ตอนที่ 450 Powered Battle Of The Strong

The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต

มุมมองบุคคลที่สาม :

ทั้งสนามและผู้ชมต่างเงียบกริบขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่คนทั้ง 2 ในการต่อสู้ ความเข้าใจของพลังและความสามารถของพวกเขากำลังเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง โดยเฉพาะน้องเล็กจากองค์กรที่เข้ามาชม ความเป็นจริงทำให้พวกเขาเปลี่ยนไปเมื่ออัตตาที่เปราะบางของพวกเขาถูกโจมตี

ทั้งออสตินและเซลด้ายืนเผชิญหน้ากัน ออร่าที่แท้จริงที่ทั้ง 2 เปล่งออกมาทำให้เกิดรอยแตกและรอยแยกทั่วสนาม โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าเซลด้าพุ่งไปข้างหน้าด้วยหอกของเธอที่พร้อมจะโจมตี ออสตินโต้กลับด้วยการฟันอย่างรวดเร็ว แต่เซลด้าเร็วเกินไป เธอหมุนหอกไปรอบๆ และฟาดฟันไปที่สีข้างของเขาอย่างชำเลืองมอง ออสตินกระเด็นถอยหลัง แต่ก็กลับมายืนหยัดได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกเขาปะทะกัน เห็นได้ชัดว่าเซลด้าเป็นปรมาจารย์หอก การโจมตีแต่ละครั้งแม่นยำและอันตรายถึงชีวิต

อย่างไรก็ตามออสตินกลับไม่ได้รู้สึกกดดันเลยขณะที่พวกเขาปะทะกัน พลังที่แท้จริงของเขาเริ่มถูกเปิดเผยออกมาอย่างช้าๆ ดาบใหญ่ของเขาเริ่มเรืองแสงด้วยพลังงานจากภายนอก การโจมตีแต่ละครั้งจะส่งคลื่นกระแทกไปในอากาศ ในขณะเดียวกันเซลด้าก็พยายามดิ้นรนเพื่อตามให้ทัน การโจมตีแต่ละครั้งทำให้เธอถอยไปหนึ่งก้าว

ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด เซลด้าก็เริ่มเปิดเผยทักษะและเทคนิคที่ทำให้เธอกลายเป็นผู้กล้าในอดีต เธอควงหอกด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ การโจมตีแต่ละครั้งทั้งแม่นยำและอันตรายถึงชีวิต เธอร่ายรำไปรอบๆ ออสตินพร้อมกับหลบการโจมตีของเขาและโจมตีกลับด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ

แต่ออสตินก็ไม่ยอมน้อยหน้าแต่อย่างใด เขาปล่อยการโจมตีออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่การโจมตีแต่ละครั้งจะส่งคลื่นกระแทกไปในอากาศ ในแต่ละการโจมตีทำให้พื้นสั่นสะเทือนและเกิดรอยแตกกระจายไปทั่ว ทำให้ผู้ชมกลั้นหายใจด้วยความคาดหวัง 

ออสตินถ่ายพลังเข้าไปในดาบทำให้ดาบใหญ่ของเขาเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้นด้วยพลังงาน พลังนั้นแข็งแกร่งมากจนทำให้อากาศรอบตัวพวกเขากระเพื่อมและบิดเบี้ยว

เซลด้าพยายามตอบโต้ด้วยเวทย์มนตร์ของเธอ โดยใช้คาถาอันทรงพลังเพื่อส่งไฟและสายฟ้าให้ตกลงมาใส่ออสติน แต่เขากลับหลบหลีกพวกมันได้อย่างช่ำชองด้วยท่าการเคลื่อนไหวที่เหนือมนุษย์ เขายังคงมุ่งหน้าต่อไปพร้อมกับดาบใหญ่ของเขาที่เปล่งประกายท่ามกลางแสงแดดขณะที่เขาโจมตีทำลายล้างครั้งสุดท้าย

ผลกระทบนั้นยิ่งใหญ่มากจนทำให้เซลด้าบินไปในอากาศ เสียงกระแทกทำให้สนามประลองสั่นสะท้าน ในตอนที่เธอร่อนลงกลับมาบนพื้นก็เกิดรอยยิ้มกว้างขึ้นบนใบหน้าของเธอ ในขณะที่ความหนาวเย็นแล่นผ่านแผ่นหลังของออสตินจนทำให้เขาถอยหลังกลับ ซึ่งในตอนนั้นเองที่ท้องฟ้าเหนือโลกอารีน่าจำลองก็สั่นสะเทือน โลกทั้งใบมืดลงก่อนจะมีเมฆดำปกคลุมท้องฟ้า

