บทที่ 449 ทาปาเลื่อนขั้น
บทที่ 449 ทาปาเลื่อนขั้น
พอได้ยินที่ฉู่เหินพูด ทาปาหยิงหนานก็พลันตะลึงไปอึดใจหนึ่ง ที่จริงเขารู้ตั้งนานแล้ว ด้วยตัวเองนั้นเป็นคนสบาย ๆ และไม่ว่าเขาจะขยันฝึกแค่ไหนก็ไม่อาจทะลวงเลื่อนขั้นได้ ประโยคเมื่อครู่ของฉู่เหินกระแทกใจจนทำให้เขาเข้าใจว่าพลังวรยุทธ์ไม่เพียงต้องมีความเมตตา หากแต่ต้องมีความอำมหิตด้วย!
ในใจเขามีเพียงความเมตตา ไม่มีความอำมหิต นี้สินะคือเหตุผลที่ทำให้เขาไปได้ไม่ไกลกว่านี้ ? หลังจากคิดถึงตรงนี้เขาก็พยักหน้าให้กับฉู่เหิน!
ก่อนจะผสานมือ หันไปทั่วทั้ง 4 ทิศแล้วพูดขึ้นว่า “มีสหายคนไหนต้องการขึ้นมาสั่งสอนอีกไหม!”
ฉู่เหินมองอยู่ข้างล่างด้วยความเบิกบาน เขารู้ว่าขอเพียงแค่ทาปาหยิงหนานไม่ปิดกั้น การจะทะลวงไปถึงขั้นจักรพรรดิดาราระดับต้นก็ไม่ใช่ปัญหา! เพียงแค่เขาทะลวงขั้นจักรพรรดิดาราได้ การแข่งขันครั้งนี้เขาก็จะสามารถติดหนึ่งใน 10 อันดับแรกได้แน่นอน หรือแม้กระทั่งเป็น 3 อันดับสุดท้ายในการแข่งขันก็ได้!
ทาปาหยิงหนานพลิกกลับมาชนะเจ้าคนตัวเตี้ยนั่น ทำให้หอประจิมที่เป็นคนรับผิดชอบแอบติดต่อกับยอดฝีมือคนอื่น ๆ เพื่อสั่งให้พวกเขาขึ้นเวทีประลองแล้วจัดการกับทาปาหยิงหนานซะ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีคนจำนวนกว่า 20 คนขึ้นไปบนเวที! คนด้านล่างเวทีคิดเป็นเสียงเดียวกันว่าทาปาหยิงหนานต้องตายแน่! แต่ทว่าเรื่องราวกลับไม่เป็นเช่นนั้น ทาปาหยิงหนานกลับสามารถคว้าชัยได้ทุกครั้งไป!
พอเป็นแบบนี้ก็ไม่มีใครกล้าขึ้นไปประลองแล้ว พวกเขาคล้ายจะถูกรังสีสังหารของทาปาหยิงหนานตกใจกลัวแล้ว! แน่นอนว่ามียอดฝีมือคนอื่นที่ไม่อยากเสียคะแนนตัวเองไปเหมือนกัน
เวทีประลองของผู้ฝึกยุทธไร้สังกัดแบ่งเป็น 10 เวที เวทีสุดท้ายเวทีที่ 10 ก็คือที่ที่คนเลือกมากที่สุด! เวทีอื่น ๆ นั้นเทียบกับเวทีที่ทาปาหยิงหนานอยู่ไม่ติดเลย พวกคนจากเวทีอื่นต่างรู้ดีว่าถ้าได้ต่อสู้กับทาปาหยิงหนาน พวกเขาต้องแพ้อย่างแน่นอน!
และก็เพราะวิธีคิดแบบนี้เลยทำให้ทาปาหยิงหนานยืนยิ้มหยิ่งผยองอยู่บนเวทีไม่มีใครกล้าสู้ด้วย! แต่ที่ทำให้ฉู่เหินจนปัญญาก็คือ สมาธิของเจ้าหมอนี้ไม่นิ่งเอาซะเลย เขาประลองมาตั้งนานแต่กลับเลื่อนขั้นไม่ได้สักที
บ้านของตัวเอง ตัวเองรู้ดีที่สุด* ทาปาหยิงหนานเองก็รู้สึกอับอายเช่นเดียวกัน! เขารู้ว่าแม้เขาจะฆ่าอีกฝ่าย ทว่าจริง ๆ แล้วในใจเขากลับรับไม่ค่อยจะได้ นิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กคิดอยากจะแก้ก็แก้ยากแล้ว!
