ตอนที่ 627 ออดอ้อน (1) / ตอนที่ 628 ออดอ้อน (2)
ตอนที่ 627 ออดอ้อน (1)
การปรากฏตัวของจวินอู๋เย่าทำให้ชีวิตของจวินอู๋เสียแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย ก่อนหน้านี้นางได้ไปที่ตำบลชานหลินเพื่อหาเตาหลอมโอสถที่เหมาะสม นางไม่คิดว่าจะหาได้แค่เตาทองแดงโทรมๆ แค่ใบเดียว ขณะที่นางวางเตาหลอมโอสถลง จวินอู๋เย่าที่ยืนพิงประตูอยู่ก็มองดูนางอย่างเกียจคร้าน
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์ของข้าจะใช้ของชั้นต่ำเช่นนั้นได้อย่างไร” จวินอู๋เย่าเดินเข้าไปหาจวินอู๋เสียช้าๆ นางชำเลืองมองเขายกมือขึ้นมา แล้วหมอกสีดำก็ก่อรูปเป็นลูกบอลอยู่บนมือของเขา เขาเคลื่อนหมอกสีดำมาปกคลุมเตาหลอมโอสถจนมิด แล้วหมอกสีดำก็เริ่มหมุนวนราวกับเป็นพายุลูกเล็ก
“…” สายตาของจวินอู๋เสียเย็นชาเมื่อเห็นเตาหลอมโอสถใบเดียวของนางหายวับไป
จวินอู๋เย่ายิ้มแล้วพูดว่า “แตะต้องของพรรค์นี้จะทำให้มือของเจ้าแปดเปื้อนเสียเปล่าๆ”
จวินอู๋เสียพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ว่า “มีเม็ดยาอยู่ในนั้น”
นางปรุงยาอยู่ทั้งคืนและเกือบจะทำสำเร็จแล้ว นางกำลังจะเอายาออกมา แล้วจู่ๆ คนผู้นี้ก็ทำลายเม็ดยาของนางให้สลายหายไป!
ดวงตาเย็นชาคู่นั้นฉายแววไม่พอใจ นางจ้องจวินอู๋เย่าเป็นการต่อว่าเขาเงียบๆ
เตาหลอมโอสถอาจจะไร้ค่า แต่เม็ดยาในนั้นมันทำเงินได้มากมาย!
รอยยิ้มของจวินอู๋เย่าแข็งค้างเมื่อเห็นสายตาไม่พอใจของเด็กน้อยตรงหน้า เขากระแอมแล้วส่งยิ้มไปให้อีกครั้งก่อนจะยกมือขึ้น ตั้งใจจะดึงจวินอู๋เสียเข้ามากอด
อย่างไรก็ตาม จวินอู๋เสียรีบกระโดดถอยหลังไปสามก้าว เว้นระยะห่างระหว่างพวกเขาให้มากขึ้น
สายตากล่าวหาของนางก็เริ่มรุนแรงขึ้น!
เอาเม็ดยาของข้าคืนมา!
จวินอู๋เย่าถอนใจอย่างจนปัญญาและพยายามเอาใจจวินอู๋เสีย “อย่าโกรธเลย ข้าจะหามาให้เจ้าใหม่ ฟังดูเป็นอย่างไร”
จวินอู๋เสียมองเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
“ข้าจะหาเตาหลอมโอสถอันที่ดีที่สุดมาให้เจ้า คิดว่ากอดสักทีเป็นการขอบคุณเป็นอย่างไร” จวินอู๋เย่ายิ้มพร้อมกับอ้าแขนกว้าง
ขณะที่เขากำลังรอให้จวินอู๋เสียเข้ามาในอ้อมกอดอันแสนหวานของเขา…
จวินอู๋เสียยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับส่ายศีรษะ แสดงท่าทีแบบ ‘ข้าไม่อยากทำ!’ เต็มที่
ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่พวกเขาแยกจากกัน จวินอู๋เสียไม่เพียงแต่จะเลื่อนระดับพลังวิญญาณได้เร็วเท่านั้น แต่วุฒิภาวะทางอารมณ์ของนางก็สูงขึ้นด้วย
เมื่อตระหนักได้ว่านับจากนี้ไปเขาจะไม่สามารถหลอกให้จวินอู๋เสียให้ ‘ของขวัญ’ เป็นการขอบคุณได้อีกต่อไป จวินอู๋เย่าก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา
ไอ้สารเลวตัวไหนมันทำให้เด็กน้อยที่น่ารักของข้าเติบโตเร็วขึ้นถึงขนาดนี้
“มันน่าจะเป็นการขอโทษมากกว่า ข้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณ” จวินอู๋เสียเชิดหน้าขึ้นและพูดกับจวินอู๋เย่าด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง
“…” จวินอู๋เย่านิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
เช่นนั้นเด็กน้อยที่น่ารักของเขาก็ยังไม่รู้ถึงเจตนาซ่อนเร้นเบื้องหลังการขอ ‘ของขวัญ’ เป็นการขอบคุณซินะ แต่เป็นเพราะตรรกะของนางแตกต่างจากของคนอื่นเล็กน้อย
“ได้ ได้…เป็นการขอโทษ” จวินอู๋เย่าพูดพร้อมกับยิ้ม สะกดความรื่นเริงเอาไว้ภายใน พวกเขายังมีหนทางอีกไกลให้ต้องเดินในอนาคต และเขาก็มีสมบัติล้ำค่าหาได้ยากอยู่นับไม่ถ้วน เขายังมีโอกาสอีกเหลือเฟือที่จะขอ ‘ของขวัญ’ แทนคำขอบคุณ
จวินอู๋เสียพยักหน้ายืนยันอีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง
แม้ว่าจวินอู๋เย่าจะเป็นพี่ชายของนาง แต่ความจริงก็คือเขาได้ทำลายเตาหลอมโอสถเพียงใบเดียวที่นางมีไปพร้อมกับเม็ดยาที่นางเพียรพยายามทำอยู่ทั้งคืน เขาต้องชดเชยให้นางด้วยเตาหลอมโอสถใบใหม่เนื่องจากนางไม่มีเวลากลับไปที่ตำบลชานหลินเพื่อหาของใหม่มาแทนได้
จวินอู๋เย่ามองสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังของจวินอู๋เสีย ความรื่นเริงที่เขาพยายามสะกดเอาไว้ก็ระเบิดออกมา
เด็กน้อยที่น่ารักของเขากำลังทำตัวออดอ้อนเขาอยู่สินะ
“เจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อน ประเดี๋ยวข้าจะไปหาของมาชดเชยให้เจ้า” จวินอู๋เย่าเดินออกจากประตูด้วยความรู้สึกมุ่งมั่นเมื่อได้รับข้อมูลใหม่เกี่ยวกับปฏิกิริยาของจวินอู๋เสีย
ตอนที่ 628 ออดอ้อน (2)
จวินอู๋เสียมองตามหลังจวินอู๋เย่าและนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเงียบๆ พร้อมอุ้มเจ้าแมวดำตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน
“ในโลกนี้ข้าว่ามีแค่ท่านคนเดียวเท่านั้นแหละที่กล้าพูดกับราชาปีศาจด้วยท่าทางเช่นนั้น” เจ้าแมวดำตัวน้อยพูดขณะที่นอนเลียอุ้งเท้าของมันช้าๆ
ทำให้จวินอู๋เย่าเสนอของขวัญให้เป็นการชดเชยและขอโทษอย่างนั้นหรือ ช่างกล้าหาญชาญชัยเสียนี่กระไร!
จวินอู๋เสียอาจจะไม่ทันได้สังเกต แต่มันก็ชัดเจนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเฉียวฉู่ ฮวาเหยา เฟยเยียน หรงรั่ว หรือว่าฟ่านจัว ทุกคนเลย ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว ต่างทำท่าราวกับหนูเจอแมว ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดังต่อหน้าจวินอู๋เย่า
จวินอู๋เย่าพักอยู่ที่ลานป่าไผ่มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว นอกจากฟ่านจิ่นที่หัวทึบมากเสียจนเจ้าแมวดำทนดูไม่ได้ต้องยกอุ้งเท้าของมันปิดตาอยู่เสมอ ฟ่านจัวไม่กล้าให้จวินอู๋เย่าทำงานอะไรเลยสักอย่าง แถมจู่ๆ ก็มีจิตสำนึกหยิบไม้กวาดขึ้นมากวาดลานพักเองทุกวัน ไม่เปิดโอกาสให้จวินอู๋เย่าได้กระดิกนิ้วทำงานประจำวันในลานป่าไผ่เลย
ในเรื่องของการทำลายเตาหลอมโอสถนั้น ถ้าเป็นคนอื่น มันอาจจะถูกมองว่าเป็น ‘การมอบความเมตตา’
จะไม่มีใครกล้าตำหนิหรือกระทั่งตบมือโห่ร้องไห้กับการทำลายนั้น
แต่เมื่อเป็นจวินอู๋เสีย เขากลับหาของใหม่มาทดแทนให้
สองมาตรฐานสุดๆ!
“ข้าล้ำเส้นเกินไปอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
เจ้าแมวดำตัวน้อยนิ่งอึ้งไปโดยไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี
คิ้วของจวินอู๋เสียขมวดจนหน้าผากย่น นางไม่รู้ว่าจะจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวอย่างไรดี
“ข้าไม่ได้จะให้เขามาชดเชยให้ข้าจริงๆ แต่ข้าก็ไม่มีของอย่างอื่นที่ใช้ได้แล้ว” ความคิดเช่นนั้นของจวินอู๋เสียทำให้นางรู้สึกคับข้องใจ
นางไม่ได้ตั้งใจจะสร้างความลำบากยุ่งยากให้แก่จวินอู๋เย่า ก็แค่…ถ้าไม่มีเตาหลอมโอสถ นางก็ไม่สามารถหลอมโอสถได้ และถ้านางหลอมโอสถไม่ได้ นางก็จะไม่มีเงิน ถ้านางไม่มีเงิน…นางก็ไม่สามารถรวบรวมของที่นางต้องการเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปยังผาสุดขอบฟ้าได้!
เรื่องจะพึ่งความสามารถในการหาเงินของเฉียวฉู่กับพรรคพวกของเขายิ่งไม่ต้องหวังเลย
เจ้าแมวดำตัวน้อยอ้าปากค้าง มองเจ้านายของมัน ทันใดนั้นมันก็เริ่มต่อว่าตัวเอง มันยกอุ้งเท้าขึ้น…แล้วตบไปที่หน้าของมันแรงๆ
โง่เอ๊ยยย! ข้ามันโง่จริงๆ!
ตอนที่ราชาปีศาจจากไป เห็นได้ชัดว่าเขามุ่งมั่นมาก สีหน้าของเขาแสดงความพอใจในตัวเองแบบสุดๆ ไม่มีร่องรอยความเสียใจหรือเศร้าโศกสักนิด ราชาปีศาจกำลังมีความสุขอย่างถึงที่สุด! แล้วอย่างนี้มันจะพูดกับเจ้านายของมันว่าอย่างไรดีเล่า
เจ้าแมวดำตัวน้อยอยากจะร้องไห้ มันอยากให้เจ้านายของมันตระหนักได้สักทีว่าจวินอู๋เย่าไม่ใช่ญาติพี่น้องที่มีสายโลหิตเดียวกับนาง และไม่ควรจะมองว่าเป็นคนในครอบครัวจริงๆ ด้วย แตกต่างจากจวินเสี่ยนกับจวินชิง จวินอู๋เสียต้องรู้ตัวได้แล้วว่าความใจดีที่มากเกินปกติของจวินอู๋เย่าที่มีต่อนางนั้นแตกต่างจากสิ่งที่คนในครอบครัวจริงๆ ของนางให้มา! นางต้องรู้ได้แล้วว่ามันมีอันตรายแฝงมาด้วย!
มันตั้งใจจะให้จวินอู๋เสียเว้นระยะห่างจากจวินอู๋เย่าสักหน่อย แต่มันไม่คิดว่าเจ้านายของมันจะคิดไปคนละทางกับมันโดยสิ้นเชิง อ่านสถานการณ์ผิดพลาดไปเสียทั้งหมดเลย!
เจ้าราชาปีศาจนั่นเชี่ยวชาญในการชักจูงผู้คนเสียจริงๆ!
ด้วยนิสัยเย็นชาและเข้าถึงได้ยากของเจ้านาย นางถูกดึงเข้าสู่วังวนความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่ยากจะเข้าใจนี้ได้อย่างไร!
จวินอู๋เสียยังคงครุ่นคิดถึงปัญหา ‘ความสัมพันธ์’ ที่แปลกใหม่และไม่คุ้นเคยของนาง ขณะที่จวินอู๋เย่ากำลังออกจากลานป่าไผ่อย่างกระตือรือร้น
ตั้งแต่เขามาที่สำนักศึกษาเฟิงหัว จวินอู๋เย่าอยู่แต่ในเรือนหลังเล็กที่ลานป่าไผ่ตลอดเพื่อค่อยๆ ฟูมฟัก ‘ความสัมพันธ์’ กับจวินอู๋เสีย ในขณะที่เขาก้าวเท้าออกจากเรือนพัก เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้น
ในลานป่าไผ่ที่เงียบสงบนั้น ไม่รู้ว่ามีหญิงสาวที่หน้าแดงกลุ่มหนึ่งมาปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกนางสวมเครื่องแบบของสำนักศึกษาเฟิงหัว และทุกๆ คนต่างซ่อนตัวอยู่หลังต้นไผ่หนาทึบด้วยความเขินอาย สายตาขวยเขินของพวกนางแอบมองจวินอู๋เย่าที่เพิ่งโผล่ออกมาจากประตูเรือนพักอย่างเหนียมอาย