รอยยิ้มกว้างของเอลด้าดึงดูดความสนใจของนักเรียนคนอื่นๆ ขณะที่เราเดินผ่านไป บรรยากาศทั้งหมดของสถาบันมืดมน เต็มไปด้วยความตึงเครียดในทุกที่ที่มองไป ชั้นเรียนทั้งหมดถูกระงับชั่วคราวเนื่องจากสถาบันต้องเผชิญกับวิกฤติ
‘เดาว่าหลังจากนี้เราก็คงสร้างปัญหาขึ้นอีก’
ผมหัวเราะเบาๆ กับความคิดของตัวเอง
ตอนนี้ผมกำลังอยู่กับเอลด้าที่รุกมากกว่าปก ซึ่งดูเหมือนเธอจะไม่ใส่ใจกับความตึงเครียดรอบข้างเลย
เมื่อข่าวของสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ไปถึงหูของอาณาจักรและจักรวรรดิที่ทรงอำนาจทั้งหมด สิ่งต่างๆ กลับกลายเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการทรยศเกิดมาจากคนภายในของสถาบันเอง
มันไม่ได้เหมือนกับการทรยศในทางใดทางหนึ่ง นั่นหมายความว่าโครงสร้างภายในของอำนาจทั้งหมดในโลกได้สลายลงและกำลังจะตายลงทั้งหมด ด้วยผู้ทรยศที่ดูเหมือนเกิดจากทุกตำแหน่งและชนชั้น ด้วยเหตุนี้การนองเลือดจึงได้เริ่มขึ้นในหลายแห่งทั่วโลก
ในความเป็นจริง จากข้อมูลที่ราล์ฟให้ผมก่อนเขาจะจากไป เกี่ยวกับการประชุมสุดยอดระดับโลกได้ถูกเรียกโดยองค์กรลับ สภาสงคราม องค์กรที่มีอยู่เพื่อควบคุมความวุ่นวายครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้น
ส่งผลให้บรรยากาศในโรงเรียนแย่ลงจนแย่ที่สุด นักเรียนทุกคนเต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยไม่รู้ว่าครอบครัวหรือสมาชิกคนใดจะถูกมองว่าเป็นผู้ทรยศ ซึ่ง มีผลทำให้พวกเขาหายไปสู่จุดจบในอนาคต โดยรวมแล้วโลกทั้งใบอยู่ในภาวะสับสนวุ่นวาย
ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือนจนถึงแกนกลาง และเป็นอีกครั้งที่ผู้อยู่เบื้องหลังที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เงาแห่งแสงเริ่มปรากฏให้เห็น
หลายคนเริ่มได้กลิ่นของความไม่ชอบมาพากลและการวางแผนระดับโลก ดูเหมือนสงครามที่ล้อมรอบโลกกำลังจะปะทุขึ้นมาในไม่ช้า ดังนั้นเมื่อคำนึงถึงทั้งหมดนี้คุณจะเข้าใจได้ว่าทั้งสถาบันกำลังอยู่ในจุดเดือดได้
“พี่ชาย หนูอยากได้เจ้านั่นค่ะ!”
เอลด้าพูดพร้อมชี้นิ้วไปที่แผงขายขนมหวาน รอยยิ้มอันไร้เดียงสาของเธอทำให้บรรยากาศดีขึ้น เหนือศีรษะของเธอนั้นมีเวโรนิก้าที่กำลังนั่งอยู่ในรูป แบบที่ได้ทำสัญญาไว้ โดยที่ความรักของเธอที่มีต่อผมตอนนี้มีจำนวนมาก
“เวโรนิก้าก็อยากได้เหมือนกันค่ะ!”
เวโรนิก้าเรียกร้องด้วยเสียงนางฟ้าที่น่ารักของเธอ ความเคารพและความชื่นชมมากมายเข้ามาในเสียงของเธอเมื่อเธอพูดกับผม แม้ว่าผมจะบอกให้เธอลดเสียงลงเพื่อไม่ให้สร้างความสงสัยในตัวเอลด้ามากเกินไปก็เถอะ
“ได้สิ…”
ผมพูดด้วยรอยยิ้มขณะเดินไปที่แผงขายของโดยมีเอลด้าเดินตามมาข้างๆ
เวโรนิก้ารีบลอยจากหัวของเอลด้ามาที่ไหล่ของผมก่อนจะนั่งลงที่นั่นอย่างสบายใจ แถมผมยังเห็นว่าเธอถอนหายใจอย่างสบายใจขณะที่เธอนั่งบนตัวผมอีกด้วย
“ดูเหมือนว่าเวโรนิก้าจะชอบพี่มากเลยนะคะ”
เอลด้าพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเมื่อเรามาถึงแผงขายของ
“เอา 2 ชิ้นครับ”
ผมพูดกับคนขายของที่ดวงตาเป็นประกายไปทางเอลด้า และตกอยู่ในอาการงุนงงชั่วขณะหนึ่งก่อนที่เขาจะเริ่มเตรียมขนม ไม่นานเขาก็ส่งต่อให้ผมและเอลด้าด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ต้องจ่ายหรอก”
เขาพูดพร้อมกับมองเอลด้าด้วยรอยยิ้มขณะพูด
“พวกเธอ 2 คนดูเหมือนเป็นพี่น้องที่รักกันดีจังนะ…”
ด้วยเหตุนี้เอลด้าจึงมองไปที่พ่อค้าด้วยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาก่อนเธอจะพูดออกมา
“ค่ะ! หนูรักพี่ชายที่สุดในโลกเลยค่ะ!”
“ดีแล้วล่ะ…”
พ่อค้าพูดด้วยสายตาอ่อนโยนขณะมองเอลด้าและผม
“ขอบคุณนะ พี่ก็รักน้องสาวคนนี้มากที่สุดเหมือนกัน”
ผมตอบด้วยรอยยิ้มพร้อมดึงเอลด้าให้รีบออกไปจากที่นั่น แม้ว่ารอยยิ้มของผมจะดูเป็นธรรมชาติ แต่ภายในของผมกำลังกรีดร้องด้วยความกลัว มันเป็นเพราะเหตุผลง่ายๆ
[ ชื่อ : ซิลวี่ ??? ???
เพศ : หญิง (ปัจจุบัน)
อายุ : ???
เผ่าพันธุ์ : เทพธิดาแห่งการสร้างสรรค์
พลัง : ระดับ Omni
ฉายา : คนเรียบง่าย, Lover of Flow, ผู้นำมาซึ่งปีศาจ, ผู้สร้างอาณาจักรซิลวี่, เทพธิดาแฝด, สตอล์กเกอร์ขั้นสูงสุด, ตำนานที่ยังมีชีวิต, ฯลฯ
ความสัมพันธ์ : 0%
คำอธิบาย : เทพธิดาแห่งการสร้างสรรค์มีส่วนร่วมในการสร้างโลก 1 ใน 2 ผู้อยู่จุดสูงสุดของโลก
ใช้ชีวิตเหมือนสายลม, ท่องเที่ยวไปในโลกที่เธอสร้างขึ้น, สร้างผู้แข็งแกร่งกับผู้กล้าและคนหลายคนที่ในวันหนึ่งจะเติบโตและสั่นสะท้านโลก
ทุกสรรพสิ่งที่เธอสร้างล้วนอยู่ในสายตาของเธอ เธอชอบสะกดรอยตามผู้กล้าในอนาคตเพื่อมองดูชีวิตของพวกเขาและดูพวกเขาเติบโตขึ้น
แต่ลึกๆ ในใจเธอมีความปรารถนาลับๆ ที่เธอไม่เข้าใจ ซึ่งจะเบ่งบานในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมอยู่
ความยาก : EX(ปกติระบบจะแนะนำให้ลุยเลย แต่ตอนนี้ระบบแค่อยากให้คุณปล่อยเลยตามเลยเพราะสำหรับเธอแล้วไม่มีกลเม็ดใดที่ได้ผล ดังนั้นจงเป็นคนดีและถูกสะกดรอยตามโดยผู้มีอำนาจมากที่สุดในโลกซะเถอะ) ]
‘ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้นกับฉันด้วยฟะ?’
ผมคร่ำครวญขณะจับเอลด้าไว้ใกล้ตัวและเดินไปรอบๆ
ครั้งสุดท้ายที่ผมไปเดทกับเอลด้า ผมได้พบกับเทพธิดาแห่งชีวิต และสถานการณ์ในตอนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ผมไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก แต่มันกำลังเกิดขึ้น
สายตาของผมมองไปทางเอลด้าพร้อมกับคำถาม
“พี่อยากลองชิมไหมคะ?”
จู่ๆ เอลด้าก็ถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าผมมองเธอ
เมื่อเห็นดวงตาอันเปี่ยมด้วยความรักของเอลด้า ผมก็หมดเรี่ยวแรงที่จะบ่น
ผมโยนปัญหาทั้งหมดทิ้งไปในความคิดและยิ้มให้เอลด้าก่อนจะกินของหวานของเธอไปคำหนึ่ง
“อร่อยดีนะ”
ผมตอบ
“ใช่ไหมหล่ะคะ!”
เอลด้าตอบและเริ่มกินของหวานด้วยความเอร็ดอร่อย
ผมเอาขนมของตัวเองไปป้อนให้เอลด้า ซึ่งเธอก็กินมัน และบางครั้งผมจะหักขนมเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วป้อนให้เวโรนิก้าที่กินขนมแต่ละชิ้นด้วยแก้มที่ป่อง
“ไปตรงนั้นกันเถอะค่ะ!”
เอลด้าเรียกร้องพร้อมกับจูงมือผมไปที่แผงขายขนมอีกประเภทหนึ่ง คราวนี้ผู้ขายเป็นหญิงสาวสวยวัยกลางคน โดยที่ผมเห็นชื่อของเธอเด่นสง่าอยู่บนหัวของเธอ
[ ชื่อ : ซิลวี่ ??? ??? ]
ผมถอนหายใจพร้อมกับคิดกับตัวเองว่า ‘ไม่อยากรู้อีกต่อไปแล้ว’
หลังจากนั้นผมก็ได้เดินไปรอบๆ ย่านบันเทิงทั้งหมดกับเอลด้า ซึ่งรอยยิ้มของเธอนั้นยิ่งสดใสขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เราเที่ยวกัน ตั้งแต่การชิมอาหารต่างๆ ไปจนถึงการชมการแสดง ไปช้อปปิ้งหรือใช้เวลาในสวนสาธารณะ มันช่างเป็นการใช้เวลาตั้งแต่เช้าถึงเย็นที่สมบูรณ์แบบมาก
ในตอนท้าย เอลด้าก็ยิ้มแย้มอย่างแจ่มใส
ในที่สุดเราก็มาจบลงที่สวนสาธารณะ แสงยามเย็นสาดส่องมาที่พวกเราขณะนั่งอยู่บนม้านั่ง โดยที่หัวของเอลด้าซบอยู่บนไหล่ของผมและมือของเธอก็โอบรอบผมขณะที่เธอส่งฮัมเพลงเบาๆ
ทุกอย่างช่างสมบูรณ์แบบยกเว้น…
“พวกเธอ 2 คนดูเหมือนพี่น้องที่สนิทกันจังนะคะ”
นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูดขณะเดินผ่านพวกเรา โดยที่ชื่อของเธอปรากฏขึ้นเหนือหัวอีกครั้ง
[ ชื่อ : ซิลวี่ ??? ??? ]
ผมเจอเธอในร้านค้าทุกร้านและทุกที่ที่เราไป บางทีเธออาจจะเป็นเจ้าของร้านหรือเทพธิดาคนนี้อาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้หล่ะมั้ง
ขณะที่ตั้งคำถามถึงสติของตัวเองเกี่ยวกับอนาคตของโลก เอลด้าก็ตอบกลับซิลวี่ไปด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง
“ขอบคุณค่ะ”
หลังจากที่เธอพูดเช่นนั้นจบ “นักเรียน” คนนั้นก็จากไป ปล่อยให้เรา 2 คนอยู่ตามลำพังในที่สุด
ความรู้สึกสงบอบอวลไปทั่วบรรยากาศระหว่างเรา ซึ่งพังทลายลงเมื่อจู่ๆ เอลด้าก็พูดขึ้นมา
“หนูแค่หวังว่าอย่างน้อยจะมีสักคนมองพวกเราว่าเป็นคู่รักกันซะอีก”
เสียงของเอลด้าเบาในขณะที่เธอพูด แต่ผมก็ได้ยินเสียงความปรารถนาในน้ำเสียงของเธอได้
ผมจับมือของเธอพร้อมกับจูบที่หน้าผากของเธอ
“เราดูเหมือนกันเกินกว่าใครจะพูดแบบนั้น แถมทุกคนที่นี่ก็รู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันด้วย”
ผมตอบ
“หนูรู้ค่ะ แต่ก็…”
เอลด้าตอบด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
“งั้นแบบนี้หล่ะเป็นไง…”
ผมพูดพร้อมกระซิบคำที่เหลือเข้าข้างหูของเธอ
เอลด้าที่ได้ยินข้อเสนอของผมในไม่ช้าดวงตาของเธอก็เปล่งประกายก่อนจะหันศีรษะมาหาผม
“สัญญานะคะ?”
เธอถาม
“อืม”
ผมตอบ
เมื่อเห็นเช่นนั้นเอลด้าก็ยื่นหน้ามาจูบแก้มของผมพร้อมกระซิบ
“หนูรักพี่นะคะ”
“พี่ก็รักเธอเหมือนกัน”
ผมตอบด้วยรอยยิ้มขณะที่เรานั่งอยู่บนม้านั่งกันอย่างเพลิดเพลิน
‘เอิ่ม?… ในที่สุดเธอก็ไปแล้วเหรอ?’
ผมคิดว่าเมื่อไม่พบการปรากฏตัวของซิลวี่อีกต่อไป….
…..
ในสถานที่ที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงได้ ผู้หญิงทั้ง 2 คนกำลังมองหน้ากัน พวกเธอคือเทพธิดาแห่งการสร้างทั้ง 2 องค์ ซิลวี่ดูเหมือนเด็กสาวอายุ 16 ปี คำว่า “เล็กกระทัดรัด” เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการอธิบายถึงรูปร่างของเธอ ถ้าโลลิคอนพวกนั้นเห็นเธอ พวกเขาคงจะลักพาตัวเธอไปแล้ว เธอมีผมสีฟ้าและมีสีชมพูอยู่บ้าง ใบหน้าของเธอน่ารักมากและมีดวงตาข้างหนึ่งเป็นสีฟ้าและอีกข้างหนึ่งเป็นสีชมพู
“อยู่ให้ห่างจากเขาซะ เขาไม่ใช่สิ่งสัตว์เลี้ยงที่เธอจะคอยเฝ้ามองนะ”
ซิลเวียออกคำสั่ง เธอยังคงดูเหมือนเดิม นิยามของความงาม ใบหน้าของเธออาจทำให้โลกทำสงครามเพื่อมันได้ ผู้ชายคนใดที่มองเธอจะสูญเสียการควบคุม เธอมีผมสีชมพูยาวเลยไหล่ของเธอ และมีรูปร่างที่สมดุลระหว่างก้นและหน้าอก เอวเพรียวที่จะโอบรับเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดวงตาของเธอเป็นสีทับทิม ทำให้ใบหน้าของเธอสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นไปอีก
ซิลเวียนั่งบนบัลลังก์ขณะสั่งซิลวี่ผู้เป็นน้องสาวที่กำลังจ้องหน้าเธออยู่
“ไม่ เขาน่าสนใจ”
ซิลวี่ตอบด้วยรอยยิ้มทะเล้น แต่ท่าทางเย็นชาของซิลเวียยังคงอยู่
“งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนหล่ะ”
ซิลเวียพูดพร้อมกับการปะทะกันของพลังที่เหนือสิ่งอื่นใดเกิดขึ้น
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต