บทที่ 243 ตอนนี้คุณน่ารักจัง!

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“เฟิงหานชวน คุณอย่ากวนฉัน คุณรับโทรศัพท์ก่อน!” เฉินฮวนฮวนกล่าวอย่างกังวล ดวงตายังคงหลับแน่น

  

เฟิงหานชวนไม่แกล้งเธออีกต่อไป เขารับสายทันที และกดเปิดลำโพง

  

เสียงอ่อนหวานของหญิงสาวดังมาจากเครื่องรับสัญญาณเสียง “หานชวน ทำไมนานจังกว่าจะรับโทรศัพท์”

เสียงของหลีซืออวิ๋นเหมือนกับตัวเธอ ทำให้คนรู้สึกว่าเธอช่างมีเสน่ห์เฉพาะตัว และงดงามเหลือเกิน

  

เฉินฮวนฮวนค่อยๆ ลืมตาทั้งสองข้าง และเงยหน้าขึ้น ตรงหน้าเธอคือใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม

เธอไม่คิดว่า เฟิงหานชวนจะอยู่ตรงหน้าเธอ และเปิดลำโพงให้เธอได้ยินเสียงของหลีซืออวิ๋น

  

ตามคำกล่าวที่ว่า มิได้กระทำเรื่องผิดมโนธรรม ย่อมไม่กลัวผีสางมาเคาะประตู เฟิงหานชวนคุยโทรศัพท์กับหลีซืออวิ๋นอย่างเปิดเผยต่อหน้าเธอเช่นนี้ ต้องเป็นความสัมพันธ์เพื่อนที่บริสุทธิ์ใจต่อกันมากอย่างแน่นอน

  

“มือถือไม่อยู่ข้างๆ มีเรื่องอะไร” เฟิงหานชวนเอ่ยถามอย่างเรียบเฉย

“คืออย่างนี้นะ พรุ่งนี้ตอนกลางวันนายว่างไหม พ่อฉันมีโปรเจคหนึ่ง ท่านจะส่งฉันกับนายไปคุยโปรเจคนี้ ไม่รู้ว่านายจะสนใจไหม” หลีซืออวิ๋นหัวเราะอย่างนุ่มนวล น้ำเสียงของเธอแฝงความขี้เล่นเล็กน้อย

  

โดยเฉพาะเสียงหัวเราะนั้น ช่างไพเราะเหลือเกิน ทำให้เฉินฮวนฮวนรู้สึกรื่นหูอย่างมาก

เธอกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งในทันที เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้เฟิงหานชวนยังไม่สวมเสื้อผ้า เธอรีบเดินไปที่อ่างล้างหน้า แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ก่อนจะมาหยุดยืนข้างหลังเฟิงหานชวน

เธอคลี่ผ้าเช็ดตัวออก และช่วยเฟิงหานชวนเช็ดหยดน้ำบนร่างกายของเขา จากนั้นก็ช่วยเขาพันผ้าเช็ดตัวปกปิดส่วนสำคัญเอาไว้

  

ในเวลานี้เอง เสียงทุ้มต่ำของเฟิงหานชวนดังขึ้น “ไม่ต้องรบกวนเธอมาเองหรอก พรุ่งนี้ฉันจะให้ซูอวี่ไปที่หลีซื่อกรุ๊ป เขาสามารถแสดงความเห็นแทนฉันได้”

  

“หะ?” หลีซืออวิ๋นไม่ได้ตอบสนองในทันที

  

และมือของเฉินฮวนฮวนที่กำลังผูกปมผ้าเช็ดตัวก็หยุดชะงักลงทันที เฟิงหานชวนตอบแบบนี้…ไม่มีเหตุผลเกินไปหรือเปล่า

  

“หานชวน ช่วงนี้นายไม่ค่อยสบายเหรอ ถ้านายไม่สบาย อีกสองสามวันฉันค่อยไปคุยกับนายแล้วกัน” หลีซืออวิ๋นไม่เข้าใจว่าทำไมเฟิงหานชวนถึงปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้

  

เขาไม่อยากพบเธอ หรือว่าไม่อยากร่วมงานกับหลีซื่อกรุ๊ป?

