ตอนที่ 217 น้องหญิงทำไม่ได้! (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 217 น้องหญิงทำไม่ได้! (1)
โหม่ง

ปัง

เขาไม่รู้ว่านั่นเป็นภาพลวงตาหรือไม่ แต่เมื่อออกไป เขาก็ได้ยินเสียงระฆังของสำนัก มันฟังดูช่างเร่งรีบ หนักหน่วงและตึงเครียดยิ่ง

เมื่อกลับมาที่สำนักตู้เซียน หลี่ฉางโซ่วก็ได้ยินเสียงระฆังดังแฝงความนุ่มนวลและเร็วมาก แล้วเสียงนั้นก็เปลี่ยนแปลงและเร่งรัวเร็วไม่เป็นจังหวะเล็กน้อย…

ในยามอรุณรุ่ง เรือสมบัติก็มาถึงหน้าประตูสำนัก บรรดาผู้อาวุโสพิทักษ์ประตูสำนัก พร้อมด้วยปรมาจารย์ผู้นำยอดเขา และเมล็ดพันธุ์เซียนของแต่ละยอดเขา ล้วนพากันออกมาต้อนรับพวกเขา

ปรมาจารย์ผู้นำยอดเขาแห่งยอดเขาหยกน้อย เซียนจั๋วฉีหยวน และหลิงเอ๋อร์ ซึ่งเป็นอันดับที่สามในสายการจัดอันดับแห่งยอดเขาหยกน้อย ต่างก็ยืนอยู่เงียบๆ ในมุมหนึ่ง

เมื่อเรือสมบัติหยุด ค่ายกลเวทป้องกันที่อยู่รอบๆ พวกเขาก็ถูกปิดลง จากนั้น เจ้าสำนักและผู้อาวุโสก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมๆ กันในขณะที่บรรดาศิษย์ทุกคนต่างก็โค้งคำนับให้พร้อมกัน

ไม่นานหลังจากนั้น หลิงเอ๋อร์ก็เห็นศิษย์พี่ของนางอยู่ในกลุ่มศิษย์ที่กลับมา ทันใดนั้น หัวใจของนางก็สงบลงได้ในทันทีพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้างดงาม

ขณะที่หลิงเอ๋อร์กำลังจะโบกมือให้ศิษย์พี่ของนาง ทว่าจู่ๆ ‘คำเตือนแห่งพระสูตรมั่นคง’ ก็ลอยขึ้นมาในใจของนาง แล้วนางก็ยืนอยู่ที่นั่นอย่างเชื่อฟังพลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ทันใดนั้น ก็มีกำแพงสูงปรากฏขึ้นมาต่อหน้าหลิงเอ๋อร์และปิดกั้นท้องฟ้าส่วนใหญ่ แล้วก่อนที่หลิงเอ๋อร์จะทันได้ตอบสนองใดๆ นางก็มองเห็นใบหน้าของเด็กสาวที่น่ารักปรากฏขึ้นมาในสายตา…

หือ?

เหตุใดถึงมีศีรษะมนุษย์อยู่บนรูปปั้นหินยักษ์นี้ได้?

โชคดีที่มีศิษย์พี่ดูแล จึงทำให้จิตใจของหลิงเอ๋อร์แข็งแกร่ง ทำให้ควบคุมอารมณ์ได้ดี ทันใดนั้น นางก็แย้มยิ้มอย่างมีมารยาทและไม่หลบเลี่ยงใดๆ ในขณะที่ทางด้านข้างนั้น หลี่ฉางโซ่วกำลังโค้งคำนับให้นักพรตฉีหยวนแล้วกล่าวว่า “ศิษย์ขอคารวะท่านอาจารย์ขอรับ”

นักพรตเฒ่าฉีหยวนกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “อืม เอาล่ะ เจ้าได้อะไรจากการเดินทางครั้งนี้บ้างหรือไม่?”

“ศิษย์ได้เรียนรู้อะไรมามากมายขอรับ”

หลี่ฉางโซ่วหัวเราะและตอบก่อนจะชี้ไปที่สงหลิงลี่ที่อยู่ข้างๆ เขา พลางกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ นี่คือญาติผู้น้องของข้า นางยังเป็นศิษย์ในนามที่ท่านเจ้าสำนักของเราเพิ่งยอมรับ ศิษย์อยากให้นางใช้ชีวิตและฝึกบำเพ็ญอยู่ในยอดเขาหยกน้อยขอรับ”

ฉีหยวนตื่นตกใจในทันทีขณะมองสงหลิงลี่แล้วรีบส่งข้อความเสียงไปถามศิษย์คนโตของเขาอย่างรวดเร็ว

“นางคือ ศิษย์ในนามของท่านเจ้าสำนัก ทว่ายอดเขาของเราย่ำแย่นัก แล้วจะเหมาะสมหรือ?”

หลี่ฉางโซ่วส่งข้อความเสียงตอบกลับอาจารย์ของเขาอย่างรวดเร็วว่า เขาอยากมั่นใจในการจัดการทุกอย่าง ฉีหยวนจึงหยุดสงสัยในทันทีและกล่าวโอภาปราศรัยกับสงหลิงลี่ หลี่ฉางโซ่วได้เล่าเรื่องให้สงหลิงลี่ก่อนหน้านี้มานานแล้ว นางจึงโค้งคำนับและกล่าวว่า “ศิษย์พี่ฉีหยวน ต่อไป ต้องรบกวนศิษย์พี่ได้โปรดเมตตาดูแลข้าด้วยเจ้าค่ะ”

นักพรตเต๋าชราฉีหยวนตอบกลับอย่างสุภาพว่า ขอให้นางช่วยดูแลเขาเช่นกัน

หลิงเอ๋อร์เอียงศีรษะเล็กน้อย นางครุ่นคิด ญาติผู้น้องของศิษย์พี่หรือ?

เป็นไปไม่ได้ หากเขามีญาติผู้น้องจริง ๆ แล้วข้าจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน?

เห็นได้ชัดว่า นางแอบใช้ปลาวิญญาณติดสินบนผู้อาวุโสหญิงแห่งหอไป่ฝาน และได้รับรู้ข้อมูลในตระกูลของศิษย์พี่ของนาง…

ทันใดนั้น หลิงเอ๋อร์ก็จินตนาการถึงฉากใหญ่ขึ้นมาในใจ และนางก็ได้ยินหลี่ฉางโซ่วกล่าวกับสงหลิงลี่ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ญาติผู้น้อง กลับขึ้นไปบนยอดเขาก่อนแล้วค่อยคุยกัน ข้าจะจัดที่พักให้เจ้าภายในวันนี้”

ในขณะนั้น หลิงเอ๋อร์ก็รู้สึกราวกับว่า มีแมวคลานเข้าไปและขีดข่วนใจนางไม่หยุดจนนางอยากจะถามเรื่องนี้ทันที แต่ก็ยังไม่กล้าถามตรงๆ จึงรู้สึกอึดอัดใจอย่างยิ่ง…

ย้อนกลับไปในยามนั้น ศิษย์พี่ยังใช้เวลาสองสามวันในการสร้างกระท่อมมุงจากให้นาง!

แต่เมื่อครู่นี้ ศิษย์พี่กล่าวว่า เขาจะจัดเตรียมที่พักให้ “ญาติผู้น้อง” ที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันภายในวันเดียว!

เป็นไปได้หรือ… ไม่ เป็นไปไม่ได้!

ไม่ เรื่องของศิษย์พี่ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!

แม้จะมีโอกาสน้อยมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะไม่มีความรักระหว่างญาติพี่น้องจริงๆ…

ในขณะนั้น หลิงเอ๋อร์ก็ว้าวุ่นใจอยู่พักหนึ่ง

ตั้งแต่เริ่มต้นเกิดเหตุการณ์ ‘จักรพรรดินีชราไป่เหมย’ นางก็ไม่รู้ว่าศิษย์พี่ของนางชมชอบสตรีเยี่ยงใด

ในสายตาของนาง ศิษย์พี่ไม่เหมือนผู้ใด เขาบุรุษสุดพิเศษในใต้หล้า ต่อให้ผู้บำเพ็ญชายทุกคน ทั้งในและนอกสำนักรวมกันแล้ว ก็ล้วนไม่อาจเทียบเท่าศิษย์พี่ของนางได้ ศิษย์พี่เป็นคนแสนพิเศษเพียงหนึ่งในคนนับหมื่นเท่านั้น! ดังนั้นแม้จู่ๆ ศิษย์พี่ของนางจะนำเด็กสาวที่ดูประหนึ่งหอคอยเหล็กกลับมาและบอกนางว่า เขาอยากจะเป็นคู่บำเพ็ญเต๋ากับหญิงสาวผู้นี้ในวันพรุ่งนี้ หลิงเอ๋อร์ก็จะเชื่อเขา!

เป็นไปได้หรือไม่ว่า ศิษย์พี่ไม่ชอบสตรีที่ดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสาเฉกเช่น ศิษย์พี่หญิงโหย่วฉิน?

เขายังไม่ชอบนางที่สนิทชิดใกล้กันเกินไปจนไม่กล้าจะคบกับข้าศิษย์น้องหญิง

แต่เพราะถูกอาจารย์อาจิ่วจิ่วทำให้ไขว้เขวจนใจเอนเอียงไปมีทัศนะหลงใหลความงามใน ‘ขนาด’ แบบแปลกๆ เขาจึงตกหลุมรัก… เด็กสาวร่างใหญ่กำยำ

“พวกเรากลับไปกันก่อนเถิด”

นักพรตเต๋าชราฉีหยวนกล่าวอย่างอบอุ่นก่อสนจะโบกแส้หางม้าแล้วเมฆขาวก็ปรากฏขึ้น

นักพรตเต๋าชราผู้นี้ยังกังวลว่าพลังเซียนของเขาจะไม่ดีจนทำให้เมฆขาวไม่อาจแบกรับน้ำหนักได้เพียงพอ จึงจงใจทำให้เมฆขาวที่อยู่ภายใต้เท้าของสงหลิงลี่หนาขึ้นกว่าปกติอีกครึ่งจั้ง

จากนั้นเหล่าเมฆขาวก็ลอยเข้าไปในสำนักและมุ่งหน้าตรงไปยังยอดเขาต่างๆ

ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนของจิ่วจิ่วดังมาจากด้านหน้า

“ฉางโซ่ว! หลิงเอ๋อร์… ข้าจะไปฟังการบรรยายของท่านอาจารย์ก่อนแล้วค่อยมาเล่นกับพวกเจ้า!”

บรรดาเซียนแห่งสำนักตู้เซียนล้วนอดยิ้มไม่ได้

ศิษย์หลายคนต่างมองดูคนของยอดเขาหยกน้อยทั้งสี่อย่างอิจฉา พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนเป็นบุรุษ

หลิงเอ๋อร์ที่กำลังว้าวุ่นใจพลันฝืนยิ้มในขณะที่หลี่ฉางโซ่วก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าเขาตกลงรับคำขอของอาจารย์อาน้อย

ในขณะนั้น โหย่วฉินเสวียนหย่าเฝ้าจ้องมองอยู่ที่ด้านหลังของคนยอดเขาหยกน้อยทั้งสี่ ทว่ายังลังเลที่จะเอ่ยวาจาออกไป

ช่างมันเถิด อีกสักสองสามวัน ข้าค่อยไปที่ยอดเขาหยกน้อยเพื่อขอโทษศิษย์พี่ในยามราตรีที่เงียบสงบ…

“เฮ้อ”

โหย่วฉินเสวียนหย่าถอนหายใจเบา ๆ นางรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแล้วขี่เมฆตามอาจารย์ของนางไปยังยอดเขาพิชิตสวรรค์

ในขณะนั้น อาจารย์เจียงจิ่งซานของนาง ก็มองเห็นเหตุการณ์และท่าทางทุกอย่างของนาง

ในฐานะปรมาจารย์ผู้นำยอดเขาหยกน้อย ฉีหยวนก็ไม่ได้คัดค้านการเพิ่มคนในยอดเขาหยกน้อยอีกคนหนึ่งเลย…

ฉีหยวนเพิ่งบอกศิษย์ทั้งสองว่า ห้ามไร้มารยาทกับอาจารย์อาน้อยก่อนจะก็หันกลับตรงไปที่กระท่อมมุงจากของเขา จากนั้นก็ไม่สนใจรับรู้เรื่องราวอะไรภายนอกอีก และเพียงมุ่งเพ่งจิตฝักใฝ่อยู่กับเต๋าอันยิ่งใหญ่เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม… หลิงเอ๋อร์รู้สึกตื่นตระหนก

ศิษย์พี่สร้างกระท่อมมุงจากให้ ‘ญาติผู้น้อง’ คนใหม่ภายในวันเดียว ไม่สิ ต้องบอกตรงๆ ว่า หลังจากที่เพิ่งมาถึงภายในหนึ่งชั่วยามเท่านั้น!

มันเป็นแบบที่มีขนาดขยายใหญ่ขึ้น!

ดูเหมือนว่า การคาดเดาที่ไร้สาระของหลิงเอ๋อร์จะได้รับการพิสูจน์แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ศิษย์พี่ยังจงใจเรียกนางโดยเฉพาะให้ไปเฝ้าดูที่ด้านข้าง ในขณะนั้น เขาได้ใช้พลังเวทตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่เขาไม่เคยเปิดเผยมาก่อนเพื่อให้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทำงานหลายพร้อมกันได้!

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ หลังจากศิษย์พี่จัดเตรียมที่พำนักให้ญาติผู้น้องเสร็จแล้ว เขาก็มองนางอย่างมีนัยแฝงเร้นยากจะคาดเดาได้

ในเวลานั้น หลิงเอ๋อร์ก็ได้รับการยืนยันแล้ว… ว่าศิษย์พี่ของนางชมชอบสตรีที่ดูบึกบึนกำยำจริงๆ!

แม้รสนิยมของศิษย์พี่จะไม่เหมือนผู้ใดและเหนือกว่าที่นางคาดไว้อย่างสิ้นเชิง แต่ก็ทำให้รู้สึกว่า นี่แหละคือ แบบฉบับของศิษย์พี่ของนางจริงๆ!

แม้นางจะอดรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยอยู่ในใจลึกๆ ไม่ได้ แต่ก็ยังนับว่าเป็นเรื่องดีเช่นกัน…

ทว่าก็มี “ข่าวร้าย” เกิดขึ้นมาทีละเรื่อง

หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “หลิงเอ๋อร์ ต่อจากนี้ไปให้หลิงลี่คนเดียว ทำสิ่งต่างๆเช่น ให้อาหารปลาในทะเลสาบและดูแลสัตว์วิญญาณในกรง ”

นี่มันอันใดกัน?

หลิงเอ๋อร์จะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่า เขากำลังมอบอำนาจครึ่งหนึ่งในมือนางแก่ “ญาติผู้น้อง” ของเขา!?!

เมื่อหลิงเอ๋อร์ยังเป็นเยาว์วัย นางได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นลับๆ เบื้องหลังของตระกูลร่ำรวยและทรงอำนาจที่มีการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจกัน บรรดานายหญิงทั้งหลายต่างเผยรอยยิ้มจอมปลอมและแอบใช้เล่ห์เหลี่ยมลอบกัดลับหลัง ซึ่งนางก็ได้เห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมดและกลอุบายทุกประเภทมาแล้ว…

แต่นางไม่คิดว่าวันหนึ่งนางจะต้องมาพบเจอเสียเองเช่นนี้!

แล้วหลิงเอ๋อร์จะยอมรับความพ่ายแพ้เช่นนั้นได้อย่างไร!?!

นางจึงตัดสินใจว่าจะแต่งตัวเองให้ดูดี จากนั้น นางก็หยิบแป้งเนื้อสีแดงขึ้นมาและเตรียมมอบให้เป็นของขวัญแก่อาจารย์อาสงหลิงลี่ เพื่อทำให้อีกฝ่ายรับรู้ตัวตนของนางมากขึ้น

แต่ขณะที่หลิงเอ๋อร์เดินไปยังกระท่อมมุงจากที่สร้างขึ้นใหม่ข้างๆ นางก็ได้ยินการสนทนาระหว่างศิษย์พี่และน้องสาวของเขา อาจารย์อาสงหลิงลี่ …

“พี่ชาย ต่อไปข้าจะเรียกท่านว่าพี่ชายได้หรือไม่?”

“ได้สิ เจ้าต้องเรียกข้าเช่นนั้นตลอดเวลา”

“โอ เจ้าค่ะ หลิงลี่จะเชื่อฟังพี่ชาย หลิงลี่ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อพี่ชายเจ้าค่ะ!”

………………………………………………………………………..