บทที่ 323 หมดอารมณ์

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

แต่ไอริณไม่เข้าใจความอ้อมค้อมที่อยู่ในนั้น กัดริมฝีปาก“ทำไมถึงไม่มีสิทธิ์ล่ะหม่ามี๊ หม่ามี๊ไม่ใช่ภรรยาของพ่อเหรอ หนูกับพี่ก็เป็นลูกของพ่อ พวกเราคือคนที่ใกล้ชิดกับเขาที่สุด พวกเราไม่มีสิทธิ์ แล้วใครมีสิทธิ์?”

วารุณีละสายตาลงไม่พูดจา

อารัณส่ายน่อง“ไอริณ นี่ไม่เหมือนกัน หม่ามี๊คือภรรยาของพ่อถูกแล้ว แต่ว่าพวกเรา ไม่ใช่ลูกชายลูกสาวแท้ๆของพ่อ ดังนั้นพวกเราไม่มีสิทธิ์ไปขอร้องพ่อ ตัวเองเข้าใจไหม?”

“ไม่ใช่ลูกชายลูกสาวแท้ๆของพ่อ……”ไอริณเหมือนถูกโจมตีใส่ หน้าเล็กๆที่สวยงามและน่ารักนั้น ก็หม่นลงไปทันที“หนูเข้าใจแล้ว หนูไม่พูดว่าไม่ให้คุณน้านวิยาเข้ามาอยู่ด้วยแล้ว”

“ไม่เป็นไร พี่ก็ไม่ชอบคุณน้านวิยา”อารัณเอาน้องสาวมากอดไว้ในอ้อมแขน“พอคุณน้านวิยาคนนั้นเข้ามาแล้ว พวกเราก็ไม่ต้องสนเธอก็พอ”

“อือ”ไอริณพยักหน้าแรงๆ

มองดูเด็กทั้งสองคนตอบโต้แล้ว ในใจของวารุณีก็เสียใจอย่างมาก

เธออดไม่ได้ที่จะทบทวนว่า ที่ตัวเองปิดบังตัวตนของลูกสองคนนี้มาตลอด ถูกแล้วจริงๆเหรอ?

ตัวเองควรพูดออกมาก่อนดีไหม?แบบนี้ไอริณกับอารัณ ก็จะไม่รู้สึกด้อยค่า เพราะคิดว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ๆของนัทธี

ตอนที่วารุณีกำลังคิดอยู่นั้น ทางห้องรับแขกก็มีเสียงเคลื่อนไหวอย่างวุ่นวายเข้ามา

“อะไรกันน่ะ?”อารัณถามอย่างสงสัย

วารุณีส่ายหน้า“หม่ามี๊ก็ไม่รู้ พวกลูกกินก่อนนะ หม่ามี๊จะไปดูเอง”

พูดจบ เธอก็ลุกขึ้น เดินไปที่ห้องรับแขก

ตอนเดินไปถึงห้องรับแขก วารุณีก็เห็นคนหลายคนอุ้มกระเป๋าเดินทางแต่ละใบเข้ามา ป้าส้มก็สั่งให้คนพวกนั้นเอากระเป๋าเดินทางขึ้นไปด้านบน

“ป้าส้ม”วารุณีเรียกเธอ

ป้าส้มหยุดสั่ง หันไปมอง“คุณผู้หญิง”

“เรื่องนี้……”วารุณีชี้ไปที่กระเป๋าบนมือของคนพวกนั้น

ป้าส้มถอนหายใจ“ก็ยัยนวิยานั่นแหละค่ะ พวกนี้เป็นกระเป๋าของเธอหมดเลย เธอจะย้ายเข้ามานี่คะ?ดังนั้นตอนนี้เลยให้คนเอากระเป๋าย้ายเข้ามา”

“ที่แท้ก็แบบนี้”วารุณีบีบฝ่ามือ

อาทิตย์หน้านวิยาถึงจะออกจากโรงพยาบาล ตอนนี้ก็ย้ายกระเป๋าเดินทางเข้ามา

คงรอไม่ไหวจริงๆสินะ

วารุณีไม่มีอารมณ์ดูต่อไป กลับไปที่ห้องทานข้าวอีกครั้ง

อารัณมองเธอ“หม่ามี๊ ด้านนอกเป็นอะไรเหรอ?”

วารุณีก็ไม่ได้ปิดบังเขา เอาเรื่องนั้นพูดออกมา

อารัณฟังจบ ไม่พูดอะไร มีแค่ไอริณที่ส่งเสียงไม่พอใจออกมา

อาหารค่ำจึงจบลงด้วยบรรยากาศคุกรุ่นเช่นนี้

อารัณไปห้องอ่านหนังสือของตัวเองเพื่อทบทวนบทเรียน ส่วนวารุณีพาไอริณไปเล่นที่ห้อง

เล่นไปถึงประมาณสี่ทุ่ม วารุณีจึงกล่อมเด็กทั้งสองให้หลับ แล้วไปอาบน้ำ

พออาบน้ำเสร็จ วารุณีก็หยิบไดร์เป่าผม เป่าผมตรงหน้ากระจก จู่ๆประตูห้องน้ำด้านหลังก็เปิดออก ร่างสูงใหญ่ก็เดินเข้ามาเบาๆ

วารุณียังไม่เห็น จนกระทั่งคนนั้นอยู่ด้านหลังเธอ เธอจึงเห็นเขาจากกระจก

“คุณกลับ……”

ยังพูดไม่เสร็จ ก็ถูกชายหนุ่มกอดจากด้านหลัง

มือทั้งสองข้างของชายหนุ่มกอดเอวเธอไว้ เอาหน้าซุกไปที่ไหล่และคอของเธอ สูดดมเต็มที่ เสียงที่พูดออกมานั้นแหบ“หอมจัง……”

วารุณีมองบนใส่เขาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“นี่ไม่ใช่กลิ่นหอมของสบู่อาบน้ำเหรอไงล่ะ?”

“ผมรู้ แต่ที่ตัวคุณ หอมกว่าในขวดอีก”มือนัทธีที่วางไว้ตรงเอวเธอก็ยิ่งรัดแน่น ทำให้ร่างของเธอแนบติดเขามากขึ้น

วารุณีปิดไดร์“กลับมาเมื่อไหร่?”

“ตอนคุณอาบน้ำ”นัทธีเงยหน้าขึ้นตอบ

วารุณีมองเขาผ่านกระจก“กินข้าวยัง?”

“อือ กินที่บริษัท”นัทธีจูบไปที่หน้าเธอ

วารุณีหดคอลง“พอแล้ว คุณรีบปล่อยเลย ผมฉันยังเป่าไม่แห้งเลย”

“ผมเป่าให้คุณเอง”

พูดไป มือใหญ่ๆของเขาก็หยิบไดร์ในมือเธอมาเปิด แล้วเป่าผมให้เธอ

เขากลัวจะทำเธอเจ็บ การกระทำจึงอ่อนโยนมาก

วารุณียืนอยู่ในอ้อมแขนเขาอย่างเชื่อฟัง ปล่อยให้เขาเล่นบนหัวเธอไป

แป๊บเดียว ผมก็เป่าจนแห้ง

นัทธีวางไดร์ลง

วารุณีเตรียมเก็บไดร์ ก็ถูกเขาจับหันหน้า ให้เธอสบตากับเขา

“ทำไมเหรอ?”

“อยากจูบคุณ”นัทธีมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง

วารุณีก็คิดว่าเพราะเรื่องของแม่เมื่อสองสามวันนี้ เลยเฉยเมยเขาไปมากจริงๆ จึงเขย่งเท้าขึ้น โอบคอของเขาไว้ แล้วเริ่มจูบก่อน

นัทธีดูคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้อย่างชัดเจน ก็ตะลึงก่อน จากนั้นมือใหญ่ๆก็โอบไปที่ท้ายทอยเธอ เปลี่ยนจากถูกกระทำเป็นผู้กระทำ ชิงอำนาจในการครอบงำ

ทั้งสองคนจูบอย่างเร่าร้อน ในห้องน้ำที่ใหญ่โต ก็สามารถได้ยินเสียงของคราบน้ำ

นัทธีก็ค่อยๆ ไม่พอใจกับการจูบอีกต่อไป มือใหญ่อีกข้างโอบเอวของเธอ เลื่อนขึ้นช้าๆ

วารุณีตระหนักได้ว่าเขาจะทำอะไร ก็ได้สติทันที จับมือเขาที่กำลังจะยื่นเข้าไปในเสื้อคลุมอาบน้ำเธอ“ไม่ได้!”

เธอหายใจหอบ ปฏิเสธด้วยเสียงอันนุ่มนวลเย้ายวน

นัทธีหอบเช่นกัน ใบหน้าหล่อเหลานั้นแดงก่ำ ริมฝีปากบางๆก็แดง ทั้งตัวนั้นเซ็กซี่อย่างมาก“ทำไม?”

เขาขมวดคิ้วหน่อยๆ ชัดเจนว่าไม่พอใจที่เธอปฏิเสธเขา

วารุณีเอาหน้าผากซุกไปที่อกของเขา“อันนั้นฉันมาอ่ะ”

“อันไหน?”นัทธียังไม่ได้สติคืนมา

จนกระทั่งวารุณีเตือนเขาเล็กน้อย เขาจึงรู้ตัวทันที จากนั้นความเร่าร้อนที่เต็มเปี่ยมก็ถูกดับลง ใบหน้าหล่อๆนั้นหมองหม่นลงไป

วารุณีเห็นแบบนี้ จึงยิ้มอย่างขอโทษ“ขอโทษนะนัทธี ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะมาวันนี้”

ยังไงซะหลังจากครั้งที่แล้วที่ท้องลม ประจำเดือนของเธอ ก็ดูเหมือนว่าจะมาไม่ตรงหน่อยๆ

นัทธีช่วยเธอจัดเสื้อคลุมอาบน้ำที่ยับเล็กน้อย“ไม่เป็นไร รอคุณหมดก่อนค่อยว่ากัน ผมอาบน้ำก่อน”

“โอเค”วารุณีพยักหน้า แล้วออกไป

พอเธอไป นัทธีจึงก้มหน้ามองจุดที่ตัวเองมีการตอบสนอง ก็รู้สึกปวดหัว

หมดหนทาง นัทธีได้แต่เปิดฝักบัว ใช้น้ำเย็นชำระล้างร่างกาย

แป๊บเดียว ความร้อนในร่างกายเขาก็ลดลง ทุกส่วนก็เริ่มสงบลง

นัทธีสูดหายใจเล็กน้อย แล้วเริ่มอาบน้ำ

พอเขาอาบน้ำเสร็จออกมา วารุณีก็นอนอยู่บนเตียง ใกล้จะหลับ

เพราะสองสามวันนี้งานศพของแม่ เธอไปนั่นไปนี่ตลอด แทบไม่ได้พักผ่อน ตอนนี้พอว่างมาหน่อย หัวถึงหมอนก็แทบจะหลับแล้ว

นัทธีก็ไม่ได้จะปลุกเธอให้ตื่น เดินไปเบาๆ เปิดผ้าห่มแล้วนอนลง เอาเธอมากอดไว้ในอ้อมแขน

วารุณีเหมือนจะรู้สึกได้ ก็พลิกตัว เอาหน้าไปถูไถที่หน้าอกของเขาอย่างเป็นธรรมชาติ“คุณอาบเสร็จแล้วเหรอ?”

เธอบ่นพึมพำ

นัทธีตอบอืออย่างอ่อนโยน“โอเค นอนเถอะ”

“โอเค คุณก็รีบนอน ฝันดีนะ”วารุณีหาว แล้วก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง

นัทธีจูบไปที่หน้าผากของเธอ“ฝันดี”

ค่ำคืนนี้จึงผ่านไปด้วยดี

วันถัดมา ที่โต๊ะอาหาร

วารุณีคิดอะไรได้ ก็วางแก้วนมลง มองชายหนุ่มที่หัวโต๊ะ“ใช่สินัทธี ฉันทำสตูดิโอห้องหนึ่งในบ้านได้ไหม?บางครั้งมีเสื้อผ้าสั่งตัดส่วนตัวอย่างด่วน ฉันจะได้เอากลับมาทำได้”

“นี่คือบ้านของคุณ คุณตัดสินใจเองได้เลย ไม่ต้องถามผม”นัทธีจิบกาแฟแล้วตอบ

วารุณีพยักหน้ายิ้มๆ“คุณพูดแบบนี้ งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ เดี๋ยวฉันติดต่อทีมงานมืออาชีพให้มาติดตั้งเครื่องจักร สองสามชั่วโมงก็ทำเสร็จแล้ว”

“แล้วแต่คุณเลย”นัทธีเงยคางขึ้น

ทานข้าวเสร็จ เขาก็พาเด็กทั้งสองคนออกไปจากบ้าน

วารุณีอยู่ที่คฤหาสน์ รอทีมตกแต่งมา

พวกเขามาไว้มาก ประมาณสิบโมงก็มาถึงแล้ว

วารุณีมองพวกเขาตกแต่งตลอดกระบวนการ ในเวลาหนึ่งชั่วโมงสั้นๆ สตูดิโอของเธอก็เป็นรูปเป็นร่าง

พอเห็นว่าพอประมาณแล้ว สายตาวารุณีก็เป็นประกาย หาเหตุผลให้ป้าส้มออกไป จากนั้นถามหนึ่งในทีมตกแต่งว่า:“เอาของมาด้วยไหม?