บทที่ 364 ทะเลาะกันเป็นปกติ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 364 ทะเลาะกันเป็นปกติ

สองวันให้หลัง

ถนนตรอกซอยน้อยใหญ่ หัวซอยท้ายซอย ล้วนกำลังวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องเดียวกัน :

เทพธิดาผู้สูงศักดิ์ จะทำการรักษาให้แก่องค์ชายสี่ที่โดนยาพิษ และเทพธิดายังประกาศกร้าวว่า

เพียงแค่ผ่านการรักษาของนาง จะสามารถพาองค์ชายสี่กลับมาจากวังของยมราชได้แน่นอน ทั้งยังรับรองว่าเขาจะสมบูรณ์แบบไม่มีเสียหาย

สำหรับจุดนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าสงสัย

ขณะนี้ ทั้งหมดก็ต่างชื่นชมวิชาการรักษาอันล้ำเลิศของเทพธิดา

และในวันนี้ ก็เป็นวันที่เทพธิดาจะทำการรักษาให้แก่องค์ชายสี่พอดี ผู้คนมากมายต่างก็มามุงอยู่ที่ประตูใหญ่ของตำหนักเทพธิดาและตำหนักองค์ชายสี่

รอการมาถึงของเทพธิดา

จุดประสงค์ก็เพื่อดูเทพธิดาให้มากขึ้น

เมื่อเช้าตรู่ หลานเยาเยาก็ได้ยินว่าที่ประตูใหญ่ถูกมุงจนแออัด ทำให้นางตกใจจนคลุมโปงนอนหลับไปอีกครั้ง

หลังจากที่หลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ นางก็ยังไม่ยอมจะลุกขึ้น

“ก๊อกก๊อกก๊อก……” มีคนเคาะประตูอยู่นอกห้อง

“เทพธิดา ตอนนี้ก็สายแล้ว ควรลุกได้แล้วเจ้าค่ะ”

“ใช่แล้ว! คุณหนู พ่อบ้านร้อนใจจนโกรธแล้วเจ้าค่ะ”

เสียงของผู้หญิงสองคนดังเข้ามา เสียงหนึ่งนุ่มละมุนน่าฟัง เสียงหนึ่งอ่อนน้อมเต็มไปด้วยพลัง

พวกนางทั้งสองเป็นสาวใช้ข้างกายของหลานเยาเยา ที่ซื้อมาจากตลาดดำ ผู้หนึ่งไหวพริบดีใจกว้าง ผู้หนึ่งฉลาดมีความสามารถ

แม้ว่าหน้าตาจะไม่เท่าไหร่ แต่ขยันทำงานมาก

หลานเยาเยาเพื่อให้จำง่ายๆ ได้ตั้งชื่อให้กับพวกนางทั้งสองโดยตรงว่าช่าจื่อและเย็นหง

ช่าจื่อเย็นหงหน่ะ!

ทั้งน่าฟังทั้งจำง่าย เรื่องดีเช่นนี้ไม่ทำได้ไง?

ปกติพวกนางล้วนจะอยู่ในตำหนัก เมื่อเทพธิดาแอบออกไปด้านนอก ก็จะมีพวกนางคอยเปลี่ยนกันมาแทนที่เทพธิดา

แน่นอน!

พวกนางเพียงแทนที่เท่านั้น

เทพธิดาไม่อยู่ ก็จะเป็นพ่อบ้านคอยจัดการเรื่องต่างๆ

เดิมทีพวกนางก็ล้วนจะระมัดระวังตัวมากอยู่แล้ว ซื่อตรง รับผิดชอบในเรื่องต่างๆในหน้าที่

หลังจากที่ค่อยๆเข้าในอุปนิสัยใจคอของเทพธิดา ความกล้าของพวกเขาก็มีมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

นี่ไม่ใช่

กล้าปลุกกระทั่งเทพธิดาที่กำลังหลับใหลให้ตื่นได้

เห็นว่าไม่มีเสียงดังออกมาจากภายในห้อง พวกนางก็ผลักประตูให้เปิดออก มาถึงข้างเตียงของหลานเยาเยา ร้องเสียงดังสองสามเสียง

พบว่าหลานเยาเยายังคงนอนหลับ มีเพียงปากที่พึมพำฟังไม่ชัดให้พวกนางหยุดเอะอะ

ด้วยเหตุนี้พวกนางทั้งสองก็สบตากัน

เอาเครื่องออกด้วยความระมัดระวัง หนึ่งคนจับหนึ่งมือ ดึงหลานเยาเยาให้ลุกขึ้นมาโดยทันที

“พวกเจ้า……พวกเข้าหาญกล้าเย้ยฟ้าไปแล้ว แม้แต่การนอนเพื่อความงามของข้ายังกล้ารบกวน ระวังข้าจะทุบตีพวกเจ้า”

สองวันนี้ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรให้ทำ หลานเยาเยาก็ชอบที่จะกินของอร่อยและทำตัวเกียจคร้าน เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากนี้ก็นอนขี้เซา หลานเยาเยาเหล่มองพวกนางสองคนแวบหนึ่ง หาวอย่างอดไม่ได้

ช่าจื่อพูดว่า : “เทพธิดาเจ้าคะ พ่อบ้านบอกว่า ถ้าท่านยังไม่ตื่นนอนอีก เขาจะเอาตำหนักเทพธิดาของท่านไปขาย”

“?”

เย็นหงกล่าว : “ใช่แล้วเจ้าค่ะ! แม้แต่พู่กันหมึกกระดาษหินพ่อบ้านก็เตรียมเรียบร้อยแล้ว รอเพียงผู้ซื้อมาถึงบ้านนะเจ้าคะ! ยังมี……”

ยังมี?

จะขายตำหนักเทพธิดาออกไปแล้ว ตาแก่ยังจะทำอะไร?

หลานเยาเยามีสติมากขึ้นในชั่วขณะ เลิกคิ้วมองไปทางพวกนางสองคน เหมือนกำลังถามว่า ยังมีอะไร?

เย็นหงกล่าวต่อ :

“ยังมี พ่อบ้านได้เอาขาหมูกลับมาจากข้างนอกมาให้ท่านเป็นพิเศษ หนังแกะเส้น ขนมเสี่ยวเทียนและกั้วเหมินเซียง ยังมีอาหารรสเลิศอีกมากมาย หากว่าท่านยังไม่ลุกอีก เขาจะกินให้หมดเลยเจ้าค่ะ”

อะไร?

ของกิน?

ทั้งยังเป็นของกินชื่อดังรสเลิศต่างๆของในเมืองหลวงอีก?

“เขากล้า?”

หลานเยาเยาเด้งขึ้นทันที ผละออกจากมือของช่าจื่อเย็นหง รีบไปล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้า การกระทำรวดเร็วเป็นที่สุด

ช่าจื่อเย็นหงจ้องมองกันแล้วยิ้ม จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากไว้

พวกนางเป็นสาวใช้ข้างกายที่สบายที่สุดในโลกจริงๆ เทพธิดาไม่ต้องให้พวกนางรับใช้ ยังมีของกินเครื่องดื่มดีๆให้พวกนางอีก

พวกนางเริ่มสงสัยเล็กน้อย เทพธิดาซื้อคนเข้าตำหนักเทพธิดามากมายขนาดนั้น ก็ใช้ไว้เพิ่มเติมจำนวนคน ใช้เป็นสิ่งจัดแสดง

หลานเยาเยาที่โดนแกล้งให้ตื่น

เหาะไปหาตาแก่อย่างรวดเร็ว กลับพบว่าตาแก่กำลังแทะขาหมูอยู่อย่างเอร็ดอร่อย รีบร้องตะโกน :

“หยุดปากแล้วเหลือขาหมูไว้ เจ้ากล้ากิน? เจ้ายังจะกิน? เจ้าก็ลองดูอีกครั้ง?”

มองดูขาหมูในมือของตาแก่ ที่โดนกินไปทีละคำทีละคำ หัวใจของหลานเยาเยาก็เหมือนกับโดนแมวข่วนก็ไม่ปาน

“ซึบ…….”

ตาแก่มองก็ไม่ได้มองนางเช่นนั้น โยนห่อของห่อหนึ่งมาให้นางโดยตรง

หลานเยาเยายื่นมือไปรับ ทำปากจู๋ เปิดออกดู ดวงตาทอประกายสีทองวิบวาวในทันที

“เป็นขนมเสี่ยวเทียน!”

นี่เป็นขนมที่ขึ้นชื่อมาก หลานเยาเยายิ้มกว้าง รีบเดินไปนั่งลงข้างๆตาแก่ แล้วกินอย่างออกรสออกชาติ

กินไปกินไป หลานเยาเยาก็โพล่งออกมาหนึ่งประโยค

“ตาเฒ่าเย่นก็ชอบกินขนมเสี่ยวเทียนด้วยใช่หรือไม่?”

“ไม่ใช่ เขาชอบกินมากที่สุดก็คือไก่……” คำว่าขาของขาไก่ยังไม่ทันพูดออกไป ตาแก่ก็รีบปิดปากทันที

แย่แล้ว!

เกือบโดนหลอกถามแล้ว

เพราะว่าเขาเห็นแล้วว่าหลานเยาเยามองเขาพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เหมือนไม่ได้ยิ้ม

เด็กร้าย!

หลอกถามเขาเป็นอยู่ตลอดเสมอๆ

“เขายังสบายดีไหม?”

“หึ!” ตาแก่เปล่งเสียงไม่พอใจออกมาเบาๆ หมุนตัวไป

หลานเยาเยารู้ ผู้เฒ่าที่ร้ายกาจเหล่านั้นของสำนักหงอีของนาง ทั้งหมดล้วนเป็นลูกน้องของตาเฒ่าเย่น

ในส่วนของทำไมถึงให้พวกเขามาอยู่ข้างกายนางคุ้มครองนาง ในตอนแรกเริ่มนางก็คาดเดาคร่าวๆว่าเป็นเพราะตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่า

แต่หลังจากนั้น

ตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่าก็ถูกนางวางแผนส่งมอบถึงมือของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า นางคิดว่าตาเฒ่าเย่นจะปรากฏตัวต่อหน้านางแล้วกล่าวว่าอย่างหนักนางยกหนึ่ง

แต่ทว่าไม่มี เขากลับไม่ได้ปรากฏตัว

ขนาดแม้แต่พวกตาแก่ไม่กี่คนนี้ก็ล้วนไม่ได้พูดอะไรสักคำ นี่ทำให้นางไม่เข้าใจ

แต่!

เห็นปฏิกิริยาของตาแก่ ตาเฒ่าเย่นน่าจะมีชีวิตที่……ยังดีอยู่

ถึงช่วงเย็น

หลานเยาเยาและตาแก่ยืนอยู่หน้าลาน มองดูหัวคนที่อยู่ด้านนอกขยับอย่างพลั่งพรู ตาแก่ขมวดคิ้วส่ายหัว

“เจ้าชอบปีนกำแพงออกไปไม่ใช่หรือ? วันนี้ทำไมถึงคิดอยากจะเดินออกไปอย่างเปิดเผย?”

หลานเยาเยามุมปากกระตุก

คำพูดคำจาเช่นนี้ นอกจากหมายความไปในทางไม่ดีก็ยังหมายความไปในทางไม่ดี!

“ไม่สามารถถามให้น่าฟังหน่อยหรอ?”

“เจ้าไปทำเรื่องไม่ดี ยังอยากให้ข้าชมเจ้าอีกหรือ?” ตาแก่เหล่มองหลานเยาเยา

สีหน้าทั้งหมด ‘ท่าทางแบบเจ้าคิดจะทำอะไรข้าก็ล้วนรู้หมด’

ได้รับการเหล่มองของตาแก่ หลานเยาเยาก็สำลักน้ำลายทันทีแล้ว จากนั้นก็รีบวางท่าทางในแบบของเทพธิดาทันที

“แฮ่มแฮ่มแฮ่ม ข้าไปช่วยคนที่ตำหนักองค์ชายสี่ ทำไมเจ้าพูดเหมือนกับว่าข้าจะไปทำร้ายคนเช่นนั้น”

“หรือว่าไม่ใช่?”

“หรือว่าใช่หรือไง?”

“หึ!”

“หึ!”

พูดจาไม่ลงรอย ตาแก่เกิดโทสะ สะบัดหน้าไปอีกทางหนึ่ง และหลานเยาเยาก็รีบหมุนตัวเดินไปทางประตูทันที

เฮ้อ!

ตอนค่ำจะต้องซื้อของอร่อยๆเครื่องดื่มดีๆมาเอาใจให้ตาแก่ดีให้อีกแล้ว ดูระดับความโกรธนั่น คาดว่าจะต้องเลือดออกครั้งใหญ่แล้ว!

ออกจากประตูใหญ่

หลานเยาเยาก็นั่งบนรถม้าสีแดงของนาง วันนี้นางไม่พาใครไปสักคน แม้แต่คนขับรถม้าก็ยังเป็นคนแปลกหน้าผู้หนึ่ง

บนทางถนน ฝูงชนขวักไขว่

หากเป็นเมื่อก่อน ผู้คนเห็นรถม้าของนาง ก็จะรีบหลีกทางให้นานแล้ว

แต่ตอนนี้

พวกเขากลับเพิกเฉยเหมือนมองไม่เห็น ราวกับว่ามองไม่เห็นรถม้าของเทพธิดา

“จากที่ข้าดูนะ! องค์ชายสี่โดนยาพิษเช่นนี้ก็ดี เทพธิดาไม่ควรช่วยเขา ก็ให้เขานอนไปตลอดก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องฟื้นมาทำร้ายพวกเราประชาชนผู้ยากจนเหล่านี้”