ตลอดเวลาจากโรงงานทำตัวอย่างออกมา จนถึงซูสือจิ่นได้รับกิ๊บผมสั่งทำอันนั้น
เธอถ่ายรูปผลิตภัณฑ์ ให้เพื่อนร่วมงานติดต่อลูกค้าคนนั้น
ไม่นานเพื่อนร่วมงานก็หยิบบิลอันนั้นมา “Fiona ลูกค้าว่า อยากใส่หนึ่งประโยคข้างใน เขาว่าเพื่อความสะดวก เขาบอกกับคุณเองดีกว่า ก็ไม่ต้องให้ฉันเป็นคนกลางแล้ว!”
พูดอยู่เอาหมายเลขยื่นไป “นี่เป็นเลขของลูกค้า”
ซูสือจิ่นพยักหน้า รับมาหยิบบิลเดินไปหน้าคอมพิวเตอร์ กรอกเลขหมาย
สถานะของลูกค้าออนไลน์อยู่พอดี ซูสือจิ่นพิมพ์ตัวหนังสือเป็นแถว“สวัสดีค่ะ ฉัน Fiona เป็นดีไซเนอร์ คุณต้องการเติมคำพูดอะไร ส่งมาให้ฉันก็พอ ฉันมาจัดพิมพ์”
ชื่อเล่นของอีกฝ่ายเป็น ZJ เขาตอบ “เพิ่มประโยคหนึ่ง ตอนแต่งงานกับคุณ ผมเอาแต่คิด จะตีจากคุณยังไง แต่หลังหย่ากับคุณ ผมกลับเอาแต่คิด จะดึงคุณกลับมายังไง ขอโทษ ผมรักคุณ”
ซูสือจิ่นเห็นคำพูดนี้ หัวใจหนักอึ้ง
เพียงแต่ บนโลกนี้มีบังเอิญมากมาย เธอไม่ได้คิดมาก กลับพูดว่า “ค่ะ ฉันจะสลักคำพูดนี้ลงในใต้กล่อง คุณZJ ตอนนี้ต้องลงบันทึกข้อมูลตัวตนของคุณและคนที่คุณจะมอบของให้แล้ว!”
“ได้” ไม่นานZJก็ส่งข้อมูลตัวตนมา
ตอนซูสือจิ่นเปิดออก ดวงตาเบิกโต มองไม่ละสายตาอยู่นาน
เห็นแค่ชื่อคนส่งคือ หยานชิงเจ๋อ
และคนรับของคือ ซูสือจิ่น
ในข้อมูล มีข้อมูลของทั้งสองคนและรูปถ่ายหลายใบ สะดวกต่อการบันทึก
ซูสือจิ่นรู้สึกใจตัวเองเต้น กระแทกตรงหน้าอกตลอด ถึงขนาดมือเธอที่วางอยู่บนแป้นพิมพ์ ก็สั่นไม่หยุด
ครึ่งค่อนวัน เธอถึงคิดได้ ตัวเองเป็นFiona
ดังนั้น ซูสือจิ่นสูดลมหายใจ “คุณหยาน? คุณแน่ใจหรือ? เพราะข้อมูลหากเข้าสู่ระบบ หลังจากส่งของขวัญไป คุณก็ไม่สามารถแจ้งพวกเรา OnlyOne ให้ส่งของขวัญไปให้คนอื่นแล้ว”
หยานชิงเจ๋อตอบอย่างรวดเร็ว “เดิมผมก็ไม่คิดจะส่งของขวัญให้ใครนอกจากเธอ”
ซูสือจิ่นรู้สึกตัวเองหายใจถี่ เธอพิมพ์อยู่หลายครั้ง สุดท้ายถึงพิมพ์ถูก “ค่ะ งั้นฉันตอนนี้บันทึกเข้าระบบ แต่คุณต้องบอกที่อยู่เธอกับฉัน”
อีกด้านของเครือข่าย หยานชิงเจ๋อมองหน้าจอ ลังเลอยู่นาน
ถ้าหากเขาเขียนที่อยู่เธอตอนนี้ ก็จะเฉลยออกมาใช่ไหม ที่จริงเขาหาเธอเจอนานแล้ว?
เธอจะคิดว่าตัวเขาใช้โอกาสทุกครั้งที่โทรกับเธอ ยืนยันตำแหน่งของเธอหรือเปล่า?
ถ้าหากแบบนี้ ทำเธอตกใจ เธอย้ายที่อยู่ ยังหาที่ที่เขาหาไม่เจอจะทำยังไง?
ถ้าหาก เธอโกรธ หลังจากนี้ไม่รับสายเขาจะทำยังไง?
เขาไม่เคยคิดว่าด้านความรักของตัวเอง ห่วงหน้าพะวงหลังกลัวสูญเสียแบบนี้
ดังนั้น เขาตอบกลับ “ได้ ผมจะส่งให้คุณเดี๋ยวนี้”
ซูสือจิ่นเห็นหยานชิงเจ๋อส่งที่อยู่ตัวเองที่เมืองหนิงเฉิงมา ใจที่ตื่นเต้นก็ลดลงเล็กน้อย
ซูสือจิ่นส่งใบคอนเฟิร์มให้หยานชิงเจ๋อ ถึงจบการสนทนา
เธอปิดหน้าต่างพูดคุย แล้วมองวันส่งของขวัญของหยานชิงเจ๋อ
ที่แท้ วันที่เขากำหนดส่งของขวัญวันนั้นเป็นวันเกิดของเธอเอง!
หลังจากเธอจากหนิงเฉิง ก็ตั้งใจมองข้าม ทั้งเรื่องวันเกิดก็ดี วันครบรอบก็ช่าง
หากไม่ใช่หยานชิงเจ๋อเพิ่งจองของขวัญ เธอก็ลืมแล้วว่าตัวเองอายุมากขึ้นอีกปี
ก่อนหน้านี้เธอรับปากพ่อ ก่อนวันเกิดหนึ่งวันจะกลับบ้าน
เพราะฉะนั้น…
ซูสือจิ่นคิดถึงตรงนี้ ตัวเองมีความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
เหลือเวลาหนึ่งเดือนกว่าจะถึงวันนั้น เธอจะกลับไปเจอเขาแบบนี้จริงๆเหรอ?
เธอรู้สึกหัวใจตัวเองทั้งสับสนและลังเล เหมือนก้นบึ้งจิตใจมีสองความคิด กำลังต่อสู้กันไม่หยุด
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ใกล้ถึงฤดูใบไม้ร่วง
ก่อนหน้านี้ ซูสือจิ่นตั้งใจไว้ก็คือ วันเกิดกลับบ้านไปพร้อมติดต่อโรงงานในประเทศ แล้วกลับมาที่ทำงาน โยกย้ายงานทั้งหมดให้เรียบร้อย วันส่งท้ายปีเก่าค่อยกลับเมืองหนิงเฉิง
หลังจากนั้น อยู่เป็นเพื่อนพ่อตัวเองที่เมืองหนิงเฉิง
แต่ตอนเธอซื้อตั๋วเครื่องบิน ตอนขึ้นเครื่อง จู่ ๆเธอก็คิดตัวเองกลับไปครั้งนี้ จะไม่ถูกหยานชิงเจ๋อทำให้ว้าวุ่นเหรอ?
เครื่องบินทะยานขึ้นฟ้า ซูสือจิ่นใช้เวลาเดินทาง 10 กว่าชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงเมืองหนิงเฉิง
เพราะก่อนหน้านี้รับปากลั่วฝานหวา ดังนั้นเธอส่งข้อมูลไฟลต์บินตัวเองให้ลั่วฝานหวาแล้ว
ซูสือจิ่นลงเครื่อง เขาก็โทรมา “ซื่อจิ่น ผมอยู่ประตู B ขาเข้าระหว่างประเทศ รอคุณ ”
“อืม ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” ซูสือจิ่นตอบ
เธอออกจากช่องออก ก็เห็นลั่วฝานหวายืนอยู่ประตูตรงนั้นไกลๆ เทียบกับคนที่ยกป้ายพวกนั้น เด่นชัดกว่ามาก
ซูสือจิ่นโบกมือให้เขา จนเดินไปถึงตรงหน้า ยังไม่ทันได้พูด ลั่วฝานหวาอ้าแขนกอดเธอ “ยินดีต้อนรับกลับมา!”
ซูสือจิ่นหัวเราะ ออกจากอ้อมกอดลั่วฝานหวา “คุณรู้ไหม ฉันเห็นคุณยืนอยู่ตรงนั้นจากที่ไกลๆ นกกระเรียนในฝูงไก่! (โดดเด่นกว่าใคร)”
ลั่วฝานหวาแสร้งขมวดคิ้ว“นกกระเรียนในฝูงไก่เป็นคำชมใช่ไหม? ทำไมผมรู้สึกคุณใช้มันแล้วดูชอบกลล่ะ?”
“ช่วยไม่ได้ เรียนมาน้อย แสดงออกไม่เก่ง”ซูสือจิ่นแลบลิ้น
“พอได้แล้ว ครั้งนี้ประพฤติตัวดี รู้ว่าควรแจ้งผมทันที! เพราะฉะนั้นให้รางวัล พาคุณไปกินของอร่อยสักมื้อ!”ลั่วฝานหวา
พูดอยู่ ก็ลากกระเป๋าของซูสือจิ่น “ไม่นานมานี้เจอร้านอาหารเปิดใหม่ร้านหนึ่ง รสชาติใช้ได้ พาคุณไปชิม!”
“ได้เลย!” ซูสือจิ่นพยักหน้า “ฉันกินอาหารต่างประเทศพวกนั้นจนเอียนแล้ว เปลี่ยนรสชาติก็ดีเหมือนกัน”
“เอียนก็กลับมาเถอะ” ลั่วฝานหวาพูด “ครั้งนี้อยู่นานแค่ไหน?”
“คิดว่าอย่างต่ำประมาณครึ่งเดือน” ซูสือจิ่นพูด “ต้องติดต่อโรงงาน แล้วยังต้องดูประสบการณ์การทำงานต่างๆไม่มีปัญหาแล้ว ถึงกลับไปย้ายของกลับมา”
“อืม” ลั่วฝานหวาพยักหน้า พร้อมกับพูด “หยานชิงเจ๋อรู้ว่าคุณกลับมาไหม?”
ซูสือจิ่นส่ายหน้า “ยังไม่รู้ แต่ฉันจะบอกเขา”
“คิดดีแล้ว?” ลั่วฝานหวาเอากระเป๋าของซูสือจิ่นไปวางท้ายรถ ช่วยเธอเปิดประตูข้างคนขับ
“ยัง”ซูสือจิ่นมองทางลั่วฝานหวา “รอคุณบอกวิธีนั้นกับฉันอยู่นี่ไง”
ลั่วฝานหวาหัวเราะ “หา ยังคิดเรื่องนั้นอยู่อีก? งั้นอีกสองวันลงมือกันเลย!”
ซูสือจิ่นกะพริบตา “เร็วขนาดนั้นเลย?” ทำให้ตอนนี้เธอตื่นเต้นนิดๆ
“ถ้าหากคุณคิดว่าเร็ว ตอนคุณกลับมาครั้งหน้าค่อยว่ากันก็ได้”ลั่วฝานหวาสตาร์ทรถ
“เร็วหน่อยดีกว่า!”ซูสือจิ่นยักไหล่ “จบเร็วเริ่มต้นใหม่เร็ว!”
ทั้งสองคนถึงร้านอาหาร ลั่วฝานหวาสั่งอาหาร ยื่นเมนูให้พนักงาน หยิบแก้วบนโต๊ะขึ้นดื่ม เงยหน้าพูดกับซูสือจิ่น “จริงสิ ผมใกล้จะหมั้นแล้ว”
“หา?” ซูสือจิ่นตกใจ “เร็วขนาดนี้เลย?!” ช่วงเวลาแค่ 2 เดือนกว่าหลังจากที่พวกเขาเจอหน้ากัน และเขาบอกว่าจะดูตัว
“คุณก็รู้ การจับคู่สมัยนี้เป็นแบบนี้ทั้งนั้น เจอหน้ากัน รู้สึกได้เข้ากันได้ ก็ลองศึกษากันก่อน ถ้าหากไม่คัดค้าน งั้นก็
สามารถปรึกษาวันหมั้นและการร่วมธุรกิจของสองตระกูลได้แล้ว” ลั่วฝานหวาพูดอย่างเป็นธรรมชาติ
ซูสือจิ่นพยักหน้า “ก็จริง เพียงแต่คุณชอบเธอไหม?”
ลั่วฝานหวาคิด “เฉยๆ ค่อยๆศึกษากันไป!”
“อืมๆ” ซูสือจิ่นพูด “ลูกสาวตระกูลไหน? ฉันรู้จักไหม?”
ลั่วฝานหวาพยักหน้า “คุณน่าจะเคยได้ยิน แก่กว่าคุณ 2 ปี จินเยว่ฉีจากตระกูลจิน ”
ซูสือจิ่นตาเป็นประกาย “อ้อๆ ฉันเคยได้ยินเรื่องเธอ! พี่เสี่ยวถางรู้จักเธอ ก่อนหน้านี้ฉันเคยเจอสองครั้ง แค่ทักทายกัน รู้สึกว่าใช้ได้”
“อืม เป็นผู้หญิงที่เรียบง่ายตรงไปตรงมาคนหนึ่ง”ลั่วฝานหวาพูด “ไว้วันหน้าชวนเธอออกมา ผมแนะนำพวกคุณให้รู้จักกัน”
“ได้เลย!”ซูสือจิ่นพยักหน้า “ยังไงช่วงนี้ฉันอยู่นี่ตลอด โทรหาฉันได้ตลอดเวลา”
“ตกลง”ลั่วฝานหวาพูด“ส่วนเรื่องทดสอบหยานชิงเจ๋อ ถึงเวลาผมค่อยบอกคุณ”
“ขอบใจนะ!”ซูสือจิ่นยิ้ม
ทั้งสองกินข้าวด้วยกันเสร็จ ลั่วฝานหวาขับรถ พร้อมเปิดวิทยุในรถ
ปกติเขาชอบฟังเพลงขับรถไปทำงาน ตอนนี้กำลังปรับคลื่นสถานีเพลง
ได้ยินแค่เสียงผู้หญิงร้อง “(เพลง)ลืม… มันไม่ง่ายเลยที่จะลืมสิ่งที่เราคุยกัน ไม่โทษเธอหรอก เพราะฉันเปราะบางกับเรื่องนี้ความรู้สึกลึกๆเหมือนอยู่ก้นทะเล ความรักที่แท้จริง ไม่สามารถเอาใครมาเทียบกับใครได้ สิ่งเหล่านี้มันไม่เคยอยู่ในสายตาเธอ…”
ซูสือจิ่นสะดุ้งไปทั้งตัว นี่ไม่ใช่ เพลงนั้นที่เธอได้ยินตอนเธอตัดสินใจหย่ากับหยานชิงเจ๋อเหรอ?
มือเธอกำแน่นอย่างห้ามไม่ได้ สายตามองไปนอกหน้าตา
“ไม่ได้กลับมานาน รู้สึกไหมว่าที่นี่เปลี่ยนไปไม่น้อย?” ลั่วฝานหวาที่อยู่ด้านข้างพูด
“อืม แต่ยังคงคุ้นเคย…”ซูสือจิ่นใจลอยนิดๆ
เสียงหญิงสาวร้องต่อไป “(เพลง)แต่น่าเสียดาย เพราะสุดท้าย ฉันเสียเธอไป ขอโทษนะ ฉันพยายามแล้ว ฉันไม่ได้ทิ้ง เพียงแต่ไม่เจอเธอ นึกว่าแบบนี้ตัวเองจะไม่เจ็บ…”
จำได้ ตอนเธอฟังเพลงนี้ สิ้นหวังจนแทบหายใจไม่ออก แต่ตอนนี้…
ซูสือจิ่นนึกถึงการเปลี่ยนแปลงของหยานชิงเจ๋อ แม้ดูไม่ออกว่าเขาหลงรักเธอจริงๆหรือเปล่า แต่เธอก็เริ่มเชื่อ บนโลกใบนี้บางทีก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นจริง
“(เพลง)น่าเสียดายพวกเราย้อนกลับไม่ได้ การร้องไห้เสียใจ ยิ่งทำให้หนักกว่าเดิม ฉันปฏิเสธความรักของคนอื่นมาตลอด เพียงเพราะเธอไม่ชัดเจน… ”
เธออยู่ต่างประเทศมีคนตามจีบไม่ขาด ยังมีลั่วฝานหวาที่ดีพร้อม แต่เธอแกล้งโง่หรือปฏิเสธไป หรือจริงๆ แล้ว ในจิตใต้สำนึกเธอยังวางมันไม่ลง?
ซูสือจิ่นตกอยู่ในภวังค์
ด้านข้าง ลั่วฝานหวาเรียกเธอหลายรอบ “ซื่อจิ่น ถึงบ้านแล้ว”
“อา?” ซูสือจิ่นถึงรู้ตัว
“เอ๋อไปแล้ว? จำประตูบ้านตัวเองไม่ได้?” ลั่วฝานหวายิ้ม เปิดประตูรถ ไปเปิดประตูให้ซูสือจิ่น แล้วยกกระเป๋าเธอออกมา
ซูเผิงฮวาอยู่บ้าน เห็นลั่วฝานหวา ยังเชิญเขาเข้ามาดื่มน้ำชาด้วยกันก่อน ยังคุยกันนิดหน่อย
ตอนกลางคืน ซูสือจิ่นเดินไปส่งลั่วฝานหวา หยิบมือถือขึ้น โทรหาสือมูเฉิน
เวลานี้ สือมูเฉินอยู่ด้วยกันกับหลานเสี่ยวถางพอดี อุ้มหวันหว่านเดินเล่นนอกคฤหาสน์ รู้สึกมือถือสั่น เขาหยิบขึ้นมารับสาย “สวัสดีครับ”
“พี่เฉิน ฉันเอง ฉันกลับมาแล้ว” ซูสือจิ่นรู้สึกหัวใจตัวเองเต้นเร็วขึ้น