บทที่ 393 จะทำให้ครึ่งเดือนนี้ของเธอลงจากเตียงไม่ได้เลย

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

ในทันใดนั้นซูสือจิ่นก็ถึงกับตาโต ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ

หยานชิงเจ๋อรู้ว่านี่เป็นคำถามที่ยึดหลักการ ก็เลยรีบพูดอีกว่า : “ แต่ก่อน ฉันก็เคยมีแฟน แต่มันก็แค่จับมือและดูเหมือนกับการเล่นพ่อแม่ลูก เจียงซีหยู่ ที่จริงฉันก็เคยนอนเดียวกันกับเธอ แต่พวกเราก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เสี่ยวจิ่น ฉันรู้ว่าเรื่องที่ผ่านมานั้นมันทำให้เธอรู้สึกเสียใจ แต่หลังจากวันนี้ไปฉันรับประกันได้เลยว่ามันจะไม่มีอีก ! ต่อไปถ้ามีผู้หญิงมาหาฉันเพื่อพูดคุย ฉันรับรองได้ว่าจะอยู่ห่างสามไม้บรรทัด นอกจากเรื่องธุรกิจแล้วที่ต้องจับมือ แน่นอนว่าฉันจะไม่แตะต้องใครแม้แต่ปลายนิ้ว……”

เมื่อซูสือจิ่นได้ยินเข้าพูดถึงขนาดนี้ ทันใดนั้นจู่ๆก็รู้สึกอยากหัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย

แต่ก่อนเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหยานชิงเจ๋อจะรับประกันอะไรแบบนี้กับเธอ !

แต่ทว่า เธอตั้งใจที่จะไม่หัวเราะ เพื่อที่จะดูว่าเขาจะพูดอะไรต่อ และโอกาสแบบนี้มันก็หายากมากด้วยสิ เธอก็เลยอยากจะคว้าโอกาสดีๆแบบนี้ไว้

ฉะนั้นแล้ว เมื่อหยานชิงเจ๋อเห็นว่าซูสือจิ่นเงียบอีกครั้ง ทันใดนั้นก็เลยพูดว่า : “ ใช่สิ เรื่องในคืนนั้นที่ฉันเป็นลมไป พี่เฉินก็รู้ แล้วก็สามารถเป็นพยานให้ได้ด้วย เป็นเพราะเจียงซีหยู่และมั่วหลิงชวนนั้นรู้จักกัน เค้าก็เลยฉวยโอกาสที่ฉันเป็นลมไป ใช้ลายนิ้วมือของฉันปลดล็อกโทรศัพท์ของฉัน แล้วก็ยังส่งข้อมูลของพี่เฉินไปให้มั่วหลิงชวน ก็เลยทำให้งานแต่งงานของพี่เฉินนั้นต้องเจอกับวิกฤติอยู่หลายครั้ง……”

ซูสือจิ่นเชื่อแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ : “ มันมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ ?”

“ ดังนั้น เธอมีแผนการขนาดนี้ แล้วก็ยังใช้ผลประโยชน์นี้ในการทำให้เพื่อนของฉันได้รับความเสียหายอีก มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ฉันจะไปต่อกับเค้า ?” หยานชิงเจ๋อมองไปยังซูสือจิ่นพร้อมกับรอยยิ้ม : “ ยังไงก็เป็นเธอที่ดีที่สุด ฉันชอบเธอ เสี่ยวจิ่น ฉันชอบที่เธอคอยอยู่เคียงข้างฉันมาตั้งแต่เด็กๆแล้วก็ชอบที่เธอใช้สายตาอันบริสุทธิ์แบบนี้มองมาที่ฉัน !”

คนคนนี้ ดูเหมือนว่าพอเปิดหูเปิดตาแล้ว พอพูดถึงเรื่องความรัก คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่ต้องสคริปต์เลย !

ซูสือจิ่นกัดริมฝีปาก แล้วก็พบว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอะไรเลย และถูกหยานชิงเจ๋อทับไว้บนตัว ทันใดนั้น เลือดก็ขึ้นสมอง ทำให้แก้มแดง และแม้แต่หูก็ยังแดงไปด้วยเลย

“ เสี่ยวจิ่น เชื่อฉันเถอะนะ ฉันจะทำให้ดีที่สุดเพื่อรักเธอ ” ในขณะที่หยานชิงเจ๋อพูดนั้นก็ได้ก้มลงไปจูบริมฝีปากของซูสือจิ่นอีกครั้ง

เขารู้สึกได้เลยว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ดังนั้นก็เลยไม่ได้เข้าไปด้วยความรีบร้อน แต่เริ่มต้นจากริมฝีปากของเธอแล้วก็ค่อยๆจูบไปที่แก้มและหูของเธอ

ความเร้าร้อนของเขาก็ได้ชะงักอยู่ตรงริมหูของเธอ ซึ่งนำพาด้วยลมหายใจที่สั่นเทา ซูสือจิ่นก็อดไม่ได้ที่จะสูบความเย็น

มือของหยานชินเจ๋อก็ได้เริ่มจุดไฟในบนตัวเธอแล้ว และทุกที่ที่เคยสัมผัสที่มันก็จะร้อนละอุขึ้นมา

ร่างกายของเธอก็ได้เริ่มสั่นระริก จากที่ตื่นเต้นก็ไปสู่ความผ่อนคลาย และในที่สุด เธอก็ได้ละลายไปกับความปลอบโยนของเขาโดยสิ้นเชิง

หยานชิงเจ๋อรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของซูสือจิ่น ดังนั้น เขาก็เลยโอบเอวของเธอไว้และออกแรงให้มันลึกเข้าไป

เธอตัวเกร็งอยู่ครู่หนึ่งและนำมาด้วยเสียงที่คร่ำครวญให้กับเขา

“ เสี่ยวจิ่น ผ่อนคลายหน่อยสิ บีบจนฉันจะตายอยู่แล้ว ” เสียงหยานชิงเจ๋อก็กลายมาเป็นเสียงที่แหบแห้งสุดจะบรรยาย

ซูสือจิ่นไม่กล้าที่จะลืมตาเลย เธอรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ทำไมเธอถึงได้ยอมการโจมตีที่อ่อนโยนของเขาและถูกยึดครองได้เร็วขนาดนี้ด้วย ?

และทันใดนั้น เมื่อเข้าสู่ความคุ้นชินกับความรู้สึกที่ถูกสัมผัสอย่างชัดเจนจนจำฝั่งใจเป็นเวลานาน จากนั้นหยานชิงเจ๋อก็อุ้มเธอขึ้นมาโดยที่ไม่ได้รีบร้อนเข้าไป และก็ก้มลงไปจูบซูสือจิ่น

ลมหายใจที่แผดเผานั้นก่อตัวและพองฟูอย่างต่อเนื่องในอวกาศ และนำมาซึ่งท่าทางที่สะลึมสะลือ โดยที่ซูสือจิ่นก็ได้เปิดร่างกายของตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัว

เมื่อรู้สึกถึงความลึกซึ้งในความว่างเปล่านั้น ก็มีความรู้สึกที่เต็มอิ่มกลับมา ต่อมาทั้งสองคนก็ส่งเสียงคร่ำครวญ

หักห้ามอารมณ์รักใคร่มาเกือบปี ในชั่วพริบตานี้หยานชิงเจ๋อก็เกือบจะยอมแพ้ แต่เขาก็พยายามให้ตัวเองนั้นสงบลงเล็กน้อย และเขาก็ก้มลงมองผู้หญิงแก้มแดงที่อยู่ใต้ร่างของเขาพร้อมกับเรียกชื่อ : “ เสี่ยวจิ่น ”