ก่อนที่ใครจะได้กระพริบตา สายฟ้าขนาดมหึมาเท่ากับเสาก็ผ่าลงมาจากท้องฟ้า ผ่าลงมาที่…เซลด้า! สีของสายฟ้าเป็นสีน้ำเงินเข้ม สายฟ้าผ่าหลายร้อยครั้งกระทบเซลด้าก่อนที่เมฆจะถูกพัดหายไป เหลือไว้เพียงสายตาอันน่าทึ่งของเซลด้าไว้ ผมของเธอดูเหมือนจะกลายเป็นสายฟ้าบริสุทธิ์ในขณะที่มันยังคงแตกร้าวและลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า วงแหวนสายฟ้าหกวงลอยอยู่ข้างหลังเธอ โดยที่แต่ละฝั่งมีฝั่งละ 3 วง สภาพของเธอในปัจจุบันถูกปกคลุมไปด้วยเส้นแสงสายฟ้าที่กระพริบอยู่รอบตัวของเธอ

‘ชักจะยุ่งยากแล้วสิ….’ 

ออสตินคิด แต่สุดท้ายเขาก็ยังคงยิ้มอยู่ 

เซลด้าเห็นอย่างนั้นจึงเริ่มพูด

“นายควรจะเอาจริงได้แล้วนะ ถ้าไม่อย่างงั้นหล่ะก็…” 

เธอยังพูดไม่จบด้วยซ้ำ ขณะที่หอกขนาดมหึมานับพันพุ่งเข้ามาต่อหน้าออสติน โดยที่แต่ละอันนั้นเพียงพอที่จะคร่าชีวิตของพวกระดับต้นกำเนิดขั้น 6 ได้เลย พลังทำลายล้างที่แท้จริงของพวกมันนั้นช่างราวกับสวรรค์ ราวกับว่าจุดจบของโลกกำลังตรงมายังร่างของออสติน

‘คิดว่าคงถึงเวลาสนุกแล้ว…’ 

และแล้วด้วยความคิดสุดท้าย ออสตินก็ถูกโจมตีจากทุกทิศทาง ทำให้ผู้ชมกรีดร้องด้วยความสุข แต่ผู้ที่ทรงพลังอย่างแท้จริงและมีสายตาเฉียบแหลมกลับรู้ว่ามันยังไม่สิ้นสุดและมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

ไม่กี่วินาทีผ่านไปก่อนที่กลุ่มฝุ่นที่หลงเหลือจะถูกพัดออกไปจนหมด เผยให้เห็นทัศนียภาพทั้งหมดของออสตินที่ยังคงยืนหยัดได้อย่างสมบูรณ์แบบและแตกต่างไปจากเดิม

ปีกสีแดงอันสวยงามสองปีกบานสะพรั่งจากด้านหลังออสติน สีโลหิตของพวกมันทำให้คนอื่นๆ ถูกสะกดจิตด้วยความงาม แต่ความงามเช่นนั้นกลับถูกซ่อนไว้ด้วยอันตราย เนื่องจากขนปีกแต่ละข้างแหลมคมประดุจใบมีด

ดวงตาที่อยู่ใต้หน้ากากส่องแสงลางร้าย ดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังก่อตัวขึ้นในดวงตาของออสตินจนดูเหมือนพวกมันจะสามารถมองทะลุทุกสิ่งที่ขวางหน้าได้ เปลวไฟสีแดงอันทรงพลังพุ่งออกมาอย่างทรงพลังและร้อนแรงจากทางด้านขวาเหมือนอ้อมกอดที่คอยปกป้องเขาอยู่

ในขณะที่ด้านซ้ายของเขานั้นมีน้ำแข็งเย็นๆ ที่ไม่เหมือนใครเติบโตขึ้น รูปลักษณ์สีฟ้าของมันเพียงพอที่จะนำความรู้สึกเย็นชามาสู่ทุกคนที่จ้องมองมัน เช่นเดียวกับเปลวไฟ น้ำแข็งนั้นมีไว้เพื่อแช่แข็งโลกด้วยความบ้าคลั่ง แต่ตอนนี้มันได้ล้อมรอบด้านซ้ายของออสตินและโอบกอดเขาไว้ด้วยกันในอ้อมแขนที่ปกป้อง

ไฟและน้ำแข็งล้อมรอบออสตินพร้อมกับปีกที่สวยงามของเขา ทั้ง 2 มารวมกันเพื่อแสดงการป้องกันและการรุกที่ดีที่สุด ปีกช่วยให้เขาเคลื่อนไหวอย่างความเร็วได้โดยไม่แพ้สายฟ้าที่เสริมพลังให้กับเซลด้า

ดาบใหญ่ในมือของออสตินส่งเสียงแหลมจากความร้อนและความหนาวเย็น โดยที่พลังที่ไหลผ่านออสตินไม่ส่งผลกระทบต่อมันเลย

“ฉันว่าแล้วว่านายต้องทำให้ฉันสนุกได้..…”

เซลด้าพึมพำ แล้วหายตัวไปจากจุดที่เธอยืนอยู่

<กระบวนท่าหอกที่ 3 : อสรพิษเริงระบำ>

หอกบนมือของเซลด้าขยับแบบซิกแซกและความเร็วที่ไม่มีใครสามารถละสายตาได้ขณะที่เธอพุ่งเข้าไปหาออสติน การเคลื่อนไหวของเธอทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตสายฟ้าเหมือนงูหลายตัวที่เข้าโจมตีออสติน 

ออสตินยกอาวุธขึ้นรอรับการโจมตีที่กำลังมาถึง

<เพลงดาบที่ 1 : การอนุมานโลก>

ทั้งความร้อนและความเย็นพุ่งออกมาจากออสตินเพื่อปกคลุมดาบใหญ่ไว้ ในขณะที่ปีกที่อยู่ข้างหลังเขากระพือปีกด้วยพลัง ออสตินโบกดาบของเขาลงเป็นการฟันแบบง่ายๆ แต่งูสายฟ้าทั้งหมดกลับถูกตัดออกเป็น 2 ส่วน บ้างก็ถูกโจมตีด้วยน้ำแข็ง ในขณะที่บ้างก็ถูกเผาด้วยไฟ ที่เลวร้ายที่สุดคือเซลด้าที่ต้องเผชิญหน้ากับพลังที่รวมกันของทั้ง 2 พลัง แต่เธอก็ไม่สะดุดและขยับหอกของตัวเองต่อไป

<กระบวนท่าหอกที่ 3 : แบ่งจุดศูนย์>

พลังภายในของเซลด้าปะทุออกมาก่อนจะเคลื่อนที่ไปรวมกันบริเวณปลายหอกของเธอ พลังที่เธอได้รับจากพรนั้นเบ่งบานเมื่อเห็นจุดอ่อนเพียงจุดเดียว หอกที่อยู่ในมือของเซลด้าขยับเหมือนสายน้ำ การเคลื่อนไหวของเธอตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องในขณะที่ร่างกายที่สว่างไสวของเธอถูกปลกคลุมด้วยสายฟ้าหลายร้อยลูกอย่างอดทน!

แต่พวกมันก็ถูกจัดการอย่างง่ายดายด้วยน้ำแข็งที่ปกคลุมออสติน น้ำแข็งนั้นทำให้สายฟ้ากลายเป็นน้ำแข็ง!

ระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งสองลดลงขณะที่ความตั้งใจในการต่อสู้ของพวกเขาเดือดพล่าน แม้ว่าการต่อสู้ของพวกเขาอาจดูเชื่องช้าในสายตาของผู้ชม แต่พวกเขากลับมองอะไรไม่ชัดเลย! มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถมองเห็นการต่อสู้นี้ได้ ส่วนคนอื่นๆ ทั้งหมดสามารถเห็นได้เพียงแสงวาบของสายฟ้า, น้ำแข็งและไฟเท่านั้น ดังนั้นก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว ทั้งออสตินและเซลด้าก็อยู่ใกล้กันแล้ว

“สนามประลองที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับทุกการต่อสู้ของระดับต้นกำเนิดแตกหักเช่นนี้ได้อย่างไร?” 