  

เฟิงหานชวนรู้สึกได้ว่ามือของเฉินฮวนฮวนชะงักค้างอยู่กลางอากาศ เขาก้มหน้าลงมองเล็กน้อย ฝ่ามือใหญ่กุมมือเล็กๆ ของเฉินฮวนฮวนเอาไว้ ราวกับมอบความรู้สึกปลอดภัยให้เธอ

  

เฉินฮวนฮวนรีบชักมือออก และช่วยเฟิงหานชวนผูกปมผ้าเช็ดตัว จากนั้นก็เดินเลี่ยงไปทางด้านข้างลำตัวของเขา แล้วรีบเดินออกไปจากห้องน้ำ

  

เมื่อเห็นว่า จู่ๆ เฉินฮวนฮวนออกไป เขาคิดว่าเธอให้ความสนใจกับหลีซืออวิ๋นเป็นพิเศษ เฟิงหานชวนตอบกลับอย่างเรียบเฉย “ฉันค่อนข้างยุ่ง วางสายก่อนนะ”

  

ดังนั้น เฟิงหานชวนจึงตัดสายทิ้งทันที แล้วตามออกไป

  

ทันทีที่เฉินฮวนฮวนนั่งลงข้างเตียง เฟิงหานชวนก็รีบออกมา เธอมองชายหนุ่มที่เดินสาวเท้ายาวๆ มาหยุดตรงหน้าเธอด้วยความงุนงง เธอถามอย่างสงสัย “ทำไมคุณออกมาแล้วล่ะ”

 

“คุณโกรธใช่ไหม ผมตั้งใจเปิดลำโพงเลยนะ ผมกับเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์อื่นจริงๆ” เดิมทีเฟิงหานชวนคิดว่าตัวเองเปิดลำโพง จะสามารถขจัดความสงสัยของเฉินฮวนฮวน แต่ไม่คิดเลยว่าเฉินฮวนฮวนจะยังโกรธเขา

  

“ฉันไม่ได้โกรธนะ!” เฉินฮวนฮวนส่ายหน้าด้วยความงงงวย ก่อนจะกล่าวอธิบาย “ฉันเห็นคุณไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ก็เลยช่วยคุณนุ่งผ้าเช็ดตัว คุณคุยโทรศัพท์กับหลีซืออวิ๋น ฉันแอบฟังอยู่ข้างๆ ไม่ได้หรอกใช่ไหม ดังนั้น ฉันก็เลยเดินออกมา”

  

เมื่อได้ฟังคำตอบของเฉินฮวนฮวน เฟิงหานชวนถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะของหญิงสาว และกล่าวว่า “เมื่อกี้ผมตกใจแทบแย่ คุณรู้ไหม จู่ๆ ก็วิ่งออกไป ผมคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดซะอีก”

“พรืด” เมื่อมองไปที่เฟิงหานชวนผู้เคร่งขรึมและจริงจัง นึกไม่ถึงว่า เขาจะแสดงสีหน้าตื่นตระหนก เฉินฮวนฮวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

  

“อาหาน ตอนนี้คุณน่ารักจัง!” เฉินฮวนฮวนยิ้มจนดวงตาทั้งสองโค้งเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว

  

“คนที่น่ารัก ควรเป็นคุณนะ” เฟิงหานชวนรู้สึกว่า ตอนนี้เฉินฮวนฮวนต่างหากที่น่ารัก

รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินฮวนฮวนยิ่งแย้มกว้างขึ้นไปอีก เธอกล่าวว่า “เมื่อกี้ฉันได้ยินว่าหลีซืออวิ๋นอยากร่วมโปรเจคกับคุณ ใช่ไหม”

 

“ใช่ แต่ผมจะปฏิเสธ ผมพยายามรักษาระยะห่างกับเธอ จะได้ไม่ทำให้คุณกังวลอีก” เฟิงหานชวนรู้สึกว่า ตอนนี้ใครก็เทียบกับเฉินฮวนฮวนไม่ได้ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของเขากับหลีซืออวิ๋น ก็ไม่ได้แนบแน่นขนาดนั้น

เหตุผลที่เขาค่อนข้างสนิทกับหลีซืออวิ๋น เพราะว่าเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของมั่วเหวินโจว และเมื่อก่อนผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลหลีเคยดูแลเขาเป็นอย่างดี ท่าทีที่เขามีต่อหลีซืออวิ๋น อันที่จริงเป็นความเกรงใจและมารยาทมากกว่า

  

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ก่อนหน้านี้ฉันคิดฟุ้งซ่านเอง ระหว่างพวกคุณก็เป็นความสัมพันธ์เพื่อนที่บริสุทธิ์ใจต่อกันมาก ไม่ต้องรักษาระยะห่างเพื่อฉันหรอก แบบนี้กลับดูเหมือนว่าฉันใจแคบมากด้วยซ้ำไป” เฉินฮวนฮวนโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า

  

เธอคิดว่าถ้าเป็นเพราะตัวเองจริงๆ ที่ทำให้เฟิงหานถอยห่างเพื่อนอย่างหลีซื่ออวิ๋น เธอจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีเหตุผลมาก

  

“ฮวนฮวน ตอนนี้ผมเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว รักษาระยะห่างกับผู้หญิงโสด ก็เป็นสิ่งที่สมควรแล้ว” เฟิงหานชวนย่อตัวลงนั่งยองตรงหน้าเฉินฮวนฮวน และกุมมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “จากนี้ไปข้างกายผม มีเพียงคุณเท่านั้นที่เป็นเพศตรงข้าม”

  

“พวกคุณเป็นเพื่อนกัน ก่อนหน้านี้ฉันคิดมากเกินไป ไม่จำเป็นต้องรักษาระยะห่างเพราะฉันหรอก” เฉินฮวนฮวนไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นผู้หญิงใจแคบแบบนั้น

  

“ผมเข้าใจความหมายของคุณ คุณวางใจเถอะ ผมมีความพอดี” เฟิงหานชวนก้มศีรษะลง จูบลงบนหลังมือของหญิงสาว จากนั้นก็ยกมือขึ้นลูบศีรษะเธอเบาๆ

  

เมื่อเห็นว่าเฟิงหานชวนรับปากตัวเองแล้ว เฉินฮวนฮวนพยักหน้า แล้วกล่าวเร่งเร้า “คุณรีบไปล้างหน้าแปรงฟันเถอะ”

  

เธอรู้ว่าเฟิงหานชวนเพิ่งอาบน้ำ แต่ยังไม่ได้แปรงฟันและล้างหน้า ดังนั้นเธอจึงเร่งเร้าให้เฟิงหานชวนไปห้องน้ำอีกครั้ง เพราะเธออยากรีบข้ามหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับหลีซืออวิ๋น  

“โอเค คุณนอนก่อนเลย” เฟิงหานชวนลุกขึ้นยืน แล้วโน้มตัวลงจูบที่หน้าผากเธอ แล้วก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป

  

ในเวลานี้เอง ผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่รอบเอวเขาค่อยๆ คลายออก จากนั้น เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที ผ้าเช็ดตัวก็ตกลงพื้นทันที

  

เฉินฮวนฮวนเพิ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดกับตาตัวเอง เธอตกตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก รูม่านตาขยายกว้างขึ้นหลายเท่าตัว

  

ทว่า เฟิงหานชวนกลับสงบนิ่งมาก เขาโน้มตัวลงเก็บผ้าเช็ดตัวบนพื้น และยืนผงาดขึ้นอย่างสง่าผ่าเผยอยู่ตรงหน้าเฉินฮวนฮวน ไม่มีท่าทีหลบเลี่ยงเลยแม้แต่น้อย เขาค่อยๆ พันผ้ารอบเอวอย่างไม่รีบร้อน

  

“ฮวนฮวน ฝีมือการผูกปมผ้าเช็ดตัวของคุณตกไปเยอะเลยนะ มันถึงหล่นลงง่ายๆ แบบนี้ไง” หลังจากเฟิงหานชวนผูกปมผ้าเช็ดตัวเสร็จ เขาก็ไม่ลืมที่จะหยอกล้อเฉินฮวนฮวน

  

เฉินฮวนฮวนกรีดร้องเสียงแหลม แล้วเอาผ้าห่มคลุมศีรษะตัวเองทันที เพียงแต่น่าเสียดายที่เธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว ตอนนี้สายเกินไปแล้วที่จะคลุมศีรษะตัวเอง

  

ทว่า ตอนนี้ใบหน้าของเธอแดงมาก หากการปกคลุมใบหน้า ทำให้อุณหภูมิบนใบหน้าลดต่ำลงได้ก็คงดี

  

ทันทีที่เธอคิดเช่นนั้น ผ้าห่มที่คลุมบนศีรษะของเธอก็ถูกดึงออก ใบหน้าเคร่งขรึมของชายหนุ่มก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ

“เฟิงหานชวน” เฉินฮวนฮวนเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่ของเธอเต็มไปด้วยความเขินอาย

  

“ฮวนฮวน คุณรู้ไหม” เฟิงหานชวนเหยียดยิ้ม ก่อนเคลื่อนริมฝีปากแนบชิดข้างใบหูของเธอ และกล่าวน้ำเสียงคลุมเครือ “เมื่อกี้ในห้องน้ำ ตอนคุณช่วยผมเช็ดตัว…”