“ มันอร่อยจริงๆ ” ดวงตาของหยูหยวนเบิกกว้างขึ้นเมื่อเธอเริ่มทานอาหารในกล่องอาหาร
ในฐานะที่เป็นคนโสดและใช้เวลาในการเรียนในวัยเด็ก 9 ปี , การศึกษาระดับปริญญาตรี 5 ปี, ปริญญาโท 3 ปี, และสามปีในฐานะแพทย์ประจำแผนก หยูหยวนนั้นมัประสบการณ์มากมายในการทานริมรส รสชาติต่างๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอมองดูอาหารในชุดอาหารชุดที่พิเศษสุดที่อยู่ตรงหน้าเธอ … หยูหยวนก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออกได้แต่ถอนหายใจลึก ๆ ‘เพื่อให้ได้อาหารชุดนี้มาฉันต้องใช้เงินเดือนของฉันทั้งหมดของฉันเพื่อกีดกันคุณออกจากเหล่าสาวๆพวกนั้น!‘
เธอมองไปที่ท่าทางของหลิงรันเขามีใบหน้าที่สงบ แม้ว่าเขาจะกินด้วยท่าทางจริงจัง แต่เขาก็ยังดูสมบูรณ์แบบ
“ คุณเคยสั่งอาหารเช้าแบบนี้มาก่อนหรือป่าว?” หยูหยวนลองประเมินเงินเดือนของเธอ
ถ้ามีอะไรผิดพลาดมันอาจจะไม่มีใครจะช่วยเธอได้เลย
หลิงรัน คิดเกี่ยวกับมันและพูดด้วยน้ำเสียงแบบโทนต่ำว่า: “ไม่ว่ายังไงก็ตาม แม่ของฉันก็ทำอาหารอร่อยที่สุดแล้ว ”
“ ฉันหมายถึง…อาหารเช้าที่หรูหราเช่นนี้ ” หยูหยวนไม่รู้จะเถียงหลิงรันด้วยคำพูดใด
“ ความหรูหราไม่ใช่กุญแจสู่อาหารเช้าที่ดีที่สุด ” หลิงรันพูดแสดงความไม่เห็นด้วยออกมาแล้วพูดว่า“ ความบันเทิงของอาหารนั้นมันไม่ความหลากหลาย ไม่ใช่แค่ว่ามันหรูหราแล้วจะดีที่สุด ”
หยูหยวนมองดูกล่องอาหารสีแดงเข้มหลายกล่องบนโต๊ะและหัวเราะเบา ๆ
“ สิ่งเดียวที่ดีที่สุดจากการทำอาหารที่บ้าน คือ มันสดใหม่ ” หลิงรันเองมักจะกินอาหารเช้าจากฝีมือแม่ของเขาอยู่เสมอ ดังนั้นการที่เขาจะเลือกรับประทานอาหารใดๆ นั้นมันจะดูวุ่นวายมากๆ เพราะเขาจะจริงจังกับการทานอาหารมากๆ
เตาปิงนั้นเป็นต้นแบบของหญิงสาวที่มีความปราณีตที่ล้ำเลิศเธอนั้นจะไม่ทำอาหารเพียงแค่ทำมันออกมาแล้วมันอร่อย แต่เธอจะทำมันออกจนกว่าจะสมบูรณ์เท่านั้น
ในสายตาของหลิงรัน เขามองว่าอาหารเหล่านี้มันผ่านมาหลายมือ ระหว่างการขนส่งอาหารมาให้เขาทำให้อาหารดูไม่สดใหม่เหมือนทุกครั้งที่เขาทานอาหารของงเตาปิงซึ่งเป็นแม่ของเขา
หยูหยวนเองก็ไม่เข้าใจสิ่งนี้มากนัก เธอแตะหน้าท้องของเธอและมองดูหลิงรันในขณะที่กำลังทานอาหารอยู่ตอนนี้หยูยหวนได้แต่เขี่ยกล่องอาหารไปมา
ในช่วงเวลาสั้น ๆ กล่องอาหารที่ว่างเปล่าบนโต๊ะก็กองสูงขึ้นบนโต๊ะของฉูหยวนแต่ยังมีอาหารเหลืออยู่
“ เอาล่ะ…ให้ฉันทำความสะอาด ” หลังจากทานข้าวเสร็จแล้วหยูหยวนก็หาวเหมือนแมวและตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
เธอวางกล่องอาหารของรวมไว้ด้วยกันไว้ด้วยกันก่อนที่เธอจะอาหารที่เหลือยู่บนโต๊ะ
ในขณะที่เธอกำลังยุ่งอยู่กับการบรรจุเสียงของรองเท้าส้นสูงที่โดดเด่นก็เดินมาทางเขาสองคน
* ติ๊กต๊อก–แค๊ก * * * *
* คลิก–แค๊ก คลิก-แค๊ก * * * *
ตอนนี้เป็นเวลาราวๆ แปดโมงเช้าแล้ว เสียงของรองเท้าส้นสูงเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้น
หากเปรียบเขาสองคนเป็นสัตว์ถ้าเจอสถาณการณ์เช่นนี้ เขาคงจะต้องตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อหรือหนีไปดี
สำหรับหยูหยวนเสียงแหลมสูงของรองเท้าส้นสูงไม่ทำให้เธอหวาดกลัว แต่เป็นการกระตุ้นความรับผิดชอบบางอย่าง
ภาพของผู้อำนวยการฮวงที่กำลังมอบหมายงานให้เธอทำภารกิจปรากฏในใจของหยูหยวน
เสียงและรอยยิ้มของผู้อำนวยการแผนกริมฝีปากที่ยื่นออกมาของเขาขดที่มุมปากของเขาฟันที่ดีและแหลมของเขาจมูกช่วงดวงตากลมโตของเขาบุคลิกที่แน่วแน่ของเขาคำสั่งที่เด็ดขาด …
หยูหยวนจำฉากที่ผู้อำนวยการฮวงดุด่าลูกทีมได้เป็นอย่างดี
‘”ไปกันเถอะ! ยืนขึ้น! อย่าแตะต้องอะไรเลย!”
” นี่คือโรงพยาบาล! ”
‘” ถ้าการช่วยชีวิตล้มเหลวคน ๆ เขาจะตายเข้าใจไหม?”
” ช่วยชีวิตบุคคลนั้นไว้ก่อนจากนั้นก็รักษาให้หายขาด! ”
หยูหยวนถึงกับพูดอะไรไม่ออกภายในใจของเธอนั้นคิดถึงแต่ภาพที่ผู้อำนวยการฮวงกำลังดุด่า
ด้วยผู้อำนวยการแผนกที่ดูดุอยู่ข้างหลังเธอแม้แต่ผีในโรงพยาบาลก็ยังต้องซ่อนตัวจากเธอ หยูหยวนส่ายกล่องอาหารที่ล้างทำความสะอาดเดินออกจากห้องน้ำอย่างสงบแล้วทำตามเสียงของรองเท้าส้นสูง เธอขยับท่าทางของเธอลดร่างของเธอลงเล็กน้อยดึงริมฝีปากของเธอออกเล็กน้อยเพื่อเผยให้เห็นฟันที่เล็กแหลมคมบานจมูกของเธอและจ้องมองไปที่หลิงรัน
“ หมอหลิงเป็นเรื่องบังเอิญฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะพบคุณที่นี่ในเซี่ยงไฮ้ ” เสียงของรองเท้าส้นสูงก็หยุดลงและเทียนฉีซึ่งแต่งตัวในชุดแฮเมท ก็ปรากฏตัวขึ้น เสียงของเธอดังชัดเจน
หยูหยวนบังคับให้ยิ้ม เธอลดร่างของเธอลงมา ‘ธรรมดาเกินไปธรรมดาเกินไป การทักทายแบบนี้ต่อผู้ชายอย่างหลิงรันเป็นเพียง… ‘
“ สวัสดี” หลิงรันทักทายอย่างสุภาพและถามว่า“ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี้ได้?”
เทียนฉีหัวเราะแล้วพูดว่า“ ฉันมาช่วยที่บ้านทำงานะ พอดีว่าฉันเห็นมีหมอหลายคนถูกเชิญมาที่นี้เลย คิดว่าหมอหลิงเองจะถูกเชิญมาด้วยรึเปล่า ”
“ อ่าว คุณทำร้านอาหารหรอ?” หลิงรันมองไปที่เทียนฉี
“ ฉันเป็น…” จริง ๆ แล้วเทียนฉีต้องการจะบอกเขาว่าเธอเองนั้นแหละที่เป็นคนสั่งของพวกนี้ให้เขา แต่เทียนฉีเองก็ไม่อยากออกนอกหน้าจนเกินไป และ กลัวว่ามันจะมีพิรุธเธอจึงแกล้งตอบไปว่า“ ตอนนี้บริษัทของเรากำลังศึกษาตลาดอยู่เราจึงสุ่มเบอร์มือถือ และ ได้เบอร์คุณพอดี…”
หยูหยวนเยาะเย้ยและเดินช้าๆไปที่หลิงรัน ด้วยรูปร่างที่เพรียวบางของเธอเธอจึงแทรกช่องว่างระหว่างหลิงรันและเทียนฉีพอดี
“ ฉันคือ หยูหยวน ” หยูหยวนมองไปรอบ ๆ เหมือนแมวมองไปรอบ ๆ ป่า
“ หมอยูหยวน ” เทียนฉีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะยิ้ม “ฉันจำคุณได้ . ”
“ อืม ” หยูหยวนยกคางของเธอ เธอตัดสินใจที่จะยึดมั่นในท่าทางที่ดื้อรั้นของเธอไว้
“ คุณมีตารางงานอะไรวันนี้หมอหลิง?” เทียนฉี และ หลิงรัน ถูกแยกจากกันโดยหยูหยวน แต่ หยูหยวน ไม่สามารถปิดกั้นสายตาของเทียนฉีได้ดังนั้นการสนทนาจึงดำเนินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ วันนี้ไม่มีอะไรหรอก น่าจะเป็นช่วงพักผ่อนของฉันนะ” หลิงรันตอบด้วยความเบื่อ
เมื่อเขาอยู่ที่โรงเรียนเขาจะรู้สึกเบื่อเป็นครั้งคราวและเขาสามารถใช้เกมเพื่อกำจัดความเบื่อของเขาเท่านั้น กิจกรรมอื่นนอกจากเรียนก็มีเพียงการเล่นเกมเท่านั้นที่ดูเหมือนว่าเขาจะแก้เบื่อได้มากที่สุด หากเขาใช้เวลานี้พูกคุยกับสาวๆ สุดท้ายแล้วเขาเองก็จะเป็นได้แค่ผู้รับฟังและทำให้เขากลับมาเบื่อเช่นเดิม
หลิงรันไม่เข้าใจแม้แต่ผู้หญิงที่ซื้ออวตารในเกม อวตารไม่สามารถเพิ่มคุณสมบัติได้แล้วทำไมพวกเธอยังจะซื้อมันอีก? ถ้ามันเป็นอวตารที่ดูดีเขาก็จะยอมรับมัน แต่อวตารบางอันน่าเกลียดและบางคนยังคงซื้อมัน …
หลิงรันรู้สึกขี้เกียจขึ้นมา เขาดูเหมือนว่าเขากำลังทุกข์ทรมานจากอาหารเช้าที่พึงทานเข้าไป
เทียนฉีมองดูจนกระทั่งตาของเธอเปล่งประกาย
เมื่อหลิงรันเต็มไปด้วยพลังงานและสปิริตสูงมาก เขาดูหล่อเหมือนดวงอาทิตย์ เมื่อเขารู้สึกเบื่อและขี้เกียจ ความหล่อของเขาไม่ลดลงไปเลย …
ไม่ว่าเทียนฉีจะมองเขากี่ครั้งมันก็ไม่เคยเพียงพอสำหรับเธอ เธออดไม่ได้ที่จะพูดพึมพำว่า“ คุณเล่นเกมอะไรหมอหลิง?”
“ ราชาแห่งความรุ่งโรจน์ ” หลิงรันหยุดก่อนที่เขาจะถามว่า“ คุณเล่นมาแล้วเหรอ? อันดับของคุณอยู่ที่เท่าไร”
เทียนฉีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะกระซิบ“ ฉันแค่ติดตั้งเกม แต่ยังไม่ได้เข้าไปเล่นมันจริงจังเลย ”
“ อ๋อ ไม่เป็นไร “ ด้วยเหตุผลแปลก ๆ บางอย่างหลิงรันเล่าถึงผู้ป่วยซึ่งเป็นโค้ชสำหรับนักเล่นเกมมืออาชีพ จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและปฏิเสธอย่างเด็ดขาดเทียนฉีโดยไม่ให้เหตุผลอะไรกับเธอ
หยูหยวนหัวเราะตามมา เธอได้เห็นว่าหลิงรันเล่นเกมอย่างไร หากตำแหน่งในเกมต่ำพวกเขาก็ไม่เหมาะที่จะเล่นเกมกับหลิงรัน
หลังจากแลกเปลี่ยนประโยคอีกสองสามข้อแล้วเทียนฉีก็ออกมาพร้อมกับความคิดดีๆบางอย่าง
เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่ชอบเสียเวลาโดยการพูดเล่น เธอยังไม่ชอบที่จะเสียเวลาในการพูดพล่อยไร้สาระที่จะทำให้เธอไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการพูดนั้น แน่นอนว่าเธอเองก็ไม่อยากบังคับตัวเองให้พูดในเรื่องที่เธอไม่รู้จริง และ สร้างบรรยากาศที่น่าอึดอัดในบทสนทนาเช่นกัน …
เมื่อเธอกลับมาที่โรงแรมของเธอเอง เทียนฉีก็นอนลงบนเตียงหยิบโทรศัพท์มือถือที่มีร้านอาหารและจ้องไปที่กลุ่มแชท
วันนี้กลุ่มแชทของร้านอาหารก็ค่อนข้างเงียบ ท้ายที่สุดแล้วหมอหลิงก็ไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลหยุนหัวและไม่จำเป็นต้องทำกลุ่มใด ๆ เพื่อเลี้ยงเขาหรือมีการพูดคุยหรือการร่วมมือใด ๆ ทุกคนส่วนใหญ่ส่งรูปถ่ายของเจ้าชายฉามมิ่ง และพูดคุยเกี่ยวกับการการทำอาหารหรือล้อเลียนหัวหน้าของพวกเขา
ขณะที่เธออ่านแชทเทียนฉีก็ส่ายหัวแล้วลุกขึ้นนั่ง ‘ไม่ฉันต้องตอบสนองความต้องการของหลิงรัน ฉันซื้ออาหารให้เขาไม่ได้ สำหรับแพทย์อย่างหลิงรันมีของกำนัลที่ดึงดูดเขาได้มากกว่าอาหาร ‘
เทียนฉีหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกแล้วกดลงไปห้าดวง จากนั้นเธอก็พูดว่า“ ฉันอยากถามคำถามทางการแพทย์กับคุณ ”
ในเวลาค่ำ
มีรถสีดำจอดอยู่ที่ด้านหลังของศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและศัลยกรรมกระดูกและข้อ
เทียนฉีเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าของแบร์นเบอรรี่ที่ปรับแต่งเป็นสีอ่อนและยืนอยู่ข้างรถ เธอนิ่งเงียบเหมือนนกกระเรียนที่สวมมงกุฎแดง
จากนั้นเมื่อพบหลิงรันแล้วมาถึงเทียนฉีก็ยิ้มและโบกมือให้หลิงรัน
หยูหยวนก็อยู่ข้างหลังพวกเขาประมาณสิบฟุตและเธอเล่นโทรศัพท์ของเธอขณะที่เธอง่วงเล็กน้อย
“ คุณหมอหลิงฉันอยากจะให้อะไรคุณ…ที่คุณต้องการ ” เทียนฉีหยุดก่อนที่เธอมองดูหลิงรันเล็กน้อยอย่างประหม่า “ ฉันทำตามคำแนะนำจากเพื่อนของฉัน กรุณาอย่ากลัว ”
“ โอ้” หลิงรันตอบกลับ เขาเคยได้รับของขวัญมากมาย และมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจมากนัก
เทียนฉีกล่าวอย่างเคร่งขรึม“ ให้ฉันพูดก่อนนี้ฉันไม่ได้ใช้เงินกับเรื่องนี้ นี่เป็นโครงการความร่วมมือ มูลนิธิครอบครัวเราบริจาคอุปกรณ์ให้กับองค์กร เนื่องจากเราได้ทำการต่ออายุอุปกรณ์ของพวกเขาพวกเขาจึงต้องใช้สต็อกบางส่วนที่เดิมมี … โดยสรุปแล้วมูลนิธิได้เป็นผู้นำและบริจาคเงินให้กับมหาวิทยาลัยหลายแห่งในเมือง ฉันช่วยคุณสมัครคุณสมบัติที่ช่วยให้คุณสามารถกำจัดหนึ่งในนั้นเพื่อการสอนหรือการวิจัย แต่จะต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไขของศูนย์วิจัยและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตรงตามข้อกำหนดนั้น คือ … ”
ขณะที่เธอพูดเธอชี้ไปที่คนขับเพื่อเปิดประตูรถและมีบางอย่างถูกเปิดเผยออกมา …
“ศพ!” หลิงรันรู้สึกประหลาดใจมาก
หยูหยวนผู้ซึ่งงอเอวของเธอซึ่งทำให้เธอสูงเพียงสี่ฟุตและหกนิ้วก็งุนงงเช่นกัน เธอมองไปที่ศพในโลงศพที่โปร่งใสและเผยให้เห็นภาพที่ความหลังในวัยเรียนขึ้นมา