เฉินฮวนฮวนนิ่งไปทันที
ให้แบล็กการ์ดกับเธอ? รหัสยังเป็นวันเกิดของเธอ?
เพราะฉะนั้น แบล็กการ์ดใบนี้เฟิงหานชวนให้เธอโดยเฉพาะ?
“อาหาน คุณ…” เฉินฮวนฮวนอ้าปาก รู้สึกว่าตัวเองยังตั้งสติไม่ค่อยได้
“เก็บรักษาไว้ให้ดี”เฟิงหานชวนพูดเสียงเรียบ พร้อมก้มตัว จุ๊บลงบนหน้าผากของเธอ
เฉินฮวนฮวนเม้มริมฝีปาก ใบหน้าเล็กแดง เงยหน้ามองชายหนุ่มหน้าหล่อตรงหน้า ถามเสียงเบา“การ์ดใบนี้ คุณให้ฉันโดยเฉพาะใช่ไหม? ในเมื่อรหัสเป็นวันเกิดของฉัน…”
“ฉลาด”เฟิงหานชวนเข้าใกล้ผู้หญิงตรงหน้า ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย
แม้ว่าเดาคำตอบได้แล้ว แต่ชายหนุ่มตอบยืนยัน ทำให้หน้าของเฉินฮวนฮวนยิ่งแดงขึ้น
“ฉัน…คุณ…”เฉินฮวนฮวนเขินอายจนพูดไม่ออก
“ก่อนหน้านี้ก็เตรียมไว้แล้ว แต่เพราะคุณอยู่ค่ายอบรม ดังนั้นเลยหาโอกาสที่เหมาะสมไม่ได้มาตลอด” เฟิงหานชวนอธิบาย
แต่ทว่า เฉินฮวนฮวนได้ยินคำตอบนี้ ตกใจขึ้นอีกครั้ง
เดิมที เธอนึกว่าหลังจากทั้งสองตัดสินใจเป็นสามีภรรยาที่แท้จริงแล้ว เฟิงหานชวนถึงเตรียมแบล็กการ์ดใบนี้ให้ แต่ตอนนี้ความหมายของเฟิงหานชวนคือว่า…ก่อนที่เธอจะเข้าค่ายอบรม เขาก็เตรียมไว้แล้ว
แต่ก่อนเข้าค่ายอบรม ทั้งสองคนเพียงแต่อยู่ในความสัมพันธ์ทดลองแต่งงาน
“ตอนนั้น ตอนนั้นพวกเรา…”เฉินฮวนฮวนเกาศีรษะ และไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหน
“คุณอยากถามก็คือ ตอนนั้นพวกเรายังเป็นความสัมพันธ์ทดลองแต่งงาน ยังไม่ได้ตัดสินใจเป็นทางการ ทำไมผมถึงเตรียมแบล็กการ์ดให้คุณ?” เฟิงหานชวนมองออกว่าในใจของเฉินฮวนฮวนคิดอะไรอยู่
“อืม” ได้ยินชายหนุ่มพูดความในใจของเธอออกมาแล้ว เฉินฮวนฮวนตอบรับออกไป พยักหน้าแรงๆ
“เพราะผมคิดเสมอ พวกเราไปจนสุดทางได้” น้ำเสียงของเฟิงหานชวนจริงจัง สีหน้าจริงจัง ไม่มีท่าทางล้อเล่นแม้นิดเดียว
ความจริงจังของชายหนุ่ม ทำให้หัวใจของเฉินฮวนฮวนเหมือนหยุดเต้น เธอนิ่งอึ้งมองผู้ชายตรงหน้า นิ่งไปหนึ่งนาทีเต็มๆ
ตอนที่เฟิงหานชวนอยากพูดต่อ เฉินฮวนฮวนลุกขึ้นทันที สองมือคว้าคอเขาไว้ มอบจุ๊บให้หนึ่งที
เป็นเพียงการสัมผัสเรียบง่าย เธอปล่อยผู้ชายตรงหน้าออก หน้าของเธอแดงมากๆ และไม่กล้ามองตาชายหนุ่มตรงๆ
เฉินฮวนฮวนพูดเสียงเบา “ฉันไปอาบน้ำ”
ตอนที่เธอเตรียมหมุนตัวไป เฟิงหานชวนดึงแขนเธอไว้
เฉินฮวนฮวนหันหน้ามางงๆ ใบหน้ายังมีความเขินอายนิดๆ เอ่ยถาม “ทำไมเหรอ?”
“ไม่ใช่หิวแล้วเหรอ? ซื้อขนมมาเยอะขนาดนี้ ไม่กินหน่อยเหรอ?” เฟิงหานชวนกลั้นยิ้มไว้ แม้ว่าสีหน้าดูเหมือนไม่รู้สึกรู้สา แต่ความจริงอย่าให้บอกว่าในใจมีความสุขมากแค่ไหน
“ฉัน…ฉันลืมไป…” เฉินฮวนฮวนเขินเป็นที่สุด ยื่นมือเกาศีรษะด้วยความเขิน
เดิมทีเธอคิดจะกินนิดหน่อย ผลคือเฟิงหานชวนยื่นแบล็กการ์ดให้กะทันหัน ทำเอาความคิดในสมองเธอยุ่งเหยิงไปหมด
“นั่งลงมากินเถอะ” มือทั้งสองของเฟิงหานชวนวางอยู่บนไหล่ของหญิงสาว แล้วกดเธอลงไปนั่งบนโซฟาอีกครั้ง
เฉินฮวนฮวนเชื่อฟัง ทำตามการกระทำของเฟิงหานชวน ตอนนี้นั่งตัวตรง แล้วยื่นมือหยิบถุงขนมบนโต๊ะ
เฟิงหานชวนไม่ได้นั่งลงทันที แต่หยิบรีโมตทีวี เปิดทีวีแล้วเอารีโมตยื่นให้เฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนเลือกหนังที่ได้คะแนนสูงก่อนหน้านี้ แล้วกินขนมไปพลาง ดูหนังกับเฟิงหานชวนไปพลาง
เพราะก่อนหน้านี้เธอยุ่งมากๆมาตลอด มีละครและหนังมากมายน่าดู เธอไม่มีเวลาดู หลังจากเลิกกับเยี่ยจิ่งเฉิน เธอก็ไม่เคยไปโรงหนังอีกเลย
ดังนั้น ชีวิตที่ผ่อนคลายและอิสระแบบนี้ เธอแทบจะไม่เคยได้สัมผัสเท่าไหร่
หนังเรื่องนี้เป็นช่วงปีใหม่ เป็นแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศปีก่อน ตอนนั้นพูดร่วมห้องต่างพูดว่าสนุก แต่เฉินฮวนฮวนกลับไม่เคยดู
แม้ว่าเป็นแนวสืบสวน แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นหนังตลก ทำให้ในระหว่างการดู เฉินฮวนฮวนหัวเราะออกมาเสียงดัง
เฟิงหานชวนไม่มีความสนใจหนังเลย แม้ว่าเขาดูเหมือนกำลังดูหนัง แต่ความจริงกลับกำลังดูหญิงสาวข้างๆ เทียบกับหนังเรื่องนี้ เขาอยากมองภรรยาตัวเองคนนี้มากกว่า
เขารู้สึกก่อนหน้านี้ตัวเองโง่มาก ตอนเฉินฮวนฮวนเพิ่งเข้ามา นึกไม่ถึงว่าเขาจะอำมหิตกับเธอขนาดนี้ ตอนนี้คิดแล้ว เสียใจสุดๆ
ตอนนั้นก็อยู่ในห้องนี้ เฉินฮวนฮวนร้องไห้เก็บขี้เถ้าของยายเธอ ลากกระเป๋าเดินไปพลางร้องไห้ไปพลางกลางฝนตกหนัก ภาพในตอนนั้น ทำยังไงเฟิงหานชวนก็ลืมไม่ลง
เฉินฮวนฮวนให้อภัยเรื่องนี้ได้ เป็นเรื่องความโชคดีในโชคดีแล้ว เพราะฉะนั้นเขาถึงไม่กล้าให้เฉินฮวนฮวนรู้เรื่องคืนนั้นในบลูส์คลับ เพราะเขาไม่กล้าขอเฉินฮวนฮวนยกโทษให้เขา
“ฮ่า ๆ”
แต่เฉินฮวนฮวนตอนนี้ ตกอยู่ในภวังค์ความสนุกของหนังเรื่องนี้ ไม่ทันรู้ตัว ถุงขนมในมือก็หมดแล้ว
เฉินฮวนฮวนสนุกเลยไม่รู้สึกเหนื่อย ยื่นมือคว้าขนมอีกถึงหนึ่ง ฉีกถุงออกแล้วหยิบแผ่นมันฝรั่ง คิดอยากให้เฟิงหานชวนลองชิมก่อน
ตอนเธอหันหน้าไป สบตาเข้ากับเฟิงหานชวนพอดี เธอสังเกตเห็น เฟิงหานชวนกำลังมองเธออยู่
สายตาเขามองมาที่เธอ ไม่ใช่ทางหน้าจอ เพราะฉะนั้นเฟิงหานชวนกำลังมองเธออยู่จริงๆ
เฉินฮวนฮวนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง หรือว่าเมื่อกี้เฟิงหานชวนมองเธอมาตลอด ไม่ใช่กำลังดูหนัง?
หรือเพราะว่า ตัวเธอกินขนมหมดไปห้าถุง ทำให้เฟิงหานชวนสนใจ?
“อาหาน คุณ…กำลังมองฉัน?” เฉินฮวนฮวนถามออกไปหนึ่งประโยคอย่างอดไม่ได้ แล้วยื่นมันฝรั่งไปที่ปากของชายหนุ่ม
แม้ว่าปกติเฟิงหานชวนไม่กินขนม แต่ในเมื่อภรรยามีน้ำใจ เขาก็อ้าปากกินลงไป
“ใช่” เขาพยักหน้าเรียบ ๆ
“เพราะฉัน…กินมากไปใช่ไหม?” เฉินฮวนฮวนเม้มริมฝีปาก ยังคงถามออกไป
“แน่นอนว่าไม่ใช่” เฟิงหานชวนหัวเราะออกมาเบาๆ ปฏิเสธการเดาของเฉินฮวนฮวนทันที เขายื่นมือตบที่ศีรษะเธอเบาๆ พูดเสียงอ่อนโยน “ผมไม่รังเกียจคุณ”
เขาไม่รังเกียจเธอ…
แม้ว่า เฉินฮวนฮวนได้ยินคำพูดเอ็นดูแบบนั้น แต่ยิ่งรู้สึกตรงไหนแปลกๆ
“เฟิงหานชวน!” เธอเม้มปาก พูดด้วยความไม่พอใจ “คุณรู้สึกว่าฉันกินมาก”
“ผมเปล่า” เฟิงหานชวนปฏิเสธทันที
“ถ้าหากคุณไม่รู้สึกว่าฉันกินมาก คุณคงไม่ใช้คำว่ารังเกียจสองคำนี้ ดังนั้นในจิตใต้สำนึกของคุณ รู้สึกว่าฉันกินมาก…” เฉินฮวนฮวนสองมือเท้าเอว หันหน้าไปทันที ไม่มองผู้ชายตรงหน้าอีก
เอาสายตากลับไปมองจอทีวีอีกครั้ง
“ผมเปล่าจริงๆ ฮวนฮวน” เฟิงหานชวนไม่รู้จะพูดยังไงจริงๆ รีบยื่นมือออกไปคว้าเอวบางของหญิงสาว ใช้แรงที่ฝ่ามือ เหนี่ยวเธอเข้ามากอด
เฉินฮวนฮวนเสียการทรงตัว ครู่เดียวก็ล้มไปทางเฟิงหานชวน แล้วล้มลงบนตักของชายหนุ่มทันที
เธอรู้สึกว่าท้ายทอยเหมือนชนกับของที่ยืดหยุ่น ตอนเธอรู้ตัว คนทั้งคนก็กลายเป็นหิน
เป็นหินเหมือนกัน ยังมีบางคนที่ถูกชน
หลายวินาทีต่อมา เฉินฮวนฮวนได้สติ รีบลุกขึ้นทันที นั่งตัวตรง นั่งบนโซฟาอย่างนอบน้อม ท่านั่งแทบจะ90องศา
ตอนนั้น บรรยากาศภายในห้อง แทบจะแช่แข็ง
เฉินฮวนฮวนนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง ตอนเธอหันไปอยากถามเฟิงหานชวน กลับเห็นสีหน้าเฟิงหานชวนเหมือนหลากสี
“อาหาน คุณ…คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” เฉินฮวนฮวนรู้สึกศีรษะตัวเองค่อนข้างหนัก ก็เหมือนลูกเหล็กขนาดใหญ่
ลูกเหล็กขนาดใหญ่หนึ่งลูกตกลงไปอย่างแรง เฟิงหานชวนคงไม่รู้สึกแย่ใช่ไหม?
แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้ชาย เธอไม่สามารถรู้สึกแทนได้ ทำได้แค่เห็นใจเฟิงหานชวนเงียบๆ ถึงจะเป็นห่วงเขามากๆ ถึงอย่างไรก็เป็นเพราะเธอ
แน่นอน สาเหตุส่วนใหญ่ยังคงเป็นเฟิงหานชวนเอง หากไม่ใช่เฟิงหานชวนพยายามกอดเธอ ก็ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“ฮวนฮวน คุณรู้สึกว่าไง?” เฟิงหานชวนแทบจะกดฟันพูดออกมา หน้าผากเขามีเหงื่อออกมาเป็นชั้นบางๆ
แรงเมื่อกี้นี้ ไม่เบาจริงๆ ตอนนี้เขายังเจ็บอยู่นิดๆ
ความรู้สึกนั้นแย่มาก
“ฉัน…ฉันรู้สึก…”เฉินฮวนฮวนเม้มริมฝีปาก ไม่กล้ามองตาเฟิงหานชวนตรงๆ พูดติดๆขัดๆ “ฉันรู้สึก…คุณคงไม่เป็นไรมั้ง?”
“คุณแน่ใจว่าผมไม่เป็นไร?” เฟิงหานชวนคิ้วกระตุก น้ำเสียงมีความข่มขู่เล็กน้อย
“หากคุณ…หากคุณเจ็บ ตอนนี้ฉันพาคุณไปโรงพยาบาลได้” เฉินฮวนฮวนตกใจลุกขึ้นทันที
ใช้โอกาสนี้ เฟิงหานชวนจับข้อมือเธอไว้ แล้วดึง หลังจากนั้นตกลงในอ้อมกอดเขา
ครั้งนี้เขามีประสบการณ์แล้ว แม้ว่าเฉินฮวนฮวนถูกเขาดึงลงมา แต่เฉินฮวนฮวนถูกเขาโอบกอดไว้ทั้งหมด ไม่ได้เกิดข้อผิดพลาดแบบเมื่อกี้นี้
“เฟิงหานชวน คุณคิดจะทำอะไร?” ในความร้อนใจ เฉินฮวนฮวนอดเรียกชื่อเต็ม ของบางคนไม่ได้
“เด็กดี อย่าดิ้น แบบนี้แหละ” เฟิงหานชวนใช้ด้านอบอุ่น มาปฏิบัติกับเฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนมองท่าทีตัวเองในตอนนี้ คือนอนราบอยู่บนตัวเฟิงหานชวน มือข้างหนึ่งของเฟิงหานชวนวางอยู่ที่หลังของเธอ มืออีกข้างวางขาทั้งสองของเธอ ถือว่าคนที่นั่งอุ้มท่าเจ้าหญิงอยู่
“อาหาน คุณปล่อยฉันลง ฉันจะดูหนัง หนังยังไม่จบ” เฉินฮวนฮวนยื่นนิ้ว กดไปที่หน้าอกของชายหนุ่ม
“แบบนี้ก็ดูได้” เฟิงหานชวนมองไปทางหน้าจอทีวี
มองท่าทางชายหนุ่มนิ่งเฉย ถึงขั้นไม่มีความคิดที่จะปล่อยมือ เฉินฮวนฮวนยอมแพ้ที่จะเจรจาไปง่ายๆ และขี้เกียจขัดขืน เป็นเด็กดีอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม
หลังจากนั้น เฉินฮวนฮวนก็ดูหนังไปพลาง กินขนมไปพลางเหมือนเดิม เพียงแค่ท่าทางต่างออกไป
ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ ตอนนี้นอนอยู่ เพียงแต่สถานที่นอน พิเศษนิดหน่อยแค่นั้น
ไม่ทันรู้ตัว หนังสนุกก็เข้าสู่ตอนจบ เฉินฮวนฮวนตกอยู่ในภวังค์ของหนัง ตอนนี้ถึงได้สติกลับมา เห็นว่าตัวเองยังถูกเฟิงหานชวนอุ้มอยู่
“เฟิง…อาหาน คุณเมื่อยมือไหม?” เธอยังรู้สึกเมื่อยหลังเลย
“ไม่เมื่อย” ชายหนุ่มยังนั่งอยู่ปกติเหมือนเดิม นอกจากอุ้มเฉินฮวนฮวนไว้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง