บทที่ 231 เธอสนิทกับเฟิงเฉินเหยี่ยน

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

ติงเซียนมาถึงอย่างเร่งรีบ เฉินฮวนฮวนและหลินอวี่หยางเกือบจำเธอไม่ได้

ตอนอยู่ที่ฐานฝึก ทุกคนยุ่งกับการฝึกซ้อมทุกวัน และไม่มีเวลาแต่งหน้า ทุกคนหน้าตาจืดชืดเหมือนกันหมด

แต่ติงเซียงในตอนนี้ แต่งหน้าอย่างวิจิตรงดงาม สวมชุดกระโปรงตาข่าย มีกลิ่นแรงของเครื่องสำอาง

“เซียงเซียง?” เฉินฮวนฮวนกระพริบตา มองแล้วมองอีก ก่อนจะถามออกมา

เมื่อครู่ติงเซียงทำเป็นไม่พูด ก็เพื่ออยากดูการแสดงออกที่ประหลาดใจของเฉินฮวนฮวน เธอพยักหน้าและยิ้มเล็กน้อย: “ฉันเอง”

“เซียงเซียง อายไลเนอร์เธอหนาเกินไป!” หลินอวี่หยางกลั้นหัวเราะไม่อยู่

ติงเซียงเบะที่มุมปาก แล้วแสร้งทำเป็นผ่อนคลายพร้อมพูดว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า มือฉันพิการไง! แต่งหน้าได้ไม่ดี แต่ก็ไม่อยากให้หน้าจืด เอาแบบนี้แหละ”

รูปลักษณ์ของติงเซียงดูธรรมดาไปหน่อย ตาเธอค่อนข้างเล็ก ดังนั้นหลังจากเธอติดแผ่นตาสองชั้น เธอจึงวาดอายไลเนอร์ที่หนาขึ้น เธอรู้สึกว่าสวยมาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกหลินอวี่หยางแขวะ

แม้ว่าในใจจะไม่มีความสุข แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะโกรธหลินอวี่หยาง ดังนั้นจึงทำได้เพียงนั่งลงด้วยเสียงหัวเราะและถามว่า “เธอทั้งคู่ทานเสร็จหรือยัง?”

“เซียงเซียง เธอดูว่าอยากทานอะไร เราจะอยู่เป็นเพื่อน” เฉินฮวนฮวนยื่นเมนูให้ติงเซียงแล้วพูดว่า “ไม่รู้ว่าคุณจะมาถึงเมื่อไร เลยไม่ได้สั่งไว้ให้ก่อน”

“ไม่เป็นไร ขอฉันดูก่อนนะ หรือไม่ก็…… สเต็กเนื้อสันนอกที่นึง ฉันไม่หิวเท่าไหร่ ฉันเพิ่งตื่นนอนตอนบ่าย” ติงเซียงม้วนผมของเธอแล้วยังปิดปากที่หาวโดยเฉพาะ

“ดี เราก็กินสเต็กกันคนละชิ้น” เฉินฮวนฮวนหยิบเมนูกลับและเรียกพนักงานมารับรายการอย่างกระตือรือร้น จากนั้นเธอหาข้ออ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แล้วไปชำระเงินของทั้งสามคน

เมื่อเธอกลับมา ติงเซียงทานไปแล้วครึ่งหนึ่ง หลินอวี่หยางเบื่อจึงเล่นโทรศัพท์มือถือ ดูเหมือนไม่มีหัวข้อสนทนาอะไรกับติงเซียง

“ฉันกลับมาแล้ว” เฉินฮวนฮวนนั่งลงที่นั่งตัวเองที่อยู่ตรงข้ามกับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม

“ชิบหาย!” หลินอวี่หยางมองดูโทรศัพท์และตะโกนเสียงดังขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น?” เฉินฮวนฮวนและติงเซียงพูดพร้อมกัน

“หลังจากเหตุการณ์ระหว่างหลิวเฟยเฟยกับซวนเลี่ยงถูกเปิดเผยขึ้น เธอถูกไล่ออกจากทีมงานรายการแล้วไม่ใช่หรือ? แฟนของเธอก็รู้เรื่องนี้แล้ว อย่างไรก็ตามที่เธอได้เข้าไปในหวงทียนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เพราะได้รับความช่วยเหลือจากแฟนของเธอ จากนั้น…… ”

หลินอวี่หยางดูประวัติการสนทนาในโทรศัพท์ด้วยและแสดงความคิดเห็นไปด้วย: “แฟนของเธอทิ้งเธอ และหลิวเฟยเฟยก็ถูกไล่ออกจากบริษัทในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ได้ติดยี่ห้อสวรรค์บนดินแล้ว!”

“สวรรค์ ทำไมเธอถึงไม่รักตัวเองเลย!” ติงเซียนอุทาน แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

แต่เฉินฮวนฮวนถามอย่างงุนงงว่า “ติดยี่ห้อสวรรค์บนดินหมายความว่าอะไร?”

“ฮวนฮวน, สวรรค์บนดินเป็นคลับเฮาส์ทำนองนั้น มีชื่อเสียงมากในแง่นั้น ในนั้นมีผู้หญิงมากมาย ติดยี่ห้อหมายถึงการขายตัว จากนั้นยี่ห้อจะถูกแบ่งออกเป็นสี หมายถึงราคาที่แตกต่างกัน” หลินอวี่หยางอธิบายอย่างมีหลักการ

“ที่แท้คือแบบนี้” เฉินฮวนฮวนขมวดคิ้ว

เธอรู้อยู่ว่ามีสถานที่แบบนั้น แต่แค่ไม่รู้จักชื่อเรียกสวรรค์บนดิน

แต่สิ่งที่เธอยิ่งคิดไม่ถึงก็คือ หลิวเฟยเฟยจะตกต่ำถึงขนาดนี้ มีมือมีเท้าและมีความสามารถ ทำไมเธอจะต้องไปติดยี่ห้อ?

ทันใดนั้น เธอก็นึกถึงหลิงเยว่เอ่อร์ หลิวเยว่เอ่อร์ก็ทำเรื่องที่สกปรกโสโครกแบบนี้ ว่าไปแล้วเลวร้ายยิ่งกว่าสถานการณ์ของหลิวเฟยเฟยเสียอีก ตอนมีแฟนเธอยังทำข้อตกลงแบบนี้เป็นการส่วนตัว

เธอไม่รู้ว่าหลิวเยว่เอ่อร์ตอนนี้ถูกปล่อยจากคุกหรือยัง แต่เธอไม่ได้อยากรู้ เพราะคนอย่างหลิวเยว่เอ่อร์ ไม่มีค่าให้เธอคิดถึงอีก

“สกปรกจริงๆ! เสียดายที่ฉันเคยเล่นกับเธอ น่าขยะแขยงจริงๆ!” หลินอวี่หยางแสดงท่าทีรังเกียจ

“ใช่แล้ว สกปรกเกินไป แม้ว่าเธอจะถูกไล่ออกจากบริษัท ก็ควรหางานที่ดีทำ ไม่ใช่ทำข้อตกลงไร้ยางอายแบบนี้” ติงเซียนเสริม

เฉินฮวนฮวนถอนหายใจกล่าวว่า “นี่คือบทลงโทษของเธอ ทำเองรับเอง

“ใช่ ฮวนฮวนคุณพูดถูก นี่คือสิ่งที่เธอทำเองรับเอง และต่อไปสิ่งนั้นของเธอป่วย เธอต้องทนรับเอง” หลินอวี่หยางทำเสียงแตะริมฝีปากด้วยความรังเกียจอย่างยิ่ง

เมื่อเห็นหลินอวี่หยางยืนยันคำพูดของเฉินฮวนฮวน แต่ไม่ได้สนใจตัวเอง แววตาของติงเซียงดิ่งลงเงียบๆ เธอกัดฟันแน่น และสีหน้าของเธอก็หงอยลง

เฉินฮวนฮวนนั่งฝั่งตรงข้ามเยื้องๆติงเซียง เธอบังเอิญเห็นแววตาที่โกรธเคืองคู่นั้นของติงเซียง และรู้สึกสงสัยขึ้นมาทันที

พูดตามเหตุผล เผชิญหน้ากับสถานการณ์ของฟลิวเฟยเฟย ติงเซียงไม่น่าจะแสดงแววตาแบบนี้ เธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับหลิวเฟยเฟย อย่างมากน่าจะแค่รังเกียจ แต่ไม่ใช่โกรธเคือง

ยิ่งกว่านั้น ราวกับว่าแววตานั้น ไม่ได้ตั้งใจมองแต่อดไม่ได้ เมื่อครู่ประโยคไหนที่เธอทำให้ติงเซียงไม่พอใจ? ความโกรธเคืองของติงเซียงมุ่งไปที่ตัวเธอเองหรือ?

“ติงเซียง เธอทานเสร็จแล้วหรือยัง? ต้องทำเวลาหน่อย ไม่งั้นเฟิงเฉินเหยี่ยนจะรอไม่ไหว” หลินอวี่หยางหันศีรษะอย่างเกียจคร้านและถามติงเซียง

ติงเซียงเหลือบมองไปยังสเต็กครึ่งหนึ่งที่เหลือด้านหน้าเธอ ไม่อยากอาหารตั้งนานแล้ว กำลังจะพูดเธอก็นึกถึงชื่อคนที่หลินอวี่หยางกล่าวออกได้

“เฟิงเฉินเหยี่ยนก็อยู่ที่นั่นตอนกลางคืนหรือ?” เธอปิดปากและอุทานออกมา

“ใช่ เราเพิ่งติดต่อกันเมื่อครู่ และคืนนี้เขาเลี้ยง” หลินอวี่หยางคิดอยู่ครู่หนึ่ง เกาหัวแล้วถามว่า “เมื่อก่อนเธอให้ฉันแนะนำเฟิงเฉินเหยี่ยนให้เธอรู้จักใช่ไหม ฉันรู้สึกจะจำไม่ค่อยได้……”

บางครั้งหัวข้อสนทนาบางอย่าง หลินอวี่หยางก็ตอบอย่างคลุมเครือและไม่ได้สนใจมันเลย เมื่อเห็นติงเซียนมีท่าทางตื่นเต้น เธอถึงนึกขึ้นมาได้

อันที่จริง เธอไม่มีความรู้สึกอยากเล่นกับติงเซียงเท่าไหร่ ตอนอยู่ฐานฝึกเธอกับติงเซียงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทั้งหมดก็เพราะเฉินฮวนฮวน

“จริงเหรอ เขาอยู่จริงๆเหรอ ฉันสามารถเจอตัวจริงของเขาไหม……” ติงเซียงเบิกตากว้างอีกครั้งและพึมพำกับตัวเอง เห็นได้ชัดว่าตื่นเต้นมากเกินไปเลยเหม่อลอย

“ใช่ วันนี้เขานั่งทางทิศตะวันออก เธอไม่เพียงแต่จะได้พบกับตัวจริงเขา แต่เธอยังสามารถเล่นกับเขาได้ด้วย” หลินอวี่หยางพูดยืนยัน

เมื่อเห็นปฏิกิริยาเช่นนี้ของติงเซียง เฉินฮวนฮวนก็อดไม่ได้ที่จะล้อเล่น: “เซียงเซียง คุณชอบอาเหยี่ยนหรือ?

เธอไม่ได้ตั้งใจจึงเรียกชื่อเล่นของเฟิงเฉินเหยี่ยนโดยตรง เมื่อเธอรู้ตัวติงเซียงก็มองเธอด้วยความแปลกใจ

เฉินฮวนฮวนเปลี่ยนคำพูดไม่ทัน

“ฮวนฮวน เธอสนิทกับเฟิงเฉินเหยี่ยน?” สีหน้าของติงเซียงเริ่มจริงจัง แม้แต่คิ้วของเธอก็ยังครุ่นคิดและสงสัย

อาเหยี่ยน, เมื่อครู่เฉินฮวนฮวนเรียกเฟิงเฉินเหยี่ยนว่าอาเหยี่ยน และตอนเรียกดูปกติมากราวกับว่ารู้จักเฟิงเฉินเหยี่ยนมาเป็นเวลานาน

อย่างไรก็ตาม เฉินฮวนฮวนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน

“เฉินฮวนฮวนสนิทกับเฟิงเฉินเหยี่ยนอยู่แล้ว เพราะพวกเขาคือ…… ” หลินอวี่หยางโพล่งออกมา