เมื่อเห็นว่าซ่งหลิงเอ่อร์มีปฏิกิริยาที่ผิดปกติไป อันเยว่จึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและถามออกไปอย่างรวดเร็วว่า: “หลิงเอ่อร์ การเต้นของเฉินฮวนฮวนไม่ดีเหรอ?
“แน่นอนมันว่าไม่ได้แย่”ซ่งหลิงเอ่อร์มองไปที่อันเยว่และพูดอย่างจริงจังว่า: “ไม่เพียงแต่จะไม่แย่ แต่ยังดีกว่าฉันอีกด้วย”
“อะไรนะ!?”อันเยว่เบิกตากว้าง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ฉินฟางฟางที่อยู่ข้างๆไม่รู้ถึงอำนาจของซ่งหลิงเอ่อร์ เธอคิดว่าซ่งหลิงเอ่อร์พูดเล่นเธอเลยพูดตรงๆออกไปว่า: “หลิงเอ่อร์ เธอเต้นไม่ดีเหรอ? เฉินฮวนฮวนเต้นดีกว่าเธอ ถ้าอย่างนั้นเธอคงต้องตั้งใจฝึกเต้นแล้วแหละ”
“เหอะ”เมื่อได้ยินการเยาะเย้ยของฉินฟางฟาง ซ่งหลิงเอ่อร์ก็ยิ้มเยาะ: “ถ้าระดับของฉันจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝน ระดับของเธอก็ยิ่งควรได้รับการฝึกฝน”
ซ่งหลิงเอ่อร์ยังคงคิดว่าตัวเองนั้นเต้นเก่งมาก และเธอสามารถแข่งขันกับคนอย่างระดับอันเยว่ได้ เธอไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันในตอนแรกเพราะเธอขี้เกียจเกินกว่าจะเข้าร่วม และไม่ใช่เพราะไม่มีศักยภาพด้วย
นอกจากนี้ ปัจจุบันเธอไม่มีสัญญากับบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์หรือบริษัทบันเทิงใดๆ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าร่วม อย่างไรก็ตามเด็กฝึกที่ไม่มีผู้สนับสนุนก็จะถูกเงินทุนกลืนกินได้ง่ายๆ
“เอ่อ หลิงเอ่อร์ ฉันไม่เข้าใจที่เธอพูด”ฉินฟางฟางรู้สึกสับสนในทันใด
แต่อันเยว่นั้นเข้าใจ แต่เพียงเธอแค่รู้สึกประหลาดใจมาก ดังนั้นเมื่อกี้เธอจึงรู้สึกมึนงงอยู่ชั่วครู่ และตอนนี้เธอก็กลับมารู้สึกตัวและพูดอย่างรวดเร็วว่า: “ฟางฟาง พวกเราถูกหลอกกันหมดแล้ว”
“เยว่เอ่อร์ ถูกหลอกอะไรเหรอ? เธอจะพูดว่าพวกเราถูกเฉินฮวนฮวนหลอกอย่างนั้นเหรอ? เธอหลอกอะไรพวกเราล่ะ?”ฉินฟางฟางรู้สึกสงสัยมากกว่าเดิม
“ใช่ พวกเราถูกเฉินฮวนฮวนหลอก เธอแข็งแกร่งมาก เธอไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเธอออกมา เธอเอาแต่ล้อเล่นกับพวกเรา!”อันเยว่แสดงดวงตาที่ดุร้าย เธอกัดฟันพูดและมือของเธอก็ยังคงกำหมัดแน่น
เป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะแสดงออกถึงความขุ่นเคืองใจ อย่างไรก็ตามเธอมีนิสัยที่อ่อนหวานและต้องการคงไว้ซึ่งภาพลักษณ์ของตัวเอง แต่ในขณะนี้เธอไม่สามารถยับยั้งอารมณ์ของเธอได้เลย
“อะไรนะ!? จริงๆแล้วเฉินฮวนฮวนนั้นเก่งมากเหรอ?”ฉินฟางฟางอุทานด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ใช่ เธอเก่งมากจริงๆ”ซ่งหลิงเอ่อร์ตอบออกไป แม้ว่าเธอจะเกลียดเฉินฮวนฮวนแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเฉินฮวนฮวนนั้นแข็งแกร่งจริงๆ
“นี่มัน …”เมื่อฉินฟางฟางได้รับการยืนยันข้อมูลนี้ เธอก็รู้สึกอึ้งไปในทันที
เธอไม่เคยคาดคิดว่าเฉินฮวนฮวนที่เธอเคยดูถูกเหยียดหยามจะแกล้งทำเป็นอ่อนแอ
หากครั้งนี้ไม่ใช่เพราะซ่งหลิงเอ่อร์ พวกเธอก็จะถูกเฉินฮวนฮวนหลอกไปอีกนานแค่ไหนกัน?
ความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งของเฉินฮวนฮวนสุดท้ายแล้วมันยอดเยี่ยมมาก!
“หลิงเอ่อร์ เธอมีวิดีโอการเต้นของเฉินฮวนฮวนบ้างไหม?”อันเยว่ถามซ่งหลิงเอ่อร์ ท่าทางของเธอดูกังวลมาก
“ฉันไม่มีที่นี่ แต่ฉันสามารถช่วยหามันให้เธอได้ ถ้าฉันได้วิดีโอมาแล้วฉันจะส่งให้เธอ”ซ่งหลิงเอ่อร์พูดอย่างครุ่นคิด
เธอสามารถไปหาจางฟานและพูดคุยกับจางฟานเพื่อใช้ประโยชน์ในการเอาวิดีโอมา
……
ตกกลางคืน
เฉินฮวนฮวนและหลินอวี่หยางกำลังนั่งกินสเต๊กอยู่ที่ร้านอาหารตะวันตกแห่งหนึ่ง
ทั้งคู่ไม่ได้มีความอยากอาหารมากนัก แต่เพื่อให้ท้องได้อิ่มพวกเธอจึงเลือกกินเสต๊ก
ในขณะนั้นโทรศัพท์มือถือของเฉินฮวนฮวนก็ดังขึ้น และเมื่อเธอหยิบขึ้นมามันก็เป็นสายของเฟิงเฉินเหยี่ยน
“ฮัลโหล อาเหยี่ยน มีอะไรรึเปล่า?”เฉินฮวนฮวนถามด้วยความสงสัย
เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่จู่ๆเฟิงเฉินเหยี่ยนก็โทรหาเธอ
“ฮวนฮวน คุณอยู่กับหลินอวี่หยางหรือเปล่า? เหตุการณ์ที่ถุยน้ำลายใส่คนคืออะไร? “น้ำเสียงของเฟิงเฉินเหยี่ยนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ถุยน้ำลาย?”เฉินฮวนฮวนผงะไปชั่วครู่และถามว่า: “คุณ…คุณรู้ได้ยังไง?”
เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย พูดตามความจริงเฟิงหานชวนไม่น่าจะบอกเฟิงเฉินเหยี่ยนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าจะเป็นเวลาสั้นๆ แต่เธอก็รู้สึกว่าเธอรู้จักเฟิงหานชวนดี
“พ่อผมเพิ่งกลับมาและกำลังพูดถึงเรื่องนี้อยู่ ผมก็เลยโทรมาถามคุณ”เฟิงเฉินเหยี่ยนเอ่ยอย่างเป็นธรรมชาติ
“พ่อของคุณ? นี่…..”จู่ๆเฉินฮวนฮวนก็รู้สึกไม่ดี
“ใช่ วันนี้พ่อของผมกำลังจัดการกับเรื่องต่างๆที่ห้างอวิ๋นตวน และเขาบังเอิญได้ยินเรื่องของคุณ พอกลับมาพ่อก็บอกกับพวกเรา ผมก็เลยโทรมาถามคุณนี่ไง~” เฟิงเฉินเหยี่ยนพูดด้วยรอยยิ้ม
เฉินฮวนฮวนรู้สึกอับอายที่เฟิงเจิ้งหมิงพ่อของเฟิงเฉินเหยี่ยนรู้เรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าคนในตระกูลเฟิงทั้งหมดจะรู้เรื่องที่เธอถุยน้ำลายใส่คนหมดแล้วเหรอ?
ไม่น่าแปลกใจที่เฟิงหานชวนไม่ได้อยู่ที่ห้างอวิ๋นตวน ตอนที่เธอโทรหาเขาในตอนเที่ยง เขาถามเรื่องนี้ตรงๆ แสดงว่าทุกคนในบ้านตระกูลเฟิงก็รู้หมดแล้ว
เธอเม้มริมฝีปากและเผชิญหน้ากับคำถามของเฟิงเฉินเหยี่ยน เธอตอบกลับไปว่า: “เป็นอีกฝ่ายที่ถุยน้ำลายใส่น้ำส้มของฉันก่อน มันเป็นการโต้กลับ ทุกคนรู้เรื่องนี้หมดแล้วเหรอ?”
มือที่กำลังหั่นสเต๊กของหลินอวี่หยางหยุดลงทันที จากคำตอบของเฉินฮวนฮวนที่เธอได้ยิน เฟิงเฉินเหยี่ยนน่าจะถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ของเฉินฮวนฮวน และดูเหมือนว่าคนในตระกูลเฟิงจะรู้เรื่องนี้แล้ว
เธอรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเฉินฮวนฮวน ดังนั้นเธอจึงยื่นมือออกไปคว้าโทรศัพท์ของเฉินฮวนฮวนและเปิดลำโพงโทรศัพท์
“ผมไม่รู้ ผมเพิ่งรู้ตอนที่ได้ยินที่พ่อพูด จากนั้นผมก็โทรหาคุณทันที ผมไม่รู้ว่าคุณปู่กับอาสามรู้หรือเปล่า”เฟิงเฉินเหยี่ยนตอบตามความจริง
อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนใจร้อน ก่อนที่เฟิงเจิ้งหมิงและซ่งหวั่นโหรวจะพูดจบเขาก็รีบกลับไปที่ห้องและโทรหาเฉินฮวนฮวนทันที
“เฟิงเฉินเหยี่ยน ฉันชื่อหลินอวี่หยาง เรื่องนี้ฉันเป็นคนทำและไม่เกี่ยวอะไรกับฮวนฮวน!”หลินอวี่หยางพูดใส่โทรศัพท์
ก่อนหน้านี้เธอหุนหันพลันแล่นมากเกินไป เพราะเธอได้ดื่มน้ำน้ำลายของอีกฝ่ายและทำให้เธอโกรธมาก เธอจึงทำเช่นนั้น
แต่เธอก็ไม่ใช่คนโง่เช่นกัน และตอนนี้การกระทำของเธอก็ดันมาส่งผลกระทบต่อเฉินฮวนฮวน ดังนั้นเธอจึงยอมรับว่าเธอจะรับผิดชอบ
เมื่อได้ยินเสียงของหลินอวี่หยาง เฟิงเฉินเหยี่ยนก็หัวเราะเสียงดัง: “ผมรู้ว่าคุณต้องเป็นคนทำ เพราะผมได้ยินพ่อของผมบอกว่ามีหญิงสาวจากหลินซื่อกรุ๊ป ก็คือคุณไม่ใช่เหรอ!”
เฟิงเฉินเหยี่ยนรู้จักหลินอวี่หยางและมีความสัมพันธ์ที่ดี อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดเป็นพวกกลุ่มวัยรุ่นในสังคมไฮโซ
“ใช่ คุณเดาไม่ผิด ฉันทำทุกอย่างเอง ดังนั้นอย่าโทษฮวนฮวน”หลินอวี่หยางเตือนอีกครั้ง: “คุณรีบไปบอกพ่อของคุณว่าฉันเป็นคนทำ ไม่ใช่ฮวนฮวน”
“ได้ๆ ไม่ต้องกังวล ครอบครัวของเราจะไม่โทษฮวนฮวน ฮวนฮวนมีอาสามและปู่ของผมคอยสนับสนุนอยู่แล้ว ใครจะกล้าไปหาเรื่องเธอ?”เฟิงเฉินเหยี่ยนไม่รู้ว่าเฟิงเจิ้งหมิงโทรหาเฟิงหานชวนแล้วเลยพูดประโยคนี้ออกมา
ในตระกูลเฟิง เฉินฮวนฮวนมีเฟิงหานชวนและเฟิงเหล่ยถิงที่คอยหนุนหลัง โดยเฉพาะเฟิงหานชวน ดังนั้นคนในตระกูลเฟิงจึงไม่มีใครกล้าหาเรื่องใส่ตัว
แน่นอนว่าข้างนอกก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง
“งั้นก็ดี เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฮวนฮวน ถ้ามีเรื่องอะไรก็มาหาฉัน” หลินอวี่หยางพูดขู่
เฉินฮวนฮวนเอ่ย: “หยางหยาง ถ้าไม่ใช่เพื่อฉันมันก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนั้น ฉันเองก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย”
“เธอไม่ต้องรับผิดชอบ ฮวนฮวน เธอตกเป็นเหยื่อและฉันเองก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน คนโง่สองคนนั้นสิที่ควรจะรับผิดชอบ”หลินอวี่หยางด่าโดยไม่ลังเล คนสองคนที่เธอด่าคืออันฉีและหลี่เหมย
“โอเค โอเค พวกคุณหยุดเถียงกันได้แล้ว ตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหนกัน?”เฟิงเฉินเหยี่ยนถามด้วยความสงสัย
“ฉันจะพาฮวนฮวนไปที่พอยซัน สำหรับค่ายฝึกฉันถูกกักตัวไว้หนึ่งเดือนและของฮวนฮวนคือครึ่งเดือน พวกเราต้องรีบผ่อนคลาย ยะฮู้ว!”หลินอวี่หยางดูตื่นเต้นมาก
เมื่อเฟิงเฉินเหยี่ยนได้ยินชื่อพอยเซิน ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย: “พาผมไปด้วย! ตอนนี้ผมกำลังขับรถไปเดี๋ยวสักพักเจอกันนะ ถ้าพวกคุณมาถึงก่อนเวลา ให้ไปที่ห้องไพรเวทหมายเลข 8 ของผม คืนนี้ผมจะจ่ายเอง ”
“โอเค นับถือคุณเลย คืนนี้คุณจ่าย! พวกเราไม่เมาก็จะไม่กลับบ้าน! “หลินอวี่หยางตอบอย่างห้าวหาญ
“อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกัน”หลังจากที่เฟิงเฉินเหยี่ยนพูดจบ เขาก็วางสายและรีบไปจัดการกับตัวเองทันที
เฉินฮวนฮวนไม่มีการคัดค้านใดๆ เธอและเฟิงเฉินเหยี่ยนคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เพิ่มเฟิงเฉินเหยี่ยนมาอีกคน เฟิงหานชวนก็จะไม่เป็นกังวลเกี่ยวกับเธอมากขึ้นด้วย
“หยางหยาง นอกจากเรากับอาเหยี่ยนแล้ว มีใครอีกไหม?”เฉินฮวนฮวนลืมถามคำถามนี้
“ฉันโทรหาจางถิง เฉินเสี่ยวอวี่ และพวกพี่ๆน้องๆในกลุ่มของฉันตอนนั้น ฉันตะโกนว่าใครก็ตามที่มาจะมาก็มา ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา”หลินอวี่หยางไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
“อื้ม”เฉินฮวนฮวนพยักหน้าราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง และรีบพูดขึ้นว่า: “อ้อใช่ เราลืมติงเซียง ฉันโทรหาเธอนะ”
“โอ้ใช่ ยังมีติงเซียง ฉันเองก็ลืมไปเลย งั้นรีบโทรหาเธอเถอะ”
หลังจากที่หลินอวี่หยางพูดจบ เฉินฮวนฮวนก็กดโทรศัพท์โทรออกหาติงเซียงทันที เกือบจะไม่ถึงหนึ่งวินาทีติงเซียงก็รับสาย
“ฮวนฮวน เธอโทรหาฉันมีอะไรหรือเปล่า?”อันที่จริงติงเซียงรอมาหนึ่งวันแล้ว
เธอรู้สึกว่าวันนี้หลินอวี่หยางจะโทรหาเฉินฮวนฮวนเพื่อออกไปหาอะไรทำอย่างแน่นอน และเธอก็รอให้เฉินฮวนฮวนส่งข้อความหรือโทรหาเธอ เธอที่กำลังจะหมดความหวัง แต่ก็ดันได้รับโทรศัพท์จากเฉินฮวนฮวนเสียก่อน
“เซียงเซียง ฉันและหยางหยางวางแผนที่จะไปไนต์คลับที่ชื่อว่าพอยเซิน เธออยากไปไหม?”เฉินฮวนฮวนไม่ได้บังคับแต่ถามอย่างชักชวน
“โอเค โอเค ฉันจะไปกับพวกเธอ งั้นฉันจะนั่งแท็กซี่ไปรอพวกเธอนะ”ติงเซียงเต็มใจและตอบตกลงโดยไม่ลังเล
เมื่อได้ยินว่าติงเซียงจะนั่งแท็กซี่ และนึกขึ้นได้ว่าหลินอวี่หยางเรียกคนขับไว้แล้ว เฉินฮวนฮวนจึงรีบถาม: “เซียงเซียง ตอนนี้เธอพักอยู่ที่ไหน เอาที่อยู่มามาให้พวกเรา แล้วหยางหยางกับฉันจะไปรับเธอ หยางหยางมีคนขับรถ”
ติงเซียงผงะไปครู่หนึ่งและถามว่า: “ฮวนฮวน ตอนนี้เธออยู่กับหยางหยางเหรอ? ตอนนี้พวกเธอสองคนอยู่ที่ไหน?”
“พวกเรากำลังกินข้าวเย็นกันอยู่ เซียงเซียงเธอกินข้าวหรือยัง?”จู่ๆเฉินฮวนฮวนตระหนักได้ถึงปัญหาอาหารเย็น ดังนั้นเธอจึงถามด้วยความเป็นห่วง
“ฉันยังไม่ได้กิน งั้นฉันไปหาพวกเธอก่อนดีกว่า ตอนนี้พวกเธออยู่ที่ไหน? ฉันจะได้ไปกินข้าวเย็นกับพวกเธอก่อนแล้วค่อยไปพอยเซินด้วยกันเนอะ?”ติงเซียงแนะนำ
“ได้สิ ตอนนี้พวกเราอยู่ในร้าน Love ที่ชั้นหนึ่งของห้างอวิ๋นตวน เรานั่งอยู่ริมหน้าต่างนะ พวกเราจะรอเธอมา”เฉินฮวนฮวนเหลือบมองที่ป้ายร้านอาหารและบอกชื่อร้านอาหาร
“โอเค ฉันจะรีบไป”หลังจากพูดจบติงเซียงก็วางสายไป
ดวงตาของเธอจ้องไปที่ผนังอย่างเคียดแค้น เธอกำหมัดแน่นและใบหน้าของเธอก็ดูน่ากลัว
เฉินฮวนฮวนไปช้อปปิ้งกับหลินอวี่หยางกันสองคน พอจะไปไนต์คลับที่ที่มีคนเยอะถึงค่อยเรียกเธอ!