บทที่ 465 ทำสัญญาเสมอภาค
บทที่ 465 ทำสัญญาเสมอภาค
เจ้าเปลวไฟคิดไม่ถึงเลยว่าในร่างกายของคน ๆ นี้จะสามารถควบคุมของสิ่งนี้ได้ ต้องเข้าใจว่ามันเพิ่งจะปล่อยเปลวเพลิงขนาดใหญ่ถึงขั้นที่สามารถเผาดวงดาวดวงหนึ่งให้ไหม้เป็นจุณได้เลย แต่เพียงพริบตากลับถูกดูดหายไปจนเกลี้ยงแบบนี้ เห็นที่มันต้องระวังตัวมากกว่านี้แล้ว
การก่อกวนของเปลวไฟทำให้ชายหนุ่มได้สติ ต่อมาชายหนุ่มก็หายตัวไปอย่างฉับพลัน ครั้งนี้เขามาปรากฏตัวในสถานที่ที่ปลอดภัยแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มนั่งขัดสมาดโดยไม่รอช้า! หัวคิ้วขมวดแน่นเข้าหากัน เขาสัมผัสได้ว่ามันต้องเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้น! สำหรับเจ้าเปลวไฟนั่น ชายหนุ่มเองก็เตรียมใจว่าต้องทำการป้องกันมันมานานแล้ว ไม่คิดว่าในวันที่ตัวเองทำการบรรลุ มันจะก่อความวุ่นวายแบบนี้!
อย่างไรก็ตาม ตอนที่เขาทำการสำรวจภายในร่างกายตัวเอง ชายหนุ่มก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเปลวไฟขนาดมหึมาได้ถูกหม้อเซียนดูดไปจนหมดแล้ว หลังจากเห็นฉากนี้เข้าไปดวงตาเขาก็เปล่งประกาย บางทีนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนก็ได้!
“ฮ่า ๆๆ เปลวไฟน้อย นี้คงจะทำให้นายรู้ซึ้งถึงพลังของฉันแล้วสินะ ถ้างั้นคงไม่ต้องพูดอ้อมค้อมอีกต่อไปแล้ว ขอบอกนายนะว่าถ้าฉันต้องการกำจัดนายล่ะก็ ภายในไม่กี่นาทีก็จบ ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสไว้ชีวิตนายสักครั้ง นายเลือกเอาเองเถอะว่าควรจะทำยังไง” ฉู่เหินที่เพิ่งปรากฏกายก็รีบพูดหลอกอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
ทั้งที่จริงแล้วเขานั้นกำลังหวาดกลัวสุด ๆ เพราะเขาเองไม่รู้ว่าถ้าเปลวไฟนั้นระเบิดออกมาอีกครั้ง หม้อเซียนจะยังช่วยตัวเองอยู่ไหม แม้ว่าหม้อเซียนจะรู้ว่าเขาเป็นเจ้านาย แต่เขาเองก็ทำได้เพียงใช้ประโยชน์จากมันแบบง่าย ๆ เท่านั้น สำหรับอย่างอื่นตัวเขาเองก็ไม่เคยใช้มาก่อนเลย
ถ้าเขาสามารถใช้หม้อเซียนได้ล่ะก็ เกรงว่าคงใช้ไปก่อนที่ไฟพวกนั้นจะถูกน้ำดูดไปแล้ว เพราะถ้าเปลวไฟนี้หายไปเขาก็จะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะหลังอีก เพราะเปลวไฟนั้นเหมือนเป็นระเบิดเวลาที่สามารถจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
เปลวไฟที่เมื่อได้ยินที่ฉู่เหินพูดก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นไม่มีมารยาท กล้าดียังไงถึงพูดแบบนี้กับตัวเอง มันอยากจะสำแดงพลังให้รู้แล้วรู้รอด แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ไฟของตัวเองถูกดูดไป เจ้าเปลวไฟก็เริ่มลังเล ต้องเข้าใจว่าไฟที่เพิ่งถูกดูดไปเมื่อครู่เป็นพลังขั้นสุดยอดของตนแล้ว ถ้าทำบ่อย ๆ น่ากลัวว่าร่างกายของมันคงสลายไปแน่
“ไอ้หนู ทำไมฉันถึงมาอยู่ในร่างกายแกได้เนี่ย” นี้เป็นคำถามที่เปลวไฟต้องการรู้ที่สุดแล้ว ตามหลักการแล้วไม่ว่าใครก็ไม่อาจดูดเขาเข้าร่างกายได้แบบนี้ เพราะนั่นมันขัดกับความเป็นจริงมาก!
ฉู่เหินได้ยินแบบนั้นก็มองด้วยสายตาดูถูก “ถามได้ดีนี้ ตอนแรกไม่เพราะแกอยากยื่นเส้นยื่นสายไฟของตัวเองหรอกเหรอ เลยทำให้มันเขามาในร่างกายฉันแบบนี้ แถมไล่ก็ไม่ไป ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเห็นว่าแกยังมีประโยชน์ล่ะก็ เกรงว่าคงกำจัดแกทิ้งไปแล้ว”
ประโยคนี้มีทั้งจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง ล้อเล่นหรือไงกัน อย่างฉู่เหินเนี่ยน่ะจะสามารถกำจัดเปลวไฟตัวนี้ได้ พลังของมันรุนแรงตั้งขนาดนั้น!
“จะกำจัดฉันงั้นเหรอ หนุ่มน้อย แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร จะบอกแกให้นะ ฉันก็คือสิ่งที่สวรรค์สร้างขึ้นมา ถ้าแกจะฆ่าฉันล่ะก็ เตรียมรับความพิโรธจากฟ้าไว้ได้เลย!” เปลวไฟคิดแล้วพูดแบบนี้ออกมา
“ได้ ในเมื่อฉันจะต้องได้รับผลกระทบ และก็อาจถูกสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าแกฆ่าตาย งั้นเอาอย่างงี้ล่ะกัน ในเมื่อฉันยังไงก็ต้องตาย งั้นก็คงไม่ต้องให้แกอยู่อย่างสุขสบายก็ได้สินะ!” มารดามันเถอะ ฉู่เหินคิดในใจยังไงแกก็จะฆ่าฉันให้ได้อยู่แล้ว ฉันยังจำเป็นต้องคิดผลที่ตามมาอะไรอีก ยังไงก็ตายอยู่ดี! ตอนนี้ฉู่เหินกำลังรู้สึกอยากฆ่าเปลวไฟตัวนี้ชะมัด!
กระทั่งเขายังมีความรู้สึกแบบนี้ ถ้ามิฉะนั้นล่ะก็จะโกหกเปลวไฟตรงหน้าได้ยังไง?
“หนุ่มน้อย ในเมื่อมันจะลงเอยแบบนี้ นายก็ให้ฉันกลับไปเถอะ เพียงแค่ปล่อยฉันให้กลับไปที่เดิม เรื่องระหว่างเราสองคนก็ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น ฉันยกของวิเศษให้นายชิ้นหนึ่งเลยก็ได้!” หลังจากเปลวไฟคิดดูดี ๆ แล้ว ก็ยอมที่จะถอยเองหนึ่งก้าว!
“นั้นแกจะทำอะไรนะ? ตอนนี้ปล่อยแกไปแล้วได้อะไรขึ้นมา? แกรู้ไหมว่าฉันเก็บแกมาจากดินแดนรกร้างนั้น ตอนแรกฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปเหมือนกัน มาตอนนี้แกก็จะให้ฉันไป ซึ่งฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปยังไง! ยิ่งไปกว่านั้นจะทำยังไงถึงจะปล่อยแกออกไปได้ ถ้ามีวิธีล่ะก็ฉันคงโยนแกออกไปนานแล้ว”
มองท่าทีกลัดกลุ้มของฉู่หิน เปลวไฟเองก็เริ่มนิ่งเงียบไปเหมือนกัน มันรู้ได้เลยว่าที่ฉู่เหินพูดทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง! เดิมทีมันเป็นเปลวไฟที่ก่อเกิดมาจากสวรรค์ ถูกผู้คนเรียกว่าอัคคีสังสารวัฏ หรือไม่ก็เรียกว่าอัคคีพิสุทธิ์ ไม่ว่าวิญญาณดวงไหนที่อยู่ในเปลวอัคคีของตัวเองแล้ว จะต้องกลับสู่วัฏสงสาร หรือไม่ก็ถูกชำระล้างให้บริสุทธิ์ก่อนหายไปจากโลกนี้!
ในโลกที่จากมานั้น เจ้าเปลวไฟเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจขาดไปได้! ส่วนอีกอย่างก็คือพลัง พลังของมันนั้นไม่ควรที่จะมีวิญญาณไหนทนอยู่ข้างกายได้เลย ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดไหน ขอเพียงแค่สัมผัสเข้ากับเปลวไฟ วิญญาณของคนผู้นั้นก็จะเข้าสู่วัฏสงสารทันที! แต่ถ้ามีวันหนึ่งจริง ๆ ที่วิญญาณดวงหนึ่งสามารถบรรจุตัวมันได้แล้วล่ะก็ นั่นก็หมายความว่าตัวเองจะต้องอยู่กับดวงวิญญาณนั้นตลอดไป!
นี้ก็คือกฎที่สวรรค์ตั้งมาใครก็เปลี่ยนไม่ได้ เมื่อคิดถึงตรงนี้เจ้าเปลวไฟก็รู้สึกปวดหัว! มันรู้เลยว่าตัวเองและฉู่เหินได้เชื่อมโยงจิตวิญญาณกันแล้ว! ถ้าฝ่ายหนึ่งตาย อีกฝ่ายก็จะตายตามไปด้วยเช่นกัน!
มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาทั้งสองจะต้องกลับสู่วัฏสงสารพร้อมกัน ไม่รู้ว่าจะต้องหลับนานเท่าไร บางทีอาจจะหนึ่งวัน! ดังนั้นตอนนี้ในใจของมันมีหลากหลายความรู้สึกปะปนกัน คิดไม่ถึงว่าตัวเองเพียงหลับไปหนึ่งตื่น จะทำให้วงจรชีวิตของตนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
ก่อนที่เจ้าเปลวไฟจะฟื้นนั้น มันก็ไม่ได้คิดอะไรวุ่นวาย ขอเพียงแค่เผาให้เรียบเป็นพอ ทว่าตอนนี้พอเป็นแบบนี้ มันก็ต้องสะดุ้งเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก! ถือว่ามันโชคดีที่ฉู่เหินใช้วิธีควบคุมมันได้ ไม่งั้นถ้าตัวเองเผาฉู่เหินตายล่ะก็ เจ้าเปลวไฟเองก็ต้องกลับสู่วัฏสงสารด้วย คิดได้ดังนั้นก็รู้สึกหนาวแล้ว!
ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย เจ้าอัคคีสังสารวัฏคิดถึงตรงนี้ก็แอบคำนวณในใจ!
ต่อมามันก็กัดฟัน ตอนนี้เจ้าเปลวไฟตัดสินใจได้แล้ว ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ถ้างั้นก็ต้องไหลตามน้ำ!
“ตอนนี้พวกเราสองคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว นายจะหนีฉันหรือฉันจะหนีไปก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น ฉันมีข้อเสนอหนึ่งข้อไม่รู้ว่านายจะฟังไหม ถ้าอยากจะจัดการความกระอักกระอ่วนนี้ พวกเราต้องทำสัญญาเสมอภาคกัน ด้วยวิธีนี้พวกเราถึงจะอยู่ด้วยกันได้! ถ้าในอนาคตนายมีเรื่องที่จัดการเองไม่ได้ ฉันก็จะช่วยนาย แต่อย่าคิดจะเรียกใช้ฉันบ่อย ๆ เชียว!”
“อีกอย่างตอนที่ฉันหลับอยู่ นายห้ามเรียกฉันเด็ดขาด อีกทั้งหากฉันจำเป็นต้องใช้ของวิเศษอะไร นายจะต้องช่วยฉันหา ถ้านายพอใจข้อเสนอของฉันก็มาทำสัญญากันเถอะ”
เมื่อได้ยินดังนั้นฉู่เหินก็กัดฟันกรอด ดูมันพูดเข้า ตกลงแล้วเขาได้สัตว์เลี้ยงหรือว่าได้ผีบรรพบุรุษกันแน่! คิดถึงตรงนี้ฉู่เหินก็จ้องเปลวไฟอย่างเอาเรื่อง
“นายบ้ารึเปล่า ถึงได้ยกข้อเสนอนี้ขึ้นมา แค่ฉันไม่ฆ่าแกก็ดีตั้งเท่าไรแล้ว!”
ฉู่เหินโกรธแล้วจริง ๆ เขารู้สึกเกลียดหมอนี้เข้าไส้ ตัวเองรู้ดีว่ายังไงก็ต้องลงเอยแบบนี้ ยังกล้ามาขอข้อเสนอแบบนี้อีก มารดามันเถอะนี้มันไม่น้อยไปกว่าได้ท้าสู้เลย เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็ระเบิดความมั่นใจว่าจะชนะศัตรูออกมา พอเปลวไฟเห็นดังนั้นก็นิ่งอึ้งไป!
ทันใดนั้นจู่ ๆ มันก็รู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะเมื่อเจ้าเปลวไฟมองเห็นว่าสามจิตวิญญาณของฉู่เหินได้หลอมรวมกับตัวเองไว้ทั้งหมดแล้ว! คนเช่นนี้สามารถไปไหนก็ได้ในสามโลก ไม่ได้อยู่ในวัฏสงสารแล้ว สวรรค์ก็บีบบังคับเขาไม่ได้ บางทีในอนาคตเขาอาจจะกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ!