บทที่ 354 ใจดีมาก

บทที่ 354 ใจดีมาก

โชคดีที่รู้ความจริงทันเวลา ไม่เช่นนั้นถ้าต้องเข้าไปพัวพันกับขอทานจริง ๆ ชีวิตนางก็คงจะจบเห่แน่

กู้ซินเถาและซุนซื่อกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในใจของพวกนาง ห้องทั้งห้องจึงตกอยู่ในความเงียบ และได้ยินเพียงเสียงเคี้ยวอาหารของพวกนางเท่านั้น

นอกบ้าน สายตาของกู้ซุ่นสีจ้องตรงไปที่ปีกตะวันตก กลิ่นของอาหารลอยมาจากภายใน และมีควันลอยมาเป็นสาย

กู้ซุ่นสีเช็ดน้ำลายที่ไหลออกมานอกริมฝีปาก กลืนมันเข้าไป และท้องของเขาก็ส่งเสียงร้องประท้วง “โครก…คราก”

หิวมาก! กู้ซุ่นสีหิวมาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกลับไปที่ห้องครัวเพื่อตักน้ำและดื่มมันให้หมด

เนื่องจากน้ำเย็นเยียบ และเมื่อดื่มเข้าไปท้องของเขาก็เย็นวาบไปหมด กู้ซุ่นสีตัวสั่น หลบอยู่ใต้ชายคา ขดตัวเป็นก้อนกลม มองออกไปที่ประตูอย่างมีความหวัง รอให้กู้ถิงถิงปรากฏตัว

แต่กู้ถิงถิงออกไปหาอะไรกินแล้ว

พ่อกับแม่จากบ้านไปเกินสิบวันแล้ว แม่บอกว่าอีกสองวันจะกลับมา จึงเหลืออาหารไว้เพียงแค่สองวัน

จนกระทั่งเวลาผ่านไปสองวัน อาหารทั้งหมดที่บ้านถูกกินจนหมดแล้ว แต่แม่ก็ยังไม่กลับมา เด็กทั้งสองหิวไส้กิ่ว ในที่สุดกู้ถิงถิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพาน้องชายของนางออกไปหาอะไรกิน

มีคนใจดีในหมู่บ้านเห็นสองพี่น้องดูน่าสงสารจึงให้อาหารพวกเขาไปเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม มีผู้คนจำนวนมากในหมู่บ้าน ทุกครัวเรือนต่างก็ต้องดูลูกเด็กเล็กแดง ดังนั้นจึงไม่มีอาหารเหลือพอสำหรับพวกกู้ถิงถิง

นอกจากนี้ เฉาซื่อก็ไม่เป็นที่ชื่นชอบมาตั้งแต่แรก ในยามปกติไม่เคยเห็นนางช่วยเหลือชาวบ้านคนอื่น และข่าวลือบางส่วนล้วนก็มาจากปากของนาง ชาวบ้านจึงไม่ค่อยชอบขี้หน้านางนัก

แม้แต่ลูก ๆ ในครอบครัวของนางก็ไม่เป็นที่ชื่นชอบ

หลังจากที่ให้เป็นครั้งคราว เมื่อกู้ถิงถิงมาที่ประตูอีกครั้ง ผู้คนก็เริ่มไม่มีความสุข

“ไป ไป ไป เหตุใดเจ้ามักจะมาที่บ้านข้าตลอดเลย ข้าเคยให้อาหารพวกเจ้าไปแล้วนี่ ไปซะ!”

กู้ถิงถิงทำอะไรไม่ถูก หลังจากถูกผู้ตำหนิ นางทำได้แค่พากู้ซุ่นสีไปที่อื่น

หลายครั้งที่ถูกขับไล่ออกมา บางคนไม่ให้ คนที่ให้ก็ให้เพียงแค่หนึ่งหรือสองคำ

“ครอบครัวข้ายังมีปากท้องมากมายที่ต้องกินอาหาร พวกเจ้าไปที่อื่นเถอะ!”

“แล้วพ่อกับแม่ของเจ้าล่ะ พวกเขาไม่สนใจลูกของตัวเองหรือ พวกเจ้าจะมาที่บ้านของข้าทำไม ออกไปซะ!”

“มา ข้าให้เจ้าได้เล็กน้อย ใช้มือของเจ้าหยิบเอาไป”

ไม่ง่ายเลยที่จะเจอครอบครัวที่เต็มใจมอบอาหาร กู้ถิงถิงดีใจมากเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายจะมอบอาหารให้ จึงรีบเอื้อมมือเล็ก ๆ แสนสกปรกของนางไปหยิบมันขึ้นมา ข้าวฟ่างร้อนที่เพิ่งออกมาจากหม้อ มันลวกมือของกู้ถิงถิง แต่นางก็ยังไม่ทิ้งมันไป

เจ้าหนึ่งคำข้าหนึ่งคำ และกลืนข้าวที่อยู่ในมือลงไป

วันเวลาผ่านไปเป็นวัน ๆ พวกเขาไม่ได้กินอาหารครบมื้อ กู้ซุ่นสีรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก เขาใช้หลังมือเช็ดน้ำตาจากหางตา สูดจมูก แล้วกอดอกรอพี่สาว

เมื่อกู้ถิงถิงกลับมาจากข้างนอก นางก็ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมา

ครั้นซุ่นสีเห็นพี่สาวของตนกลับมาแล้ว ดวงตาก็เป็นประกาย เขาไม่ได้คิดอะไร เขาวิ่งเร็วราวกับกระต่าย รุดขึ้นหน้าไปหาพี่สาวด้วยความหวัง “ท่านพี่ มีอะไรให้ข้ากินหรือไม่?”

กู้ถิงถิงส่ายหัว และพยายามกลั้นน้ำตาไว้

ทันใดนั้น กลิ่นหอมกรุ่นก็ลอยเตะปลายจมูกของนาง เด็กหญิงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ดวงตาของนางเปล่งประกาย “ซุ่นสี แม่กลับมาแล้วหรือ?”

ในบ้านมีกลิ่นหอมของอาหารอย่างชัดเจน หรือว่าเฉาซื่อจะกลับมาแล้วหรือ?

ดวงตาของกู้ซุ่นสีหรี่ลงทันที ส่ายหัวและกล่าวอย่างฉุนเฉียวว่า “ไม่ เป็นท่านป้าใหญ่และพี่ซินเถาที่กลับมา”

“พวกเขากำลังกินข้าวอยู่ในบ้านหรือ?” กู้ถิงถิงเอ่ยถาม

เมื่อเห็นกู้ซุ่นสีพยักหน้า กู้ถิงถิงก็กล่าวว่า “เหตุใดเจ้าไม่ไปขออะไรป้าใหญ่กินล่ะ”

เมื่อกู้ซุ่นสีได้ยินคำพูดของพี่สาว เขาก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจทันที “ท่านพี่ข้าขอแล้ว แต่ถ้าท่านป้าไม่ให้ อีกทั้งนางยังด่าข้าอีกด้วย!”

กู้ถิงถิงรีบไปที่บ้านปีกตะวันตกและทุบประตูอย่างแรง “ท่านป้าใหญ่ พี่ซินเถา!”

ในตอนที่กู้ถิงถิงกลับมา ซุนซื่อและกู้ซินเถาก็ได้ยินแล้ว เมื่อกู้ถิงถิงมาเคาะประตูใน ซุนซื่อก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินและไม่ลุกขึ้นเลย

“ท่านป้าใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านอยู่ข้างใน เปิดประตูเถอะ ข้าและน้องชายไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้ว ให้พวกเรากินสักคำเถอะ!” กู้ถิงถิงกล่าวอย่างน่าสมเพช แม้แต่เสียงของนางก็เล็กราวกับยุง แรงที่ทุบประตูก็เบาลงเรื่อย ๆ และดูเหมือนว่านางจะหิวโหยเป็นอย่างมาก

ซุนซื่อไม่ขยับเขยื้อน ไม่ปริปากส่งเสียง และเมื่อกู้ซินเถาวางตะเกียบลงก็หมายความว่ากินเสร็จแล้ว

จากนั้นซุนซื่อก็เทอาหารทั้งหมดใส่จานเดียว และตะโกนออกไปข้างนอกว่า “ยังมีอาหารอยู่นิดหน่อย พวกเจ้าไปเอาจานมาใส่”

ทันทีที่นางได้ยินว่ามีอาหาร กู้ถิงถิงก็ตอบรับอย่างตื่นเต้นและวิ่งออกไป กระทั่งผ่านสักพัก นางก็กลับมาพลางเอ่ยเรียก “ท่านป้าใหญ่ ข้าเอาจานมาแล้ว เปิดประตูเร็วเข้าเถิด”

ซุนซื่อเดินไปเปิดประตู แต่แง้มประตูเพียงเล็กน้อยและหยิบจานที่กู้ถิงถิงเอามา แล้วซุนซื่อก็ปิดประตูอย่างแน่นหนาอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าแม่กำลังเตรียมอาหารอยู่จริง ๆ กู้ซินเถาก็กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ท่านแม่จะให้อาหารพวกเขาจริงหรือ!”

ซุนซื่อเทกับข้าวที่เหลือเพียงเล็กน้อยเข้าด้วยกันด้วยรอยยิ้ม จากนั้นคนให้เข้ากัน นางกล่าวอย่างมีความหมายว่า “เดี๋ยวเจ้าก็รู้!”

เมื่อเห็นสีหน้ามีเลศนัยของซุนซื่อ กู้ซินเถาก็อยากรู้อยากเห็นเช่นกัน เมื่อเห็นว่าซุนซื่อหันหลังไปหยิบดินขึ้นมา จากนั้นก็โยนดินลงในจาน และอาหารบนจานก็ถูกปกคลุมด้วยดินในทันที

ซุนซื่อคนด้วยตะเกียบเพื่อให้แน่ใจว่าดินและอาหารถูกผสมเข้าด้วยกันแล้ว จากนั้นจึงวางตะเกียบลงด้วยความพึงพอใจ

เมื่อเห็นการกระทำของซุนซื่อ กู้ซินเถาก็ยิ้มออกมา นางปิดปากด้วยผ้าเช็ดหน้าและหัวเราะเบา ๆ

จากนั้นก็มองไปยังคนสองคนที่รออยู่ข้างนอกประตูอย่างดูถูกและเยาะเย้ย “หึ มาขออาหารบ้านข้าก็ต้องกินดินไปเช่นนี้แหละ”

ซุนซื่อยื่นจานให้ทางช่องประตูอีกครั้งราวกับยื่นให้ขอทาน “นี่ เอาไปกินเสีย!”

กู้ถิงถิงรับมันอย่างมีความสุข กล่าวขอบคุณสามครั้ง และลากกู้ซุ่นสีเข้าไปในห้อง

พี่น้องไม่ได้ใช้ตะเกียบ พวกเขาแค่จับมันด้วยมือ กู้ซุ่นสีหยิบปริมาณมากแล้วยัดเข้าไปในปากของเขา เนื่องจากไม่กินอาหารมาหลายวันจึงหิวมาก และกินอย่างมูมมาม

กู้ซุ่นสีกรีดร้องอย่างน่าสังเวช เมื่อเขาได้ยินเสียง ‘กร๊อบ’ อยู่ในปากของเขา

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ความเลวของซุนซื่อไม่มีสิ้นสุดจริง ๆ นะคะเนี่ย นั่นมันหลานเธอนะ

ไหหม่า (海馬)