“ อืม ?” ซูสือจิ่นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เบาและเขินอาย

“ ฉันก็แค่อยากจะเรียกเธอ ” หยานชิงเจ๋อยิ้มมุมปาก : “ มีเพียงแค่ฉันที่เรียกเธอว่าเสี่ยวจิ่น และเธอก็เป็นเพียงแค่ของฉันคนเดียว ”

“ ฉันยังคงเป็นของคุณพ่อฉัน !” ซูสือจิ่นรีบตอบกลับไป

เมื่อหยานชิงเจ๋อได้ยินว่าในประโยคพูดของเธอนั้นมีคำว่า‘ยังคง’ และทันใดนั้น ความประหลาดใจที่มีอยู่ในใจก็แทบจะท่วมท้นเขาในทันที !

ความหมายของเธอคือยอมรับประโยคที่เขาพูดเมื่อกี้อย่างนั้นเหรอ ?

ซูสือจิ่นพบว่าตัวเองเมื่อกี้เกิดยอมรับโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ทำให้รู้สึกหงุดหงิดตลอด

ในเวลานี้นัยน์ตาของหยานชิงเจ๋อนั้นเป็นประกาย : “ เสี่ยวจิ่น เธอดูสิ ตอนนี้แม้กระทั่งร่างกายของพวกเรายังติดอยู่ด้วยกันเลย ถ้าอย่างนั้น หลังจากนี้แล้วเธอไปถอดหมั้นได้ไหม ? ถ้าหากเธอรู้สึกว่าถอดหมั้นมันดูแย่ ฉันจะช่วยเธอเป็นคนถอดหมั้นเอง ถ้ามีเรื่องผลประโยชน์ในธุรกิจ ฉันจะเป็นคนจัดการเอง !”

อะไรร่างกายติดอยู่ด้วยกัน……ทะลึ่งชะมัด ! ซูสือจิ่นทำปากมุ่ย : “ หมั้นอะไรกัน ทำไมฉันไม่เห็นจะรู้เลย ?”

“ เธอกับลั่ว…….” หยานชิงเจ๋อไม่อยากแม้กระทั่งจะพูดถึงของลั่วฝานหวา รู้สึกว่าพอพูดถึงก็ดูพิเศษรู้สึกไม่สบายใจ อยากจะฆ่าคน !

“ พี่หมายถึงฝานหวาหรอ ? งานหมั้นของเขาจะยกเลิกได้ยังไงกัน ?” เมื่อซูสือจิ่นเพิ่งจะพูดจบประโยค ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของมรสุมที่แผ่กระจายออกมา ทันใดนั้นหยานชิงเจ๋อก็ได้ออกแรงปะทะจนเธอนั้นร้องออกมา

“ เสี่ยวจิ่น ฉันได้ยินแล้วว่าพวกเธอวางแผนที่จะจัดงานแต่งงานครึ่งเดือนหลังนี้ใช่ไหม ?” หยานชิงเจ๋อได้พยายามกระทำไปด้วยพร้อมพูดอย่างหายใจหอบว่า : “ ดีเลย ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะขังเธอไว้ในเรือนหอของพวกเรา และจะทำให้เธอลงจากเตียงไม่ได้เลย !”

“ ห๊ะ? ”ซูสือจิ่นถึงกับตาโต : “ ทำไมถึงจะลงจากเตียงไม่ได้ ?”

“ ก็แบบนี้ไง !” การกระทำของหยานชิงเจ๋อเร็วขึ้นเรื่อยๆ การหายใจของซูสือจิ่นนั้นถูกทำให้ยุ่งเหยิงเพราะความเร้าร้อนที่ถูกกระตุ้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง และร่างกายของเธอก็รุ่มร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับมีเสียงที่คลุมเครือที่ไม่สามารถควบคุมออกมาจากกล่องเสียง

“ ครึ่งเดือนนี้ พวกเรามีอะไรแบบนี้ด้วยกันทุกวัน เดาได้เลยว่าอาจจะมีลูกเลยก็ได้มั้ง ?” หยานชิงเจ๋อหรี่ตาลงด้วยท่าทางที่ดุร้าย : “ ฉันจะรอดูว่าลั่วฝานหวานั้นจะหมั้นกับใคร !”

