ผมปล่อยโซเนียให้อยู่ภายใต้การดูแลของคลาร่าก่อนจะออกมาจากสนามฝึกซ้อม จากคำพูดของฟาร์ร่า โซเนียคงต้องใช้เวลาซักพักหนึ่งกว่าจะได้สติ เนื่องจากการย่อยเลือดของผมคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งสำหรับเธอ นอกจากความจริงที่ว่าผมอาจเป็นธนาคารเลือดเดินได้ที่อร่อยสุดๆ สำหรับแวมไพร์แล้ว ที่เหลือก็ถือเป็นข่าวดี
การได้รู้เกี่ยวกับความสามารถพิเศษนี้ทำให้ง่ายต่อการผลักดันแผนการของผมสำหรับไนร่าและเธอก็มีความสนใจผมอยู่แล้วด้วยจากการที่เราประลองกันบ่อยๆ ผมแค่ต้องจุดประกายบางสิ่งเพื่อที่จะดึงเอาความรักของเธอที่มีต่อผมออกมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมวางแผนไว้แล้ว
‘ส่วนตอนนี้คงถึงเวลาจัดการกับยัยนั่นแล้ว’
ผมคิดด้วยเจตนาเย็นชาขณะเดินไปทางสถานหนึ่งที่เพื่อพบกับลูกแกะตัวน้อยของผมที่กำลังรอการถูกเชือด
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหมือนพลิกหน้ากระดาษผมก็มาถึงที่ที่ชีร่าพักอยู่แล้ว หลังจากหยุดอยู่หน้าห้องผมก็เคาะประตูแต่กลับไม่มีการตอบรับใดๆ ผมคิดว่ามันคงเป็นเพราะความล้มเหลวที่ชีร่าต้องประสบในดินแดนเร้นลับ
ผมรวบรวมพลังก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน โดยเดินผ่านห้องนั่งเล่นก่อนจะมาถึงห้องนอน ซึ่งผมก็ได้พบกับชีร่าผู้สิ้นหวังที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ขณะที่เธอมองออกไปสู่โลกภายนอก
การปลอมตัวของเธอถูกปลดออกแล้วจึงทำให้ผมสีเขียวของเธอหลุดออกมา ประกอบกับดวงตาสีเฮเซลนัทที่ดูหดหู่ของเธอ
เมื่อผมเดินเข้าไปข้างในห้อง ใบหน้าของเธอก็หันมาหาผมด้วยดวงตาที่เบิกกว้างก่อนเธอจะกระโดดเข้ามากอดผม
“ดูเหมือนจะมีคนคิดถึงฉันสินะ”
ผมพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ขณะที่กอดชีร่าที่กำลังอารมณ์เสียเพื่อให้กำลังใจ หัวของเธอซบอยู่บนหน้าอกของผม ในขณะที่ดวงตาของเธอปิดลง เธอไม่ตอบสนองต่อคำพูดของผมเลยขณะที่ยังคงกอดผมอยู่
เมื่อเห็นเช่นนั้นผมก็ไม่ได้หยอกล้อเธออีกต่อไปและยกร่างของเธอขึ้นมา อุ้มเธออย่างระมัดระวังจนกระทั่งมาถึงเตียงก่อนจะวางเธอลงบนตักของผม
เราอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายนาทีโดยที่ชีร่าไม่ได้พูดอะไรเลย เธอซบผมเพื่อขอกำลังใจจนในที่สุดหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงผมก็พูดขึ้นมา
“ฉันได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว”
คำพูดของผมทำให้ชีร่าที่กำลังนั่งอยู่บนตักของผมถึงกับสะดุ้ง ใบหน้าของเธอพยายามแนบลึกเข้าไปในอ้อมกอดของผม แต่ผมไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น
ผมดึงเธอออกไปจากตัวเอง และเธอก็พยายามจะขัดขืน แต่สุดท้ายผมก็จับหน้าเธออย่างรุนแรงและดึงเธอให้มามองตาผม เธอไม่ได้ไม่ชอบการกระทำของผมเลย ให้ตายสิ…ผมเห็นความปรารถนาที่เติมเต็มอยู่ในดวงตาที่หดหู่ของเธอได้เลยในตอนที่ผมทำแบบนี้
สายตาของเราสบกัน มือของผมจึงลดแรงที่ใช้ลงและจับคางของเธออย่างหลวมๆ ขณะที่ผมค่อยๆ จับแก้มเธอ ดวงตาของผมเปลี่ยนเป็นความรักในขณะที่ผมพูด
“เธอเศร้าเหรอ?”
ผมถาม
เธอไม่ตอบพร้อมกับปิดปากแน่น ผมก็เลยถามอีกครั้ง โดยที่คราวนี้รุนแรงขึ้นและมีพลังมากขึ้น
“เธอเศร้าเหรอ?”
ผมถามซ้ำ
คราวนี้เมื่อรู้ว่าผมไม่ได้ล้อเล่น ชีร่าก็พยักหน้า
“ทำไมหล่ะ?”
ผมถามต่อ
สิ่งนี้ทำให้เธอมองมาที่ผมด้วยท่าทีโกรธเคือง แต่ผมก็ไม่ได้หวั่นไหวแต่อย่างใด
“ทำไมหล่ะ?”
เมื่อได้ยินคำถามของผมอีกครั้ง คราวนี้ชีร่าที่กำลังโกรธเกรี้ยวก็ตอบกลับมา
“นายไม่เข้าใจหรอก!”
เธอร้องตะโกน
เธอยกหมัดขึ้นก่อนจะใช้พวกมันเริ่มกระแทกหน้าอกของผมเบาๆ
ผมไม่ได้หลบหมัดของเธอและปล่อยให้ชีร่าค่อยๆ ระบายความโกรธทั้งหมดที่สะสมอยู่ในตัวออกมา และแล้วหลังจากผ่านไป 1 นาทีชีร่าก็สงบลงในที่สุด
เมื่อเห็นเช่นนั้นผมก็ยกมือที่ส่องแสงแวววาวขึ้นมา หลังจากนั้นดาบสีทองและสีเขียวก็ปรากฏขึ้นในมือของผม ด้วยการตอบสนองตามธรรมชาติ ดวงตาของชีร่าก็ถูกดึงดูดโดยดาบในทันที
เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งสำหรับเธอ ชีร่ามุ่งความสนใจไปที่ดาบอย่างเต็มที่ด้วยความงุนงง เธอเป็นเหมือนนักเดินทางในทะเลทรายที่ในที่สุดก็ได้รับน้ำ ร่างกายของเธอขยับไปหาดาบด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่อัดแน่นอยู่ในดวงตาของเธอ ในไม่ช้ามือของเธอก็ตกลงบนดาบ และในตอนนั้นเองแสงอันยิ่งใหญ่ก็สว่างขึ้นมาจากดาบ เจตจำนงของมันกำลังผสมผสานกับของชีร่าอยู่
ร่างกายของชีร่าเปล่งประกายขณะที่ลอยขึ้นเหนือตักของผม ดาบเล่มนั้นเองก็เช่นกัน ในขณะที่ทั้ง 2 เริ่มเชื่อมต่อกันอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นอย่างนั้นผมก็ให้พื้นที่เธอแล้วเดินออกมารอที่ห้องนั่งเล่นก่อนที่มือของผมหยิบถุงขนม, เครื่องดื่มและหนังสือขึ้นมา
และแล้วเวลาก็ค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ ขณะที่ผมรอให้การเชื่อมต่อกันสิ้นสุดลง
…..
2 ชั่วโมงต่อมา :
แสงที่ปกคลุมชีร่าและดาบเริ่มอ่อนลง หลังจากนั้นชีร่าก็ปรากฏตัวอีกครั้งในสายตาของผม โดยที่ร่างกายของเธอนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ร่างกายของเธอดูเหมือนจะพัฒนาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ออร่ารอบตัวเธอให้ความรู้สึกคมกริบเหมือนใบมีดและพร้อมที่จะตัดทุกสิ่ง ตอนนี้ผมสีเขียวของเธอยาวลงไปจนถึงหลัง ทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงมากขึ้นในตอนนี้
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอก็กลับลงมาบนเตียงในท่านั่งขัดสมาธิก่อนจะลืมตาขึ้นมาพบกับผม ขณะที่ดวงตาของเธอเปิดขึึ้น ออร่าอันแหลมคมก็รั่วไหลออกมาจากร่างกายของเธอ แต่มันไม่ได้พยายามที่จะทำร้ายผม และไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็ดึงออร่าของตัวเองกลับคืนไป ซึ่งในไม่ช้ามันก็กลายเป็นความรักและความอบอุ่นแทน
ตอนนี้ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักอย่างแน่นอนในขณะที่เธอถามขึ้นมา
“ได้ยังไงกัน?”
“เธอคิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอต้องทุกข์ทรมานหรือไง?”
ผมตอบและด้วยคำพูดของผมจึงทำให้ชีร่าน้ำตาไหลออกมา เธอกระโดดเข้ามาในอ้อมกอดของผมอีกครั้ง ขาของเธอโอบรอบเอวของผมขณะที่มือของเธอจับคอของผมไว้ก่อนจะพูดขึ้นมา
“ขอบคุณนะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ผมก็ยิ้มขณะที่ค่อยๆ ลูบหลังชีร่าด้วยท่าทีสงบ
“ยัยโง่ เธอเป็นคนรักของฉันไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก”
ผมพูดพร้อมกับลูบหลังชีร่าอย่างต่อเนื่อง น้ำตาเล็กๆ ของเธอเปื้อนเสื้อของผม เสียงของผมนั้นสงบและเปี่ยมด้วยความรักขณะที่ผมปลอบประโลมชีร่าผู้ซึ่งในที่สุดก็ได้รับความรู้สึกถึงชัยชนะหลังจากความล้มเหลวที่เข้ามากระทบกระเทือนเธออย่างหนักในหลายวันมานี้
‘ตอนนี้เธอเป็นของฉันอย่างสมบูรณ์แล้ว’
…..
มุมมองของชีร่า :
ชีร่านั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ขณะจ้องมองเข้าไปในดวงตาของ H-019 หรือ ‘บาร์เล่ย์’ มือของเขาลูบหัวเธอช้าๆ ขณะที่เธอนั่งอยู่บนตักของเขา อารมณ์ของเธอพุ่งเกินพิกัด ขณะที่หัวใจของเธอเต้นเร็วมากเวลาที่มองไปยังคนรักของเธอ….
รัก…..
มันไม่ใช่คำที่ชีร่าเคยต้องการในชีวิตของเธอเลย เธอเกิดมาพร้อมกับสายเลือดของเธอและเพื่อรักษาประเพณีและคำพูดดูถูกเหยียดหยาม เธอจึงยึดถือชีวิตเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง แม้ว่ามันจะทำให้เธอไม่สบายใจในตอนแรก แต่ไม่นานเธอก็คุ้นเคยกับมัน เพราะเธอเกิดมาเพื่อเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่
เพื่อให้พ่อผู้เข้มงวดของเธอภาคภูมิใจ เธอจะต้องกลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด และด้วยการทำงานหนักของเธอ เธอจึงค่อยๆ ได้รับความสามารถในการเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด ชีวิตของเธอถูกกำหนดไว้แล้ว และครอบครัวของเธอก็จะต้องขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกในไม่ช้าเมื่อแผนเสร็จสมบูรณ์ เธอเองก็จะได้กลายเป็นคนที่น่านับถือในนามของเจ้าชายหรือผู้ปกครองเช่นกัน
ทุกอย่างถูกกำหนดไว้สำหรับเธอแล้ว แต่แล้วก็มีความรู้สึกจุกจิกอยู่ในใจว่าเธอขาดอะไรบางอย่างไป เป็นเสียงเรียกร้องจากฝั่งผู้หญิงที่อยากจะเป็นอิสระ แต่เธอก็ระงับสิ่งนั้นอย่างไร้ความปราณี และในขณะที่เธอทำเช่นนั้น ความก้าวหน้าของเธอก็ช้าลงเรื่อยๆ ทำให้เธอตกลงมาจากแท่นสูงที่เธอวางตัวไว้
แต่เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับมันอย่างไร และความภาคภูมิใจของเธอก็ขัดขวางไม่ให้เธอขอความช่วยเหลือจากใคร ด้วยเหตุนี้เธอจึงตกอยู่ในวังวนของความสมเพชตัวเองและความโศกเศร้าที่ไม่สิ้นสุด จนกระทั่งเธอได้พบกับคนรัก จนกระทั่งเธอได้พบกับ…
…บาร์เล่ย์
เขาเป็นเหมือนพายุไต้ฝุ่นที่จู่ๆ ก็เข้ามาในชีวิตของเธอ เธอผู้ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธ เธอผู้ไม่เคยมีใครกล้าต่อต้าน ได้พบกับเขา ผู้อยู่เหนือเธอเพื่อปกป้องเธอ และในตอนที่เขาปฏิเสธเธอและมองเธออย่างเกรี้ยวกราด ‘ด้านที่เป็นผู้หญิง’ ของเธอก็สั่นเทา ดูเหมือนอยากจะถูกปลดปล่อยมันออกมา
‘บาร์เล่ย์’ ดูเหมือนจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ คำพูดของเขาเกี่ยวกับด้านผู้หญิงของเธอทำให้เธอเข้าใจว่าเขารู้จักเธอดีว่าตัวเธอเองซะอีก เขาเฝ้าดูเธอมาเป็นเวลานาน คำพูดของเขาที่ปล่อยให้ด้านนั้นของเธอเป็นอิสระโจมตีเธออย่างหนักในขณะที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานและเธอจำเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้น
ดังนั้นในที่สุด ภายใต้ความไม่เต็มใจของเธอ เธอก็ปล่อยด้านที่เป็นผู้หญิงของเธอออกมา
และเธอรักทุกส่วนของมัน…
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต