ตอนที่ 212 ขั้นตอนการกระทำของหลี่ฉางโซ่ว (2)
จากนั้น เขาก็เห็นชายหนุ่มสองคนสวมเสื้อสั้น ต่างก็ถือแตรสว่อน่าคนละตัว
มีสตรีอีกสองคนในชุดยาวเรียบๆ หยิบอ่างทองแดงสองใบออกมา หยิบเงินกระดาษที่ใช้กันทั่วไปในหลุมศพ[1]ในแดนมนุษย์ แล้วจุดไฟในอ่างทองแดงก่อนจะคุกเข่าอยู่หน้าอ่างทองแดง ถือผ้าเช็ดหน้า และเริ่มร้องไห้
นอกจากนี้ยังมีนักพรตเต๋าผมขาวสองคน คนหนึ่งถือระฆังวิญญาณ และอีกคนหนึ่งถือปลาไม้ที่แกว่งไกวไปมา แต่ละคนล้วนสวดมนตราแห่งการหลุดพ้น…
หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจยาว และตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งสองก็ใช้พลังเซียน เป่าสว่อน่า แล้วเสียงเพลงที่โหยหวนและอ้างว้างก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งกำแพงเมฆ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ได้ผลอย่างยิ่ง แต่ก็ง่ายที่จะถูกพวกเขาทำร้าย…
แต่ครู่ต่อมา หลี่ฉางโซ่วก็ได้ยินเสียงตำหนิเบา ๆ ดังมาจากกำแพงเมฆ เป็นเสียงของสาวน้อยที่ยังไม่เจริญวัยเต็มที่
“เจ้าเป็นใคร? มาทำอันใดที่นี่!?! ครั้งนี้ เจ้าโชคร้ายแล้ว!”
ในขณะที่เมฆหมุนวน เด็กสาวในชุดกระโปรงสั้นสีเหลืองอ่อนก็เดินออกมา นางจ้องมองไปที่ชายชราร่างผอมบางที่ดูใจดีมีเมตตาด้วยความโกรธเล็กน้อย
หลี่ฉางโซ่วยกมือขึ้นทันที แล้วตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งหกก็หยุดเคลื่อนไหว นิ่งแข็งอยู่กับที่
ทันทีหลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ถอนหายใจยาวแล้วกล่าวด้วยเสียงชราว่า “นี่คือ เกาะซานเซียวของเหล่าเทพธิดาซานเซียวใช่หรือไม่?”
“ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แล้ว ยังกล้ามาสร้างปัญหาที่นี่อีกหรือ!?”
เด็กสาวพึมพำเบาๆ “หากไม่เป็นเพราะเจ้าดูเหมือนคนชรา พวกเราคงจะฟาดเจ้าด้วยแส้ที่พี่สามมอบให้ข้าไปแล้ว! รีบออกไปเดี๋ยวนี้ เร็วเข้า! เจ้าตัวโชคร้ายอะไรเช่นนี้!”
หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจ “ข้าเดินทางมานับพันลี้ มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์สองประการเท่านั้น
ประการแรกคือ มาที่นี่เพื่อเซ่นไหว้และไว้ทุกข์ให้สหายเต๋ากงหมิง
แต่ในเมื่อเกาะซานเซียนไม่ต้อนรับ ข้าก็จะไปเดี๋ยวนี้”
กล่าวจบ เขาก็โบกสะบัดแขนเสื้อ แล้วตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งหกก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนที่จะกระโดดกลับเข้าไปในแขนเสื้อของเขา
“เจ้าพูดเรื่องบ้าอันใดกัน!?!” เด็กสาวโกรธจัดทันที “พี่ชายของข้าเก่งกาจยิ่ง เขายังมีชีวิตอยู่และสบายดี! เหตุใดต้องทำเช่นนี้! ไป ไปนะ เจ้าตัวโชคร้าย!”
หลี่ฉางโซ่วส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “แม้ตอนนี้จะยังดีอยู่ แต่จะเกิดภัยพิบัติขึ้นในไม่ช้า”
ฟึ่บ!
เด็กสาวหยิบแส้สั้นๆ ออกมาแล้วกล่าวดุร้ายว่า “หากเจ้ายังพูดเหลวไหลต่อไป วันนี้ ข้าจะสั่งสอนเจ้าเอง!” “ข้าพูดเช่นนั้นเมื่อใดกัน” หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “เทพธิดาฉยงเซียวไม่ได้อยู่บนเกาะนี้หรือ?”
เด็กสาวตะลึงงันไปชั่วครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “แล้วอย่างไร? ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปเคยพบนางที่ใด เจ้าอยากให้ข้าพาเจ้าไปที่เกาะเช่นนั้นหรือ? ไม่มีทาง!”
“หากเป็นเช่นนั้น แล้วไยเราไม่ลองดูก่อนเล่า?”
หลี่ฉางโซ่วหยิบจดหมายเชิญออกมาจากแขนเสื้อแล้วใช้พลังเซียนส่งมันไปให้เด็กสาว
“ข้าจะรออยู่ที่นี่ เจ้านำสิ่งนี้ไปแสดงให้แก่ผู้ที่รับผิดชอบดูแลเกาะได้ หากพวกเขาตัดสินใจที่จะไม่พบข้า ข้าก็จะไปโดยไม่หันหลังกลับในทันที”
จู่ๆ เด็กสาวมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยและคว้าผ้ามา
หลี่ฉางโซ่วกล่าวเสริมว่า “ข้าแค่ขอให้ที่ผู้ที่รับผิดชอบดูแลเกาะนี้ได้อ่านจดหมายนี้เท่านั้น ซานเซียนยังไม่ได้สูญเสีย แต่หากเราช้าไปเพียงหนึ่งก้าว ก็กลัวว่า จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นกับสหายเต๋ากงหมิงจริงๆ!”
“เจ้า! หยุดพ่นเรื่องไร้สาระได้แล้ว!” เด็กสาวสะบัดแส้และสบถก่นด่าออกมา
“ได้! วันนี้ ข้าจะให้เจ้ายอมแพ้ให้ได้! รออยู่ที่นี่ แล้วข้าจะกลับมาจัดการเจ้าในภายหลัง!”
จากนั้น เด็กสาวก็หันกลับมาแล้วกลับไปที่กำแพงเมฆ เมื่อก้าวไปได้เพียงสองก้าว นางก็หายตัวไป… หลี่ฉางโซ่วสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของพลังวิญญาณที่ไหลเวียนอยู่ที่นี่ มันซับซ้อนมาก
แต่เด็กสาวคนเมื่อครู่นี้…
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดแล้วเกิดความสงสัยขึ้นในใจเล็กน้อย
เมื่อพิจารณาจากสีหน้าท่าทางของนางแล้ว นางอาจเป็นสาวใช้ที่ได้รับการรู้แจ้งจากซานเซียว หรือสิ่งมีชีวิตที่ฝึกบำเพ็ญบนเกาะซานเซียน
ทว่าด้วยเหตุใดไม่รู้ หญิงสาวผู้นี้ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ…
นางครองฐานพลังปราณเป็นเซียนเทียน มีคารมคมคายไร้ที่ติ ค่อนข้างหยิ่งผยอง ใบหน้าดูเรียบง่ายดี และมีรูปร่างแสนงดงาม ทั้งหมดนี้ล้วนทำให้หลี่ฉางโซ่วรู้สึกคุ้นเคยมาก มันเหมือนกับเขากำลังสร้างรูปลักษณ์และการตั้งค่าบุคลิกภาพที่เขาทำให้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของเขา ใช่แล้ว ความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้จากเด็กสาวคนนั้น คือ ดูเหมือนว่า นางได้ถูกสร้างขึ้นมาจากแม่แบบ!
ราวกับว่า นางกำลังแสดงอยู่ เป็นทักษะการแสดงที่ไร้ที่ติและรายละเอียดก็สมบูรณ์แบบยิ่ง ทว่าน่าเสียดายที่นางไร้อารมณ์…
หลี่ชางโซ่วแอบระมัดระวังตัวเอง แต่เขายังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอย่างพร้อมที่จะระเบิดตัวเองได้ตลอดเวลา
ไม่นานหลังจากนั้น กำแพงเมฆก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
เด็กสาวรีบบินไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นหลี่ฉางโซ่ว นางดูเขินอายและละอายใจเล็กน้อยก่อนจะโค้งคำนับให้หลี่ฉางโซ่ว…
เด็กสาวกล่าวออกมาทันทีว่า “ท่านผู้อาวุโส โปรดอย่าตำหนิข้าเลย ข้ามีตาแต่หามีแววไม่ มองไม่เห็นไท่ซานเช่นท่าน ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นร่างจำแลง ขณะนี้ พี่หญิงใหญ่ของข้าเข้าปิดด่านอยู่ ข้าจึงไม่กล้ารบกวนนาง แต่พี่สามได้อ่านจดหมายของท่านแล้ว นางอยากเชิญท่านเข้าไปสนทนาในเกาะ ท่านผู้อาวุโส โปรดตามข้ามาเถิดเจ้าค่ะ”
หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าแล้วเดินตามหญิงสาวไปเงียบๆ
คราวนี้ เมฆตรงหน้าเขาค่อยๆ เปลี่ยนไป เดิมทีหลี่ฉางโซ่วกำลังบินอยู่บนผิวน้ำทะเล แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็พบว่ามีเส้นทางคดเคี้ยวปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าของเขา…
เมื่อเหยียบขึ้นไป เมฆและหมอกรอบๆ ตัวเขาค่อยๆ จางหายไป และเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ขอบเกาะแห่งจิตวิญญาณ
เมื่อก้าวขึ้นไป เมฆรอบๆ ตัวเขาก็ค่อยๆ สลายไป จากนั้น เขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ริมเกาะวิญญาณแล้ว
นี่คือเกาะซานเซียนใช่หรือไม่?
เขาพยายามใช้สัมผัสเซียนรับรู้เพื่อตรวจดูสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว แต่มีค่ายกลเวทบางอย่างที่ขัดขวางไม่ให้เขาทำเช่นนั้นได้
เด็กสาวนำทางหลี่ฉางโซ่วไปตามเส้นทางสู่ลานที่หรูหราแห่งหนึ่ง จากนั้นก็ผลักประตูแล้วก้มศีรษะโค้งคำนับให้
“ท่านผู้อาวุโส โปรดเข้าไปด้วยตัวท่านเองเถิดเจ้าค่ะ พี่สามกำลังรอท่านอยู่ที่นี่เจ้าค่ะ”
หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “เทพธิดา ก่อนหน้านี้ เคยทำให้เจ้าขุ่นเคือง ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย” “ไม่เป็นไร หามิได้เจ้าค่ะ”
เด็กสาวรีบโบกมือก่อนจะก้มศีรษะแล้วถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนหลี่ฉางโซ่วจะไม่ได้สังเกตอะไรเลย เขาเดินเข้าไปในประตูลานบ้าน แล้วถอนหายใจในใจ…
ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าได้ไม่กี่ก้าว ก็มีเมฆปกคลุมไปรอบกายเขาโดยไม่รู้ตัว
ไม่นานหลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็อยู่ในความงุนงง เขาเดินไปที่สวนหลังบ้านโดยไม่รู้ตัว ข้างหน้าเขา เป็นสระสมบัติที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ
ได้ยินเสียงน้ำในสระเบาๆ ในขณะที่มีร่างงดงามนั่งอยู่ในสระโดยหันหลังให้หลี่ฉางโซ่ว นางหวีผมของนางเงียบๆ… ภาพเหตุการณ์นี้เกินกว่าจะพรรณนาได้จริงๆ
ภาพนี้คงไม่ได้ออกอากาศอย่างแน่นอน…
แต่หลี่ฉางโซ่วสงบนิ่งมาก ขณะนี้ เขามีเพียงความคิดเดียวในใจ ช่างเป็นแผ่นหลังที่งดงามเสียจริงๆ น่าเสียดายที่นางไม่ได้ไปนวดกดจุด “หือ?”
แล้วจู่ๆ ร่างที่กำลังหวีเส้นผมยาวอยู่นั้น พลันตระหนักถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันศีรษะไปเล็กน้อยแล้วส่งสียงกรีดร้องลั่น!
นางหันไป แต่ใบหน้าของนางดูย่ำแย่อย่างยิ่ง นางมีปากกว้าง มีรูปหน้าดุจเมล็ดแตงคว่ำ ดูน่าเกลียด…
สตรีผู้นั้นร้องตะโกนเสียงดังว่า “ต่ำช้า เจ้าศิษย์บังอาจ! เจ้าเห็นร่างกายของข้า เจ้าต้องแต่งงานกับข้า!”
หลี่ฉางโซ่วไม่ได้เอ่ยอันใด เขายกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองเงียบ ๆ แล้วร่างของเขาก็ล้มลงไปนอนกับพื้นทันที
จากนั้น พลังเซียนของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็สลายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน แล้วร่างนั้นก็กลายเป็นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่สูงครึ่งฉื่อและหนาหนึ่งชุ่น
สตรีในสระหยุดนิ่งไปชั่วขณะ แล้วคลื่นแสงเซียนก็หลั่งไหลออกมา กลายเป็นกบหยก ลงสู่สระแล้วเตะขาเคลื่อนตัวแหวกว่ายออกไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะนั้น เขาได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากนอกกำแพง และเด็กสาวที่นำทางมาก่อนหน้านี้ก็ปีนข้ามกำแพงพลางหัวเราะหนักมากจนตัวสั่น
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ข้ากลัวแทบตายจริงๆ! นั่นคือร่างจำแลงของผู้ใดกัน? หัวใจเต๋าของเขาเปราะบางยิ่ง! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ข้าได้จัดของต่างๆ เอาไว้มากมายในอนาคต เตรียมเทียนแต่งงานทั้งหมดในห้องเจ้าสาวเอาไว้ให้เจ้าแล้ว เป็นข้อได้เปรียบสำหรับเจ้าจริงๆ เจ้าเต๋าเฒ่าผู้เคราะห์ร้าย!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงถอนหายใจดังขึ้นข้างหลังเด็กสาว “สหายเต๋า ข้ามีเรื่องจะขอพบพี่สาวของเจ้าจริงๆ…”
เด็กสาว ที่กำลังหัวเราะพลันสะดุ้งขึ้นทันที ก่อนจะเอียงศีรษะแล้วมองดูตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์บนพื้น
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่พังทลายไปแล้วถูกผลักออกไปทันที แล้วตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์อีกตัวก็กระโดดออกมา ร่างกายของมันสั่นเทาแกว่งไกวไปมา แล้วกลายเป็นตาเฒ่าผู้ดูใจดีอย่างรวดเร็ว มันมองเด็กสาวที่อยู่ข้างหน้าแล้วกล่าวว่า “ขอให้เทพธิดาปี้เซียว โปรดช่วยส่งต่อข้อความของข้าด้วยเถิด”
…………………………………………………………………………………………………………………………
[1] เงินกงเต็ก