มุมมองของออสติน :
‘ต้องทำให้เธอเข้าใจ’
ผมคิดว่าขณะเดินไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ตัวผมเบาขึ้นมากหลังจากค่ำคืนอันแสนสุขกับเกรซ ผมค่อยๆ รู้สึกได้ถึงกำแพงแห่งความมีสติที่เกรซสร้างขึ้นรอบๆ หัวใจของเธอที่ค่อยๆ พังทลายลงได้ และเมื่อทุกอย่างพังทลายลงแล้ว ผมก็จะเดินหน้าต่อไปตามแผนการที่ผมวางเอาไว้
การเดินภายในสถาบันของผมนั้นเงียบสนิทและไม่มีใครสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของผมได้ในขณะที่ผมเดินต่อไป ซึ่งแบบนี้ถือว่าดีกว่าการตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นๆ ซะอีก ด้วยก้าวย่างเบาๆ ผมก็มาถึงจุดสูงสุดของสถาบัน และหลังจากที่ผมมาถึงก็มีร่างหนึ่งเข้ามากอดผมก่อนที่ผมจะกอดเธอกลับ
“ฉันคิดถึงเธอจังเลย~”
ผมพึมพำข้างหูของสการ์เล็ตขณะที่เธอกอดผมแน่นขึ้นพร้อมกับหน้าอกอันใหญ่โตของเธอที่แนบชิดกับหน้าอกของผม ขณะที่กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเธออบอวลเต็มจมูกของผม
เราค่อยๆ อยู่ในท่านั้นสัก 2-3 นาที หลังจากนั้นสการ์เล็ตก็ค่อยๆ ออกจากอ้อมกอดของผม ในขณะที่ดวงตาสีทองของเธอมองมาที่ผมด้วยความรัก
“นายไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?”
สการ์เล็ตถามผมด้วยเสียงต่ำซึ่งผมก็ตอบพร้อมโบกมือ
“เธอคิดว่ายังไงหล่ะ?”
คำถามของผมทำให้เธอตั้งใจสำรวจร่างกายของผมมากขึ้น ดวงตาของเธอดูเป็นประกายขณะที่เธอมองผ่านผมด้วยสายตาที่เฉียบคม ไม่กี่วินาทีต่อมารอยยิ้มก็ปรากฏบนริมฝีปากของเธอก่อนที่เธอจะตอบ
“นายไม่ได้รับเจ็บ…”
“แน่นอน”
ผมพูดพร้อมกับจับมือเธอแล้วเดินไปที่ขอบอาคาร เรากลับมาที่จุดสูงสุดอีกครั้ง สถานที่ที่สการ์เล็ตสารภาพความรู้สึกของเธอที่มีต่อผม บางครั้งเราจะนัดเจอกันที่นี่เพื่อออกเดทและใช้เวลาร่วมกัน มันเป็นสถานที่ลับของเรามากกว่า สถานที่ที่สการ์เล็ตตัดออกเพื่อไม่ให้ใครมารบกวนเราในตอนที่เราอยู่ที่นี่
“เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิว่านายเป็นยังไงบ้าง?”
สการ์เล็ตถามขณะที่เธอนั่งลงบนตักของผม โดยเอามือโอบรอบคอของผม ในขณะที่ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้ม
ผมไม่ได้ตอบสนองต่อคำพูดของเธอในทันทีและเอาแต่มองไปที่เธอ
ขณะที่สการ์เล็ตนั่งบนตักของผม ร่างกายที่เพรียวบางของเธอก็พอดีกับผมอย่างสมบูรณ์แบบ ผมสีเทาหม่นของเธอเข้ากับใบหน้าของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดึงความสนใจของผมไปที่รูม่านตาสีทองของเธอ เธอสวมชุดเดรสวันพีชสีน้ำตาลเรียบง่ายที่ปกปิดร่างกายของเธอ แต่ก็ไม่สามารถซ่อนส่วนโค้งอันน่าทึ่งของเธอได้อยู่ดี