“ฮ่ะฮ่า——” ซูสือจิ่นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ และเธอก็ขอร้องให้หยานชิงเจ๋อนั้นช้าลงหน่อยพร้อมกับพูดว่า : “ ทำไมเขาถึงจะหมั้นไม่ได้ละ ? คู่หมั้นของเขาพี่ก็เคยเจอแล้วนิ เป็นผู้หญิงอีกคนที่อยู่บนเรือน จินเยว่ฉีแห่งตระกูลจินนั้นไง ต่อให้พี่มัดฉันไว้ แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับงานหมั้นของพวกเขาละ !”

หยานชิงเจ๋อรู้สึกอึ้งและมองไปยังซูสือจิ่นอย่างเหลือเชื่อ

ยากมากที่ซูสือจิ่นจะได้เห็นเขาเสียหน้าแบบนี้ ดังนั้นก็เลยพูดเสริมไปอีกว่า : “ โอ้โห พี่ชิงเจ๋อ อย่าบอกนะว่าพี่ชอบลั่วฝานหวาอะ ? พอเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นแล้ว พี่ก็เลยหึง !”

หยานชิงเจ๋อก็ได้มองย้อนกลับไป ที่แท้ลั่วฝานหวากับซูสือจิ่นนั้นไม่ได้มีอะไรกันเลย !

หรือว่า เรื่องก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นพวกเขาร่วมมือกันเล่นละครเพื่อหลอกเขาอย่างนั้นเหรอ ?

เขารู้สึกตัวเองถูกคนอื่นโจมตีโดยที่ไม่รู้ตัว ยิ่งไปกว่านั้น เดิมทีบาดแผลที่อยู่บนร่างกายนั้นที่ได้มาจากการชกต่อยกับลั่วฝานหวา และเมื่อกี้เป็นเพราะอารมณ์ฮึกเหิมก็เลยทำให้ลืมมันไป ในเวลานี้ คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะชัดเจนขึ้นมา

หยานชิงเจ๋อมองดูผู้หญิงตัวเล็กเล็กที่อยู่ใต้ร่างกายของเขา ผมของเธอที่กระจัดกระจายนั้นราวกับสาหร่ายทะเลที่วางแผ่ไปทั่วเตียง ทั้งแก้มและหน้าของเธอแดง ดวงตาเป็นประกาย ริมฝีปากที่อิ่มเอิบ และยังคงอมยิ้ม

ที่ผ่านมา เขาก็เคยจินตนาการอยู่ว่าถ้าเธอผมยาวแล้วจะเป็นอย่างไร และสิ่งที่จินตนาการไว้ทั้งหมดนั้นสู้การโจมตีทางหัวใจไม่เท่ากับภาพจริงที่มองเห็นในขณะนี้

ที่แท้ สวยขนาดนี้นี่เอง !

ถึงอย่างไร เขาก็คาดไม่ถึงเลยว่าภรรยาที่น่ารักของเขาจะกล้าร่วมมือกับคนอื่นเพื่อมายั่วเขาแบบนี้ ทนไม่ได้ !

เขากอดซูสือจิ่นไว้ในอ้อมกอดอย่างแน่น แล้วก็เข้ามันไปลึกกว่าเดิม : “ เสี่ยวจิ่น ไม่ว่าเขาจะแต่งงานกับใคร ครึ่งเดือนนี้ อย่าแม้แต่จะคิดลงจากเตียง !”

เมื่อซูสือจิ่นได้ยินแบบนี้ก็ถึงกับตัวสั่นระริก

ว่ากันว่าผู้ชายถ้าหักห้ามความรักใคร่มานานแล้วก็จะเปรียบเหมือนกับเสือและหมาป่า ดูแล้วมันจะเป็นเรื่อง…….

แต่ทว่าเธอยังไม่ทันได้มีเวลาคิด ก็รู้สึกได้ถึงตามการกระทำของหยานชิงเจ๋อนั้นมันทำให้สติของเธอเริ่มปลดปล่อย และร่างกายก็ประจบไปพร้อมกับจังหวะของเขาโดยไม่รู้ตัว

เธอละลายกลายเป็นน้ำอยู่ใต้ร่างกายของเขา และถูกทำให้ร้อนด้วยอุณหภูมิของเขาจนกลายเป็นบ่อน้ำร้อนอุ่นๆ โดยที่ประจบเอาใจเขาและกลายเป็นรูปร่างใดก็ได้…….

ภายในห้องนั้น บรรยากาศก็ได้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งหลังจากผ่านไปนาน หยานชิงเจ๋อก็กอดซูสือจิ่นไว้แน่นและปลดปล่อยไปในส่วนลึกของเธอ

ในขณะนี้ เขารู้สึกถึงความพึงพอใจอย่างถึงที่สุดแล้ว

ราวกับเป็นจุดเปลี่ยนเวลาของตัวเองในครึ่งปี และในที่สุดฝุ่นละลองมันก็ก็ร่วงหล่นลงมาในขณะนี้

เขาไม่ต้องตกใจตื่นขึ้นมากลางดึกอีกต่อไป และไม่ต้องฝันถึงเลือดและหยาดเหงื่อที่อยู่บนเสื้อผ้าอะไรพวกนั้นอีกแล้ว ;

เขาจะไม่ต้องรู้สึกแล้วหลังจากที่บินครั้งแล้วครั้งเล่า ก็จะได้เจอเธอในทันที แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงแค่การเดินเฉียดไหล่เท่านั้น

ตอนนี้ เธอก็อยู่ในอ้อมกอดของเขา มองเห็นและสัมผัสได้ และเขาก็สามารถกอดไว้แน่นๆได้ ความรู้สึกแบบนี้มันดีมากเลยจริงๆ !

เมื่อคืนทั้งสองคนไม่ได้นอนเลย ฉะนั้นแล้ว เดิมทีที่อยากจะลุกไปอาบน้ำ แต่ทว่าซูสือจิ่นรู้สึกเหนื่อยมากจนไม่อยากขยับ

ส่วนหยานชิงเจ๋อนั้น เดินทีก็อยากจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ แต่ทว่าความรู้สึกที่กอดซูสือจิ่นเอาไว้นั้นมันช่างสบายเหลือเกิน แล้วก็ไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่อยากจะปล่อยมือ ดังนั้น เขาก็เลยนอนอยู่แบบนี้และจ้องมองเธอตลอด

เวลาก็ค่อยๆผ่านไป จนกระทั่งทั้งสองคนผล็อยหลับไปเป็นว่าเหนื่อยล้ามาก

การหลับในครั้งนี้ เป็นการหลับที่สบายใจมากที่สุดครั้งหนึ่งของหยานชิงเจ๋อ สำหรับหนึ่งปีที่ผ่านมา

จนกระทั่งฝันว่าเขาและซูสือจิ่นและเขามีลูก เขามองดูท้องของเธอที่ค่อยๆโตขึ้นทุกวัน จนในที่สุด พวกเขาก็ได้คลอดลูกที่ทั้งฉลาดและแข็งแรง !

จนกระทั่ง เช้าในวันที่สองหยานชิงเจ๋อตื่นขึ้นมา นอกจากจะรู้สึกว่าหิวมากแล้ว ริมฝีปากของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาก็พบว่าในอ้อมกอดของตัวเองไม่ใช่ซูสือจิ่นแต่กลับเป็นหมอนข้าง เขาก็ลุกขึ้นนั่งในทันที !

เขามองไปรอบๆห้อง แต่ก็ไม่มีสิ่งของอะไรเลยที่เป็นของซูสือจิ่น

หรือว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเพ้อฝันที่ออกมากจากความฝันของเขาอย่างนั้นเหรอ ? !

หัวใจของเขาเต้นเร็วมากขึ้น แล้วก็รู้สึกสับสนอลหม่านเป็นอย่างมาก จนไม่สนใจแม้แต่จะใส่เสื้อผ้า และรีบวิ่งออกมาจากห้องนอน !

ด้านนอกห้องรับแขก ก็ยังคงมีเพียงแค่ความว่างเปล่า และไม่มีแม้แต่ใครเลย !

น้ำเสียงของหยานลิงเจ๋อนั้นสะอึกสะอื้นเล็กน้อย : “ เสี่ยวจิ่น ! เสี่ยวจิ่น ?”

แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครตอบเขา

เขาก็กระวนกระวายใจแล้วก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง

และเมื่อเขาจับโดนโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋า ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่ากุญแจรถนั้นถูกเธอเอาออกมาวางอยู่บนตู้ที่อยู่ข้างๆ

และบนตู้นั้นก็ยังมีกระดาษโน๊ตวางไว้หนึ่งแผ่น

“ พี่ชิงเจ๋อ ฉันไปสนามบินเพื่อรับคนคนหนึ่ง อีกเดี๋ยวฉันก็กลับมาแล้ว ” เป็นลายมือของซูซื่อจิ่นอย่างชัดเจน

ดูเหมือนว่าหลังจากที่เธอตื่นแล้ว จากนั้นหยิบกุญแจรถและโทรศัพท์ออกมาแล้วก็จากไป

เธอไปรับใคร ? หยานชิงเจ๋อรู้สึกร้อนใจ และในใจก็รู้สึกกังวลใจ จากนั้นก็ใส่เสื้อผ้าและหยิบกุญแจรถรีบวิ่งออกไป

โชคดี ที่เขาเพิ่งจะนั่งลงในรถ แล้วก็โทรหาซูสือจิ่นติดพอดี

หยานชิงเจ๋อก็โล่งใจไปเล็กน้อย : “ เสี่ยวจิ่น เธออยู่อาคารผู้โดยสารไหน ? ทำไมถึงได้ไม่รอฉัน ?”

“ วันนี้เพื่อนที่สตูดีโอของฉันบินมาที่นี้เพื่อมาเจอกับที่ปรึกษาในอนาคต ฉันเกือบลืมไปเลย !” น้ำเสียงของซูสือจิ่นดูเร่งรีบ : “ ฉันเพิ่งจะมาถึงสนามบิน แล้วก็กำลังไปยังขาเข้าระหว่างประเทศ พี่ไม่ต้องห่วงฉัน เดี๋ยวฉันช่วยเขาจัดการหาที่พักเรียบร้อยแล้ว ฉันจะติดต่อพี่ไปอีกที ”

หยานชิงเจ๋อก็รู้สึกหัวใจบีบแน่น : “ เพื่อนเธอเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ?”

ซูสือจิ่นตอบอย่างเป็นธรรมชาติ : “ ผู้ชาย รู้จักกันตอนที่อยู่ต่างประเทศ เป็นคนอังกฤษ ”

หยานชิงเจ๋อรู้สึกอยู่ไม่สงบอีกต่อไป ในหัวของเขาก็ได้ปรากฏภาพใบหน้าหนุ่มเท่ชาวอังกฤษก็คือแจ็ค

เป็นเพราะว่าเขาเคยแอบไปดูซูสือจิ่นอยู่หลายครั้ง ดังนั้น เขาเลยรู้ว่าแจ็คนั้นคิดอะไรกับซูสือจิ่น !