บทที่ 284 จับคนร้ายตัวจริง

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

บทที่ 284 จับคนร้ายตัวจริง

กู้เฉิงเฟิงเดินมานานมากจึงได้ข่มความเดือดดาลและอิจฉาในใจเอาไว้ได้ แต่สุดท้ายก็ยังโกรธอยู่ดี “ใครแทงข้างหลังกันแน่ ไม่เพียงแต่จะคิดบัญชีพี่ใหญ่ของข้า ซ้ำยังใส่ร้ายข้าด้วย! น่าโมโหนัก หากข้าจับได้ ข้าจะให้ม้าห้าตัวฉีกร่างมัน!”

เรื่องนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก ไม่แปลกหรอกที่จะวางกับดักหลอกกู้ฉังชิง เพราะอย่างไรเสียคนที่อยากให้กู้ฉังชิงตายก็มีไม่น้อย แต่ปลอมตัวเป็นเฟยซวงเพื่อหลอกล่อกู้ฉังชิงค่อนข้างยากที่จะเข้าใจได้จริงๆ

อีกฝ่ายเป็นปลอมตัวเป็นเฟยซวงโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือว่ารู้อยู่แล้วว่าเฟยซวงคือใครจึงจงใจปลอมตัวเป็นเฟยซวง

กู้เจียวกับกู้เฉิงเฟิงต่างสงสัยกันอยู่ในใจ ทันใดนั้นก็มีร่างสูงใหญ่กำยำก็เดินมาทางทั้งคู่

กู้เฉิงเฟิงเหลือบตาขึ้นมองก็พลันชะงักไป “ทะ…ท่านปู่!”

ท่านเหล่าโหวเพิ่งจะเถียงกับถังเย่ว์ซานเสร็จ ยังไม่ทันจะได้ความ ยามนี้กำลังโมโหได้ที่ พอเห็นกู้เฉิงเฟิงอยู่กับสาวใช้จึงเดินมาหาด้วยสีหน้าเย็นชา

พอเขาเดินเข้าไปใกล้แล้วจึงพบว่านี่คือหมอหญิงที่รักษาแผลบนศีรษะให้ฮ่องเต้ตรงท้องถนน

ท่านเหล่าโหวมีความทรงจำที่ไม่ค่อยดีต่อหมอหญิงนางนี้เท่าใดนัก หมอหญิงบอกว่ามีคนทำร้ายนาง แต่นางไม่แจ้งให้ทางการจัดการ ตรงกันข้ามกลับจัดการลงโทษด้วยตัวเอง ตนจะจับนาง นางยังต่อต้านอีก ทำเอาตนฟาดแส้ไปโดนศีรษะฮ่องเต้เข้า

“เจ้าไปอยู่กับหมอหญิงได้อย่างไร” ท่านเหล่าโหวถามกู้เฉิงเฟิงหน้าเคร่ง

กู้เฉิงเฟิงอ้าปากพะงาบๆ ยามนี้จึงนึกขึ้นมาได้ว่าทั้งคู่คงจะยังไม่เคยพบกันมาก่อน เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายยังแนะนำ “ท่านปู่ นางเป็นพี่สาวของกู้เหยี่ยน เป็นแฝดอีกคนขอรับ” แล้วมองกู้เจียว “เขาเป็นปู่ข้า และเป็นปู่ของเจ้าด้วย”

กู้เจียวไม่ได้เอ่ยทักเรียกท่านปู่

ท่านเหล่าโหวจึงขมวดคิ้วมุ่น

นึกไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะเป็นหลานสาวของเขา

ท่านเหล่าโหวกลับไม่ได้คิดว่ากู้เจียวจำเขาได้ อย่างไรเสียในความทรงจำของเขา กู้เจียวพบกับเขาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และตอนนั้นฮ่องเต้กับเซวียนผิงโหวต่างไม่ได้เรียกฐานันดรเขาตรงๆ

ทว่า…ในเมื่อยามนี้กู้เฉิงเฟิงแนะนำแล้ว แม้แต่คำว่าท่านปู่นางก็จะไม่เรียกอย่างนั้นรึ

อย่างไรเสียท่านเหล่าโหวก็ไม่สนใจหลานสาวคนนี้อยู่แล้ว ไม่คาดหวังก็จะไม่ผิดหวังเท่าใดนัก ไม่เรียกก็ไม่ต้องเรียกหรอก เขาก็ไม่ได้เสียดายอะไร

“เจ้ามาทำอะไรที่ค่ายทหาร” ท่านเหล่าโหวถาม

“ส่งยา” กู้เจียวบอก

ก็จริง นางเป็นหมอหญิง

หมอหญิงเป็นชนชั้นต่ำ หากหลานสาวนางนี้โตมาในจวนโหว เขาไม่มีทางอนุญาตให้นางเป็นหมอหญิงแน่นอน

ท่านเหล่าโหวโมโหร้อนใจเพราะกู้ฉังชิง ไม่มีเวลามาสนใจหลานสาวที่เดิมทีตนก็ไม่สนิทอะไรอยู่แล้ว เขาเอ่ยกับกู้เฉิงเฟิง “ใครอนุญาตให้เจ้ามาที่ค่ายทหาร ไม่มีคำสั่งของข้าไม่อนุญาตให้มาที่ค่าย!”

“แต่ว่า…”

“ไม่มีแต่!”

ท่านเหล่าโหวเอ่ยตัดบทกู้เฉิงเฟิง “เวลาเช่นนี้ เจ้าอย่ามาเพิ่มปัญหาอีก!”

“เจรจากับจอมพลถังเป็นอย่างไรบ้าง” กู้เจียวโพล่งถามขึ้น

ความหมายของประโยคนี้ชัดเจนมาก นางรู้ถึงสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักของกู้ฉังชิงแล้ว อีกทั้งนางก็สนใจเรื่องนี้ด้วย

ท่านเหล่าโหวคิดว่าหลานสาวคนนี้ไม่เคยไปมาหาสู่กับจวนโหวมาโดยตลอด ยามนี้ดูท่าแล้วจะไม่ใช่อย่างนั้น นางอยู่กับกู้เฉิงเฟิงได้ ซ้ำยังมาส่งยาในวันที่เกิดเรื่องกับกู้ฉังชิงได้อีก ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

แน่นอนว่าท่านเหล่าโหวไม่มีทางห้ามนางไม่ให้ไปมาหาสู่กับพวกพี่ชายต่างมารดาอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้มีผลร้ายแรงนัก แม้แต่เขาเองยังยื่นมือไปยุ่งไม่ได้ นับประสาอะไรกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าควรถาม” เขาเอ่ยเสียงขรึม “ส่งยาเสร็จแล้วก็รีบกลับไปเสีย!”

เขาไม่มีเวลามารับมือกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เขาต้องรีบคิดหาวิธีขัดขวางถังเย่ว์ซาน มิฉะนั้นคงปกป้องกู้ฉังชิงไม่ได้แน่

“ข้าอยู่ที่เมี่ยวโส่วถัง” กู้เจียวมองเงาร่างของเขาที่เดินห่างออกไปพลางเอ่ย “หากต้องการอะไรก็ไปหาได้”เหอะ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจะไปช่วยอะไรได้

ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!

ท่านเหล่าโหวพากู้เฉิงเฟิงเดินจากไปโดยไม่หันกลับมา

กู้เจียวรอทางขุนนางแพทย์ตรวจยาห้ามเลือดเสร็จ ก็นั่งรถม้าออกไป

ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนอนดึกเกินไปหรือไม่ นึกไม่ถึงว่ากู้เจียวจะผล็อยหลับไปบนรถม้า

จากนั้นนางก็ฝัน

ในฝันนั้น คนตระกูลกู้หาคนร้ายตัวจริงไม่ได้ กู้ฉังชิงถูกบีบให้ถึงทางตัน พยานหลักฐานครบถ้วน ถังเย่ว์ซานออกคำสั่งให้ใช้กฎทหารจัดการกู้ฉังชิง สามวันจากนั้นก็โดนโบย

กู้เฉิงเฟิงไปเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองที่ค่ายทหารเพื่อไม่ให้พี่ใหญ่ถูกฆ่าตาย เขาบอกว่าเขาคือเฟยซวง ทหารนั่นเขาเป็นคนฆ่าเอง กู้ฉังชิงแหกคุกออกไปเพื่อจะจับเขา

ในฐานะที่ต่อสู้กับถังหมิงอย่างดุเดือดและตัดแขนถังหมิงขาดไปข้างหนึ่ง กู้ฉังชิงโดนโบยหนึ่งร้อยไม้ ริบตำแหน่งขุนนาง จากนั้นก็ปล่อยตัวออกมา

แต่สิ่งที่ไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงก็คือคืนวันที่กู้ฉังชิงกลับไปที่จวนโหว ถังหมิงก็ถูกคนฆ่าตาย

ถังหมิงจะตายเวลาไหนไม่ตายดันมาตายวันที่กู้ฉังชิงถูกปล่อยออกมา หากจะบอกว่าบังเอิญก็คงจะบังเอิญเกินไปแล้ว

ไม่ว่าคนอื่นจะเชื่อหรือไม่ อย่างไรเสียถังเย่ว์ซานก็ไม่เชื่อ เขาคิดว่ากู้ฉังชิงเป็นคนฆ่าถังหมิง ถังเย่ว์ซานที่เสียสติพาคนมุ่งไปที่จวนติ้งอันโหว แล้วแทงดาบฆ่ากู้ฉังชิง…

กู้เจียวตกใจตื่นทันที

ในฝันภาพชัดเจนแจ่มแจ้ง แม้แต่เลือดสดๆ ที่ไหลออกมาจากขั้วหัวใจของกู้ฉังชิงสาดกระเซ็นลงปลายนิ้วนางนั้นราวกับยังมีความอุ่นร้อนเจืออยู่

โศกนาฏกรรมจะเกิดขึ้นในคืนนี้

หลังยามอู่ผ่านไป ถังเย่ว์ซานก็ประกาศว่าจะโบยกู้ฉังชิงในอีกสามวัน

ยามบ่ายกู้เฉิงเฟิงไปค่ายทหารเพื่อเปิดเผยตัวตนของตัวเอง

ตกค่ำถังหมิงถูกลอบฆ่าตาย

หากจะขัดขวางโศกนาฏกรรมนี้นั้นง่ายมาก ขอแค่กู้เฉิงเฟิงไม่ไปรับโทษที่ค่ายทหาร กู้ฉังชิงก็จะไม่ถูกปล่อยออกมา ถังหมิงจะตายหรือไม่ตายก็ไม่เกี่ยวกับเขาแล้วทีนี้

ทว่าทำแบบนี้มีข้อเสีย นั่นก็คืออีกฝ่ายฆ่าถังหมิงตายไม่รู้ว่าเกิดจากความแค้นส่วนตัวหรือว่าเพื่อโยนความผิดให้กู้ฉังชิง

หากเป็นอย่างแรก ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เขาก็อาจจะไปฆ่าถังหมิงอยู่ดี หากเป็นอย่างหลัง กู้ฉังชิงไม่ออกมา คนร้ายก็ไม่มีทางลงมือ

ไม่ลงมือแล้วนางจะจับตัวคนร้ายได้อย่างไรกัน

“เสี่ยวซานจื่อ เดี๋ยวก่อน กลับไปที่ค่ายทหารอีกที”

“ห๊ะ อ้อ”

กู้เจียวกลับไปที่ค่ายทหารแล้วไปพบกู้ฉังชิงอีกครั้ง “เจ้าได้บอกพวกเขาหรือไม่ว่าคนร้ายอาจจะเป็นเฟยซวง”

กู้ฉังชิงส่ายหน้า “ยังไม่ได้บอก”

บอกไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่มีพยานหลักฐาน ไม่ว่าใครก็ย่อมคิดว่าเขาจับแพะชนแกะ

“แล้วพวกเขาคาดเดากันได้หรือไม่” กู้เจียวเอ่ยถามอีก

กู้ฉังชิงครุ่นคิด แล้วส่ายหน้าอีกหน “พวกเขาไม่เคยประมือกับเฟยซวง อาศัยแค่อาวุธลับไม่กี่อันไม่เพียงพอจะใช้ตัดสินได้ว่าเคยมีคนเข้ามา ซ้ำยังเป็นเฟยซวงด้วย”

เหมือนกับที่กู้เจียวคาดเดาไว้ หลักฐานที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ไม่เพียงพอ ไม่ใช่เพื่อปลอมตัวเป็นเฟยซวง แต่เพื่อบีบให้เฟยซวงเปิดเผยตัวออกมาเอง

ดูท่าแล้วอีกฝ่ายจะรู้ว่าเฟยซวงเกี่ยวข้องกับกู้ฉังชิง อีกทั้งยังแน่ใจว่าเฟยซวงจะไปรับโทษแทนกู้ฉังชิงด้วย

เป้าหมายของอีกฝ่ายไม่ใช่เพื่อทำให้เฟยซวงตาย แต่เพื่อให้กู้ฉังชิงออกจากค่ายทหาร แล้วฆ่าถังหมิงเพื่อป้ายความผิดให้กู้ฉังชิง

แต่เมื่อคืนกู้ฉังชิงก็แหกคุกออกไปแล้ว เหตุใดคนร้ายจึงไม่ฆ่าถังหมิงตั้งแต่เมื่อคืนเลยเล่า แบบนั้นจะได้รีบใส่ร้ายไปตั้งแต่เนิ่นๆ มิใช่หรือไร

กู้เจียวลูบคาง “หรือว่าคนร้ายไม่สะดวกลงมือเมื่อคืนนี้”

ไม่ว่าอย่างไรวันนี้กู้ฉังชิงก็ต้องออกจากค่ายทหารอยู่แล้ว ทำให้คนร้ายทำตามแผนเดิมคือไปฆ่าถังหมิง

ตามหลักการแล้วพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ก็เป็นไปได้เช่นกัน แต่เนื่องจากเมื่อวานสถานการณ์ไม่เอื้ออำนาย กู้เจียวกลัวว่าพรุ่งนี้และมะรืนนี้เขาก็ไม่สะดวกลงมือเช่นกัน

จริงๆ เลย เป็นคนร้ายทั้งทีเหตุใดไม่รู้จักทำงานให้เต็มที่!

พอคล้อยบ่ายเรื่องที่กู้เจียวฝันก็เป็นจริงขึ้นมา ถังเย่ว์ซานตัดสินโทษกู้ฉังชิงจริงๆ ประกาศว่าอีกสามวันจะโบยที่ค่ายทหาร

มีคนเรียกร้องความเป็นธรรมให้กู้ฉังชิง และมีคนที่เพิกเฉย บรรยากาศในกองทัพตระกูลกู้เย็นยะเยือกถึงขีดสุด พวกเขาต่างคิดว่ากู้ฉังชิงสั่งสอนถังหมิงเพื่อออกหน้าให้แก่พวกเขา

ทว่ายามนี้กู้ฉังชิงจะโดนประหารเพราะพวกเขาเสียแล้ว

“หัวหน้า หากเขากล้าโบยกู้ตูเว่ยจริง พวกเราก็ต่อต้านกันเถอะ!”

“ใช่! ต่อต้านกันเถอะ!”

“ข้าเห็นสองอาหลานถังเย่ว์ซานกับถังหมิงแล้วขวางหูขวางตาตั้งนานแล้ว! หากให้ข้าทำงานใต้บัญชาเขาต่อไป ไม่สู้ตัดไข่ข้าเสียจะดีกว่า!”

กองทัพตระกูลกู้เต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม

นี่เป็นภาพที่กู้เจียวไม่ได้เห็นในฝัน

ทว่าในขณะที่ทุกคนถูไม้ถูมือกันอยู่นั้น จู่ๆ ด้านนอกก็เกิดแสงไฟปรากฏขึ้นรอบด้าน จากนั้นก็มีคนวิ่งมาพร้อมกับตะโกนว่า “ไฟไหม้! ไฟไหม้!”

สถานที่เกิดเหตุคือห้องสำเร็จโทษ ทหารทุกนายรีบไปดับไฟ ไฟมอดลงแล้ว แต่ตัวกู้ฉังชิงกลับหายไป

ทหารคนหนึ่งร้องตะโกนขึ้น “แย่แล้ว! กู้ฉังชิงหนีไปแล้ว!”

ทุกคนพากันค้นค่ายทหาร ต่างไม่พบเงาของกู้ฉังชิงเลย หากบอกว่าเขาถูกไฟคลอกตาย อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีศพสิ หรือจะโดนไฟเผาจนเป็นเถ้าเลยรึ

หลังจากที่รองแม่ทัพหูรู้เรื่องนี้ก็รีบรายงานถังเย่ว์ซานทันที

ถังเย่ว์ซานเดือดดาลยกใหญ่ “พวกเจ้ามัวทำอะไรกันอยู่ นักโทษคนเดียวก็เฝ้าไว้ไม่ได้! ยังไม่รีบไปตามหากันอีก! ต่อให้พลิกแผ่นดินเมืองหลวงหาก็ต้องจับกู้ฉังชิงมาให้ได้!”

แสงจันทร์มืดสนิทและลมแรงมาก

กู้เจียวกับกู้เฉิงเฟิงสวมชุดดำที่ใช้ในยามวิกาลฟุบอยู่ในพุ่มดอกไม้นอกเรือนของถังหมิง

พวกเขาสองคนซุ่มอยู่กันมาหนึ่งชั่วยามเต็มๆ แล้ว

“จะได้ผลแน่หรือ คนร้ายจะมาลอบฆ่าถังหมิงจริงๆ รึ” กู้เฉิงเฟิงถาม

“ใช่”

กู้เจียวบอก

ทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป กู้ฉังชิงถูกตัดสินโทษประหาร กู้ฉังชิงออกจากค่ายทหาร สิ่งที่ต่างออกไปเพียงอย่างเดียวก็คือวิธีที่ออกจากค่ายไป แต่กู้เจียวกลับไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อการกระทำของคนร้าย

กู้เฉิงเฟิงเอ่ยเสียงเบา “นี่ก็ใกล้จะถึงยามจื่อแล้ว นอกจากพวกเราเห็นคนของจวนถังเดินไปๆ มาๆ ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนร้ายเลยนะ”

นั่นน่ะสิ ในฝันถังหมิงเจอภัยก่อนยามจื่อ ก็น่าจะเป็นตอนนี้สิ เหตุใดคนร้ายจึงยังไม่ปรากฏตัวอีก

เดี๋ยวนะ

คนของจวนถังเดินไปมา

กู้เจียวลุกพรวดขึ้น “แย่แล้ว! คนร้ายอยู่ด้านใน! เขาเป็นคนของจวนถัง!”

ถังหมิงสมควรตายก็จริง แต่คืนนี้เขาจะตายไม่ได้!