ตอนที่ 687 ตอนที่ 688 การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจในสำนักศึกษาเฟิงหัว (4)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 687 การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจในสำนักศึกษาเฟิงหัว (3) / ตอนที่ 688 การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจในสำนักศึกษาเฟิงหัว (4)
ตอนที่ 687 การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจในสำนักศึกษาเฟิงหัว (3)

สำนักศึกษาเฟิงหัวเงียบสงบเช่นที่เคยเป็น ทุกอย่างดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ภายในสำนักศึกษาเฟิงหัว ยังพบเห็นพวกลูกศิษย์ที่อยู่ว่างๆ ทั่วไปหมด พวกเขารวมกลุ่มกันสามถึงห้าคน พูดคุยหัวเราะคิกคักกันขณะที่เดินผ่านไป

ในตอนที่จวินอู๋เสียเดินเข้าไปในสำนักศึกษา นางไม่ได้ดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ เลย นางเดินผ่านถนนใหญ่ตรงไปยังลานป่าไผ่ที่อยู่อีกด้าน

ในขณะที่นางกำลังจะเข้าไป เสียงร้องตะโกนก็ดังขึ้นจากศิษย์ที่อยู่ด้านหลัง

“จวินเสีย จวินเสียใช่หรือไม่”

จวินอู๋เสียหันหน้ากลับไป และเห็นว่าเป็นศิษย์คนหนึ่งที่ติดป้ายหยกบนหน้าอกที่แสดงว่าเขามาจากสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ นางมองเขาด้วยสีหน้าเฉยเมย

ศิษย์คนนั้นดูเหมือนจะได้สติขึ้นมาจากความตื่นเต้นเกินเหตุ เขายิ้มอย่างเหนียมอาย

“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าตกใจ ข้าเป็นศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณและไม่ได้เห็นเจ้ามานานแล้ว ข้าแค่ประหลาดใจมากไปหน่อยที่จู่ๆ ก็พบเจ้าที่นี่”

“มีอะไรอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามเสียงเบา

ศิษย์คนนั้นเกาหัวตัวเองอย่างยุ่งยากใจและพูดว่า “ก็ไม่เชิงหรอก แต่เจ้าคิดจะกลับไปที่เรือนพักในลานป่าไผ่อย่างนั้นหรือ”

จวินอู๋เสียพยักหน้า

“เรื่องนั้น…เรือนพักหลังนั้นไม่มีใครอยู่มาพักหนึ่งแล้ว ไม่มีคนมาทำความสะอาดหลายวันแล้วด้วย เจ้าไปพักที่หอพักแทนไม่ดีกว่าหรือ” ศิษย์คนนั้นพูดอย่างแข็งทื่อ เขาอยากทำความคุ้นเคยกับจวินอู๋เสียให้มากกว่านี้อีกนิด แต่ก็ไม่สามารถหาเรื่องมาพูดได้มากนัก และทำได้แค่พูดสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว

ตอนที่จวินอู๋เสียกับฟ่านจัวไปจากสำนักศึกษาเฟิงหัว ไม่มีใครนอกจากฟ่านจิ่นกับฟ่านฉีที่รู้ คนอื่นๆ ต่างคิดว่าจวินอู๋เสียออกไปทำงานที่ได้รับมอบหมายจากกู้หลีเซิง และฟ่านฉีให้เหตุผลว่าฟ่านจัวถูกส่งออกไปข้างนอกเพื่อรักษาอาการป่วยของเขา

“ไม่มีใครอยู่เลยหรือ แล้วฟ่านจิ่นเล่า” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นทันที

ก่อนที่นางจะกลับมา นางก็คิดอยู่ว่าหนิงรุ่ยจะยื่นมือไปยุ่งกับฟ่านจิ่นหลังจากฆ่าฟ่านฉีอย่างเลือดเย็นหรือไม่

ถ้าฟ่านจิ่นยังอยู่ ต่อให้นางกับฟ่านจัวไม่อยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัว เขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้เรือนพักในลานป่าไผ่ต้องถูกทิ้งร้างโดยไม่มีคนดูแลเป็นแน่

ศิษย์คนนั้นพูดไม่ออกและมีสีหน้าแปลกๆ เขาหันไปมองรอบๆ ทันที และหลังจากแน่ใจว่าไม่มีคนอื่นอยู่แถวนี้ เขาก็เดินเข้าไปในลานป่าไผ่และหันมากวักมือเรียกจวินอู๋เสีย

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีบางอย่างที่อยากจะบอกนางโดยไม่ให้ใครได้ยิน จวินอู๋เสียก็เดินตามเขาไป

“ช่วงนี้เจ้าคงไม่อยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัวเลยล่ะสิ เจ้าคงไม่รู้ว่าท่านอาจารย์ใหญ่…ถูกฆ่าตายไปแล้วเมื่อสองอาทิตย์ก่อน”

จวินอู๋เสียเหลือบมองศิษย์คนนั้นด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก

เขาพูดต่อไปว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ใดเป็นคนฆ่าท่านอาจารย์ใหญ่”

จะเป็นใครได้นอกจากหนิงรุ่ย…จวินอู๋เสียเย้ยหยันอยู่ในใจ แต่ใบหน้าของนางยังคงเรียบเฉยเหมือนกับก้อนหิน

“ฟ่านจิ่นอย่างไรเล่า!”

ดวงตาของจวินอู๋เสียเบิกโตขึ้นเล็กน้อย

ศิษย์คนนั้นลดเสียงลงและกระซิบว่า “ตอนที่ท่านอาจารย์ใหญ่ตาย มีแค่เขากับฟ่านจิ่นที่อยู่ในห้องหนังสือ ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น ผู้คุ้มกันของสำนักศึกษาเฟิงหัวได้ยินทั้งสองคนทะเลาะกัน และพอผู้คุ้มกันไปตรวจดู พวกเขาก็พบอาจารย์ใหญ่เสียชีวิตแล้ว…”

ฟ่านฉีถูกฆ่าด้วยดาบแทงทะลุหน้าอกตายคาที่ และเมื่อประตูที่ลงกลอนเอาไว้ถูกเปิดออก ฟ่านจิ่นเป็นคนเดียวที่อยู่ที่นั่นและยังคงถือดาบเปื้อนโลหิตอยู่ในมือ

ตอนนั้นเอง ทุกคนก็รู้ว่าฟ่านจิ่นเป็นคนฆ่าท่านอาจารย์ใหญ่!

ฟ่านจิ่นเป็นบุตรชายแท้ๆ ของฟ่านฉี ไม่มีเหตุผลที่ฟ่านจิ่นจะสังหารบิดาบังเกิดเกล้าของตัวเอง แต่ฟ่านฉีมักจะพูดอยู่เสมอต่อหน้าทุกคนว่าฟ่านจิ่นเป็นบุตรชายบุญธรรมของเขา และบอกว่าฟ่านจัวคือบุตรแท้ๆ ของตนแทน เนื่องจากเขาตั้งใจที่จะปกป้องฟ่านจัว แต่ฟ่านฉีคงไม่เคยคิดว่ามันจะกลายเป็นเหตุผลให้ฟ่านจิ่น ถูกผลักเข้าไปในวังวนพายุที่พัดถล่มอยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัว!

ทุกคนในสำนักศึกษาเฟิงหัวรู้ว่า ตำแหน่งอาจารย์ใหญ่มักจะถูกส่งต่อไปยังบุตรชายของพวกเขา ฟ่านฉีมีบุตรชายอยู่ทั้งสิ้นสองคน คนหนึ่งคือฟ่านจิ่นที่เป็นที่ชื่นชมและได้รับความนับถือเป็นอย่างมากในสำนักศึกษาเฟิงหัว ส่วนอีกคนก็คือฟ่านจัวที่อ่อนแอขี้โรคมาตั้งแต่ยังเด็ก

ตอนที่ 688 การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจในสำนักศึกษาเฟิงหัว (4)

สุขภาพของฟ่านจัวอ่อนแออยู่เสมอ และฟ่านฉีก็ปฏิบัติกับฟ่านจิ่นที่เป็น ‘บุตรบุญธรรม’ ไม่แตกต่างไปจากที่เขาปฏิบัติกับ ‘บุตรชายแท้ๆ ‘ ของเขา หากสิ่งต่างๆ ดำเนินไปตามสภาพที่เป็นอยู่นี้ สุขภาพที่อ่อนแอของฟ่านจัวจะทำให้ร่างกายของเขาหมดสภาพไปในที่สุด ซึ่งทำให้ทุกคนคาดการณ์ว่าตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ จะตกอยู่ในมือของฟ่านจิ่นอย่างแน่นอน

แต่ปัญหาที่ไม่คาดคิดเกี่ยวกับสุขภาพของฟ่านจัวก็กลับมา

ด้วยการรักษาของจวินอู๋เสีย สุขภาพของฟ่านจัวค่อยๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฟ่านจัวที่ไม่แข็งแรงพอแม้กระทั่งจะก้าวออกจากสำนักศึกษา ในช่วงนี้ เขาออกจากสำนักศึกษาเฟิงหัวไปสองครั้งแล้ว ดูจากท่าทางของฟ่านจัว คนในสำนักศึกษาเฟิงหัวก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชายหนุ่มที่อ่อนแอขี้โรคมาตั้งแต่เด็กนั้น ค่อยๆ หายจากอาการป่วยอย่างช้าๆ

เมื่อฟ่านจัวที่เป็น ‘บุตรชายแท้ๆ ‘ หายจากอาการป่วย มันก็ทำให้ตำแหน่งของฟ่านจิ่นที่เป็นเพียง ‘บุตรบุญธรรม’ ต้องสั่นคลอน

ดังนั้นทุกคนจึงสันนิษฐานอย่างรวดเร็วว่าฟ่านจิ่นทะเลาะกับฟ่านฉีเรื่องการสืบทอดตำแหน่ง และเมื่อสิ่งต่างๆ หลุดมือไป เขาก็ฆ่าฟ่านฉี!

ด้วยการคาดเดาเช่นนั้น และการที่ผู้คุ้มกันพบฟ่านจิ่นพร้อมดาบเปื้อนเลือดในมือภายในห้องหนังสือที่ถูกลงกลอนไว้ ทุกอย่างก็ดูจะกระจ่างชัดเจน

ความผิดฐานฆาตกรรมฟ่านฉีถูกโยนใส่ฟ่านจิ่น และขณะที่เขากำลังจะถูกจัดการในทันทีนั้นเอง ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็กลับมาอย่างกะทันหันโดยไม่ได้คาดคิด ผู้อาวุโสผู้ทรงเกียรติในสำนักศึกษาชื่อดังนั้นย่อมไม่ธรรมดา ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งนั้นมักจะเป็นผู้ที่มีความสามารถสูงและเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรและไม่ได้ถูกคาดหวังให้ปรากฏตัวที่สำนักศึกษาเฟิงหัว พวกเขาแค่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในเวลาที่เกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นที่สำนักศึกษาเท่านั้น และผู้อาวุโสผู้ทรงเกียรติจะได้รับสิทธิพิเศษและผลประโยชน์จากสำนักศึกษาเฟิงหัวที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่

สำนักศึกษาเฟิงหัวมีผู้อาวุโสผู้ทรงเกียรติอยู่สามคน แม้ว่าพวกเขาจะได้ชื่อว่าเป็นผู้อาวุโส แต่อำนาจของพวกเขาก็ยังด้อยกว่าอำนาจของอาจารย์ใหญ่ แต่ภายในสำนักศึกษานั้น คำพูดของพวกเขาก็ยังไม่อาจมองข้ามไปได้ง่ายๆ!

ผู้อาวุโสผู้ทรงเกียรติคนนั้นเป็นสหายเก่าของฟ่านฉี เขารู้จักพี่น้องสกุลฟ่านมาตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็กตัวเล็กๆ หลังจากที่เขาได้ข่าวว่าฟ่านจิ่นฆ่าฟ่านฉี เขาก็เข้ามาทันทีเพื่อขัดขวางทุกคนที่ต้องการทำร้ายหรือเอาชีวิตของฟ่านจิ่น

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมอาจารย์ใหญ่และเกี่ยวข้องกับทุกคนในสำนักศึกษาเฟิงหัว เหตุการณ์นี้ร้ายแรงมาก กระทั่งผู้อาวุโสผู้ทรงเกียรติที่คัดค้านการดำเนินคดี ก็ทำได้เพียงแค่ยืดเวลาให้มันล่าช้าลงไปเท่านั้น ถ้าไม่มีหลักฐานที่สามารถล้มข้อกล่าวหาของฟ่านจิ่นได้ละก็ เขาก็จะถูกฆ่าตายได้ทุกเมื่อ

ตอนนี้ฟ่านจิ่นถูกคุมขังอยู่ในห้องของเขา และมีผู้คุ้มกันคอยเฝ้าอยู่ข้างนอกตลอดทั้งวัน

เมื่ออาจารย์ใหญ่เสียชีวิตลง ตามธรรมเนียมแล้ว หน้าที่ความรับผิดชอบของสำนักศึกษาเฟิงหัวทั้งหมด ควรจะถูกส่งต่อให้กับบุตรชายสองคนของเขา แต่เนื่องจากฟ่านจิ่นตกเป็นผู้ต้องสงสัยในข้อหาฆาตกรรมฟ่านฉี เขาจึงถูกจับขังอย่างรวดเร็ว ส่วนฟ่านจัวก็ไม่ได้อยู่ในสำนักศึกษาตอนนี้ ดังนั้นการควบคุมสำนักศึกษาทั้งหมด จึงตกอยู่ในมือของผู้ที่มีอำนาจสูงสุดคนถัดไป นั่นก็คือรองอาจารย์ใหญ่หนิงรุ่ย!

“เพราะแบบนี้แหละ…เจ้าอยากไปพักที่หอพักก่อนหรือไม่” ศิษย์คนนั้นถามซ้ำอีกครั้งขณะที่มองสีหน้าเฉยชาของจวินอู๋เสีย เขาไม่สามารถหาเรื่องมาพูดคุยต่อได้ ทุกคนรู้ว่าจวินอู๋เสียกับฟ่านจิ่นมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างแน่นแฟ้น ในตอนแรกที่จวินอู๋เสียถูกกล่าวหาผิดๆ ก็มีเพียงฟ่านจิ่นที่ยืนอยู่ข้างเขา คอยสนับสนุนและเลือกที่จะเชื่อในตัวจวินอู๋เสีย

และก็ยังเป็นฟ่านจิ่นที่แนะนำให้จวินอู๋เสียรู้จักกับฟ่านจัว ตอนนี้ฟ่านจิ่นกำลังเดือดร้อน ศิษย์คนนั้นจึงสงสัยว่าจวินอู๋เสียคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

“ไม่จำเป็น” จวินอู๋เสียตอบเสียงเรียบ และหมุนตัวเดินกลับไปยังเรือนพักในลานป่าไผ่

หลังจากกำจัดฟ่านฉีแล้ว จวินอู๋เสียรู้ว่าหนิงรุ่ยจะไม่ปล่อยฟานจิ่นไปแน่ แต่นางคิดไม่ถึงว่าหนิงรุ่ยจะสามารถวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบได้ขนาดนี้ ด้วยการใช้การตายของฟ่านฉีลากเอาฟ่านจิ่นตายตามกันไปด้วย!

ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ช่างเป็นแผนการที่น่าชื่นชมจริงๆ!