ผู้ชมคนหนึ่งถามออกมาดังๆ เมื่อเห็นสภาพของสนามประลอง แม้กระทั่งตอนนี้โลกแห่งนี้ก็ยังคงถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง การมีอยู่ระดับต่ำนั้นไม่สามารถรองรับพลังของทั้ง 2 ได้ ซึ่งชี้ไปยังความจริงอีกประการหนึ่งที่ว่าพวกเขามีพลังในการทำลายโลกย่อยใบนี้ได้เพียงลำพัง!

หากพลังที่พวกเขาทั้ง 2 ปล่อยออกมาถูกปล่อยออกมา หลายเมืองจะถูกทำลายราบคาบ!

ขณะที่พวกเขาต่อสู้ต่อ ออสตินก็ยังคงเปิดเผยพลังของตัวเองต่อไป การโจมตีแต่ละครั้งนั้นรุนแรงยิ่งกว่าครั้งล่าสุด เขาเรียกเปลวไฟและน้ำแข็งอันทรงพลังส่งพวกมันพุ่งเข้าหาเซลด้าด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ เธอโต้กลับด้วยเวทย์มนตร์ของเธอพร้อมกับหลบหลีกและหลบเลี่ยงการโจมตีด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วปานสายฟ้า

แต่ออสตินก็ไม่ยอมแพ้ เขายังคงเดินหน้าโจมตีต่อไป ดาบใหญ่ของเขาเปล่งประกายด้วยพลังที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไป ขณะที่เขาโจมตีมักจะทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนและแตกร้าวอยู่ข้างใต้เขา ทำให้เกิดคลื่นกระแทกที่กระเพื่อมไปทั่วสนามประลอง

เมื่ออยู่ห่างจากออสตินได้มากแล้ว มือของเซลด้าก็กระชับขึ้น ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความยินดีขณะที่เธอใช้กระบวนท่าสุดท้ายของเธอออกมา

<กระบวนท่าหอกที่ 5 : แร็กนาร็อค!>

สายฟ้าทั้งหมดภายในเซลด้ารวมเข้าด้วยกัน วงกลมทั้ง 6 วงที่อยู่ข้างหลังเธอขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกมันกลายเป็นงูสายฟ้าตัวหนึ่งที่สามารถกลืนโลกได้ ขนาดของมันใหญ่มากขณะส่องประกายอยู่ข้างหลังเซลด้า เพียงแค่กระพริบตา หอกของเธอก็เคลื่อนตัวไปตามกระแสดั่งการเคลื่อนไหวเหมือนงูจากซ้ายไปขวา ขณะที่หอกของเธอพุ่งเข้าหาออสติน

ในขณะเดียวกันออสตินก็มองไปยังงูสายฟ้าที่กำลังเข้ามากลืนเขาด้วยความคิดถึง ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะปรากฏรอยยิ้ม เขากำอาวุธไว้แน่นพร้อมกับเร่งพลังภายในตัวให้พุ่งสูงขึ้น

<เพลงดาบที่ 2 : ก้นบึ้งจุดจบแห่งความว่างเปล่า!>

ทั้งเปลวไฟและน้ำแข็งรวมกันภายใต้คำสั่งของเขา ปกคลุมดาบใหญ่ทั้งหมดด้วยพลังที่เพียงพอที่จะทำให้เมืองเล็กๆ ลงสู่นรก พลังของเปลวไฟและน้ำแข็งที่รวมกันก็เพียงพอที่จะสร้างการโจมตีสูงสุด

ด้วยพลังดังกล่าวภายใต้คำสั่งของเขา ออสตินจึงปรับร่างกายของตัวเองก่อนที่จะฟาดดาบจากด้านล่างขึ้นด้านบน 

พลังทั้งหมดที่อยู่ในดาบของเขาเหลือเพียงการฟันเพียงครั้งเดียวที่ปะทะกับงูกลืนโลก ขนาดของมันดูเล็กเมื่อเทียบกับงู แต่เมื่อการโจมตีเข้าปะทะกันกลับเกิดการระเบิดที่ไม่เหมือนใครกระเพื่อมขึ้นมา ทำให้ผู้ที่แข็งแกร่งน้อยกว่าต้องปิดตา

การระเบิดที่ทรงพลังซึ่งเพียงพอที่จะทำลายประเทศเล็กๆ ครึ่งหนึ่งที่ถูกโจมตีจากการโจมตีนี้ได้ผลักเซลด้าและออสตินออกไป ปกคลุมสนามประลองทั้งหมดไปด้วยพลังนั้น

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต