บทที่ 376 ผู้บุกรุกกลางดึก

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 376 ผู้บุกรุกกลางดึก
บทที่ 376 ผู้บุกรุกกลางดึก

ครู่ต่อมา ซูอันเริ่มถอนเข็มเงินออกจากร่างกายของฉู่ชูเหยียนทีละเล่มก่อนที่จะถามว่า “ตอนนี้เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง?”

“ข้ารู้สึกเหมือน… ข้ากำลังแช่ในบ่อน้ำพุร้อนที่อุ่นสบาย” ฉู่ชูเหยียน ประหลาดใจ นางเคยรู้สึกว่าร่างกายของนางเย็นยะเยือกเสมอ และนางรู้สึกเหมือนมีก้อนน้ำแข็งอยู่ในท้องของนาง แม้ว่าความรู้สึกนั้นยังไม่หายไปอย่างหมดจด แต่ก็รู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก

แม้ว่านางจะไม่มีความรู้ทางการแพทย์ แต่ก็สามารถบอกได้ว่าวิธีการรักษานี้ได้ผล

“ตราบใดที่เรารักษาด้วยวิธีนี้ต่อไปอีกสามเดือน เราจะสามารถรักษาเจ้าจนหายดีได้” ซูอันกล่าวขณะที่เขาดึงเข็มต่อไปโดยไม่ลืมที่จะชื่นชมร่างกายของนางไปด้วย

เมื่อถึงจุดนี้ ฉู่ชูเหยียนได้คุ้นเคยกับสายตาของเขาแล้ว นางคิดว่าเขาก็ได้เห็นทุกสิ่งที่มองเห็นแล้ว ไม่สำคัญว่าเขามองเพิ่มเติมหรือไม่

“ใช้เวลานานขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉู่ชูเหยียนถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

เมื่อพิจารณาถึงศัตรูที่ตระกูลฉู่มีในขณะนี้ นางไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นรู้สภาพอาการเจ็บป่วยของนางได้

“นี่เป็นเหตุผลที่เจ้าควรตัดสินใจให้ข้าย้ายมาอยู่กับเจ้า มันจะง่ายกว่ามากที่ข้าจะฝังเข็มให้เจ้าเมื่อเราอยู่ในห้องเดียวกัน” ซูอันเสนออย่างยินดี

“ให้เวลาข้าหน่อยได้ไหม? ข้า…ยังไม่พร้อมจริง ๆ” ฉู่ชูเหยียนถามด้วยน้ำเสียงวิงวอน

ซูอันผ่อนปรนเล็กน้อย “แต่มันคงจะน่าสงสัยถ้าข้าแวะมาที่ห้องของเจ้าทุกวัน!”

ฉู่ชูเหยียนเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะพูดว่า “เจ้าแวะมาได้ตอนกลางดึก ดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นเจ้า แล้วข้าจะเปิดประตูให้”

“จริง ๆ นะ?” ดวงตาของซูอันเป็นประกาย

ปฏิกิริยาที่ดูยินดีของเขาทำให้ฉู่ชูเหยียนตกตะลึง นางชี้แจงอย่างรวดเร็วว่า “เจ้ามาเพื่อรักษาข้า…อย่าคิดอะไรเกินไปกว่านี้!”

“แน่นอน ๆ” ซูอันตอบพร้อมกับหัวเราะ เมื่อชายหนุ่มและหญิงสาวมาเจอกันกลางดึกทุกวัน การจะได้ใกล้ชิดกันก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นอีกนิดเดียว

ทันใดนั้นเสียงครางก็ดังขึ้น เมื่อฉินหว่านหรูผู้ซึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ไม้มาเป็นเวลานานเริ่มเคลื่อนไหวเล็กน้อย ดูเหมือนว่าฤทธิ์ของยาสลบกำลังจะหมดลง

ใบหน้าของฉู่ชูเหยียนซีดด้วยความหวาดหวั่น เมื่อเห็นว่าแม่ของนางกำลังจะตื่นขึ้น แม่ของนางไม่ควรเห็นภาพในตอนนี้ที่นางกับซูอันอยู่กันตามลำพังโดยที่นางไม่ได้สวมเสื้อผ้า!

ความคิดนี้ทำให้หัวใจของนางเต้นกระหน่ำ นางผลักซูอันทันทีและพูดว่า “ทำไมเจ้าถึงมัวแต่นั่งงงอยู่อีก? รีบออกไปเดี๋ยวนี้! อย่าให้ท่านแม่ข้าเห็น!”

ท่าทางที่งุนงงของซูอัน ทำให้นางก้มศีรษะลงมองร่างกายตัวเองอย่างไม่รู้ตัว หญิงสาวเห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเองเพราะผ้าที่นางจับเอาไว้เพื่อปกคลุมด้านหน้าของนางลื่นไถลออกจากร่างกาย

“…” ฉู่ชูเหยียน

“…” ซูอัน

หลังจากออกมาจากห้องของฉู่ชูเหยียนผ่านทางหน้าต่าง ซูอันอดไม่ได้ที่จะยิ้มแห้ง ๆ เมื่อเขานึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

ทันใดนั้นมีคนข้ามกำแพงและตกลงมาบนร่างกายของเขา

“บัดซบ!” ซูอันยังคงหมกมุ่นอยู่กับความทรงจำอันงดงามของตัวเอง เมื่อมีคนมาขัดจังหวะความคิด จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะโกรธ

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ หรือให้ชัดเจนกว่านั้น มันคือความรู้สึกนุ่มนวลบนมือของเขา ผู้บุกรุกรายนี้มีร่างกายที่เพรียวบางและนุ่มนวล และยังส่งกลิ่นหอมที่คุ้นเคยออกมา

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่คิดมาก่อนว่าจะมีใครอยู่อีกฝั่งของกำแพง มันทำให้นางโกรธจัดที่จู่ ๆ ก็ถูกลูบไล้ นางจึงโจมตีเขาทันที

โชคดีที่ซูอันไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป เขาคว้าแขนนางอย่างรวดเร็วและมองดูรูปร่างหน้าตาของนางให้ดี ก่อนจะชะงักนิ่งไปชั่วครู่ “เป็นเจ้านี่เอง?”

ในขณะนี้อีกฝ่ายก็ได้เห็นหน้าเขาพร้อมกันและหยุดการโจมตีของตัวเอง นางกล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจและปีติยินดีว่า “เจ้าเองเหรอ?”

ผู้บุกรุกมีใบหน้ารูปไข่ที่สวยงามและผมหางม้าที่ผูกด้วยยางรัดผมที่มีเข็มจี้รูปผีเสื้อสีน้ำเงินประดับอยู่ จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่เฉียวเสวี่ยอิง?

“เจ้ามาที่ตระกูลฉู่ทำไม? หรือว่าเจ้าคิดถึงข้า?” ซูอันล้อเลียน แม้น้ำเสียงของเขาจะฟังดูสบาย ๆ แต่จริงๆ แล้วค่อนข้างแปลกใจว่านางไม่น่าจะมาที่นี่หลังจากได้ทรยศตระกูลฉู่ไปแล้ว

ในเวลาเดียวกัน เขาสังเกตเห็นว่าใบหน้าของนางแดงกว่าปกติเล็กน้อย

ในที่สุด เฉียวเสวี่ยอิงก็จำจุดประสงค์ของตัวเองได้และรีบกล่าว “เร็ว! เรียกอ๋องฉู่ออกมา!”

“มีเรื่องอะไรเหรอ?” เมื่อสังเกตน้ำเสียงที่ดูหวาดกลัวของนาง ซูอันก็รีบประคองนางอย่างรวดเร็วในขณะที่มองสำรวจความผิดปกติโดยรอบโดยรอบอย่างระมัดระวัง

“เปล่าประโยชน์ ข้าเพิ่งได้ข่าวว่า อ๋องฉู่ ไม่ได้อยู่ในคฤหาสน์แต่ออกเดินทางไปไกลแล้ว” เสียงเยาะเย้ยดังขึ้น หลังจากนั้น ชายชราคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นบนกำแพงคฤหาสน์ เขาไพล่มือไว้ด้านหลังอย่างสบาย ๆ ในขณะที่มองเฉียวเสวี่ยอิง ด้วยแววตาวาววับราวกับแมวกำลังจ้องหนู

“ซือเล่อจื่อ!” ซูอันขานชื่อด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าซือเล่อจื่อจะพยายามปกปิดรูปร่างหน้าตาของตัวเองด้วยการสวมหน้ากาก แต่ชายหนุ่มก็ยังจำอีกฝ่ายได้ทันที

ชายชราก็ประหลาดใจเช่นกัน สีหน้าของเขามืดมนลงในขณะที่เขาพูด “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นข้า?”

ซูอันดึงเฉียวเสวี่ยอิงไปด้านหลัง ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ว่าเจ้าจะปลอมตัวยังไง เจ้าก็ไม่สามารถซ่อนกลิ่นอายตาแก่น่ารังเกียจที่แผ่ออกมาจากตัวเจ้าได้”

ซือเล่อจื่อนิ่งงัน…

ท่านยั่วยุซือเล่อจื่อสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 598!

“เจ้านี่มันปากดีจริง ๆ ฮึ่ม! แต่ไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวเจ้าจะเข้าใจในไม่ช้าว่า จริง ๆ แล้วเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่ง คำพูดไม่ได้สลักสำคัญอะไร คนเก่งแต่ปากอย่างเจ้าจะเสียใจทีหลังที่เกิดมาพร้อมกับปากเน่า ๆ ของตัวเอง!” ซือเล่อจื่อกล่าวอย่างเย็นชา

ซูอันจ้องเขม็งไปที่ซือเล่อจื่อก่อนจะเย้ยหยัน “เพียงเพราะข้าซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงไว้ภายใต้บุคลิกที่ร่าเริงมองโลกในแง่ดี เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าข้าเป็นแค่ผู้บ่มเพาะระดับสาม? เจ้าคิดว่าข้าจะกล้ายั่วยุพวกเจ้าทั้งหลายเหรอ หากข้ากระจอกงอกง่อยแค่นั้น? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะเลิกปลอมตัวและเปิดเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงของข้าให้โลกได้รู้!”

ท่าทางของซูอัน ทำให้ซือเล่อจื่อหรี่ตาลงอย่างระมัดระวัง ชายแก่รีบโคจรพลังชี่เพื่อป้องกันอีกฝ่ายทันที ด้วยเหตุผลบางอย่างที่รู้สึกเชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด

มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่ผู้บ่มเพาะระดับสามจะกล้าท้าทายเขาและตระกูลซือ เพราะที่ผ่านมาใครก็ตามที่กล้าจะทำอย่างซูอันนั้นได้ตายไปหมดแล้ว

ความจริงแล้ว เขาและซือคุนรู้สึกถึงความไม่สมเหตุสมผลกับเรื่องที่เกิดในมิติลับ พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมกลุ่มผู้บ่มเพาะระดับสามและผู้บ่มเพาะระดับสี่ที่พวกเขาส่งไปสังหารซูอันจึงเป็นฝ่ายที่ถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น

มันไม่น่าจะเป็นไปได้!

เมื่อนำเหตุการณ์ที่น่าสงสัยในมิติลับมารวมกับคำพูดเมื่อครู่ของซูอัน ทันใดนั้น ซือเล่อจื่อก็สงสัยว่า ซูอันเป็นบุคคลแข็งแกร่งที่ซ่อนตัวเองภายใต้เปลือกนอกอันอ่อนแอจริงหรือไม่? หรือว่าเขาตั้งใจปิดบังระดับการบ่มเพาะของตัวเองเพื่อทำให้คนรอบข้างมึนงง

เมื่อเขาคิดถึงว่าซูอันสามารถผ่าอาวุธของซือคุนเป็นสองส่วนได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว หากเขาไม่เข้าไปช่วย ซือคุนก็อาจจะตายไปแล้วก็เป็นได้…

ผู้บ่มเพาะระดับสามจะมีความแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ยังไง?

ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้บ่มเพาะระดับสาม แม้แต่ผู้บ่มเพาะระดับห้าก็ไม่ควรที่จะเอาชนะซือคุนได้ในการโจมตีแค่ครั้งเดียว!

หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่าซูอันซ่อนความแข็งแกร่งของมันเอาไว้จริง ๆ

ตกลงไอ้เด็กเวรนี่อยู่ในระดับหก…หรือเจ็ด…หรือแปด?