บทที่ 372 มีเรื่องกับหัวหน้าเซี่ย มู่เซิ่งรนหาที่ตาย

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 372 มีเรื่องกับหัวหน้าเซี่ย มู่เซิ่งรนหาที่ตาย?

เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เซิ่ง เซียวจ้านก็โกรธในทันที

ไอ้เศษสวะนี้รนหาที่ตายเช่นนี้ ไม่นึกเลยว่าจะกล้าด่าว่าเขาในที่สาธารณะ และคนที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ยังเป็นแฟนคลับของตัวเองด้วย

“ไอ้หนู แกแม่งรู้มั้ยว่ากำลังพูดกับใครอยู่?”เซียวจ้านก้าวไปข้างหน้า และชกมู่เซิ่งอย่างแรง ด้วยกำปั้นขนาดเท่าถุงทรายในทันที

ทันใดนั้นอากาศก็แผดเสียงดังก้อง

และสมาชิกในทีมเหล่านั้นที่ยืนอยู่ข้างๆก็ผงะเช่นกัน มู่เซิ่งกล้าหาญเย่อหยิ่งเช่นนี้ เกินความคาดหมายของทุกคน

“หมอนี่บ้าไปแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะกล้าพูดแบบนี้กับพี่เซียว รนหาที่ตายชัดๆ!”

“เศษสวะที่ออกหมัดมีแค่สองร้อยกว่ากิโลกรัม มันคิดว่ามันเป็นใคร ขยะแบบนี้กูต่อให้มันมือหนึ่งก็จัดการได้ ไม่นึกเลยว่าจะกล้าท้าทายพี่เซียว”

“นั่นน่ะสิ ฉันได้ยินผู้นำตระกูลหยางบอกว่า คนคนนี้เหมือนจะขโมยยาของเขา ขยะแบบนี้ฉันยังคิดว่าเขาเป็นแค่เศษสวะ คาดไม่ถึงว่านอกจากเศษสวะแล้ว ยังเป็นขโมยด้วย คนแบบนี้ต่อให้พี่เซียวชกตายในหมัดเดียว ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”

“อย่าว่าแต่คนเดียวเลย ต่อให้สิบคนก็ไม่พอให้พี่เซียวชก”

เมื่อได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคน เซียวจ้านถึงขนาดได้ใจ เหวี่ยงกำปั้นขวา ระเบิดในกลางอากาศอย่างฉับพลัน ท่ามกลางเสียงอุทานของทุกคน ชกไปที่หน้าอกของมู่เซิ่งอย่างรุนแรง

“มู่เซิ่ง ระวังด้วย!”หยางฟางฟางอดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงอุทาน

ถ้าหากหมัดนี้กระแทกโดน! แม้ว่ามู่เซิ่งจะไม่ตาย ก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัส!

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของทุกคน มู่เซิ่งสีหน้าเยือกเย็น สำหรับการชกหมัดมาของเซียวจ้าน ไม่ได้หลีกเลี่ยงเลยสักนิด บนใบหน้าของเขา ไม่มีแม้แต่ความตื่นตระหนกที่เกินความจำเป็น

ราวกับกำลังมองดูกำปั้นของเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ

“ดูถูกฉันเหรอ? เศษสวะอย่างแก กล้าดูถูกฉันเหรอ?”ในสายตาของเซียวจ้าน มีเสียงคำรามด้วยความโกรธ และความเร็วของกำปั้นก็เร่งขึ้นในทันที และกระแทกไปอย่างกะทันหัน

มู่เซิ่งยังคงไม่ไหวติง แต่เพียงโบกมือเบาๆ เมื่อกำปั้นของเซียวจ้านกำลังจะกระแทกบนตัวของเขา โบกมือเบาๆ

แบบนั้น ราวกับว่ากำลังไล่ยุงที่ส่งเสียงดังออกไปรอบๆตัว

“เสียงดังจริงๆ”เสียงเย็นชาของมู่เซิ่ง ดังขึ้นพร้อมกับเสียงตบมือ

“เพียะ!”

