บทที่ 221 เป็นแค่คนบ้านนอกคอกนา

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร คุณนายสาม ฉันแค่กลัวว่าสาวใช้คนอื่นจะรู้ พวกเธอจะอิจฉา ก็เลยไม่ได้พูดออกมา คุณห้ามบอกสาวใช้คนอื่นนะคะว่าคุณชายสามขึ้นเงินเดือนให้ฉัน”

หลิวหลี่ถงทำท่าทางสนิทสนม จับมือเฉินฮวนฮวน แสร้งทำเป็นเห็นแก่ภาพลักษณ์ของเฟิงหานชวน

“อืมอืมโอเค ฉันจะไม่เอาไปพูด ฉันเองก็ไม่คุ้นเคยกับคนอื่น” เฉินฮวนฮวนตอบอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ลังเล

อันที่จริง นอกจากแม่บ้านหลี่และผู้ดูแลจาง เธอก็ไม่คุ้นเคยกับคนรับใช้คนอื่น แต่หลิวหลี่ถงเคยคุยกับเธอไม่กี่คำ ครั้งที่เข้าใจผิดคิดว่าเสียงของเฉินนานาเป็นเสียงเธอ เธอก็เลยอธิบายจึงทำให้เธอและหลิวหลี่ถงคุ้นเคยกันเล็กน้อย

แต่ก็ไม่ได้คุ้นเคยขนาดนั้น

“ขอบคุณคุณนายสามมากๆนะคะ” หลิวหลี่ถงยืนใกล้เฉินฮวนฮวน ยิ้มจนเห็นฟันเรียงขาว

เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าเหมือนมีลูกบอลสองลูกมาถูที่แขนของเธอ โชคดีที่เธอเป็นผู้หญิง ถ้าเธอเป็นผู้ชาย เธอคงจะมีความสุขไม่น้อย

จะว่าไปแล้ว รูปร่างของหลิวหลี่ถงดีมาก

“ไม่เป็นไร ฉันควรขอบคุณเธอมากกว่า อายุเราน่าจะเท่ากัน เรียกฉันว่าฮวนฮวนก็พอ” เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าเธอเริ่มคุ้นเคยกับหลิวหลี่ถง เธอเองก็ไม่อยากถืออะไรมาก

คุณนายสามอะไรกัน ฟังดูแข็งกระด้างเกินไป อีกอย่างเธอและหลิวหลี่ถงก็เป็นสาวเหมือนกัน ดังนั้นเรียกชื่อแทนน่าจะดีกว่า

“ไม่กล้าหรอกค่ะ ถ้าผู้ดูแลจางได้ยิน ฉันถูกลงโทษแน่ๆ” หลิวหลี่ถงทำหน้าเหมือนกลัว แต่ที่จริงแล้วเธอแอบด่าเฉินฮวนฮวนในใจ

เธอรู้สึกว่าเฉินฮวนฮวนตั้งใจ ถ้าเธอเรียกชื่อเฉินฮวนฮวน เมื่อผู้ดูแลจางหรือแม่บ้านหลี่ได้ยิน ไม่แน่เธออาจจะถูกไล่ออก

มีใครที่ไหนเรียกชื่อของเจ้านาย?

ในใจของเธอ เธอไม่ยอมรับว่าเฉินฮวนฮวนเป็นเจ้านาย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะในความเป็นจริงเฉินฮวนฮวนเป็นเจ้านายของเธอ ก็แค่เป็นคนวาสนาดี

“เดี๋ยวฉันจะบอกผู้ดูแลจางเอง เขาไม่ลงโทษหรอก ไม่ต้องห่วง” เฉินฮวนฮวนคิดว่าหลิวหลี่ถงกลัวจริงๆ ดังนั้นเธอจึงปลอบโยน

“ไม่เป็นไรจริงๆ! คุณนายสาม ฉันซาบซึ้งในความตั้งใจของคุณมาก แต่ฉันไม่อยากทำเกินขอบเขต” หลิวหลี่ถงจับมือเฉินฮวนฮวน จับแน่นขึ้น แต่สิ่งที่พูดมาสุภาพมาก

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ยังไงก็ขอบคุณเธอมากนะ” เฉินฮวนฮวนก็ไม่อยากทำให้คนอื่นลำบากใจเช่นกัน

เมื่อเห็นว่าเฉินฮวนฮวนไม่ได้จะพูดอะไรอีก หลิวหลี่ถงก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เธอกลอกตาอย่างลับๆ และถามว่า: “คุณนายสาม วันนี้คุณแต่งตัวสวยมาก คุณจะไปไหนเหรอคะ?”

“เพื่อนของฉันจะมาหาฉัน บอกว่าจะพาฉันออกไปเที่ยว” เฉินฮวนฮวนตอบตามความจริง

“แบบนี้นี่เอง แต่ฉันรู้สึกว่า คุณนายสามยังขาดอะไรบางอย่าง” หลิวหลี่ถงปล่อยมือเฉินฮวนฮวน เดินไปยืนอยู่ข้างหน้าเฉินฮวนฮวน และมองดูเธอหัวจรดเท้า

เฉินฮวนฮวนดูงุนงงและถามว่า :“ขาดอะไรเหรอ?”

“ฉันรู้แล้ว คุณนายสามยังไม่ได้แต่งหน้า ฉันมีทักษะการแต่งหน้าที่ดีมาก ให้ฉันแต่งหน้าให้คุณไหม?” หลิวหลี่ถงเสนอแนะ

“แต่งหน้า?” เฉินฮวนฮวนเกาศีรษะและมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง

ดูเหมือนว่าหลินอวี่หยางยังไม่มา เธอไม่ค่อยได้แต่งหน้า แต่จริงๆแล้วเธอก็อยากแต่งหน้าเช่นกัน

“ใช่ค่ะ ตอนนี้ฉันก็เกือบจะทำความสะอาดห้องนั่งเล่นเสร็จแล้ว ถ้างั้นคุณนายสามไปที่ห้องของฉัน ฉันจะแต่งหน้าอ่อนๆให้คุณ” หลิวหลี่ถงจับแขนของเฉินฮวนฮวนอย่างคุ้นเคย

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เฉินฮวนฮวนก็เดินตามหลิวหลี่ถงไปที่ห้องสาวใช้

ตั้งแต่เธอเข้ามาในบ้านตระกูลเฟิง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้าไปในพื้นที่ของคนใช้

หลิวหลี่ถงแยกห้องอยู่คนเดียว ห้องค่อนข้างเล็กและรกนิดหน่อย แต่ก็ยังเป็นระเบียบ

เธอเคยไปที่ห้องเช่าของหลิวเยว่เอ่อร์ แม้ว่าสภาพแวดล้อมและทิวทัศน์จะสวยงาม แต่ห้องรกรุงรัง

เมื่อนึกถึงหลิวเยว่เอ่อร์ที่อยู่ในเรือนจำ และนึกถึงหลิวเยว่เอ่อร์ยอมขายสร้อยคอของเธอแม่เพื่อเงิน จนถึงตอนนี้เฉินฮวนฮวนก็ยังปล่อยวางไม่ได้

“คุณนายสาม ทำไมคุณถึงดูเหม่อลอย? เพราะว่าที่นี่รกเกินไปหรือเปล่า?” หลิวหลี่ถงเห็นเฉินฮวนฮวนจ้องมองที่ห้องของเธออย่างเหม่อลอย รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ดังนั้นจึงถามออกมา

เพียงแต่เธอไม่กล้าแสดงความไม่พอใจ แสร้งทำเป็นถามอย่างระมัดระวัง

เฉินฮวนฮวนได้สติกลับมา ส่ายหัวอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า:”ไม่ใช่ ฉันคิดว่าห้องของเธอค่อนข้างเป็นระเบียบ”

“แล้วคุณรู้สึกว่าห้องนี้เล็กไปไหม? ก้าวเท้าไม่ออก?” หลิวหลี่ถงถามอีกครั้ง

“เปล่า ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ห้องที่ฉันเคยอยู่เล็กกว่าห้องเธอ อีกอย่างฉันไม่ได้อยู่คนเดียว อยู่กับคุณยายฉัน” เฉินฮวนฮวนไม่ได้โกหกและพูดตามความจริง

ตระกูลเฉินดีสู้ตระกูลเฟิงไม่ได้ ไม่มีพื้นที่สำหรับคนใช้ มีเพียงห้องพี่เลี้ยงเล็กๆที่มุมชั้นล่าง เธอกับคุณยายของเธอแออัดอยู่ในห้องพี่เลี้ยงนั้น

แม้ว่าห้องจะเล็ก แต่คุณยายก็รักษาความสะอาดและจัดเป็นระเบียบอยู่เสมอ

เฉินฮวนฮวนคิดถึงคุณยายของเธอ แม้แต่หน้าครั้งสุดท้ายของคุณยายเธอก็ไม่ได้เจอ ตอนที่เธอถูกขาย ยายของเธอก็เสียชีวิตด้วยอาการป่วย

นี่คือเรื่องที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตของเธอ

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เบ้าตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

หลิวหลี่ถงมองดูท่าทางของเฉินฮวนฮวน และรู้สึกว่าเธอกำลังเสแสร้ง สภาพในอดีตแย่มาก บ้านที่อาศัยอยู่ยังเล็กกว่าห้องคนใช้ของเธอ แต่ตอนนี้เธอสามารถอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของตระกูลเฟิงและกลายเป็นคุณนายสามผู้สูงส่ง

หลิวหลี่ถงยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บใจมากขึ้น

“คุณนายสาม เชิญนั่งทางนี้ ฉันจะช่วยคุณแต่งหน้า” หลิวหลี่ถงจับแขนของเฉินฮวนฮวนและพาเธอไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง

เมื่อเฉินฮวนฮวนนั่งลง เห็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชื่อดัง เครื่องสำอาง และน้ำหอมทุกชนิดบนโต๊ะเครื่องแป้ง

แม้ว่าปกติแล้วเธอจะไม่ได้ใช้ของเหล่านี้ แต่เฉินฮวนฮวนรู้จักแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ และรู้ราคา ทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพงมาก

“นี่คือสกินแคร์ เอสเค-ทู ใช่ไหม?” เฉินฮวนฮวนชี้ไปที่ขวดน้ำที่อยู่ข้างหน้าและถาม

“ใช่ค่ะ และขวดนี้คือลาแมร์” หลิวหลี่ถงพยักหน้า หยิบขวดครีมขึ้นมาแนะนำอย่างภูมิใจ

แม้ว่าเธอจะเป็นแค่สาวใช้ แต่ในแง่การใช้ชีวิต เธอไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นสาวใช้ เธอใช้เงินเดือนของเธอหมดทุกเดือน

นอกจากการซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชื่อดังแล้ว เธอยังซื้อเครื่องประดับ กระเป๋า และเสื้อผ้าชื่อดังอีกด้วย เป็นพวกใช้เงินชนเดือน

“ว้าว พวกนี้ราคาแพงมาก” เฉินฮวนฮวนอุทานออกมาโดยไม่ตั้งใจ

หลิวหลี่ถงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ และตระหนักว่าเธอหลุดควบคุมตัวเอง เธอจึงรีบเปลี่ยนคำ และกล่าวว่า: “คุณนายสาม ปกติฉันก็กินอยู่ที่บ้านตระกูลเฟิง และเงินเดือนของฉันก็ใช้ซื้อของเหล่านี้หมด ฉันเป็นลูกจ้างของบ้านตระกูลรวย เงินเดือนก็ไม่น้อย ของพวกนี้ฉันพอซื้อไหว”

เหตุผลที่เธอหัวเราะเมื่อกี้ เพราะรู้สึกว่าเฉินฮวนฮวนเป็นแค่คนบ้านนอกคอกนา ท่าทางไม่เคยเห็นตลาดมาก่อน ยังรู้สึกว่าของพวกนี้แพงอีก

ดังนั้นเธอจึงหัวเราะ หัวเราะแบบเยาะเย้ย แต่เนื่องจากฐานะปัจจุบันของเฉินฮวนฮวน เธอจึงยิ้มและอธิบายให้เฉินฮวนฮวน