทย์สามารถเกิดขึ้นได้

อย่างน้อยก็มีแบบจำลองมาตรฐานสำหรับงานฝีมือและเฟอร์นิเจอร์ นอกจากนี้ขนาดของชิ้นส่วนยังเหมือนกันขั้นตอนชัดเจนและมาพร้อมกับคู่มือ พวกเขาได้รับการออกแบบในวิธีที่พวกเขาสามารถประกอบได้อย่างง่ายดาย ถึงอย่างนั้นผู้ที่เคยทำบางสิ่งบางอย่างครั้งแรกก็อาจจะยังไม่มั่นใจและยังไร้ทักษะในการประกอบอยู่ดี มันจะไม่เป็นเรื่องตลกหากศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอกไม่สามารถรวบรวมเฟอร์นิเจอร์ของเขาเองได้

นี่แสดงให้เห็นว่าการฝึกฝนและประสบการณ์สำคัญเพียงใด

มันยังคงเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับผู้ฝึกหัดและแพทย์ประจำบ้านในการฝึกฝนขั้นตอนต่าง ๆ เช่นการฉีดยาผู้ป่วย อย่างไรก็ตามพวกเขาอาจทำผิดพลาดอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ในขณะที่พวกเขาทำตามขั้นตอนเช่น การเจาะคอและการช่วยฟื้นคืนชีพหัวใจหากพวกเขาทำผิดขั้นตอนตลอดขั้นตอนทั้งหมด แพทย์และผู้ฝึกสอนด้านการแพทย์จะต้องฝึกฝนเป็นส่วนตัวเพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าวและพวกเขาต้องการช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฝึกฝนทักษะของพวกเขา

เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์คนอื่น ๆ อนุญาตให้หลิงหรันดำเนินการจัดการกับหลอดลมเพราะผู้ป่วยเป็นสุนัข

ถึงกระนั้นหมอโจวยังคงต้องการดูแลเขาจากด้านข้าง

“คุณเคยฝึกฝนเรื่องนี้มาก่อนหรือไม่” หมอโจวถามหลิงรันเพียงหลังจากที่เขาทำขั้นตอนเสร็จแล้ว

“ยังไม่เคยเลยผมพึงเรียนรู้มันก่อนหน้านี้สักพักเอง” แม้ว่าคำตอบของหลิงรันนั้นไม่ได้เข้าใจอยากอะไรและก็เหมือนว่าเขาจะพูดจริง

เมื่อหลิงรันมั่นใจว่าชีวิตของสุนัขจะไม่ตกอยู่ในอันตรายอีกต่อไปเขาเริ่มเย็บแผลของสุนัข

ในฐานะสุนัขตำรวจเกาลัดสวมเสื้อกั๊กทนต่อแรงกระแทกที่ออกแบบมาสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงไม่มีแผลภายนอกที่หน้าอกและท้อง อย่างไรก็ตามมีบาดแผลมากมายที่บริเวณแขนขาและมีบาดแผลบริเวณเขตอันตรายทางกายวิภาคที่อยู่ด้านหลังหู

หากมนุษย์มีแผลเช่นนี้การซีทีแสกน หรือ เอ็มอาร์ไอแสกน จะจำเป็นอย่างยิ่งก่อนที่จะทำการผ่าตัด

สุนัขไม่ได้รับการรักษาที่ครอบคลุม หลังจากที่แพทย์ประเมินบาดแผลจากประสบการณ์ของพวกเขาและตัดสินใจว่าไม่มีความเสียหายใด ๆ ที่สำคัญพวกเขาฉีดยาปฏิชีวนะเข้าไปในสุนัขและปล่อยให้หลิงรันเย็บแผลอย่างสมบูรณ์

จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับแพทย์ที่จะทำงานด้วย อย่างไรก็ตามภายใต้ สถาณการณ์ทั่วไปแม้ว่าสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยขอให้พวกเขาทำเช่นนี้พวกเขาไม่สามารถทำงานในลักษณะเช่นนี้เพราะพวกเขาจะเคยแค่รักษาคนเท่านั้น

แต่เนื่องจากหลิงรันครอบครองทักษะการจัดเจาะคอและรักษาหลอดลมระดับสมบูรณ์แบบตราบใดที่เขาสามารถแทรกหัวเข็มลงในเนื้อมันจะง่ายมากสำหรับเขาที่จะเย็บแผลภายนอก

หลิงรันเย็บแผลของสุนัขโดยการเชื่อมด้ายการผ่าตัดที่บางลงกับด้ายการผ่าตัดที่หนาขึ้นตามปกติเพราะเขาต้องการที่จะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อลดความเสียหายในลักษณะที่ปรากฏขึ้นมาจากแผลของเกาลัด เขาระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อมันมาถึงส่วนต่างๆของผิวหนังที่มีรูขุมขนและเขาต้องคิดทุกครั้งที่เขาจะสอดเข็ม

มันไม่เป็นอันตรายสำหรับสุนัขตำรวจที่ดูสง่างามอยู่แล้ว

“ผมทำเสร็จแล้ว” หลิงรานตัดด้ายผ่าตัดบาง ๆ แล้วโยนกรรไกรลงบนถาด

แม้ว่าเขาจะต้องเย็บสุนัขเท่านั้นยังมีพยาบาลอยู่ข้างๆเขาเพื่อช่วยเหลือเขา ดังนั้นเขาไม่ต้องกังวลกับสิ่งต่าง ๆ เช่นการพันแผล

วิสัญญีญีที่เป็นเจ้าของสุนัขมองที่หน้าจอด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “งานเสร็จสิ้นแล้วชีวิตของสุนัขไม่ได้อยู่ในอันตรายอีกต่อไปแล้ว แต่…พวกคุณจะต้องล้างทุกอย่างในสถานที่นี้จริง ๆ ผมจะ ออกไปเดี๋ยวนี้ “

แม้ว่าวิสัญญีแพทย์ทุกคนจะอยู่ในภาควิชาวิสัญญีวิทยา แต่ทุกคนก็เห็นด้วยตาตนเองว่าผู้อำนวยการฮวงนั้นดุเพียงใดวิสัญญีแพทย์หันหลังและทิ้งโดยไม่ลังเลเมื่อเขาเห็นว่าสุนัขตำรวจนั้นรักษาเสร็จสิ้นแล้ว

พยาบาลสาวๆเหล่านั้นเองก็พูดอะไรไม่ถูกได้แต่ถอนหายใจด้วยความโศกเศร้า “ หัวหน้าพยาบาลจะดุพวกเราแน่ๆในครั้งนี้”

“เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นแสดงให้เธอเห็นสุนัขมันจะดีขึ้นตราบใดที่เธอไม่ตัดเงินของคุณ” หมอโจวหัวเราะเบา ๆ สักสองสามครั้งแล้วแทงสุนัขตำรวจ ดวงตาของมันยังปิดอยู่ จากนั้นเขาก็ควักโทรศัพท์และถ่ายรูปเซลฟี่ให้กับสุนัขก่อนที่เขาจะอัปโหลดไปให้เพื่อนของพวกเขาดู

นางพยาบาลสาวตัวเล็กไม่รู้ว่าควรทำอะไร เธอได้แต่ทำตามหมอโจวเท่านั้น เธอหยิบกล้องมาเซลฟี่พร้อมกับแก้มป่องออกก่อนที่จะอัพโหลดไปให้เพื่อนๆของเธอดู

หลิงรันหันไปล้างมือ เมื่อเขารู้ว่ามีขนสุนัขอยู่บนร่างกายของเขาหลังจากล้างมือเขาไปที่พื้นที่ปฏิบัติการโดยตรงเพื่ออาบน้ำและเขาเปลี่ยนเป็นชุดชั้นในคู่ใหม่ในขณะที่เขาอยู่ที่นั่น เมื่อเขาทำทั้งหมดแล้วร่างกายของเขาก็ผ่อนคลาย จากนั้นเขาก็มองเข้าไปในกระจกแล้วถามว่า ‘ระบบระบบฉันจะจัดอันดับทักษะด้านแผลของฉันได้อย่างไรตอนนี้‘

“รูปแบบการจับมีดแยงตรงของคุณอยู่ที่ 766 ในเมืองหยุนหัวในขณะนี้ในขณะที่เทคนิคการจับมีดแนวนอนของคุณอยู่ที่ 558 ในเมืองหยุนหัวในขณะนี้” ระบบตอบ

หลิงรันขมวดคิ้วของเขา ‘การจัดอันดับครั้งสุดท้ายที่ฉันถามคืออะไร‘

“ตั้งแต่วันสอบถามคุณในวันอื่น ๆ การจัดอันดับของคุณในเทคนิคการจับมีดแนวตรงในเมืองหยุนหัวไม่เปลี่ยนแปลงในขณะที่การจัดอันดับของคุณในเทคนิคการจับมีดแนวนอนลดลงในที่เดียว”

“แสดงว่ามีคนตกอันดับ ”

“ใช่.”

หลิงรันหัวเราะเบา ๆ เนื่องจากการจัดอันดับของเขาสามารถเพิ่มขึ้นได้จะมีคนที่อันดับจะลดลงเสมอ

ต้องขอบคุณความสะดวกสบายที่เกิดขึ้นจากชุดชั้นในคู่ใหม่ของเขาที่หลิงรันไม่ได้โมโหอะไรจนถึงจุดที่เขาจะอาบน้ำอีกครั้ง

เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้เขากลับไปที่ชั้นหนึ่งและโทรศัพท์ของเขา เขาทำได้เพียงจัดการสุนัขที่ต้องการเจาะคอที่จัดการกับหลอดลมหลังจากรอสามชั่วโมงก่อนหน้านี้หลิงรันไม่มั่นใจจริงๆว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกไหม

บรรยากาศที่ชั้นล่างเป็นเรื่องสนุกสนาน

เมื่อเขาดูดีว่าเกิดอะไรขึ้นเขาก็เห็นว่าสุนัขตำรวจได้สติและเลียเท้าของมันอย่างน่ารัก

ลาบราดอร์สีทองอ่อนมีกรามเป็นเหลี่ยมและดวงตาสีเข้มของมันก็มีชีวิตชีวามาก มันดูน่าทึ่งอย่างยิ่งเมื่อศีรษะเอียงและลิ้นออกมาจากปากเล็กน้อย

ตำรวจหญิงผู้เพิ่งผ่านการผ่าตัดเล็กน้อยนั้งถัดจากลาบราดอร์ เธอผิวสีขาวเหมือนหิมะของเธอปรากฏอยู่ใต้เสื้อคลุมของโรงพยาบาล ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้เธอแต่งหน้าอยู่รึเปล่า แต่ใบหน้ารูปไข่ของเธอนั้นสวยมากและเธอมีหน้าอกใหญ่และเอวบาง สายตาของเธอกระตุ้นความสนใจหนุ่มๆสาวในระแวกนั้นได้เป็นอย่างมาก

แพทย์ชายที่อยู่รอบ ๆ ดูตำรวจในขณะที่พยาบาลสาวที่เดินผ่านสุนัข มันเป็นฉากที่ดึงดูดทั้งชายและหญิง

เกาลัดสุนัขตำรวจดูเหมือนจะได้กลิ่นของหลิงรัน ขณะที่หลิงรันเข้าหามันมันก็ยกศีรษะด้วยเสียงครวญครางทันที ตำรวจไม่มีทางเลือกนอกจากสั่ง “เกาลัดนั้งลง”

สุนัขตำรวจอายุสองปีมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่ามนุษย์อายุยี่สิบสองปีส่วนใหญ่ มันครางสองสามครั้งและหยุดเคลื่อนไหว

แม้แต่หลิงรันก็ไม่ได้ทำอะไร แต่เดินหน้าและลูบหัวสุนัขสักสองสามครั้ง

ตำรวจมองดูหลิงรานอย่างงุนงงไม่กี่วินาทีก่อนที่เธอจะพึมพำกับตัวเองว่า “ฉันคิดว่าฉันเป็นภาพหลอน”

“ภาพหลอนอาจเกิดขึ้นจากการบาดเจ็บ” หลิงรันตอบจากมุมมองของแพทย์

ใบหน้าของตำรวจเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีและเธอพูดด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ว่า “ฉัน … ไม่ได้หมายความว่า … ยังไงก็ตามชื่อของฉันคือฉินมินขอบคุณที่ช่วยสุนัขของฉัน”

“ด้วยความยินดีครับ” หลิงรันประกายรอยยิ้มของเขาซึ่งผู้ป่วยชอบที่จะเห็น มันเป็นทักษะที่เขาฝึกมาโดยเฉพาะ

ใบหน้าของตำรวจเปลี่ยนเป็นสีแดง

“โฮ่ว … ” เกาลัดสุนัขตำรวจเห่าเบา ๆ และมองตำรวจอย่างสงสัย มันสัมผัสได้ถึงการดมกลิ่นของตำรวจราวกับว่าเธอมักจะทำทุกครั้งที่พวกเขากำลังจะไปทำภารกิจสำคัญ ดังนั้นสุนัขจึงเริ่มมีสมาธิทันที ดูเหมือนว่าจะเป็นสแตนด์บายและรอคำสั่งของตำรวจ