เสียงตบดังสนั่น ทำให้ทุกคนตกใจ เห็นแค่ว่าเซียวจ้านซึ่งอยู่ในฝูงชนกระเด็นล้มออกไปในทันที และกระแทกตรงอยู่บนกำแพง

โกดังนี้ทำจากเหล็กบริสุทธิ์ ซึ่งแข็งเป็นอย่างมาก แม้ว่าปรมาจารย์บู๊ชกออกไปอย่างแรง มันก็ยากที่จะทิ้งรอยไว้บนกำแพง แต่แค่ฝ่ามือเดียวของมู่เซิ่ง ไม่นึกเลยว่าจะกระแทกเซียวจ้านอยู่บนกำแพงจนเป็นหลุมลึก!

“ตูม!”

มีอีกเสียงหนึ่ง เป็นเสียงของเซียวจ้านตกลงมาจากกำแพง และทิ้งตัวลงบนพื้น

เสียงทั้งสอง ดังก้องอยู่ในหูของทุกคน สายตาของทุกคนจ้องไปที่ฉากนี้อย่างนิ่งอึ้ง มองดูเซียวจ้านที่ล้มอยู่บนพื้น และมู่เซิ่งที่ยืนอยู่ในท่ามกลางฝูงชน ไม่เหลียวมองอีกฝ่ายตั้งแต่ต้นจนจบเลย

มู่เซิ่งสะบัดฝ่ามือเบาๆ ตบเซียวจ้านกระเด็นในฝ่ามือเดียว ในสายตาของเขา ราวกับเป็นเรื่องเล็กที่ไม่มีค่า ไม่น่ามองด้วยซ้ำ

สายตาของเขามองไปที่ตรงหน้าหยางฉางจวินใหม่ หยางฉางจวินสังเกตเห็นสายตาของมู่เซิ่ง สั่นเทาไปทั้งร่างกาย และแทบจะคุกเข่าลง

เขา เขา……ทำไมแข็งแกร่งขนาดนี้?

ยังไงเซียวจ้านก็เป็นนักบำเพ็ญปรมาจารย์บู๊สูงสุด แม้แต่นักเสวียนธรรมดา ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเซียวจ้านได้อย่างคล่องแคล่วตรงไปตรงมาเช่นนี้

“ฉันไม่ลงมือ ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้คุณมาใส่ร้ายได้ ในสายตาของคนอื่น ผู้นำตระกูลหยางของคุณอาจจะสูงเสียดฟ้า แต่ในสายตาของฉัน คุณไม่มีค่าอะไรเลย”มู่เซิ่งพูดอย่างเยือกเย็น

คนทั้งสมานยังคงเงียบ

ใครจะไปรู้ว่า มู่เซิ่งจะตบเซียวจ้านที่ยโสโอหังอย่างยิ่งในสายตาของพวกเขา กระเด็นได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น

“พระเจ้า นี่มันพลังที่น่ากลัวอะไรกันเนี่ย!”ในฝูงชน บางคนอดไม่ได้ที่จะกระซิบ

“ฝ่ามือเดียว ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย เขาฟาดในฝ่ามือเดียว ก็ตบจนเซียวจ้านกระเด็นออกไป เซียวจ้านเป็นอันดับหนึ่งในหมู่พวกเราเลยนะ ไม่นึกเลยว่าจะไม่สามารถรับมือกับฝ่ามือเดียวของมู่เซิ่งได้”ทุกคนตื่นตระหนกตกใจ ยากที่จะยอมรับฉากตรงหน้านี้ได้

ไม่ว่ายังไงเซียวจ้านก็ได้ที่หนึ่งในทีมเต่าดำมาเป็นเวลาสามปีติดต่อกัน และความแข็งแกร่งก็ฝังรากลึกในใจของทุกคน ในฉากตอนนี้ พวกเขาก็สงสัยว่าตัวเองเกิดภาพหลอนหรือเปล่า

