ตอนที่ 689 พบกันอีกครั้ง (1) ตอนที่ 690 พบกันอีกครั้ง (2)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 689 พบกันอีกครั้ง (1) / ตอนที่ 690 พบกันอีกครั้ง (2)
ตอนที่ 689 พบกันอีกครั้ง (1)

เพียงแค่สองสัปดาห์ เรือนพักในลานป่าไผ่ก็เต็มไปด้วยฝุ่นเขรอะ ลานเล็กๆ ที่เคยเงียบสงบ เริ่มแสดงร่องรอยของการถูกปล่อยปละละเลย

จวินอู๋เสียผลักประตูที่นำไปยังลานเล็กๆ นั้นให้เปิดออก แล้วเดินช้าๆ เข้าไปในสถานที่ที่คุ้นเคย

ทันใดนั้นนางก็หยุดอยู่กลางลาน ดวงตาของนางกวาดมองไปยังประตูโรงครัวที่ลงกลอนอย่างแน่นหนา

จวินอู๋เสียหรี่ตาลงเล็กน้อย ร่างของนางพร่ามัวก่อนที่ประตูจะถูกเตะออกอย่างแรง ร่างที่คล่องแคล่วว่องไวเคลื่อนที่ราวพายุหมุนขนาดย่อมอยู่ภายใน มือของจวินอู๋เสียเงื้อมไปหาร่างที่ซ่อนอยู่ในกองฟางตรงมุมห้องและกระชากขึ้นมา!

“อ๊า! อ๊า! อ๊า!” ร่างสกปรกมอมแมมถูกจวินอู๋เสียลากออกมา

แขนของคนผู้นั้นแกว่งไปมาอย่างรุนแรงกลางอากาศ เสียงโหยหวนฟังไม่ได้ศัพท์หลุดออกมาจากปากเขา

“อาจิ้ง” จวินอู๋เสียมองใบหน้าเปรอะเปื้อนของคนผู้นั้นและจำได้ว่าเขาเป็นใคร นางปล่อยมือช้าๆ และจ้องมองอาจิ้งที่อยู่ในสภาพย่ำแย่จนแทบจะจำไม่ได้

ใบหน้าที่เคยดูดีของอาจิ้ง ตอนนี้เปื้อนดินและฝุ่น มีฟางหลายเส้นติดอยู่ที่ผม เสื้อผ้าของเขาสกปรกยับเยินมาก ดูแตกต่างจากเมื่อก่อนที่สะอาดเอี่ยมเรียบร้อยจนเป็นคนละคน

ตั้งแต่อาจิ้งถูกฟ่านจัวไล่ออกจากลานป่าไผ่ จวินอู๋เสียก็ไม่ได้พบกับอาจิ้งอีกเลย นางรู้แค่ว่าอาจิ้งกลับไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัวและเรียนอยู่ที่นั่นในฐานะศิษย์คนหนึ่ง

แล้วเขามาโผล่อยู่ที่นี่ได้อย่างไร

หลังจากถูกปล่อยให้เคลื่อนไหวได้โดยอิสระ อาจิ้งก็ตะเกียกตะกายคลานหนีเหมือนสัตว์ที่หวาดกลัวพร้อมกับตัวสั่นเทา เขากลับเข้าไปซ่อนตัวอยู่ใต้กองฟางที่ปกคลุมตัวเขาจนเหลือเพียงแค่ดวงตาสองข้างที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวขณะมองมาที่จวินอู๋เสีย

จวินอู๋เสียหรี่ตาลงอย่างใช้ความคิด ปฏิกิริยาของอาจิ้งนั้นแปลกมาก สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างโจ่งแจ้งคู่นั้นกำลังบอกนางว่าเขาจำนางไม่ได้แม้แต่น้อย มันมีแค่ความหวาดกลัวและความต้องการจะหลบหนี จวินอู๋เสียพยายามเข้าหาเขา แต่นั่นเป็นการทำให้อาจิ้งร้องโหยหวนเสียงดังขึ้นเท่านั้น

“อ๊า! อ๊า!” ปากที่อ้ากว้างของเขาเผยให้เห็นลิ้นที่ถูกตัดออกไปครึ่งหนึ่ง เขาคว้าฟางที่อยู่รอบตัวขึ้นมากำหนึ่งแล้วปาใส่จวินอู๋เสียด้วยความกลัว

มีคนตัดลิ้นของอาจิ้ง!

จวินอู๋เสียมองอาจิ้งที่เสียสติไปแล้วพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ดวงตาของนางตรวจสอบไปทั่วร่างอาจิ้งและพบว่าไม่เพียงแต่ลิ้นเท่านั้น แต่นิ้วก้อยที่มือซ้ายของเขาก็ถูกตัดออกไปด้วย น่าจะผ่านมาได้สักพักแล้ว เนื่องจากรอยตัดเรียบกริบนั้นตกสะเก็ดแล้ว แต่สภาพแวดล้อมที่สกปรกทำให้บาดแผลเกิดการอักเสบ หนองสีขาวและดินสีดำผสมกันเปื้อนเต็มมือ ยังมีบาดแผลอื่นๆ ทั้งใหญ่และเล็กอยู่รอบคอซึ่งเปื้อนฝุ่นและดินทำให้เห็นไม่ชัดในทีแรก

อาจิ้งไปโดนอะไรมา

ท่าทางของเขาตอนนี้แสดงให้เห็นว่าเขาเสียสติไปแล้ว!

ดวงตาของจวินอู๋เสียยังคคงจ้องไปที่อาจิ้ง เพื่อไม่กระตุ้นให้เขาร้องโหยหวนต่อไป จวินอู๋เสียจึงถอยหลังไปเล็กน้อย

ถึงแม้นางจะไม่ชอบความซื่อและโง่เขลาของอาจิ้ง แต่นางก็ไม่ปฏิเสธความจงรักภักดีที่อาจิ้งมีต่อฟ่านจัวอย่างไม่สั่นคลอน

“เจ้าคือจวินเสียอย่างนั้นหรือ” จู่ๆ เสียงที่เต็มไปด้วยความรื่นเริงก็ดังขึ้นที่ด้านหลังของจวินอู๋เสีย!

จวินอู๋เสียหมุนตัวกลับไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาและดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้นห่างจากนางเพียงเจ็ดก้าวเท่านั้น!

นั่นเป็นใบหน้าที่จวินอู๋เสียเคยพบเห็นมาก่อน!

“อย่างนั้นเจ้าก็คือจวินเสียสินะ บังเอิญจริง” เมื่อชายหนุ่มผู้นั้นได้เห็นหน้าจวินอู๋เสีย เขาก็ยิ้มออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าที่มีเสน่ห์อย่างน่าเหลือเชื่อของเขา ยิ่งเจิดจ้าจนตาพร่าขึ้นไปอีกด้วยรอยยิ้มนั้น

แต่จวินอู๋เสียไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะชื่นชมความงามของใคร

เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านางนั้น ก็คือชายหนุ่มคนเดียวกับที่นางพบที่โรงประมูลชานหลินวันนั้น คนที่ก่อพายุโลหิตขนาดใหญ่เมื่อครั้งที่สังหารคนพวกนั้น!

ตอนที่ 690 พบกันอีกครั้ง (2)

กู่อิ่งเอียงคอมองสำรวจจวินอู๋เสียตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าพร้อมกับยิ้มอย่างชั่วร้าย

“ทำไม เจ้าจำข้าไม่ได้หรือ”

จวินอู๋เสียหรี่ตาลง นางระมัดระวังตัวขึ้นมาทันที

คนผู้นี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเฉียวฉู่และสหายของเขา เขามาจากสามโลกชั้นกลางอย่างแน่นอน ถึงแม้จะไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมาจากสิบสองตำหนักหรือไม่ แต่คนผู้นี้ก็เคยฆ่าคนกลุ่มใหญ่ที่โรงประมูลได้โดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา ทำให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่อันตรายมากแค่ไหน

แล้วคนจากสามโลกชั้นกลางมาทำอะไรที่นี่

จวินอู๋เสียสังเกตร่างของกู่อิ่งอย่างรวดเร็ว และเห็นว่าเขาสวมเครื่องแบบของศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัว! มิหนำซ้ำบนหน้าอกของเขายังติดป้ายหยกของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณเอาไว้ด้วย!

“ไม่ต้องประสาทเสียขนาดนั้นหรอกน่า ถึงข้าจะเคยพูดว่าดวงตาของเจ้าสวยมาก แต่…ในเมื่อเจ้าคือจวินเสีย ข้าก็จะปล่อยดวงตาคู่นั้นไว้บนใบหน้าของเจ้าให้นานขึ้นอีกหน่อยก็แล้วกัน” กู่อิ่งพูดพร้อมรอยยิ้ม แต่คำพูดของเขานั้น ทำให้เย็นเยียบไปทั้งสันหลังเลยทีเดียว

จวินอู๋เสียเริ่มทำตัวเฉยชา ขณะที่กู่อิ่งก็พูดคนเดียวต่อไป ถึงแม้นางจะจับเจตนาฆ่าฟันจากตัวอีกฝ่ายไม่ได้ แต่นางก็ยังไม่กล้าลดความระวังตัวลง

เมื่อกู่อิ่งเห็นว่าจวินอู๋เสียไม่ตอบคำถามเขา เขาก็ก้าวเข้ามาอีกสองสามก้าว

“อ๊า! อ๊า! อ๊า!” อาจิ้งที่อยู่ในกองฟางตื่นกลัวจนร้องโหยหวนและตัวสั่นอย่างรุนแรง เมื่อเห็นกู่อิ่งเดินตรงมาที่ประตูห้องครัวอย่างช้าๆ อาจิ้งพยายามตะเกียกตะกายเข้าไปในกองฟางให้ลึกขึ้น และด้วยการดิ้นรนอย่างอาภัพอับโชคของเขา ทำให้ฟางหลายเส้นลอยขึ้นไปในอากาศ!

“ชิ เจ้ายังซ่อนตัวอยู่ที่นี่อีกหรือ” เมื่อกู่อิ่งเห็นสภาพที่น่าสังเวชของอาจิ้ง รอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าเขาก็ขยายกว้างขึ้น

เขาหันไปมองจวินอู๋เสียพร้อมกับชี้ไปที่อาจิ้งแล้วพูดว่า “เจ้าจำเขาได้หรือไม่”

จวินอู๋เสียไม่พูดอะไรสักคำ สีหน้าของนางยังคงเย็นชา นางไม่ได้มองข้ามเสียงร้องโหยหวนของอาจิ้งที่เสียสติไปแล้วเมื่อเห็นกู่อิ่ง เสียงนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

“หืม เจ้าจำไม่ได้หรือ” กู่อิ่งยิ้มขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้มากขึ้น เขาดึงอาจิ้งออกจากกองฟางด้วยรอยยิ้มร่าเริงสนุกสนาน จากนั้นก็กระชากผมอาจิ้งที่ดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์ลากมาตามพื้นที่เย็นเฉียบให้มาอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย

ใบหน้าของอาจิ้งปราศจากสีเลือดโดยสิ้นเชิง ปากของเขาที่ไม่สามารถพูดได้อีกต่อไปเปล่งเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าสงสารไม่หยุด

“เจ้าดูแตกต่างไปจากเดิมเยอะอยู่เหมือนกันนะ” กู่อิ่งลูบคางพลางมองสภาพของอาจิ้ง ทันใดนั้นดวงตาเขาก็ทอประกายชั่วร้ายออกมา เขาลากอาจิ้งพร้อมกับก้าวยาวๆ ตรงไปที่อ่างน้ำขนาดใหญ่ด้านข้าง และจับผมอาจิ้งที่ด้านหลังจากนั้นก็กดเขาลงไปในอ่าง!

อาจิ้งดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่ภายใต้พละกำลังที่เหนือกว่าของกู่อิ่ง เรี่ยวแรงที่อ่อนแอปวกเปียกของอาจิ้งจึงไม่สามารถทำอะไรได้เลย

กู่อิ่งสนุกสนานกับภาพอาจิ้งที่ดิ้นรนตะเกียกตะกาย ดวงตาของเขาทอแววอำมหิตอยู่ภายใน

ซ่า!

ในเสี้ยววินาทีก่อนที่อาจิ้งจะจมน้ำตาย กู่อิ่งก็ดึงอาจิ้งกลับออกมา

“แบบนี้เจ้าน่าจะจำเขาได้แล้วกระมัง” กู่อิ่งฉีกยิ้มขณะที่จับอาจิ้งที่หน้าซีดและเปียกปอนมาตรงหน้าจวินอู๋เสีย

น้ำจากอ่างได้ล้างเอาคราบสกปรกออกไปจากใบหน้าของอาจิ้ง ใบหน้าที่ค่อนข้างดูดีนั้นถูกผลักให้มาอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและซีดขาวราวกับศพ

“เจ้าต้องการอะไร” จวินอู๋เสียถาม นางมองกู่อิ่งอย่างเย็นชา

กู่อิ่งตอบพร้อมกับหัวเราะ “ข้าได้ยินว่าเจ้าเด็กนี่เคยพูดไม่ดีเกี่ยวกับเจ้ามาก่อน เพราะอย่างนั้น…ข้าก็เลยตัดลิ้นมันเสีย” กู่อิ่งเอามืออีกข้างไปจับที่ขากรรไกรของอาจิ้งและบังคับให้เขาอ้าปากเพื่อเผยให้เห็นโคนลิ้นสั้นๆ ที่เหลืออยู่