ตอนที่ 415 คนที่รวยที่สุด

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 415 คนที่รวยที่สุด

หลังตรุษจีน ก่อนเปิดเทอม คนตระกูลเย่ว์จัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดอย่างยิ่งใหญ่ให้มู่เถาเยา

แน่นอนว่าจัดเป็นการภายใน เชิญแค่คนตระกูลเย่ว์ทั้งหมดกับคนสนิทเท่านั้น

แค่นี้ก็ครึกครื้นรื่นเริงมากแล้ว

มู่เถาเยากับคนตระกูลเย่ว์ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยว่า จะไม่เปิดเผยตัวตนของเธอต่อคนทั้งโลกในขณะที่เธอยังเรียนหนังสืออยู่ เพื่อกันคนที่ไม่ประสงค์ดีมารบกวนการใช้ชีวิตของเธอ

แม้เธอจะไม่กลัว แต่รำคาญ ขี้เกียจรับมือ

ตอนนี้เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว

งานฉลองวันเกิดครั้งเดียวรับของขวัญไปเต็มอีกหนึ่งห้องเก็บของ

คนเผ่าหมาป่าพระจันทร์ร่ำรวย ใจกว้างกับคนกันเอง ให้ของขวัญมีค่าตลอด หรือไม่ก็เป็นของที่จะมีมูลค่าในภายภาคหน้า ยกเว้นให้คนที่เด็กกว่า

มู่เถาเยากล้าพูดเลยว่า ในบรรดาคนที่อยู่ในนี้ ยกเว้นอาเขยของเธอ เธอก็คือคนที่รวยที่สุดแล้ว

รวยจนไม่มีใครทัดเทียมได้

เมื่อชาติก่อน ราชวงศ์เทียนเย่ว์ไม่เคยร่ำรวย

ภายในขัดแย้ง ภายนอกถูกรุกราน ชาวบ้านลำบากยากแค้น พอหาเงินเข้าคลังหลวงได้ไม่นานก็มีเรื่องให้ต้องใช้ไป ยังไม่ทันได้จับให้ถนัดมือเลยด้วยซ้ำ!

ชาตินี้เธอถึงได้สนใจการทำธุรกิจเป็นพิเศษ

ไม่ใช่ว่าเธอชอบเงิน ชอบวัตถุ แต่เป็นเพราะไม่อยากมานั่งเครียดตอนถึงคราวจำเป็นต้องใช้เงิน

มู่เถาเยายิ้มตาโค้งจัดห้องเก็บของให้เป็นระเบียบ เลือกของขวัญออกมาหลายชิ้นเตรียมเอากลับเมืองเย่ว์ตูด้วยตอนเปิดเทอม ไว้ค่อยเอากลับหมู่บ้านเถาหยวนซาน

อาจารย์ใหญ่กับอาจารย์รองใกล้อายุครบเก้าสิบปีแล้ว เธอกับชาวหมู่บ้านเถาหยวนซานจะเตรียมจัดงานฉลองวันเกิดให้พวกอาจารย์อย่างยิ่งใหญ่

ครั้งล่าสุดที่จัดงานฉลองใหญ่เป็นตอนอาจารย์ทั้งสองกับอาจารย์แม่รองอายุครบแปดสิบปี ส่วนวันเกิดปีอื่นก็แค่กินเลี้ยงกันแบบง่ายๆ เธอทำเค้กให้ด้วยตัวเองอะไรแบบนี้

คนเฒ่าคนแก่ชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย ที่เห็นด้วยกับการจัดงานใหญ่ก็เพราะไม่อยากทำร้ายน้ำใจของลูกหลานที่อยากแสดงความกตัญญู

วันเกิดอายุครบเก้าสิบปีนี้ ไม่ว่าอย่างไรมู่เถาเยากับพวกศิษย์พี่และชาวบ้านก็อยากจัดอย่างยิ่งใหญ่

เป่ยซีเห็นลูกสาวเลือกของขวัญออกมาหลายชิ้นจึงถาม “เสี่ยวเยาเยาไม่ชอบของพวกนี้เหรอจ๊ะ”

“ไม่ใช่ค่ะ ใกล้ถึงวันเกิดอายุครบเก้าสิบของอาจารย์ทั้งสองคนแล้ว หนูอยากเอาไปให้พวกท่านค่ะ”

“อ้อ งั้นเดี๋ยวแม่ก็จะเลือกของขวัญให้พวกอาจารย์ของลูกด้วยนะ”

“ขอบคุณค่ะแม่”

“เด็กบื้อ! อาจารย์เลี้ยงลูกมาจนโตขนาดนี้ พวกเรายังไม่ได้ตอบแทนเลยสักนิด ถ้าเป็นไปได้ เผ่าหมาป่าพระจันทร์ก็อยากดูแลอาจารย์ของลูกยามแก่ พวกเขาเลี้ยงลูกมาจนโต พวกเราสมควรทำ แต่พวกอาจารย์ของลูกมีลูกหลานลูกศิษย์เยอะแยะมากมาย ถ้าพวกเรารับมาเลี้ยงดู พวกลูกหลานกับลูกศิษย์จะถูกมองว่าไม่กตัญญูน่ะสิ”

ถ้าลูกหลานไม่กตัญญูยังพอทำเนา แต่นี่แสดงความกตัญญูกันไม่น้อยไปกว่าลูกสาวของเธอเลย

“แม่คะ หนูจะทำให้หมู่บ้านเถาหยวนซานเป็นหมู่บ้านอายุยืนอันดับหนึ่งของโลก วันหน้าอาจารย์จะมีเพื่อนวัยเดียวกันไม่เหงาแน่นอนค่ะ เด็กๆ ในหมู่บ้านเถาหยวนซานก็มีเยอะ พวกอาจารย์ของหนูอยู่หมู่บ้านเถาหยวนซานมีความสุขกันมากค่ะ แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ”

เป่ยซีมองลูกสาวที่รู้จักแสดงความกตัญญู ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู เธอเองก็พลอยดีใจ สีหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยน

“ต่อไปพ่อแม่ พี่ชายทั้งสองของลูก จะช่วยลูกแสดงความกตัญญูต่อพวกอาจารย์ด้วยนะ”

มู่เถาเยายิ้มตาโค้งพลางพยักหน้า “ค่ะ”

เธอย่อมดีใจที่คนตระกูลเย่ว์รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณ ไม่อย่างนั้นถ้าให้เลือกระหว่างคนตระกูลเย่ว์กับพวกอาจารย์ เธอจะเลือกพวกอาจารย์แน่นอน แม้ตระกูลเย่ว์จะมีเสด็จแม่ของเธอก็ตาม

สองแม่ลูกช่วยกันจัดของในห้องเก็บของ เอาของขวัญที่เลือกออกมาไปเก็บไว้ที่ห้องของมู่เถาเยาก่อน จากนั้นก็ไปห้องเก็บของของเป่ยซีกับเย่ว์หลั่ง

ส่วนใหญ่ของในห้องเก็บของของสองสามีภรรยาเป็นของที่เก็บมาตั้งแต่ก่อนเย่ว์จืออิ๋งหายตัวไป ของที่เอาเข้ามาหลังจากนั้นมีแค่พวกของที่ลูกชายสองคนนำกลับมาจากข้างนอก ส่วนใหญ่จึงเป็นของเก่า อย่างเช่นพวกของโบราณกับอัญมณีจะมีเยอะมาก

พวกของที่ค่อนข้างเหมาะสมกับเด็กได้เอาไปไว้ในห้องเก็บของของมู่เถาเยานานแล้ว

ดังนั้นมาเลือกของขวัญในห้องเก็บของของสองสามีภรรยาคู่นี้จะเร็วและหาได้เหมาะสมกว่า

ไม่กี่นาทีต่อมาเป่ยซีก็เลือกออกมาได้กองใหญ่

“แม่คะ ไม่ต้องเยอะขนาดนี้ก็ได้ค่ะ”

“ต้องสิจ๊ะ คนละชิ้นเอง ไม่เยอะหรอก พอลูกเปิดเทอมก็เอาไปไว้ที่เมืองเย่ว์ตูก่อนนะ”

“ก็ได้ค่ะ”

เรื่องที่มู่เถาเยาคาดไม่ถึงคือ ตอนพวกอาจารย์ฉลองวันเกิด คนตระกูลเย่ว์ขนกันมาหมดยกเว้นอาที่ไม่สะดวก กับอาเขยที่ต้องดูแลอา อีกทั้งยังมีของขวัญมามอบให้ต่างหาก

แต่นี่ก็เป็นเรื่องในภายหลัง ยังไม่ต้องพูดถึง

หลังจากช่วยกันหอบเอาของขวัญไปไว้ที่ห้องของมู่เถาเยาแล้ว สองแม่ลูกก็คล้องแขนกันลงไปที่ห้องรับแขกชั้นล่าง

มีแค่บรรดาคนสูงวัยกับลู่จือฉินที่นั่งคุยกันอยู่ คนอื่นๆ ไปทำงานกันหมด

แต่ไม่นานทุกคนก็ทยอยกลับมา เพราะใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว

เย่ว์หลั่งรับน้ำชาที่เป่ยซียื่นให้ ดื่มหนึ่งอึกแล้วมองลูกสาว “ลูกรัก ใกล้เปิดเทอมแล้ว เทอมหน้าลูกก็จะอยู่เมืองเย่ว์ตูเป็นเทอมสุดท้ายแล้ว ตอนนี้เลือกได้หรือยังว่าจะไปเรียนอะไรที่เมืองหลวง”

“วิศวกรรมการแพทย์อัจฉริยะค่ะ เอไอบวกการรักษา”

ก่อนหน้านี้เธออยากเรียนอะไรก็ได้ที่ไม่เกี่ยวกับการแพทย์ แต่ใจหนึ่งเธอก็อยากเอาชนะจุดอิ่มตัว จะไม่เรียนเกี่ยวกับการแพทย์ก็ไม่ได้

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ถูกประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวางในแวดวงการแพทย์ ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการวินิจฉัยโรคและคุณภาพบริการ ลดความซับซ้อนและความเสี่ยงด้านการดูแลสุขภาพต่างๆ

เธอถึงได้อยากศึกษาอุปกรณ์การแพทย์ หุ่นยนต์ผ่าตัดอัจฉริยะ ส่งเสริมการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในสาขาการแพทย์และสุขภาพ

วันหน้าการผ่าตัด การดูแลรักษา แค่ใช้หุ่นยนต์ก็พอแล้ว

พอมีเอไอมาช่วยทางการแพทย์ ถึงจะสามารถขยายขอบเขตการรักษาพยาบาลด้วยเอไอไปสู่การดูแลสุขภาพได้

ปัจจุบันการบูรณาการเอไอกับการรักษาทางการแพทย์ได้เป็นกระแสใหญ่ สิ่งที่เธอต้องทำคือศึกษาเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ทางการแพทย์ในการดูแลรักษาคนไข้ด้วยเอไอ และปรับปรุงภาพรวมของระดับการดูแลรักษาทางการแพทย์ทั่วโลก…

“เสี่ยวเยาเยา หลานไปเมืองหลวงนอกจากเรียนยังต้องฝึกอีก จะยิ่งยุ่งกว่าตอนอยู่เมืองเย่ว์ตู รักษาสุขภาพด้วยนะ” ใบหน้าใจดีของปู่เย่ว์มีรอยยิ้มกว้าง แต่เบื้องหลังรอยยิ้มแฝงไว้ด้วยความปวดใจ

คนตระกูลเย่ว์ไม่สนว่ามู่เถาเยาจะเรียนอะไร แต่ไม่อยากให้เธอเหนื่อยเกินไป

มู่เถาเยายิ้มพลางพยักหน้า “หนูจะรักษาสุขภาพค่ะคุณปู่ ไม่ต้องห่วงนะคะ”

“อืม”

อวิ๋นไป๋ยิ้มถาม “เสี่ยวเยาเยาดูที่ไหนไว้เหรอ อาเขยจะให้บ้านที่อยู่ใกล้มหา’ลัยนะ”

เย่ว์จือกวงตอบก่อน “อาเขยครับ ผมซื้อบ้านใกล้มหาวิทยาลัยเมืองหลวงให้เสี่ยวเยาเยาแล้วครับ เสี่ยวเยาเยาเลือกมหาวิทยาลัยเมืองหลวงหรือเปล่า หรือชอบที่อื่นมากกว่า”

“เลือกสาขาวิศวกรรมการแพทย์อัจฉริยะของมหาวิทยาลัยวิศวกรรมสารสนเทศเหยียนหวงไว้ค่ะ”

อวิ๋นไป๋พูดอย่างอารมณ์ดี “อามีบ้านว่างอยู่ใกล้ที่นั่นพอดี เสี่ยวเยาเยา อาจะยกให้หนูนะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูก็มีบ้านอยู่เมืองหลวง แถมใกล้ที่นั่นด้วยค่ะ” ดวงตาเปล่งประกายดุจดวงดาวระยิบระยับของมู่เถาเยามีรอยยิ้ม

ตอนนั้นที่ซื้อเพราะเห็นว่าคนไม่พลุกพล่าน อีกทั้งเธอก็ไม่ได้จะอยู่ที่เมืองหลวงนาน จึงเลือกแบบที่มีสามห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก

แต่นี่ก็เพียงพอให้ปกติเธอพักอยู่กับเหลียงจีสองคนแล้ว และยังมีเสี่ยวหว่านกับเสี่ยวเหมียนที่จะมาพักตอนสุดสัปดาห์ด้วย

ตอนเสี่ยวหว่านกับเสี่ยวเหมียนไปเมืองหลวงเธอก็อยากเอากุญแจให้ แต่สองคนนั้นไม่รับ

เมื่อก่อนนานๆ ไปเมืองหลวงทีก็จะพักบ้านของศิษย์พี่ มีระยะหลังที่ไปพักบ้านตระกูลตี้ ดังนั้นบ้านของเธอจึงยังไม่เคยมีใครเข้าไปอยู่เลยตั้งแต่ซื้อมา