“พี่เซียว พี่ไม่เป็นอะไรนะพี่เซียว!”ในเวลานี้ ลูกน้องมากมายของเซียวจ้านพุ่งตรงเข้ามา มองดูเซียวจ้านที่หลับตาทั้งสองข้าง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

“สบายใจได้ เขาไม่เป็นไร แค่โดนฉันตีสลบไปเท่านั้นเอง”เสียงของมู่เซิ่ง ดังขึ้นในหูของลูกน้องเหล่านี้

ลูกน้องเหล่านั้นไม่เพียงแต่ไม่รับน้ำใจ แต่กลับทำเสียงหึ มองไปทางมู่เซิ่งด้วยสายตาเย็นชา และเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

มู่เซิ่งส่ายหน้า พวกหมารับใช้เหล่านี้จงรักภักดีมาก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ การตบก่อนหน้านี้ ในวินาทีสุดท้าย เขาอ้อมแรงตั้งนานแล้ว ไม่อย่างนั้น ในเวลานี้เซียวจ้านไม่ใช่แค่ล้มลงอยู่บนพื้น แต่กลายเป็นเนื้อบด ติดอยู่กับกำแพงโกดัง

หมัดของมู่เซิ่ง แม้แต่มังกรคะนองน้ำก็รับไม่ไหว เซียวจ้านเป็นใคร?

และสีหน้าของคนนอกทุกคนก็เปลี่ยนไป สายตาที่มองไปทางมู่เซิ่ง ไม่ได้ดูถูกเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

เมื่อวานนี้เห็นมู่เซิ่งชกหมัดหนึ่งได้พลังแค่สองร้อยกิโลกรัม ยังคิดว่าเขาเป็นคนธรรมดาที่แข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย อย่าว่าแต่เซียวจ้าน ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมีความมั่นใจที่จะจัดการกับเขา

แต่ดูตอนนี้ หมัดนี้ของมู่เซิ่ง เขาซ่อนความแข็งแกร่งทั้งหมดไว้

หลิวจื่อเฉียวที่เคยต่อสู้กับเซียวจ้านเข้าใจความแข็งแกร่งของเซียวจ้านได้ดีที่สุด ดังนั้นสายตาของเขาที่มีต่อมู่เซิ่ง ยำเกรงที่สุด ในปากพึมพำว่า: “มู่เซิ่ง เขาแข็งแกร่งถึงขั้นไหนกันแน่?”

หยางเหม่ยหลินก็ยังมองไปที่มู่เซิ่งด้วยดวงตาที่สวยงาม ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ในเวลานี้ หัวหน้าเซี่ยได้ยินการเคลื่อนไหว และเดินเข้ามาจากประตู

เมื่อลูกน้องเรานั้นเห็นเช่นนี้ กระโจนตรงเข้าไป

“หัวหน้าเซี่ย คุณต้องให้ความเป็นธรรมกับพี่เซียว เขาโดนมู่เซิ่งลอบโจมตีกระดูกร้าวทั่วร่างกาย และเป็นลมหมดสติไป!”

“นั่นนะสิ หัวหน้า ที่นี่เป็นโกดังแข่งขันคัดเลือก ไม่นึกเลยว่ามู่เซิ่งจะลงมือได้โหดร้าย เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับคุณเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับทีมเต่าดำของพวกเรา!”

“ภายนอกดูเป็นคนดีแต่ภายในคิดไม่ดีแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ว่าเขาฉวยโอกาสที่พี่เซียวไม่ได้เตรียมตัวลงมือ พี่เซียวจะได้รับบาดเจ็บกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?”

“หัวหน้าเซี่ย คุณจะปล่อยมู่เซิ่งไปอย่างง่ายดายไม่ได้เด็ดขาดนะ”

ลูกน้องเหล่านั้นกอดพี่เซียวไว้ ไม่นึกเลยว่าจะกลับดำเป็นขาว ยืนยันคำเดียวว่ามู่เซิ่งลงมือจู่โจมอย่างเย่อหยิ่ง

เมื่อหัวหน้าเซี่ยได้ยินเช่นนี้ ร่างกายก็สั่นไหว ดวงตาก็เต็มไปด้วยความเย็นชา เซียวจ้านคนนี้เป็นสมาชิกในทีมที่เขาถูกใจ ต้นกล้าแห่งอนาคต! ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการจู่โจมของมู่เซิ่ง เขาจะไม่รู้สึกทุกข์ใจได้อย่างไร?

เขาตะโกนทันที: “มู่เซิ่ง นายเหิมเกริมเกินไปแล้ว นายคิดว่านายซ่อนพลังจู่โจมไว้เล็กน้อย สุดยอดมากเหรอ? อยู่ในทีมเต่าดำ คนที่สุดยอดกว่านายมีมากมาย แต่กล้าจู่โจมคนจนได้รับบาดเจ็บ ฉันไม่มีทางปล่อยนายไว้เด็ดขาด!”

ในสายตาของลูกน้องเหล่านั้น มู่เซิ่งก็คือจู่โจม

เต่าดำ มังกรเขียว หงส์แดง เสือขาวในสี่องค์กรใหญ่นี้ แต่ละแห่งเป็นที่อยู่ของชนชั้นสูงของประเทศตงหัว ลูกหลานตระกูลร่ำรวยมากมายก็อยู่ในนั้นด้วย แม้ว่าเซียวจ้านจะแข็งแกร่ง แต่ก็เป็นเพียงที่หนึ่งในทีมธรรมดาของเต่าดำ อาศัยจู่โจมตบเซียวจ้านจนกระเด็น ยังมีหลายคนที่ทำเรื่องนี้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น มู่เซิ่งยังเป็นบุคคลที่ไม่มีใครรู้จัก พวกเขาจะเชื่อได้อย่างไรว่าเขาอาศัยพลังซึ่งหน้าโจมตีจนกระเด็นออกไป มู่เซิ่งเขาจะต้องจู่โจมอย่างแน่นอน!

“ดูเหมือนว่า พวกคุณไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันพูดเลย”มู่เซิ่งดวงตาทั้งสองเย็นชามาก และเดินไปทางลูกน้องเหล่านั้นของเซียวจ้าน

สีหน้าของลูกน้องเหล่านั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ถอยหลังต่อเนื่อง ถูกต้อนจนมุมด้วยความหวาดกลัว

เมื่อหัวหน้าเซี่ยเห็นเช่นนี้ ตะโกนในทันทีว่า:“มู่เซิ่ง นายต้องการทำอะไร? หรือว่าในยังอยากจะลงมือต่อหน้าฉันงั้นเหรอ”

“แกเป็นใคร? ขัดขวางฉันลงมือ แกไม่มีสิทธิ์นั้น!”มู่เซิ่งพูดอย่างเยือกเย็น

ทุกคนทั้งสนามตกใจ

ไม่นึกเลยว่ามู่เซิ่งจะกล้าพูดแบบนี้กับหัวหน้าเซี่ย เขาเย่อหยิ่งเกินไปแล้วนะ?

หัวหน้าเซี่ย เป็นนักเสวียน!

ลูกน้องเหล่านั้นของเซียวจ้านแอบตื่นเต้น ฮ่าๆๆ ให้แกหยิ่ง แกหยิ่งอีกสิ อาศัยการเอาชนะพี่เซียวด้วยการจู่โจมก็เย่อหยิ่งมากแล้ว ผลปรากฏว่าตอนนี้ไม่ให้ความสำคัญกับหัวหน้าเซี่ย รนหาที่ตาย รนหาที่ตาย

ครั้งนี้ต่อให้ราชาสวรรค์มา ก็ไม่สามารถช่วยแกได้!