ตอนที่ 685 การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจในสำนักศึกษาเฟิงหัว (1) / ตอนที่ 686 การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจในสำนักศึกษาเฟิงหัว (2)
ตอนที่ 685 การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจในสำนักศึกษาเฟิงหัว (1)

จวินอู๋เสีย ฟ่านจัว และเยี่ยซายังอยู่ที่ตำบลชานหลิน ความตรากตรำจากการเดินทางอันยาวนานอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบกับคณะเดินทางมากนัก ยกเว้นใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่กำลังอ่อนแอต้องทนทรมาน ถ้านางยังเดินทางต่อเพื่อกลับไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัว แม้แต่จวินอู๋เสียก็ไม่แน่ใจว่านางจะสามารถรักษาใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะให้หายดีได้สำเร็จ

“ข้าไปที่ร้านขายยาและได้สมุนไพรที่เจ้าต้องการมาแล้ว ข้าจะทิ้งมันไว้ตรงนี้นะ” ฟ่านจัวยกถุงสมุนไพรขนาดใหญ่วางลงบนโต๊ะในห้องของจวินอู๋เสีย นอกจากสมุนไพรหายากราคาแพงของโรงประมูลชานหลินแล้ว จวินอู๋เสียยังต้องการสมุนไพรทั่วๆ ไปบางอย่างอีกด้วย

จวินอู๋เสียพยักหน้าขณะที่เตรียมการอาบน้ำยาให้แก่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ เนื่องจากใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะถูกไฟคลอกทั่วทั้งร่าง ยาขี้ผึ้งธรรมดาสำหรับทาภายนอกจึงไม่มีฤทธิ์ในการรักษาที่เพียงพอ จวินอู๋เสียจึงซื้ออ่างไม้เล็กๆ มาและผสมสมุนไพรหลายอย่างเพื่อทำน้ำยาเข้มข้นไว้ให้ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะลงแช่ทั้งตัว

“ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะจะหายดีหรือไม่” ฟ่านจัวถามอย่างเป็นห่วง ขณะที่มองจวินอู๋เสียวางใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะลงในอ่างยา

“หายสิ” จวินอู๋เสียตอบอย่างมุ่งมั่น

ฟ่านจัวไม่อยากเกะกะจวินอู๋เสีย ในตอนที่เขากำลังจะออกไป เยี่ยซาก็เดินสวนเข้าประตูมา เมื่อเขาเห็นฟ่านจัว นัยน์ตาของเขาก็ฉายแววแปลกๆ ออกมาแวบหนึ่ง

“ข้าจะไปบอกให้เถ้าแก่โรงเตี๊ยมเตรียมอาหารไว้ให้เรา” ฟ่านจัวพูดพร้อมกับยิ้มให้เยี่ยซา แล้วออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

เยี่ยซาขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง เขาลังเลอยู่ตรงประตูครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามาและปิดประตูให้สนิท

“คุณหนูใหญ่ขอรับ” เยี่ยซาทักทายพร้อมกับคุกเข่าลงบนพื้นข้างหนึ่ง

“อืม” จวินอู๋เสียกำลังเฝ้าสังเกตอาการของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะอย่างตั้งใจ นางแค่เอ่ยปากรับรู้เบาๆ

“ตามคำสั่งของคุณหนูใหญ่ ข้าได้ไปสืบข่าวสถานการณ์ปัจจุบันของสำนักศึกษาเฟิงหัวมาเรียบร้อยแล้วขอรับ” เยี่ยซารายงานพร้อมกับก้มศีรษะลง

ในตอนที่พวกเขากลับมานั้น บังเอิญตรงกับวันหยุดสิ้นเดือนของสำนักศึกษาเฟิงหัว ตำบลชานหลินในตอนนี้เต็มไปด้วยเหล่าศิษย์ที่สวมชุดเครื่องแบบสำนักศึกษาเฟิงหัวมากมาย แม้ว่าจวินอู๋เสียจะยังไม่สามารถกลับไปได้ แต่นางได้สั่งให้เยี่ยซาไปเตร็ดเตร่รอบเมืองเพื่อสืบข่าวล่าสุดเกี่ยวกับสำนักศึกษาเฟิงหัว

“เกิดอะไรขึ้น” จวินอู๋เสียถาม สังเกตได้ถึงน้ำเสียงที่ผิดปกติของเยี่ยซา

เยี่ยซาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “อาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาเฟิงหัว เสียชีวิตแล้วเมื่อสองอาทิตย์ก่อนขอรับ”

มือของจวินอู๋เสียชะงักค้างอยู่กลางอากาศ นางหันหน้าไปมองเยี่ยซา สายตาเย็นชาของนางมีแววสอบถาม

“ฟ่านฉีตายแล้วหรือ”

เยี่ยซาพยักหน้า

“ใครทำ” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง นางไม่ได้พบกับฟ่านฉีมากนักจึงพูดไม่ได้ว่าสนิทกับเขา แต่ฟ่านฉีเป็นบิดาของฟ่านจิ่นและยังเป็นบิดาบุญธรรมของฟ่านจัว ฟ่านจัวเป็นหนี้บุญคุณฟ่านฉีที่ช่วยชีวิตเขาและเลี้ยงดูเขามา

ถ้าไม่ใช่เพราะฟ่านฉี ฟ่านจัวก็คงไม่รอดชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้

จวินอู๋เสียไม่รู้จักฟ่านฉีดีนัก และรู้เพียงแต่ว่าเขาเป็นคนตรงไปตรงมาและมีคุณธรรมเหมือนฟ่านจิ่น เขามีความเป็นกันเองและยุติธรรม ถึงแม้จะไม่ถือว่าเป็นวีรบุรุษ แต่เขาก็เป็นคนที่ดีมากและเป็นอาจารย์ใหญ่ที่ดี

แต่…

อยู่ๆ บุรุษผู้นั้นก็เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันได้อย่างไร

“ยิ่งกว่านั้นศิษย์ทุกคนของสำนักศึกษาเฟิงหัวไม่รู้อะไรเลยในเรื่องนี้ รู้แค่ว่าอาจารย์ใหญ่เสียชีวิตแล้วเท่านั้น” เยี่ยซารายงานทุกสิ่งที่เขาได้ยินมาอย่างซื่อสัตย์

“หนิงรุ่ยสินะ” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง

เยี่ยซาตอบว่า “พลังของหนิงรุ่ยยังด้อยกว่าฟ่านฉีนัก ถ้าดูจากความสามารถเพียงอย่างเดียว เขาไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถสังหารฟ่านฉีได้”

จวินอู๋เสียตอบพร้อมคิ้วที่ขมวดจนเป็นร่อง “สิ่งที่ต้องทำก่อน…คือหาคำตอบว่าข้อสันนิษฐานของเจ้าถูกต้องหรือไม่”

“คุณหนูใหญ่โปรดช่วยไขข้อกระจ่างให้แก่ข้าน้อยด้วยขอรับ”

จวินอู๋เสียลดสายตาลงและพูดอย่างเย็นชาว่า “ตราบเท่าที่ฟ่านฉีระวังตัวต่อหนิงรุ่ย ข้อสันนิษฐานของเจ้าก็เป็นไปได้”

ตอนที่ 686 การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจในสำนักศึกษาเฟิงหัว (2)

ฟ่านฉีกับหนิงรุ่ยร่วมรับประทานอาหารด้วยกันมาหลายต่อหลายปี หนิงซินเพิ่งเสียชีวิตไป ถึงแม้ว่าหนิงซินจะถูกเปิดโปงแล้วว่าได้วางแผนฆ่าฟ่านจิ่นก่อนที่นางจะตาย ในตอนนั้นหนิงรุ่ยได้เลือกสังเวยบุตรีของตนเพื่อปกป้องตัวเอง ในสถานการณ์เช่นนั้นฟ่านฉีย่อมรู้สึกผิดและไม่ระวังตัวต่อหนิงรุ่ยเลย

จวินอู๋เสียไม่ได้คาดคิดว่าหลังจากที่พวกเขาเดินทางออกจากสำนักศึกษาเฟิงหัวไปได้ไม่นาน ฟ่านฉีจะตายอย่างกะทันหันเช่นนี้

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้สองพี่น้องสกุลฟ่านไม่สามารถยอมรับอย่างง่ายดายได้อย่างแน่นอน

จวินอู๋เสียก้มหน้าลง พิจารณาถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นครู่หนึ่งก่อนจะออกคำสั่งไปว่า “อย่าบอกฟ่านจัวเรื่องนี้จนกว่าจะถึงเวลา”

“ขอรับ คุณหนูใหญ่” เยี่ยซากล่าว

ในตอนที่ฟ่านจัวกลับมา เยี่ยซาก็กลับออกไปแล้ว เสี่ยวเอ้อร์ยกอาหารมาวางเต็มโต๊ะ และฟ่านจัวก็เชิญจวินอู๋เสียให้มานั่งลงกินอาหารด้วยกัน

ท่าทางสงบนิ่งของจวินอู๋เสีย ทำให้ไม่อาจสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดได้ หลังจากกินอาหารไปได้สองคำ นางก็วางตะเกียบลง

“ข้าจะเดินทางกลับไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัว”

ฟ่านจัวมองไปที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่อยู่บนเตียงแล้วถามอย่างไม่แน่ใจว่า “อาการของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแข็งแรงพอที่จะเดินทางแล้วหรือ”

จวินอู๋เสียส่ายหน้า “ข้ามีบางสิ่งอยู่ที่ลานป่าไผ่ที่สามารถช่วยใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะได้ ตอนนี้ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะยังขยับไม่ได้ ดังนั้นข้าอยากให้เจ้าอยู่ที่นี่ ช่วยข้าดูแลมัน”

“ข้าหรือ” ฟ่านจัวตกใจ

“ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่ามันคืออะไร แล้วให้ข้ากลับไปเอามันมาให้เจ้า ถ้าเจ้าไปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ ข้ากลัวว่าข้าจะไม่สามารถจัดการได้”

“ข้าจำเป็นต้องกลับไปปรุงยาที่นั่น และเจ้าไม่สามารถทำให้ข้าได้ วางใจเถอะ ข้าทำให้อาการของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะทรงตัวแล้ว และข้าจะทิ้งยาเอาไว้ให้ด้วย เจ้าแค่ให้ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแช่อ่างยาวันละสามครั้ง แค่นั้นก็พอแล้ว” จวินอู๋เสียหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า “แต่จำไว้อย่างหนึ่ง ข้าอยากให้เจ้าคอยจับตาดูใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะตลอดทั้งวันในช่วงนี้ และถ้าเกิดอะไรที่ไม่คาดคิดขึ้น ส่งคนมาแจ้งข้าที่สำนักศึกษาเฟิงหัวทันที เจ้าให้เสี่ยวเอ้อร์มาส่งอาหารที่ห้องทุกวันก็ได้”

ฟ่านจัวพยักหน้า และไม่คัดค้านอะไรอีก

“ก็ได้ เราจะทำอย่างที่เจ้าว่า”

จวินอู๋เสียทานอาหารต่อ และควบคุมสายตาไม่ให้แสดงความรู้สึกใดๆ ออกไป

นางไม่คิดที่จะให้ฟ่านจัวรู้เรื่องการตายของฟ่านฉีในตอนนี้ ฟ่านจัวอาจจะฉลาดมากจริง แต่ฟ่านฉีเป็นคนที่มีความหมายต่อฟ่านจัวมาก เขาเคยกระทั่งเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงเพื่อปกป้องสองพ่อลูกสกุลฟ่านมาแล้ว จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าเขารู้ว่าฟ่านฉีตายแล้ว เขาคงรีบกลับไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัวทันที

สถานการณ์ที่แท้จริงในสำนักศึกษาเฟิงหัวตอนนี้ยังไม่กระจ่างชัด และด้วยการตายของฟ่านฉี ทำให้หนิงรุ่ยที่เป็นรองอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาเฟิงหัว ขึ้นครองตำแหน่งสูงสุดต่อไปได้ในทันที ถ้าฟ่านจัวกลับไปตอนนี้ หนิงรุ่ยจะต้องวางแผนสังหารเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ฟ่านจัวที่อยู่ในสภาวะที่คาดได้ว่าน่าจะเกรี้ยวกราดและทำอะไรไปโดยไม่ยั้งคิด จวินอู๋เสียไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสมมีเหตุผลหรือไม่

แทนที่จะให้เป็นเช่นนั้น จวินอู๋เสียจึงตัดสินใจกลับไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัวก่อนเพื่อตรวจสอบสถานการณ์

จวินอู๋เสียไม่ได้บอกความจริงเกี่ยวกับอาการของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะให้ฟ่านจัวรู้ทั้งหมดด้วย ที่จริงแล้วใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะเพียงต้องการพักอีกแค่สองวันเท่านั้น มันก็สามารถเดินทางต่อไปได้อย่างปลอดภัย แต่จวินอู๋เสียต้องการข้ออ้างที่จะทำให้ฟ่านจัวอยู่ในตำบลชานหลินต่อไป และอาการบาดเจ็บของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็เป็นข้ออ้างที่เหมาะสมและน่าเชื่อถือที่สุด

การไม่ให้เขาออกจากห้องและเฝ้าดูใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะตลอดทั้งวัน ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ฟ่านจัวไปได้ยินเรื่องการตายของฟ่านฉีจากคนอื่น

ฟ่านจัวที่นั่งอยู่ตรงข้ามจวินอู๋เสีย กินอาหารต่อไปโดยไม่เคยคิดเลยสักนิดว่า บิดาบุญธรรมของเขาไม่ได้อยู่ในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว

สามวันต่อมา จวินอู๋เสียบอกลาฟ่านจัวและใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ แล้วกระโดดขึ้นรถม้าที่จะพานางกลับสำนักศึกษาเฟิงหัว

“หนิงรุ่ย ข้าอยากจะเห็นนักว่าเจ้าก่อเรื่องอะไรไว้ที่สำนักศึกษาเฟิงหัว” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับหรี่ตาลงอย่างน่ากลัว