บทที่ 346 ผลจากการอธิษฐานที่แสนเจ็บปวด
บทที่ 346 ผลจากการอธิษฐานที่แสนเจ็บปวด
ซูอันไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถามด้วยความสงสัย “ถ้าท่านเป็น ปรมาจารย์ด้านอักขระที่แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์ฉิน ท่านน่าจะคุ้นเคยกับค่ายกลและพวกผนึกต่าง ๆ เฮ้อ…แบบนี้มันช่างน่าขำจริง ๆ ที่ท่านกลับเป็นฝ่ายถูกผนึกซะเอง!”
“…” หมี่ลี่
เจ้าต้องเยาะเย้ยข้าตลอดทุกเรื่องใช่ไหม? ข้าอยากจะกระซวกไอ้เวรนี่จริง ๆ!
—
ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233!
—
เมื่อสังเกตเห็นใบหน้าที่ทะมึนของหมี่ลี่ ซูอันก็ฉลาดพอที่จะเปลี่ยนเรื่อง “พูดถึงเรื่องนี้ ทำไมท่านไม่ทำสัญญาชีวิตและความตายกับอิ่งเจิ้งล่ะ? ท่านจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะทรยศท่านไง”
“เขาเป็นคนที่คิดว่าบารมีของตัวเองเหนือกว่าสามราชาห้าจักรพรรดิ และเชื่อว่าตัวเองมีเกียรติเสมอฟ้าดิน เขาจะปล่อยให้ชีวิตเขาเชื่อมโยงกับผู้อื่นอย่างเท่าเทียมกันได้ยังไง?”
ซูอันพยักหน้ารับรู้ “ถ้างั้นท่านก็คงเคยขอให้เขาทำสัญญาแล้วแต่ถูกปฏิเสธใช่ไหม?”
“…” หมี่ลี่
“น่าขัน! สัญญาชีวิตและความตายเป็นคำสาบานโดยคนสองคนที่รักกันอย่างสุดซึ้ง ข้ากับอิ่งเจิ้งเป็นแค่คู่แต่งงานทางการเมือง แล้วทำไมข้าต้องทำสัญญากับเขาด้วย?”
—
ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 567!
—
ซูอันรู้สึกเสียดายเมื่อได้รับคะแนนความโกรธแค้นอีกครั้ง นี่มันแย่จริง ๆ!
“ท่านรอเดี๋ยวก่อนนะ” จู่ ๆ ซูอันก็โพล่งขึ้น
ชายหนุ่มตัดสินใจสุ่มรางวัลตอนนี้เพื่อลดการสูญเสียคะแนนไปโดยเปล่าประโยชน์ ก่อนหน้านี้ตัวเองเคยสุ่มรางวัลครั้งหนึ่งต่อหน้าเว่ยสั่ว เพื่อนร่วมชั้นผู้คลั่งไคล้สาวงามทั้งหลาย ซึ่งตอนนั้นอีกฝ่ายไม่เห็นคีย์บอร์ดของเขา ดังนั้นหมี่ลี่เองก็ไม่น่าจะเห็นเช่นกัน แต่อันที่จริงซูอันก็ไม่แน่ใจนักหรอก เพราะหมี่ลี่นั้นทรงพลังมากกว่าเว่ยสั่วราวมดกับยักษ์
อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงจุดนี้ ซูอันก็เริ่มคิดถึงเว่ยสั่วขึ้นมา ข้าสงสัยว่าเขาแอบดูถุงน่องของอาจารย์ใหญ่เจียงบ้างหรือเปล่าในขณะที่ข้าไม่อยู่?
ซูอันรีบสลัดความคิดไร้สาระต่าง ๆ ในหัวออกไปอย่างรวดเร็วและเริ่มต้นสุ่มรางวัล เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะจบการสุ่มรางวัลที่เสียเปล่าให้เร็วที่สุด
เขาตรวจสอบคีย์บอร์ดของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าเขาได้สะสมคะแนนความโกรธแค้น จำนวน 34,584 คะแนนซึ่งทำให้สามารถสุ่มรางวัลได้ 345 ครั้ง!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเกลียดชังความเก่งกาจในการกวนประสาทผู้อื่นของตัวเอง
บัดซบเอ๊ย! เสวี่ยเอ๋อร์ รู้ไหมว่าข้าต้องเสียผลประโยชน์เพราะเจ้าขนาดไหน! เจ้าควรสำนึกบุญคุณของข้าไว้ให้มาก มิฉะนั้น ข้าจะตราหน้าเจ้าว่าไร้มโนธรรม ไร้กตัญญู!
ซูอันตระหนักว่าค่าความโกรธแค้นจำนวนมากที่สุดที่เขาได้รับนั้นมาจากวิญญาณพยาบาท โชคดีที่มีวิญญาณพยาบาทเพียงพันดวงที่อยู่ใกล้พื้นผิวทะเลสาบที่ได้เห็นความไร้ยางอายของเขาและเทคะแนนความโกรธแค้นให้ ไม่เช่นนั้นหากดวงวิญญาณพยาบาททั้งหมดถูกยั่วยุพร้อม ๆ กันแล้วล่ะก็ จำนวนค่าความโกรธแค้นจะยิ่งมากกกว่านี้หลายเท่าไปอีก
หากวิญญาณพยาบาททั้ง 200,000 ดวงให้คะแนนความโกรธ 6 ถึง 9 แต้มต่อดวง มันก็จะรวมกันเป็นหลายล้าน บ้าเอ๊ย ถ้าเป็นแบบนั้นข้าคงยิ่งเจ็บใจมากกว่านี้อีก!
ซูอันเริ่มรู้ตัวว่าเขาควรเตรียมโทรโข่งขนาดใหญ่ทุกที่ที่เขาไป เพื่อที่จะได้ยั่วยุทุกคนได้อย่างทั่วถึงและรีดคะแนนความโกรธแค้นจากคนเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยทำมา
ซูอันเริ่มสุ่มรางวัลตามที่เขาคาดไว้ ทุกสิ่งที่เขาได้รับในครั้งนี้มีเพียง ‘ขอบคุณที่ร่วมสนุก’ ซึ่งเขาไม่ได้รับสิ่งอื่นเลย!
ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่ได้อะไรเลยจนกว่าเขาจะสุ่มรางวัลได้ครบสามรอบ
เมื่อเห็นว่าซูอันเดินเตร่ไปมาราวกับตัวตลก หมี่ลี่ก็ถามขึ้นมาอย่างสงสัย “เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”
“ไม่มีอะไรมาก มาคุยเรื่องของเรากันต่อ เราคุยกันถึงไหนแล้วนะ? อ๋อ ข้าจำได้แล้ว” ซูอันมองไปที่หมี่ลี่ กะพริบตาสองสามครั้งก่อนที่จะพูดว่า “ท่านบอกว่าสัญญาชีวิตและความตายเป็นสิ่งที่คู่รักที่รักกันอย่างลึกซึ้งเท่านั้นที่จะใช้มัน ความจริงที่ว่าท่านใช้มันกับข้า…เอ…ถ้างั้นมันก็หมายความว่าท่านหลงเสน่ห์ข้าแล้วใช่ไหม?”
“…” หมี่ลี่
หมี่ลี่พูดไม่ออก สมองของไอ้เวรนี่คิดแต่เรื่องจะกวนประสาทคนอื่นใช่ไหม?
—
ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 250!
—
“เจ้า…” หมี่ลี่ กัดฟันด้วยความโกรธ แต่ก่อนที่นางจะอาละวาด ซูอันก็ยกมือขึ้นหยุดนาง
“ท่านรออีกเดี๋ยวนะ!” ซูอันโพล่งขึ้นอีกรอบ
“เจ้าจะทำบ้าอะไรอีก?” หมี่ลี่ขมวดคิ้ว นางไม่เข้าใจว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
ซูอันเรียกคีย์บอร์ดของเขาออกมาและเริ่มจับสุ่มรางวัลอีกครั้ง
เขาสูญเสียคะแนนความโกรธแค้นมากกว่า 30,000 คะแนนในการสุ่มรางวัลครั้งก่อน ดังนั้นไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ดังนั้นจึงตัดสินใจใช้คะแนนความโกรธแค้นของเขาทั้งหมดทันที!
ก่อนหน้านี้ซูอันเหลือคะแนนความโกรธแค้น 84 คะแนน เอามารวมกับคะแนนที่เพิ่งได้รับมาจากหมี่ลี่อีก 250 จึงเพิ่มขึ้นเป็น 334 คะแนน ซึ่งหมายความว่าเขาสามารถสุ่มรางวัลได้อีกสามครั้ง
ถึงแม้จะรู้ว่าผลของคำอธิษฐานมันยังมีผลอยู่ แต่เขาก็ยังคาดหวังว่าจะได้อะไรมาบ้าง
แต่ก็เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ เขาไม่ได้อะไรจากการสุ่มรางวัลทั้งสามครั้งเลย ทว่าความรู้สึกของชายหนุ่มแตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก ตอนนี้เขารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อพ้นจากคำอธิษฐานของตัวเองในที่สุด
ข้าจะไม่อธิษฐานหรือสาบงสาบานมั่วซั่วอีกแล้ว!!
“เอาล่ะ เรียบร้อยแล้ว พี่หญิงใหญ่ เมื่อกี้ท่านว่าอะไรนะ?” ซูอัน อารมณ์ดี รอยยิ้มเบิกบานประดับอยู่บนริมฝีปากของเขา
“ก่อนหน้านี้ข้าจะพูดว่า…” หมี่ลี่หยุดคิด อา เมื่อกี้ข้าจะพูดอะไรนะ? การหยุดชะงักก่อนหน้านี้ทำให้นางลืมเรื่องที่จะพูดไป
ใช้เวลานานกว่าที่นางจะนึกขึ้นได้ในที่สุดว่านางกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่
“อะแฮ่ม…เจ้ารู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าทำไมข้าถึงทำสัญญาชีวิตและความตายนี้กับเจ้า? แค่คิดข้าก็อารมณ์เสียแล้ว! ถ้าเจ้ากล้านำเรื่องนี้มาพูดกับข้าอีก ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่!”
หมี่ลี่หยุดชะงักเล็กน้อย นางสงสัยว่าคำขู่ของตัวเองคลุมเครือเกินไปหรือไม่ ดังนั้นนางจึงเสริมว่า “ข้าอาจจะไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ แต่ข้าหักแขนขาของเจ้าได้แน่นอน! ในเมื่อการถูกทุบตีเป็นหนทางหลักที่เจ้าจะยกระดับการบ่มเพาะได้ ถ้างั้นแล้วมันก็ถือว่าข้าช่วยเจ้านะจริงไหม? อืม…จะว่าไปแล้ว…ตอนนี้ข้าก็อยากจะช่วยเหลือเจ้าขึ้นมาบ้างเหมือนกัน”
เมื่อสังเกตเห็นว่าหมี่ลี่เหลือบมองมาที่แขนขาของชายหนุ่ม ซูอันก็ห่อไหล่ด้วยความสยดสยอง เขารีบตอบอย่างรวดเร็วว่า “ไม่จำเป็นต้องลอง! ข้าเชื่อคำพูดของท่าน ข้าเชื่อจริง ๆ! อ้อ ข้ามีคำถามอย่างหนึ่ง ถ้าอิ่งเจิ้งรู้วิธีจัดการกับท่าน ทำไมเขาไม่ชำระล้างท่านไปซะให้มันจบ ๆ แทนที่จะสร้างผนึกที่ซับซ้อนไว้กักขังท่านแบบนี้?”
“การชำระล้างของวิชาปฐมบทแรกเริ่ม มันใช้ได้กับดวงวิญญาณเท่านั้น ตอนนั้นข้ายังมีร่างกายอยู่ ดังนั้นการชำระล้างจึงใช้ไม่ได้ผลกับข้า” หมี่ลี่ตอบกลับ
ซูอันรู้สึกงุนงง “แต่เขาสามารถฆ่าท่านก่อนและชำระวิญญาณของท่านได้นี่นา? ขอโทษที่ข้าพูดตรงไปหน่อย แต่ท่านน่าจะไม่เก่งไปกว่าอิ่งเจิ้ง ใช่ไหม? เขาควรน่าจะฆ่าท่านได้ง่าย ๆ สิ”
หมี่ลี่ไม่เคยอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนมาจนถึงตอนนี้ แต่เนื่องจากชีวิตของพวกเขาเชื่อมโยงกันแล้ว นางจึงเลือกที่จะอธิบายให้ลงลึกยิ่งขึ้น “เขาเป็นคนหัวแข็ง เขาต้องการให้ข้ายอมจำนน แต่ข้าจะยอมตามความต้องการของเขาได้ยังไง? ท้ายที่สุด ข้าคิดว่าบางทีเขาอาจไว้ชีวิตข้าเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน…แต่ไม่นานหลังจากการต่อสู้ของเรา อิ่งเจิ้งก็เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน และข้าก็ติดอยู่ในผนึกของเขาตลอดมา”
ซูอันสังเกตเห็นว่าในระหว่างที่หมี่ลี่เอ่ยเรื่องราวเหล่านั้น นางมีท่าทางราวกับว่านางกำลังระลึกถึงอดีต ด้วยเหตุผลบางอย่าง ชายหนุ่มรู้สึกว่านางมีเจตนาซ่อนเร้นบางสิ่งไว้
เขารู้ว่าหมี่ลี่ย่อมไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่นางไม่ต้องการ ต่อให้เขาจะซักถามเพิ่มเติมมากเท่าไหร่ก็ตาม ดังนั้นจึงตัดสินใจพักเรื่องนี้ไว้ก่อนและค่อยถามอีกทีหลังจากที่พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่านี้
“ท่านบอกว่าจางฮั่นใช้กลิ่นอายของผนึกปราบปรามวิญญาณเพื่อผนึกวิญญาณพยาบาท 200,000 ดวงร่วมกับเซี่ยงอวี่ เมื่อพิจารณาถึงความเกลียดชังที่เขามีต่อราชวงศ์ฉิน การที่เซี่ยงอวี่มาที่สุสานแห่งนี้ มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เขาจะไว้ชีวิตท่าน” ซูอันถามต่อ