บทที่ 368 มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญจริงๆ เหรอ

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่368 มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญจริงๆ เหรอ

หลังจากนั้นสองวัน ซู่จี้งยี้ก็พยายามจัดหาคนเพื่อเข้าไปตรวจค้นในเขตเก่าแก่นั้น แต่สิ่งที่พบในจุดที่คนคนนั้นหายไป ซู่จี้งยี้กลับคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้เท่าไหร่แล้วล่ะ

ถึงอย่างไร เขตเก่าแก่นั้นมันก็มีคนมากหน้าหลายตา การจะปกปิดร่องรอยของตัวเองนั้น มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากเลยล่ะ

ดังนั้น ถึงจะพยายามอย่างสุดความสามารถของตัวเองเท่าไหร่ สุดท้ายก็หาพยาบาลหญิงคนนั้นไม่เจออยู่ดี

ลี่จุนถิงเร่งเร้าอยู่หลายครั้ง แต่ว่าทุกครั้งซู่จี้งยี้ก็ให้คำตอบที่เขาไม่พอใจทุกครั้ง

สุดท้าย ลี่จุนถิงก็พอจะรู้อะไรบางอย่าง เลยถามซู่จี้งยี้ออกไปตรงๆ : “หาร่องรอยของคนคนนั้นไม่เจอเหรอ?”

ซู่จี้งยี้ดูสีหน้าของลี่จุนถิงอย่างระมัดระวัง เพราะรู้ว่าปิดเรื่องนี้กับลี่จุนถิงไม่ได้ ดังนั้นสุดท้ายเลยได้แต่ตอบไปตามตรง: “อือ ที่นั่น……มันตามหายากจริงๆ”

ถึงแม้ว่าจะพยายามโน้มน้าวว่าตัวเองต้องเข้าใจความยากลำบากในการทำงานของพวกเขาได้ แต่อารมณ์ของลี่จุนถิงนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มรู้สึกแย่ขึ้นมา

ตอนแรกที่รู้ว่าตัวตนของพยาบาลสาวคนนี้ไม่ธรรมดา เขาก็ไม่สบายใจมาตลอด เลยรอฟังผลที่จะออกมา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจนถึงตอนนี้ ก็ยังหาเบาะแสอะไรไม่เจอ……

แต่ถ้าไม่เอาตัวคนคนนั้นออกมาให้ได้ เขาก็ไม่มีทางทำให้เจียงหยุนเอ๋อกลับมาอย่างสบายใจได้

เพราะจะให้เจียงหยุนเอ๋ออยู่ที่นั่นตลอดไปไม่ได้……

ลี่จุนถิงเลยพาเจียงหยุนเอ๋อย้ายออกไป แต่ก็ยังกลัวว่าเธอจะเจออันตรายอีก แต่นี่ก็ไม่ใช่แผนระยะยาวอยู่แล้ว สักวันเขาจะต้องพาเจียงหยุนเอ๋อกลับมาให้ได้

แต่ถ้าเกิดไม่จับตัวคนที่อยู่เบื้องหลังออกมา เขาจะวางใจลงได้อย่างไรกันนะ?

ขณะที่ลี่จุนถิงคิดว่าอาจจะหาเบาะแสไม่เจอแล้ว ซู่จี้งยี้กลับบอกข่าวที่ไม่เลวแก่เขา “คุณชายลี่ พวกคนที่อยู่ในเขตนั้นบอกว่าเห็นคู่ชายหญิงน่าสงสัยอยู่ในห้องที่ถูกทิ้งร้าง”

ลี่จุนถิงขมวดคิ้ว: “แล้วยังไม่รีบไปตรวจสอบอีกเหรอ?”

เพราะว่าในใจรู้สึกกังวลกับเรื่องนี้มาก ลี่จุนถิงเลยเข้าไปตรวจสอบกับซู่จี้งยี้ด้วย พวกเขามาถึงที่ที่ควบคุมกล้องวงจรปิด ก่อนจะมาขอตรวจดูกล้อง

ตอนแรกคนเหล่านั้นไม่รู้ว่าลี่จุนถิงเป็นใคร เมื่อเห็นคนเข้ามาขอตรวจดูโดยพละการณ์ สีหน้าเลยดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“กล้องวงจรปิดส่วนนี้ไม่ใช่ว่าใครจะมาดูก็ได้นะ”

สีหน้าของลี่จุนถิงนั้นนิ่งเย็นชา ซู่จี้งยี้เลยรีบจัดการสถานการณ์ พลางเอาหลักฐานที่ตำรวจเป็นคนออกให้เอามาให้คนรับผิดชอบดู

จากนั้น พวกเขาเลยให้ดูกล้องวงจรปิดแต่โดยดี

“ดูเถอะ” ลี่จุนถิงกดให้แสดงภาพ พลางยืนมองอย่างตั้งใจ

บนหน้าจอนั้นมีชายหญิงน่าสงสัยปรากฏอยู่ตรงด้วย ไม่รู้ทำไม ท่าทีของพวกเขาถึงได้ดูน่าสงสัยขนาดนั้น อีกอย่างผู้หญิงคนนั้น……คือพยาบาลหญิงที่ปรากฏตัวในตอนนั้นจริงๆ

ลี่จุนถิงตั้งใจมองหน้าของสองคนนั้นอย่างตั้งใจอยู่นาน ในสมองกลับหาร่องรอยอะไรไม่เจอเลย ดูแล้วไม่น่าจะรู้จักสองคนนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็หมายความว่า ยังมีคนอื่นๆ ที่อยู่เบื้องหลังอีก……

แต่ว่า ลี่จุนถิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเปิดปากพูด: “ซู่จี้งยี้ คุณดูสิ……รูปร่างของผู้หญิงคนนั้น……มันคุ้นๆ ใช่ไหม?”

ซู่จี้งยี้อึ้งไป คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ ลี่จุนถิงจะถามคำถามนี้ออกมา แต่ก็ยังหันไปตั้งใจมองผู้หญิงคนนั้นอยู่นาน จากนั้นก็พูดอย่างลังเล: “เหมือนกับ……จะคุ้นตาจริงๆ ด้วย แต่……ฉันไม่เคยเห็นคนนี้จริงๆ นะ”

“ในความทรงจำของฉัน ไม่เคยเห็นหน้าคนนี้เลย แต่……”

จู่ๆ ในหัวของลี่จุนถิงก็มีแสงวาบออกมา เขารู้ทันทีว่าทำไมเขาถึงคิดว่ามันคุ้นตาเหลือเกิน!

รูปร่างของคนคนนี้เหมือนลี่จีถองเป็นอย่างมาก!

“ฉันรู้แล้ว รูปร่างของผู้หญิงคนนี้……เหมือนลี่จีถองเป็นอย่างมาก”

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของซู่จี้งยี้ก็เปลี่ยนไป เขามองผู้หญิงคนนี้อีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างตะกุกตะกักว่า: “แต่……แต่ว่าคุณหนูลี่……ตายไปแล้วนะ”

นั่นสิ ลี่จีถองตายไปแล้ว ตอนแรกที่ได้รับศพนั้น เขามั่นใจมากว่าลี่จีถองไม่หายใจแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่บอกว่าลี่จีถองตายไปแล้วจริงๆ

แต่ว่า……ศพของลี่จีถองนั้นถูกขโมยไป แล้วก็เกิดคนหนึ่งที่รูปร่างเหมือนเธอขึ้นมา หรือทั้งหมดนี้มันคงไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญใช่ไหมล่ะ?

ลี่จุนถิงนั้นหัวใจเต้นผิดปกติ พลางรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

ถึงจะบอกตัวเองมาตลอด ว่าลี่จีถองตายไปแล้วจริงๆ แต่ว่าลี่จุนถิงก็ยังรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่อยู่ดี

“เรื่องนี้ คุณช่วยไปตรวจสอบหน่อยนะ” สีหน้าของลี่จุนถิงนั้นดูไม่ค่อยดี พลางกำชับซู่จี้งยี้เอาไว้

ท่าทีของซู่จี้งยี้นั้นก็ดูหนักใจเช่นเดียวกัน เรื่องนี้มันมีคนตั้งใจหลอกกันจริงๆ ……หรือว่าจะเป็นอย่างอื่นนะ?

หลังจากที่ดูกล้องวงจรปิดแล้ว ลี่จุนถิงก็ยังรู้สึกงุนงง เมื่อกลับมาที่บริษัทก็ยังมีท่าทีเหมือนเดิม

“ลี่จุนถิง?ลี่จุนถิง?”

ลี่จุนซินเคาะประตูอยู่ด้านนอกของห้องทำงานอยู่นานแต่ก็ไม่มีใครมาเปิด แต่……เมื่อครู่ผู้ช่วยบอกแล้วว่าลี่จุนถิงอยู่ที่ห้องทำงานนี่หน่า

ลี่จุนซินเปิดประตูพลางขมวดคิ้ว ก่อนจะเห็นลี่จุนถิงนั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องทำงาน โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เมื่อเห็นน้องชายที่ตั้งใจทำงานมาตลอดมาเป็นแบบนี้ ลี่จุนซินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ พลางเอามือโบกอยู่ด้านหน้าของลี่จุนถิง

“ลี่จุนถิง”

ลี่จุนถิงเพิ่งจะมีสติกลับมา ก็ได้เห็นลี่จุนซินที่อยู่ตรงหน้า แล้วก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีที่เธอเดินเข้ามาโดยไม่บอกก่อน เลยพยายามปกปิดท่าทีของตัวเอง แล้วถาม: “พี่สาว คุณมาทำไมกันเนี่ย?”

“เรื่องของบริษัท ฉันจะคุยกับคุณหน่อย” ลี่จุนซินตั้งใจมองสีหน้าของลี่จุนถิงอย่างละเอียด เพราะอยากจะจับพิรุธออกสักหน่อย

ลี่จุนถิงพยักหน้าเบาๆ : “อือ งั้นคุณพูดมาเถอะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ลี่จุนซินก็ไม่คิดอย่างอื่น พลางพูดคุยปรึกษากับเขาอย่างตั้งใจ

หลังจากที่คุยเรื่องของบริษัทเสร็จ ลี่จุนซินกลับไม่มีท่าทีจะออกไป พลางมองลี่จุนถิงเหมือนเดิมไม่หยุด

ถึงแม้ว่าท่าทางของลี่จุนถิงจะดูนิ่งเฉย แต่ในใจก็รู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวเองเท่าไหร่ สุดท้ายเลยอดไม่ได้ที่จะเปิดปากพูด: “เป็นอะไรเหรอ?”

“นี่น่าจะเป็นคำถามที่ฉันต้องถามคุณไม่ใช่เหรอ?” ลี่จุนซินยิ้มมุมปาก พลางพูดขึ้น