*เปรียบเทียบว่าเรื่องของตน ตนเองรู้ดีที่สุด
ฉู่เหินยืนสังเกตการณ์อยู่ที่เดิม ทันใดนั้นสายตาก็หันไปเห็นคนที่ยืนอยู่ด้านข้างเขา คนที่ยืนอยู่นั้นเป็นเด็กสาวคนหนึ่งอายุประมาณ 18-19 ปี ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้เธอก็จะคอยเอาใจช่วยทาปาหยิงหนานตลอด ดังนั้นฉู่เหินเลยรู้สึกประทับใจเธอมากเช่นกัน! แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าจู่ ๆ ก็มีผู้ชายแปลกหน้าจำนวนหนึ่งเดินไปทางเด็กสาว ทั้งยังเหมือนจะประสงค์ร้ายมากกว่าประสงค์ดีซะด้วย!
ผู้เฒ่าสามนั้นยืนข้าง ๆ ฉู่เหินตลอด เพราะพวกเขากลัวว่าจะดูแลไม่ทัน จนทำให้หลานชายต้องพบกับอันตราย แม้ว่าทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้นเด็กคนนี้ก็มักจะให้ของล้ำค่ากับพวกเขาตลอดก็เถอะ แต่พวกเขาตระกูลฉู่ก็คงเลือกที่จะไม่เอาล้ำค่าพวกนั้นจะดีกว่า ถ้ามันต้องทำให้หลานชายพวกเขาไปเจอกับอันตรายอะไร!
ฉู่เหินมองผู้เฒ่าสามก่อนจะกระซิบข้างหูชายชรา ผู้เฒ่าสามพยักหน้าก่อนที่จะหายไปจากจุดที่ยืนอยู่! ชายหนุ่มมองไล่หลังผู้เฒ่าสามถึงค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย
“พวกแกเป็นใคร คิดจะทำอะไรน่ะ” เด็กสาวคนนั้นพูดประโยคนี้จบไม่ทันไรก็ถูกตีจนหมดสติ! ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกอุ้มหายไปอีกทิศทางหนึ่งภายในพริบตา!
พอมาถึงที่ลับตาแล้ว ผู้ชายพวกนี้ก็พากันแสยะยิ้ม ต่อมาก็เห็นว่าหนึ่งในนั้นหยิบกล้องอันหนึ่งออกมา ส่วนอีกคนก็เดินไปจะฉีกเสื้อบนร่างของเด็กสาว! ในเวลาเดียวกันอีกสองคนก็ถอดเสื้อตัวเองทิ้ง ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น!
แต่ในตอนนี้เอง คนพวกนี้จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดหัวและสลบไป! ทันใดนั้นก็มีแสงกระพริบขึ้นมาจากความว่างเปล่า ก่อนที่ผู้เฒ่าสามจะปรากฏตัวขึ้นที่นี่เขายื่นมือไปรับเด็กสาว แล้วทั้งสองก็หายไปอีกครั้ง!
การประลองยุทธของผู้ไร้สังกัดเวทีที่สาม ทาปาหยิงหนานที่ยืนอยู่บนเวที จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะอันน่ารังเกลียจดังขึ้นที่ข้างหูว่า “เด็กน้อย เด็กสาวที่ให้กำลังใจนายอยู่ข้างเวทีเมื่อกี้นี้ ฉันว่าแกคงรู้จักเธอสินะ ฉันมีเรื่องดี ๆ จะบอกกับแก ตอนนี้นังเด็กนั่นกำลังมีความสุขกับอีกผู้ชาย 8 คน”
“แต่แกคงจะมีความสุขมากสินะ ที่จะมีน้องเขยพร้อมกันตั้ง 8 คน! อ๋อ ! ฉันขอบอกไว้ก่อนนะว่าเจ้า 8 คนนี้มันไม่ค่อยจะนิสัยดีเท่าไร เพราะว่าพวกมันชอบทำกับศพมากกว่า!”
เด็กสาวคนเมื่อครู่ก็คือน้องสาวของทาปาหยิงหนาน ทาปาหยิงจือ! พวกเขาพี่น้องตัวติดกันตั้งแต่เล็ก ๆ เรียกได้ว่าทาปาหยิงจือก็คือชีวิตของทาปาหยิงหนาน! ตอนนี้พอรู้ว่าน้องสาวถูกจับตัวไป ทั้งนี้ก็เพื่อข่มขู่ตัวเอง ทาปาหยิงหนานก็พลันรู้สึกโกรธจนร่างกายแทบจะระเบิด!
ทันใดนั้นรังสีสังหารก็แผ่ออกมาจากไหนก็ไม่รู้ จากที่ทำใจไม่ได้ในที่สุดก็ถูกเขาปัดทิ้ง! น้องสาวเป็นแก้วตาดวงใจของเขา ใครที่กล้าแตะน้องเขาแม้แต่ปลายเล็บ เขาจะคิดบัญชีมันให้สาสม! หลายปีแล้วยังไม่มีใครกล้าพูดถึงน้องสาวเขาต่อหน้าแบบนี้
ถ้าใครกล้าพูดว่าน้องสาวเขาไม่ดี เขาก็จะโกรธทันที! ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มักจะอดกลั้นมันเอาไว้ ทว่าวันนี้ไม่เหมือนกัน น้องสาวของเขาถูกจับตัวไป เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้! เรื่องนี้ทำให้เขาอยากจะพุ่งลงไปฆ่าคนที่มันจับตัวน้องเขาไปซะเดี๋ยวนี้!
จิตฆ่าฟันของเขาพวยพุ่งพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า จากที่ร่างกายอ่อนปวกเปียกก่อนหน้าก็หายไปไม่มีเหลือ กลับกลายเป็นมั่นคงและแข็งแกร่ง!
ทันทีที่จิตใจแน่วแน่ ทาปาหยิงหนานก็เหมือนจะได้ยินเสียงบางอยากแตกหัก การเลื่อนขั้นที่รออยู่นานในที่สุดก็มาถึงแล้ว! พลังมหาศาลถูกดูดเข้าร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นควันวนรอบกาย ใครจะไปรู้กันว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะทำให้เขาทะลวงขั้นจักรพรรดิดาราระดับต้นได้สำเร็จ!
เพียงแต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ทาปาหยิงหนานไม่ได้รู้สึกมีความสุขกับการเลื่อนขั้นเลยแม้แต่น้อย ดวงตาเขาของเต็มไปด้วยความโกรธแค้น “หอประจิมของพวกแก สักวันหนึ่งจะต้องถูกคนอย่างฉันเหยียบให้จมดินเพื่อเซ่นสังเวยน้องสาวของฉัน! คนชั่ว ๆ แบบแก มันต้องโดนสวรรค์ลงโทษ!”
“ไอ้หนุ่ม แกพูดเพ้อเจ้ออะไร จะพูดอะไรก็ให้มันสมเหตุสมผลหน่อย! หอประจิมอันยิ่งใหญ่ของพวกเรายิ่งใหญ่ขนาดไหน คนอย่างแกมันเทียบไม่ติดแม้แต่ปลายเล็บ!” หัวหน้ากองกำลังของหอประจิมไม่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะกล้าท้าทายเขาต่อหน้าคนอื่น ๆ แบบนี้ ตอนนี้เขาโกรธแทบจะระเบิด อยากจะขึ้นไปสั่งสอนมันซะเดี๋ยวนี้!
“กล้าทำแต่ไม่กล้ารับ เมื่อกี้ไม่ใช่แกหรอกเหรอที่ส่งเสียงมา หรือว่าผายลมเสร็จแล้วไม่กล้ารับ!” ทาปาหยิงหนานไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย เขากล้าประจานชายแก่คนนี้ต่อหน้าผู้คนนับหมื่น ซึ่งพอทุกคนได้ยินแบบนั้นก็พากันมองหอประจิมด้วยสายตาเหยียดหยาม
แม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าแตะต้องหอประจิม แต่เพียงส่งสายตาดูถูกทำไมพวกเขาจะทำไม่ได้! พอเห็นสายตาของทุกคนที่ส่งมา หัวหน้ากองกำลังของหอประจิมก็คล้ายจะหมดความอดทนแล้ว ถ้าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป น่ากลัวว่าสิ่งที่เขาสร้างมาทั้งชีวิตคงจบสิ้น
ทันใดนั้นเขาก็แผ่รังสีสังหาร ก่อนจะกระพริบร่างพุ่งไปที่เวทีประลองที่ 3 เขาคิดว่าการฆ่าทาปาหยิงหนานที่อยู่ในขั้นจักรพรรดิดาราระดับต้นนั้นง่ายแสนง่าย! ดังนั้นแล้วทำไมถึงไม่ควรทำมันเสียตอนนี้เลยละ ?
ตอนนั้นเองที่ฉู่เหินหยิบหม้อเซียนมาถือ ก่อนจะหายตัวมมายืนข้าง ๆ อีกคนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนที่อยู่ข้าง ๆ ชายหนุ่มตอนนี้ก็คือนายน้อยของหอประจิม เหตุที่มายืนตรงนี้ก็เพื่อดูเรื่องสนุก ดวงตาของฉู่เหินเต็มไปด้วยความดูถูก!