การทำลายสุทธิเห็นได้เมื่อผลของการโจมตีระหว่างสองฝ่ายลดลง ตามจริงโลกย่อยนี้ควรจะถูกทำลายอย่างไม่เหลือซากไปแล้ว แต่เนื่องจากผู้ที่จัดการพลังมิติลงมือจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นคนจำนวนมากคงจะตายไปพร้อมกับพลังที่รั่วไหลออกมาจากโลกย่อยนี้แล้ว

ผู้ชมที่มีสีหน้าเคร่งเครียดจ้องมองไปที่สนามประลอง โดยมุ่งความสนใจไปที่ผู้รอดชีวิตเพียงอย่างเดียว เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ชนะ การระเบิดทั้งหมดได้บดบังดวงตาของพวกเขา ในขณะที่ภายในโลกย่อยเหลือเพียงพลังทำลายล้าง

พื้นกลายเป็นสีดำสนิท โดยมีสายฟ้าฟาดลงมาบนพื้น แสดงให้เห็นว่าแม้พื้นจะเป็นฉนวนที่ดีที่สุด แต่ก็ยังคงนำกระแสไฟฟ้าอยู่!

ฉากนี้ดูคล้ายกับวันสิ้นโลกที่ไม่มีอะไรสวยงามปรากฏให้เห็น มีรอยแตกร้าวทุกแห่ง ความร้อนและความหนาวเย็นแผ่กระจายไปทั่ว พื้นดินไม่มีอะไรนอกจากสีดำและรอยแตก ไม่มีชีวิตหรือความงาม แต่ไม่นานในสายตาของทุกคนก็มองเห็นร่าง 2 ร่างที่เริ่มปรากฏขึ้น เมื่อเห็นพวกเขา การแสดงออกของผู้คนก็เปลี่ยนไป

ภายในพื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่ออสตินและเซลด้ากำลังยืนเผชิญหน้ากันอยู่ โดยที่เซลด้าอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ผมของเธอยุ่งเหยิง มีรอยขีดข่วนและความเสียหายที่หลายส่วนของชุดของเธอ รูปร่างของเธอซีดเล็กน้อย แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือรอยไหม้และน้ำแข็งบนร่างกายของเธอ!

มันมีขนาดเล็ก แต่ก็ยังปรากฏอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้ส่วนที่เหลือรู้สึกหนาวสั่นก็คือความจริงที่ว่าออสตินไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น! เขายืนอยู่ที่นั่นโดยไม่เป็นอะไรเลยขณะจ้องมองอย่างสงบไปยังเซลด้า ปีกสีแดงโลหิตที่สวยงามทั้ง 2 ข้างของเขาทำหน้าที่ป้องกันได้อย่างสมบูรณ์แบบในขณะที่พวกมันรับการโจมตีที่รุนแรงและปกป้องเขา

ประกายไฟสายฟ้าหลายดวงยังคงปรากฏบนร่างกายของเขา แต่เขาก็สามารถต้านทานมันได้อย่างสมบูรณ์ 

ออสตินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

“ดูเหมือนว่าผมจะได้ไปเดทกับคุณนะครับ…”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เซลด้าก็มองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา สีหน้าของเธอสงบนิ่งกับสถานการณ์ของตัวเอง เพราะเธอเคยรอดชีวิตมาด้วยสภาพที่แย่กว่านี้มาแล้ว ดวงตาแมวของเธอคมขึ้นขณะมีหนวดสามเส้นขึ้นบนใบหน้าของเธอ หางของเธอส่ายไปรอบๆ ขณะที่เธอเริ่มตอบกลับมา 

“นายรู้ไหม…ว่าฉันเป็นพวกเกลียดการพ่ายแพ้…”

<อาณาเขต : ไร้จุดจบ ไร้จุดเริ่มต้น>

มันเร็วเกินไปและทรงพลังเกินไป เพราะก่อนที่ออสตินจะกระพริบตา หอกของเซลด้าก็พุ่งมาที่คอของเขาแล้ว อาณาเขตที่เป็นพลังที่ของระดับจักรพรรดิไหลออกมาจากเซลด้าปกคลุมเขาไว้ในนั้น ในสถานที่แห่งนี้ เขาเป็นเพียงของเล่นของเซลด้าที่อยู่ในกำมือเธอ การที่เธอใช้สิ่งนี้บ่งบอกถึงการพ่ายแพ้ออสตินหรือเปล่านะ?

…..

“เป็นไปไม่ได้!” 

ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ราล์ฟตะโกน การแสดงท่าทางประหลาดใจของเธอเผยให้เห็นความตกใจอย่างยิ่งที่ไหลผ่านหัวใจของเธอ แม้ว่าราล์ฟที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอจะไม่มีสีหน้าที่ดีกว่ามากนัก 

‘ขอให้ปลอดภัยนะเจ้าเด็กบ้า…’

ราล์ฟคิดขณะจับเก้าอี้ไว้แน่น

“คุณเลี้ยงสัตว์ประหลาดแบบไหนไว้กันหนิ?” เขาพึมพำ

…..

“เป็นไปได้ยังไง?” หนึ่งในผู้อาวุโสสูงสุดของสภาสงครามพูด น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่เขารู้สึก

“ดูเหมือนเธอจะซ่อนอะไรไว้จากพวกเราอีกมากเลยนะ…” ผู้เฒ่าอีกคนพูดด้วยน้ำเสียงเข้มแข็งแต่เบาบาง แต่ความซาบซึ้งในนั้นยังคงอยู่

“อย่างน้อยนี่ก็หมายความว่าการประลองนี้เป็นของเราแล้ว…” ผู้อาวุโสอีกคนพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข ซึ่งถูกแทนที่อย่างรวดเร็วด้วยอีกคน

“หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ..…” ผู้เฒ่าพูด ดวงตาของเขาเพ่งไปที่ออสติน ซึ่งกำลังถูกหอกแทงคอในไม่ช้า แม้จะมีภัยคุกคามที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ออสตินก็ยังคงมีท่าทีสงบ ซึ่งทำให้เกิดลางสังหรณ์เกิดขึ้นในใจของผู้เฒ่า

…..

มุมมองของออสติน :

‘นี่คงเป็นจุดสิ้นสุดของความสนุกแล้วสินะ…’

ผมคิดในใจขณะมองร่างกายของตัวเองที่กำลังตกอยู่ภายใต้อาณาเขตของเซลด้าอย่างสมบูรณ์ ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากที่เธอสามารถใช้มันในระดับพลังที่ต่ำกว่าเช่นนี้ได้

‘ยังคงรู้สึกแปลกๆ เหมือนเดิมเลยแหะ’

ความรู้สึกที่ร่างกายของคุณถูกควบคุมโดยสมบูรณ์ไม่เคยเป็นความรู้สึกที่ดีเลย แต่ข้อดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือเธอไม่มีพลังเพียงพอที่จะรักษาพลังดังกล่าวไว้ได้ อย่างมากก็คงจะใช้ได้เพียงหนึ่งวินาทีเท่านั้น

การรักษาจังหวะของผมง่ายขึ้นเนื่องจากพรของตาที่ผมกำลังใช้อยู่ หนึ่งในพลังพิเศษของมันคือการทำให้สมองของผมทำงานด้วยความเร็วที่เกินความเร็วปกติได้ ซึ่งนั่นส่งผลให้ผมสามารถรับรู้ทุกสิ่งรอบตัวได้ดีกว่าใครๆ โดยที่ในตอนนี้สายตาของผมต่างมุ่งความสนใจไปยังหอกที่พุ่งเข้ามาหาตัวเองอยู่

อาณาเขตพิเศษของเซลด้าได้ลบแนวคิดเรื่องระยะทางออกไป ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทำอะไร คุณจะไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ในอาณาเขตของเธอ คุณจะต้องรับการโจมตีจากหอกของเธอ

‘น่าจะถึงเวลาที่จะจบเรื่องนี้แล้ว…..’

เมื่อคิดอย่างนั้นแล้วผมก็เริ่มปลดปล่อยพลังของตัวเองที่ผนึกไว้ที่ระดับต้นกำเนิดขั้น 8 เพื่อสนุกไปกับการต่อสู้ออกมา พลังอันไร้ขอบเขตของระดับต้นกำเนิดขั้น 10 ไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกายของผม ท่าทางของผมผ่อนคลายลงขณะที่ร่างของราเซลเลียแวบขึ้นมาในใจของผม

‘จุดแรก: การทำลายล้างเป็นศูนย์’

ขณะที่ผมคิดเช่นนั้น พลังแห่งการทำลายล้างที่ไร้การควบคุมก็ระเบิดออกมาจากภายในตัวผมเพื่อทำลายอาณาเขตหรือกฎใดๆ ที่ผูกมัดผมไว้อย่างสมบูรณ์ การตอบโต้อย่างไม่ทันตั้งตัวของผมทำให้ความพินาศปกคลุมไปทั่วทั้งโลกในไม่ช้าก่อนที่ภายในไม่กี่วินาทีทุกอย่างก็จบลง

หลังจากหลายปีของการทำงานและการทรมานเป็นพิเศษจากพระคาร์ดินัลทั้ง 6 ของโบสถ์แห่งการทำลายล้างของราเซลเลีย ผมก็สามารถควบคุมพลังทำลายล้างในมือของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์

พลังแห่งการทำลายล้างเริ่มที่จะทำลายทุกสิ่งที่ผมต้องการ – มานา, อาณาเขตและกฎ ภายในไม่กี่วินาทีเซลด้าก็ถูกปลดพลังของเธอออกไป แต่ผมแน่ใจว่ามันจะไม่ทำร้ายหอก, เครื่องแต่งกายหรืออะไรทำนองนั้นของเธอ เพียงแค่ทำลายพลังที่เธอใช้อยู่เท่านั้น โดยพื้นฐานแล้วมันเหมือนกับการทำให้เธอต้องตายไปชั่วขณะหนึ่ง

ผมยังต้องแน่ใจว่าจะไม่ทำลายโลกย่อยแห่งนี้ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะส่งผลให้เรา 2 คนหายตัวไปและปรากฏตัวในที่ที่เราจากมา นั่นคงเป็นเหตุผลมากเกินพอสำหรับสภาสงครามที่จะประกาศว่าการประลองรอบนี้เสมอกัน

ในไม่ช้าผมก็กางปีกออกและปรากฏตัวต่อหน้าเซลด้าที่ยืนแข็งอยู่ ดาบใหญ่ของผมกดลงบนคอของเธอ ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ตอบสนอง และผมเห็นความกลัวครั้งแรกในดวงตาของเธอได้ ผมรู้สึกแย่กับเธออยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้เห็นความหวาดกลัวที่ใครๆ ก็คงรู้สึกเหมือนกันเมื่อธาตุการทำลายล้างปกคลุมคุณ แต่ของผมกลับอันตรายยิ่งกว่านั้น

“การประลองจบแล้วใช่ไหมครับ?” 

ผมถามท่ามกลางความเงียบอันหนาวเหน็บ 

เซลด้าคุกเข่าด้วยความงุนงงโดยมีดาบใหญ่ของผมพาดคอเธออยู่ เกิดความเงียบอันน่าตื่นตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่กรรมการชายคนนั้นจะปรากฏตัวกลับมา ดวงตาที่สั่นเทาของเขาจับจ้องมาที่ผมขณะที่เขาเริ่มพูดด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง

“ผู้ชนะการประลองคือ…เร็กซ์แห่งดาร์กไนท์” 

เมื่อเขาพูดจบ ไม่มีเสียงโห่ร้องหรือแสดงความยินดีใดๆ ทั้งสิ้นและสิ่งเดียวที่ผมรู้สึกได้คือความโกรธและความไม่เชื่อที่มีอยู่เต็มไปหมด ให้ตายเถอะ ผมสัมผัสได้ถึงสายตาของมหาอำนาจสูงสุดของสภาสงครามและคนอื่นๆ ที่เพ่งความสนใจมาที่ตัวเองได้เลย การจ้องมองอย่างกดดันของพวกเขาเพียงพอที่จะทำให้คนอื่นๆ หมดสติได้เลย แต่ผมก็ไม่ได้ล้มลงแต่อย่างใด

ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ผมยกดาบใหญ่ขึ้นและชูมันไว้สูงเหนือหัวขณะพูด

“ผมหวังว่าจะเป็นพลังให้กับสภาได้นะครับ…”

มันเป็นเพียงถ้อยคำเล็กๆ น้อยๆ แต่สิ่งนี้เองเพิ่มความกดดันที่มุ่งความสนใจมาที่ผมถึง 3 เท่า ความอาฆาตพยาบาทและความโกรธนั้นสูงมากต่อความต้องการที่ผมขอหลังจากชนะการต่อสู้ 3 ครั้งติดต่อกัน

ผมลดดาบลงแล้วหันไปมองเซลด้าซึ่งตอนนี้ได้สติกลับมาแล้ว 

ผมจับมือเธอแล้วดึงเธอขึ้นมาขณะพูด

“เป็นการประลองที่ดีเลยนะครับ” 

ผมพูด

“นายยังซ่อนไว้อีกแค่ไหนกัน?” 

เธอถามผมด้วยสายตาที่แคบลงซึ่งผมก็ตอบไปว่า 

“อีกเยอะครับ”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ การแสดงออกของเซลด้าก็เงียบไป แต่ไม่นานมันก็กลายเป็นรอยยิ้มที่สวยงามในขณะที่เธอพูด

“พรุ่งนี้ 11.00 น. ที่หอคอยบาซิลิสก์ อย่าช้าหล่ะ” 

เธอพูดก่อนจะหายตัวไป

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต