บทที่ 202 กล้าคิดร้ายกับลูกสาวข้าหรือ

นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา

โจวชิวเซียงเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ น้ำเสียงคมกริบ “เจ้าอย่าเข้ามา อย่าเข้ามา นางคนชั้นต่ำเจ้าอย่าเข้ามานะ”

“คนชั้นต่ำอย่างไรเสียก็แข็งแกร่งกว่าเจ้าที่ตกลงไปในหลุมขี้ก็แล้วกัน เจ้าลองดมกลิ่นเหม็นที่คละคลุ้งอยู่บนตัวเจ้าซิ จุ๊ๆ”โจวกุ้ยหลานพลางพูด พลางเดินเข้าไปหา

นางอยากจะสั่งสอนผู้หญิงคนนี้มานานแล้ว แต่ก็รู้สึกหวาดกลัวท่านลุงใหญ่มาตลอด คืนนี้หากนางสั่งสอนโจวชิวเซียง ลุงใหญ่ก็คงไม่กล้าเอาเรื่องนาง อืม วันนี้นางจะลงมือสั่งสอนคนแล้ว

หลิวเซียงที่อยู่ข้างๆ ก็ถูกตบจนน้ำตาไหลพราก ยังร้องเสียงแหลมอีกว่า “อย่าตีข้าอีกเลย อย่าตีเลย”

เหล่าไท่ไท่จับผมของนางเอาไว้แน่นเพื่อป้องกันนางหนี ใช้เท้าเตะไปที่ร่างของนางอีกครั้ง

“เจ้าคิดว่าข้าสวีเหมยฮวาคือใคร หืม กล้าทำร้ายลูกสาวข้า กล้าคิดร้ายกับลูกชายข้า ไม่มีทาง ข้าไม่มีทางให้เจ้าได้ทำตามใจแน่”

ว่าแล้ว ก็ใช้เท้าเตะอย่างรุนแรงอีกสองที

โจวชิวเซียงที่อยู่อีกฟากก็ถอยไปจนเกือบจะถึงหน้าประตูแล้ว เมื่อเห็นว่าโจวกุ้ยหลานยังคงเดินเข้ามาหา นางก็ตะโกนเสียงแหลมเข้าไปในเรือน “ท่านแม่ ช่วยด้วย ท่านแม่”

เสียงเอะอะโวยวายนี้ทำให้คนที่อยู่ในเรือนถูกเรียกออกมา

โจวกุ้ยหลานขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในเรือน นางยกมือขึ้นสะบัดมือไปทางโจวชิวเซียง โจวชิวเซียงรีบผลักประตูให้เปิดออก วิ่งตรงไปยังห้องโถงในเรือนทันที

ชิ ช่างน่าเสียดายจริงๆ เป็นเพราะใส่เสื้อผ้ามากเกินไป อยากจะตีก็ตีไม่ถึง

“ทำไมนี่มันเกิดอะไรขึ้น”หลี่ซิ่วยิงเดินออกมาจากในเรือน มองดูลูกสาวตนเองวิ่งเข้ามาในเรือน จึงรีบถามขึ้น

ทางด้านโจวชิวเซียงพอเห็นแม่ของตนเองออกมาแล้ว ก็รีบวิ่งเข้าไปหา และคว้าแขนของแม่นางเอาไว้ ชี้ไปทางโจวกุ้ยหลาน เอ่ยด้วยเสียงโมโหว่า “นางจะตีข้า”

ตอนนี้เมื่อเห็นท่านแม่ของตนเองแล้ว โจวชิวเซียงก็มีความมั่นใจมากขึ้น

หลี่ซิ่วยิงได้ยินดังนั้น ไหนเลยจะทนไหว หันขวับไปมองโจวกุ้ยหลานที่เดินตามเข้ามาทันที เอ่ยอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ทำไมเจ้าจึงได้บังอาจนัก กล้ามาทำร้ายคนถึงบ้านข้า แม่เจ้าไม่สั่งสอนเจ้าหรืออย่างไร”

เอ๋ พาดพิงไปถึงแม่ของนางแล้ว

โจวกุ้ยหลานชี้ไปยังลานบ้านที่อยู่ด้านหลังของนาง “ได้ยินหรือยัง ข้างนอกนั่นแม่ข้ากำลังตบสั่งสอนหลิวเซียงอยู่”

หลี่ซิ่วยิงมองออกไปทางด้านนอก แต่ก็มืดจนมองเห็นไม่ชัดเจน แต่หูของนางยังคงได้ยินเสียงร้องไห้และร้องขอความช่วยเหลืออยู่เป็นระลอก

“ท่านป้า ก่อนที่ท่านจะตำหนิข้าท่านก็ลองถามดูก่อนว่าทำไมข้าต้องตีนาง”น้ำเสียงของโจวกุ้ยหลาน แฝงไว้ด้วยความเย็นชา

สำหรับหลี่ซิ่วยิง นางไม่ได้รู้สึกดีต่อป้าคนนี้เลยสักนิด ที่ยังคงเรียกนางว่าป้า นั่นเพราะเห็นแก่หน้าของโจวต้าซาน ไม่เช่นนั้นนางคงไม่สนใจ

น้ำเสียงที่เย็นชาเช่นนี้ทำให้หลี่ซิ่วยิงรู้สึกตกตะลึง

นี่นางโกรธจริงๆหรือ ถ้าหากกุ้ยหลานโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้วไม่ให้พวกต้าซานไปเผาถ่านอีกจะทำอย่างไร

“เกิดอะไรขึ้น”โจวต้าซานกับซานเฉียงเดินออกมาจากในเรือนพร้อมกัน พลางเดินพลางถามอย่างสงสัย

เมื่อเห็นว่าพ่อของตนเองออกมาแล้ว โจวชิวเซียงก็หดคอลง

ถ้าหากท่านพ่อรู้เรื่องนี้เข้า เช่นนั้นนาง……

พอคิดได้เช่นนั้น นางก็รีบเปิดปากพูดขึ้นว่า “โจวกุ้ยหลานจะตีข้า ข้ากำลังคุยกับหลิวเซียงจู่ๆนางก็วิ่งเข้ามาบอกว่าข้าจะทำร้ายนาง”

“ชิวเซียง คิดว่าท่านพ่อของเจ้าจะเชื่อหรือ”โจวกุ้ยหลานโต้ตอบอย่างไม่ร้อนใจ กลับถามขึ้นด้วยประโยคเช่นนี้

โจวต้าซานขมวดคิ้วขึ้นมา เสียงร้องไห้ด้านนอกเขาก็ได้ยินเช่นกัน

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”

“เรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ ก็ลูกสาวของเจ้าร่วมมือกับนางหญิงใจทรามคนนี้คิดจะทำร้ายลูกสาวข้าไงเล่า”เหล่าไท่ไท่ตะคอกเสียงดัง กระชากผมของหลิวเซียงดึงนางเข้าไปด้านใน

“ข้าไม่ได้ทำ”โจวชิวเซียงรีบปฏิเสธทันที

เหล่าไท่ไท่เหวี่ยงตัวหลิวเซียงไปทางด้านข้างทันที หลิวเซียงควบคุมร่างกายของตนเองไม่ได้ ล้มลงไปกับพื้น รับรู้แค่ว่าตนเองเจ็บศีรษะไปหมดแล้ว

แต่ตอนนี้นางไม่กล้าจะทำให้เสียเรื่องอีก รีบลุกขึ้นมาเดินไปคุกเข่าต่อหน้าเหล่าไท่ไท่ ร้องไห้ขอความเมตตา “ท่านป้าเหมยฮวา ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่กล้าแล้วในใจของข้ามีแต่ต้าไห่……”

“เจ้ายังจะมาโกหกอีก”เหล่าไท่ไท่ตะโกนด่าตัดบทคำอ้อนวอนของนาง

หลิวเซียงรีบพูดขึ้นว่า “ข้าก็แค่อยากจะแต่งงานกับต้าไห่ ในใจข้ามีแต่เขา ข้าไม่เคยคิดจะทำร้ายกุ้ยหลานเลย”

ว่าแล้ว นางก็นึกถึงโจวต้าไห่ รีบหันหน้าไปหา ก็เห็นว่าโจวต้าไห่กำลังเดินเข้ามาด้วยสีหน้าโมโหจัด

เมื่อนึกถึงนิสัยของโจวต้าไห่ นางก็รีบคลานเข้าไปหา กอดขาของโจวต้าไห่เอาไว้พลางวิงวอนว่า “ต้าไห่ ข้ารักเจ้า แต่แม่เจ้าไม่ให้เจ้าแต่งงานกับข้า ข้าถูกบังคับทำให้ไม่มีทางเลือก ต้าไห่ ขอร้องให้อภัยข้าสักครั้งเถอะ ”

เหล่าไท่ไท่อารมณ์พุ่งขึ้นมา ชี้นิ้วไปที่จมูกของโจวต้าไห่ทันที “ถ้าหากเจ้าปลอ่ยนางไป ข้าจะคิดเสียว่าข้าไม่เคยให้กำเนิดเจ้ามาก่อน”

ลูกชายอย่างนี้ ไม่สู้นางไม่ให้กำเนิดเสียจะดีกว่า

โจวกุ้ยหลานมองเหล่าไท่ไท่ที่พูดประโยคนี้ออกมา รู้ว่านางโกรธจริงๆ เกรงว่านางจะโมโหจนเกิดอะไรขึ้น จีงรีบเดินเข้าไปหา ลูบแผ่นหลังให้นาง “ท่านแม่ ท่านอย่าโมโหจนทำให้ตนเองเสียสุขภาพเลย ถ้าหากท่านยังโมโหอยู่ ก็ตีพวกนางเป็นการระบายอารมณ์แล้วกัน”

เมื่อเทียบกับแม่ของนางแล้ว คนเหล่านี้ล้วนเป็นแค่เศษหญ้าที่ไร้ค่าเท่านั้น ท่านแม่สำคัญที่สุด

“ทำไม ไปฆ่าคนตายหรืออย่างไร”เสียงของหวังหยู่ชุนดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง จากนั้น ก็เห็นนางเดินเข้ามาอย่างลิงโลด ด้านหลังยังมีเอ้อร์เฉียงตามมาด้วย

จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงร้องตกใจ “ตายแล้วหลิวเซียง ทำไมเจ้าจึงเป็นเช่นนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

หลิวเซียงร้องไห้สะอึกสะอื้นแทบหมดแรง ใบหน้าที่เดิมทีก็มีสีแดงมากอยู่แล้วก็ยิ่งแดงก่ำขึ้นอย่างรุนแรง ทั้งยังบวมขึ้นด้วย ส่วนผมก็ยุ่งเหยิงกองอยู่บนหัวส่วนเสื้อผ้าก็ถูกฉีกทึ้งจนขาดวิ่น

“ดึกดื่นเช่นนี้พวกเจ้ามาทำไมกัน”เมื่อหลี่ซิ่วยิงเห็นหวังหยู่ชุนก็รู้สึกไม่พอใจ

เหล่าไท่ไท่ไม่สนใจเรื่องพวกนั้น ตอนนี้กำลังจ้องมองโจวต้าไห่ด้วยความกราดเกรี้ยว

โจวต้าไห่กำลังจ้องมองมือของนางที่กำลังกอดขาของเขาเอาไว้ น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยเย็นชา “ถ้าหากในใจเขามีข้าอยู่จริงๆ เจ้าก็คงไม่คิดจะทำร้ายกุ้ยหลาน นางเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของข้า”

เมื่อหลิวเซียงได้ยินประโยคนี้ก็นิ่งอึ้งไป

โจวต้าไห่ที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยจะโมโหมาก่อน ตอนนี้หลับพูดกับน้ำด้วยความโกรธมากมายเช่นนี้

นี่…… นี่เท่ากับว่าไม่ให้อภัยนาง

เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็ร้อนใจขึ้นมา มือที่กอดขาอยู่ก็ยิ่งกอดแน่นมากขึ้น ร่างของนางแทบจะแนบไปกับขาของโจวต้าไห่แล้ว น้ำตาไหลพรากออกมามากขึ้น “ข้าผิดไปแล้ว ต้าไห่ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ ท่านให้อภัยข้าเถอะ ข้ายังไม่ได้ทำร้ายกุ้ยหลานเลย นางเองก็ยังไม่เป็นอะไร เจ้าเคยบอกว่าจะรับผิดชอบข้าไม่ใช่หรือ ทำไมจึงใจดำขนาดนี้”

“รับผิดชอบอะไร คนอย่างเจ้าจะให้ข้ารับผิดชอบอะไร ยังจะดึงลูกชายข้าเอาไว้อีก รีบปล่อยมือเจ้าเลยนะ”

ว่าแล้วเหล่าไท่ไท่ก็เดินเข้าไปหา

โจวกุ้ยหลานไม่ขัดขวางอีกแล้ว ตอนนี้ในใจของเหล่าไท่ไท่คงจะโมโหมาก ถ้าหากไม่ได้ระบายออกไป เช่นนั้นคงไม่ดีต่อสุขภาพ

เหล่าไท่ไท่เดินเข้าไป กระชากผมของหลิวเซียง นางรู้สึกเจ็บมาก จึงยอมปล่อยมือที่กอดขาออก เหล่าไท่ไท่ได้ทีจึงลากตัวนางไปด้านข้าง

จากนั้นก็ใช้สองมือเท้าเอว ด่านางทันที “เจ้าพยายามจะทำร้ายลูกสาวข้า แต่พวกเรามาพบเข้าเสียก่อน ถ้าหากวันนี้ไม่บังเอิญมาได้ยินเข้า ลูกสาวข้าคงถูกเจ้าทำลายไปแล้ว อยากจะแต่งเข้าตระกูลโจวของพวกข้า ก็รอให้ข้าสวีเหมยฮวาตายก่อน”

“ท่านแม่พูดได้ดี ข้าสนับสนุนท่าน”โจวกุ้ยหลานพูดกับเหล่าไท่ไท่