ผมโน้มตัวเข้าไปจูบเธอ โดยเริ่มจากการสัมผัสริมฝีปากของเราอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน แต่แล้วอารมณ์ของพวกเราก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้า เราก็จูบกันอย่างดุเดือด
ลิ้นของเราต่อสู้กันเพื่ออำนาจเหนือกว่า มือของสการ์เล็ตพันรอบคอของผมเพื่อดึงให้เข้าไปใกล้เธอมากขึ้นในขณะที่เราจูบกัน
เมื่อการจูบเริ่มเข้มข้นขึ้น ผมก็เลื่อนมือลงไปที่เอวของเธอเพื่อดึงให้เธอเข้ามาใกล้มากขึ้น ผมสามารถรู้สึกถึงความร้อนจากด้านมังกรที่ปรากฏออกมาจากร่างกายของเธอได้ ซึ่งมันทำให้อารมณ์ของผมเริ่มบ้าคลั่งขึ้น จูบของเราลึกซึ้งยิ่งขึ้นและรวดเร็วมากขึ้นเมื่อเราสูญเสียความเป็นตัวเองไปในขณะนั้น
ผมอดใจไม่ไหวที่จะเอามือลูบส่วนโค้งของเธอและสัมผัสถึงความนุ่มนวลจากผิวของเธอที่อยู่ใต้ปลายนิ้วของผม
สการ์เล็ตครางออกมาเบาๆ ในปากของผม และผมรู้ว่าตัวเองกำลังทำให้เธอบ้าคลั่งเหมือนกัน ร่างกายของเราแนบชิดกันในขณะที่เราจูบกันต่อไปพร้อมกับอารมณ์ของพวกเราที่พุ่งสูงขึ้น
ในที่สุดเราก็ผละออกจากกันด้วยลมหายใจที่ขาดช่วง ในขณะที่ร่างกายของเรายังคงส่งเสียงพึมพำด้วยความปรารถนา
ผมมองเข้าไปในดวงตาสีทองของสการ์เล็ตก่อนจะพูดขึ้นมา
“ฉันคิดถึงเธอนะ”
“ฉันก็คิดถึงนายเหมือนกัน”
เธอตอบด้วยดวงตาเป็นประกายแห่งความปรารถนา แต่ผมก็ยังไม่ได้ข้ามไปยังขั้นต่อไปในตอนนี้ เนื่องจากผมยังไม่พร้อมที่จะทำถึงขั้นนั้นกับเธอ
มือขวาของผมจับใบหน้าของเธอขณะที่ผมพูด
“เรายังทำเรื่องนั้นกันต่อนี้ไม่ได้…”
คำพูดของผมทำให้อารมณ์ของเธอจางลงขณะที่เธอมองมาที่ผมเพื่อรอให้ผมพูดต่อ
“ฉันบอกแล้วไงว่าจนกว่าฉันจัดการเรื่องของตัวเองเสร็จ ให้เธอรอไปก่อน”
คำพูดของผมทำให้เธอถอนหายใจก่อนที่เธอจะควบคุมความปรารถนาของตัวเองในตอนนี้
สการ์เล็ตพยักหน้าให้ผมแล้วจูบริมฝีปากของผมก่อนจะขยับเข้ามาใกล้โดยซบหัวลงบนหน้าอกของผม
“ฉันจะรอนะ”
เสียงกระซิบอันแผ่วเบาของเธอดังก้องเข้ามาในหูผม ทำให้ผมกัดริมฝีปากด้วยความโศกเศร้า ช่วงเวลาที่เอ้อระเหยเกิดขึ้นระหว่างเราจนกระทั่งผมพูดออกมา
“เธอจะว่ายังไง…ถ้าฉันอยากให้เธอมาพบกับครอบครัวของฉัน?”
ทันทีที่ผมพูดจบ สการ์เล็ตก็เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยความประหลาดใจ ดวงตาสีทองของเธอสั่นเทาเหมือนกับต้องการถามว่าผมพูดจริงหรือเปล่า
ผมยิ้มบางๆ ให้กับเธอพร้อมกับใช้มือขวาจับใบหน้าของเธออีกครั้ง ขณะที่รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าของผม
“มันคือความจริง ฉันอยากให้เธอมาพบกับครอบครัวของฉันในฐานะผู้หญิงของฉัน”
คำพูดนี้ทำให้ดวงตาของสการ์เล็ตเบิกกว้างขึ้นในขณะที่รอยยิ้มที่สวยงามปรากฏบนใบหน้าของเธอ ซึ่งทำให้ผมหายใจไม่ออกชั่วขณะหนึ่ง ผมรีบหลุดออกจากความงุนงงขณะถามสการ์เล็ตที่พุ่งเข้ามา
“ว่าไง เธอเต็มใจไหม?”
“อือ!”
สการ์เล็ตตอบในขณะที่เสียงหัวเราะของเธอดังไปทั่วทั้งสถานที่
ผมสัมผัสได้ถึงมานาที่อยู่รอบๆ ที่กำลังร่ายรำจากความสุขของเธอ ซึ่งเป็นลักษณะของมังกรที่ได้รับพร ซึ่งเป็นสิ่งที่มิร่าเท่านั้นที่จะเข้าถึงได้ในช่วงอาณาเขตของเธอ
‘ดีแล้วที่เธอมีความสุข’
ผมคิดในขณะที่เรานั่งอยู่แบบนั้นกันอย่างเงียบๆ ผมเริ่มพูดอย่างเป็นธรรมชาติเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ตัวเองต้องเผชิญในดินแดนเร้นลับ ตั้งแต่ตอนที่ผมเข้าไปในข้างใน, การเผชิญหน้ากับศัตรูและผู้ทรยศ, การช่วยมาร์ลีนและการต่อสู้กับมาร์ลีนและแคทเธอรีน แน่นอนว่าตอนนี้ผมซ่อนรายละเอียดในตอนที่เล่นเป็นครอบครัวกันไว้แล้ว นั่นไม่ใช่เรื่องของผมที่จะสปอยให้เธอฟังได้
ผมยังเล่าถึงเรื่องที่ตัวเองได้พบเจอกับการผจญภัยที่อันตรายและบีบคั้นหัวใจกับซาบริน่าได้อย่างไรอีกด้วย โดยที่สีหน้าของผมเบาลงและสนุกสนานเมื่อเล่าถึงเรื่องเหล่านั้น แน่นอนว่า ขณะที่ผมเล่า ผมมองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของสการ์เล็ตที่สั่นเทาได้ด้วย ในขณะที่มานาที่อยู่รอบๆ ไม่รู้สึกมีความสุขอีกต่อไป
แน่นอนว่าสการ์เล็ตไม่ได้แสดงความโกรธและความหึงหวงออกมาเพราะเธอค่อนข้างเก่งในการซ่อนมัน แต่ต่อหน้าผมมันไร้ประโยชน์ทั้งหมด สีหน้าของเธอดูจางลงเมื่อผมพูดถึงวิธีที่ตัวเองเป็นผู้นำการต่อสู้ภายในเมือง รายละเอียดและข้อมูลที่ชัดเจนของผมทำให้สการ์เล็ตยิ้มอย่างภาคภูมิใจในตัวผม แม้ว่าความกังวลที่เธอมีต่อผมจะปรากฏชัดบนใบหน้าของเธอก็ตาม
“เห้อออ มันคงจะยากลำบากมากเลยสินะ”
สการ์เล็ตพูดขณะที่เธอลูบหน้าผมด้วยรอยยิ้ม
“ใช่แล้ว”
ผมตอบขณะยิ้มเบาๆ ด้วยความโล่งใจ สีหน้าของผมดูซับซ้อนไปชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งสการ์เล็ตก็สังเกตุเห็นได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาของเธอเป็นประกายก่อนจะถามผมขึ้นมา
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”
“มัน…”
ผมลังเลพร้อมกับใบหน้าที่แสดงอารมณ์ออกมาหลากหลาย จนในที่สุดผมก็ ‘ตัดสินใจ’ ได้และเล่าให้กับสการ์เล็ตฟัง
“ดูเหมือนว่าฉันจะเริ่มสนใจมาร์ลีนขึ้นมาบ้างแล้ว”
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกจากปากของผม สถาบันการศึกษาก็เริ่มสั่นอีกครั้ง เหมือนกับตอนที่สการ์เล็ตสารภาพรักกับผมครั้งแรก
“ว่าไงนะ?”
เธอถามด้วยสีหน้าสับสนและไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าผมอาจจะชอบคนอื่น
ผมจิ้มจมูกสการ์เล็ตแล้วยิ้ม
“ฉันบอกว่าฉันชอบมาร์ลีน”
คำพูดของผมทำให้สการ์เล็ตกลับมาสู่ความเป็นจริงและเธอก็กรีดร้องเพื่อหาคำตอบ โดยที่รอยยิ้มไม่ปรากฏบนริมฝีปากของเธออีกต่อไป
“ฉันไม่อยากโกหกเธอ สการ์เล็ต ฉันเริ่มชอบมาร์ลีนหลังจากที่เราต่อสู้ด้วยกันและเธอก็ช่วยชีวิตฉันไว้ แต่มันไม่ได้หมายความว่ามาร์ลีนจะอยู่เหนือเธอหรอกนะ มันเป็นเพียงแรงดึงดูดและฉันก็ตัดมันทิ้งหลังจากนั้น เหตุผลเดียวที่ฉันบอกเธอก็คือฉันไม่ต้องการปิดบังอะไรจากเธอ”
หลังจากที่ผมพูดจบ สการ์เล็ตก็มองมาที่ผมด้วยใบหน้าจริงจังจนกระทั่งร่างของเธอค่อยๆ หายไปจากอ้อมกอดของผม
“ไว้ฉันจะคุยกับนายทีหลัง”
เธอพูดแล้วหายตัวไปจากตักของผม
ทันทีที่เธอหายไป รอยยิ้มของผมก็กลายเป็น ‘ความเศร้า’ และ ‘ความรู้สึกผิด’
“อย่าไปเลยนะ”
ผมกระซิบพร้อมกับเอื้อมมือไปหาเธอแต่กลับไม่พบอะไรเลย ผมเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบของแฟนหนุ่มที่รู้สึกเศร้าที่มีความรู้สึกเหล่านั้นแต่ซ่อนความเศร้าที่แท้จริงของเขาไว้เบื้องหลังรอยยิ้มให้กับผู้หญิงของเขา
+500 ความชอบ
‘ติดเบ็ดแล้ว’
ผมคิดกับตัวเองขณะที่แสงแวบผ่านดวงตาของผม
ผมนั่งอยู่ที่นั่นสักพักเพื่อรอให้สการ์เล็ตกลับมา แต่เธอก็ไม่ปรากฏตัวแต่อย่างใด สีหน้าของผมเปลี่ยนไปเป็นเจ็บปวดใจก่อนจะลุกขึ้นยืนและเริ่มเดินจากไป ขณะเดียวกันผมก็รู้ว่าสการ์เล็ตกำลังมองมาที่ผมด้วยสายตาเย็นชาที่เต็มไปด้วยความรักของเธอ
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต