ตอนที่ 359 ต้องลงแรงจึงจะได้รับผลตอบแทน

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่ 359 ต้องลงแรงจึงจะได้รับผลตอบแทน

มู่เกินเอ๋อร์กระทืบเท้าพลางเอามือจับหูและร้องโอ๊ยเหมือนหมูที่กำลังถูกเชือด “ข้าไปช่วยงานพี่รองหลินมา ! ท่านดูสิ นางยังให้ขนมข้าตั้งเยอะ ! ข้าอดใจไม่กินทันทีเพราะอยากเก็บมาให้ท่านชิม แต่ท่านกลับตีข้า ! ถ้ายังตีข้าอีก ต่อไปได้ของดีอะไรมา ข้าจะไม่เก็บไว้ให้ท่านแล้ว ! ”

“เฮอะ ! เจ้าเด็กนี่ ปีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ กล้าขู่แม่เจ้าหรือ ? อยากโดนทุบหรือเปล่า ? ” แม่เลี้ยงโก่วเชิ่งเอ๋อร์ยังตีก้นบุตรชายอีกสองสามที ทว่าคราวนี้แรงที่ใช้เหมือนเป็นการปัดฝุ่นเท่านั้น

เสี่ยวถู่โต้วเห็นนางกุ้ยฮวาจึงรีบหอบขนมที่เหมือนสมบัติล้ำค่าไปหานาง “ท่านแม่ ข้าก็มีเหมือนกัน ! ขนมข้าวตัด งาตัดแล้วยังมีถั่วตัดด้วย พวกมันหวานมาก หอมมาก อร่อยมากเลยขอรับ ! ”

ป้ากุ้ยฮวาขมวดคิ้ว “พวกเจ้าไปเล่นที่บ้านเอ้อร์ฮว๋าแล้วยังเอาของพวกเขามาอีกหรือ ? ของพวกนี้ล้ำค่าจะตาย ยังเอามาเยอะขนาดนี้อีก คงประมาณครึ่งชั่งได้เลยกระมัง ? ไม่ได้การ อย่างไรก็ต้องเอาไปคืน ! ”

แม่เลี้ยงโก่วเชิ่งเอ๋อร์กำห่อขนมในมือแน่นพลางสบถ ชิ ออกมาหนึ่งคำ “คืนอะไร ? มู่เกินเอ๋อร์ก็บอกแล้วว่านี่เป็นของที่นางหนูรองมอบให้เพื่อตอบแทนที่เขาไปช่วยงาน…”

“เด็กโตแบบนี้ ไม่ก่อเรื่องยุ่งก็ขอบคุณสวรรค์แล้ว ยังจะช่วยงานอะไรได้ ? คงเห็นว่าวันนี้เสี่ยวเว่ยทำขนมจึงทำตัวตะกละ เสี่ยวเว่ยทนมองไม่ไหวจึงให้ขนมพวกเขาน่ะสิ…ไม่ได้ ต้องเอาไปคืน ไม่อย่างนั้นต่อไปจะมีหน้าให้เด็กมาเล่นที่บ้านสกุลหลินอีกหรือ ? ”

แม่เลี้ยงโก่วเชิ่งเอ๋อร์ทำใจไม่ได้ บ้านนางมีมู่เกินเอ๋อร์และโก่วเชิ่งเอ๋อร์สองคนรวมกันมีขนมชั่งกว่า ๆ ! เด็กทั้งสองคนกินคนละนิดก็พอแล้ว ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ นางจะเอาไปสวัสดีปีใหม่ทางบ้านมารดา มีหน้ามีตาจะตายไป !

แม่เลี้ยงโก่วเชิ่งเอ๋อร์บ่นในใจว่านางกุ้ยฮวายุ่งไม่เข้าเรื่อง ! ได้ของมาแล้วยังจะเอาไปคืน โง่หรือไร ? เวลานี้ ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านก็เข้ามาจับมือหลานชาย วังตงเฉียงบ่นด้วยความน้อยอกน้อยใจ ข้าใช้ความพยายามของตนแลกมา เหตุใดยังต้องเอาไปคืนอีก ?

“พี่รองหลิน…” วังตงเฉียงย่นใบหน้าน้อย ๆ พลางผลักประตูบ้านตระกูลหลินเข้าไปพร้อมใบหน้าที่กลั้นน้ำตาเอาไว้

“เป็นอะไรไป ? ” ขณะมองสีหน้าของเขา สิ่งที่หลินเว่ยเว่ยคิดได้อย่างแรกคือ “โดนแย่งขนมไปหรือ ? ไม่ร้องนะ ข้าจะห่อให้เจ้าเยอะกว่าเดิม…”

“ไม่ใช่หรอก” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านพูดด้วยน้ำเสียงละอายใจ “เจ้าดูสิ เฉียงจื่อของบ้านเรามารบกวนบ้านเจ้าตั้งครึ่งวันแล้วยังจะรับของบ้านเจ้าได้อีกหรือ ? พอเขากลับถึงบ้าน เราก็ตำหนิเขายกใหญ่ ต่อไปเขาไม่กล้ารับของบ้านเจ้าอีกแน่นอน ! ”

“ป้ากุ้ยฮวา พวกท่านมาเพราะเรื่องนี้เองหรือ ? ” หลินเว่ยเว่ยลูบใบหน้าของพวกเด็กๆ ก่อนจะยิ้มปลอบพวกเขา “พวกท่านเข้าใจเด็ก ๆ ผิดแล้ว ! ไม่นานมานี้ข้าเดินทางเข้าตัวเมืองไม่ใช่หรือ ? ในบ้านยังไม่ได้ทำขนมที่ต้องใช้ในวันปีใหม่ วันนี้ข้ามีเวลาว่างจึงลงมือทำขนมเหล่านั้น”

นางหยุดไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “ขนมที่ข้าจะทำมีค่อนข้างเยอะ ทำคนเดียวไม่ไหว ท่านแม่กับพวกน้าเฝิงยังยุ่งอยู่กับการทำเนื้อแผ่นและผลไม้อบแห้ง พวกตงเฉียงมาเล่นกับเอ้อร์ฮว๋าพอดีและเห็นข้าทำงานอยู่คนเดียว พวกเขาจึงอาสามาช่วยก่อไฟและคุมไฟให้ข้า

ท่านดูลูกเต่าสามสี่ตัวนั่นสิ ถ้าไม่มีพวกเขาคอยคุมไฟ ข้าคงทำขนมออกมาไม่ได้มากขนาดนี้ ! พวกเขาได้ขนมเพราะแลกมาด้วยความพยายามตลอดช่วงเช้า พวกท่านอย่าตำหนิเลย เด็ก ๆ จะน้อยใจเอาได้ ! ”

หลังภรรยาผู้ใหญ่บ้านได้ยินเช่นนั้นก็หันไปลูบศีรษะหลานชายและยังพูดอย่างเกรงใจอีกสองสามประโยค พอเห็นหลินเว่ยเว่ยยืนกรานจะยกขนมให้ นางก็ได้แต่พาหลานชายเดินออกมา

ป้ากุ้ยฮวาพูดด้วยรอยยิ้ม “ถู่โต้ว ขอบคุณพี่รองหลินของเจ้าหรือยัง ? ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็กลับก่อนนะ ! ”

ทันใดนั้นเสี่ยวถู่โต้ว มู่เกินเอ๋อร์และโก่วเชิ่งเอ๋อร์ก็พูดขอบคุณอย่างพร้อมเพียง “ขอบคุณพี่รองหลิน ! ”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าสมควรได้รับ ! ” หลินเว่ยเว่ยพูดกับพวกเด็กตามหลักความเป็นจริง…ต้องลงแรงจึงจะได้รับผลตอบแทน

เสี่ยวถู่โต้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่รองหลิน ตอนบ่ายพวกเราจะมาช่วยงานใหม่ ! ”

ป้ากุ้ยฮวาจิ้มหน้าผากเขาและด่าทันที “ขนมพวกนี้ยังไม่พอกินอีกหรือ ? ยังเอาเปรียบชาวบ้านไม่มากพอใช่ไหม ! ”

เสี่ยวถู่โต้วรีบแก้ตัว “ข้าอยากมาช่วยจริง ๆ ต่างหากขอรับ ไม่ได้มาเพราะขนม ! ”

“ข้าคงเชื่ออยู่หรอก ! ” ป้ากุ้ยฮวาจับมือบุตรชายเดินจากไป

แม่เลี้ยงโก่วเชิ่งเอ๋อร์มองห่อขนมในมือโก่วเชิ่งเอ๋อร์แล้วยื่นมือออกมา “เด็กกินขนมเยอะเกินไปไม่ดี มา เอามาให้แม่ ประเดี๋ยวแม่จะเก็บให้เจ้าแล้วค่อยแบ่งกิน ! ”

โก่วเชิ่งเอ๋อร์มองตานางแล้วส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อใจ “ข้าจะเอาไปให้ท่านพ่อ ท่านพ่อจะเป็นคนเก็บให้ข้าเอง ! ”

มู่เกินเอ๋อร์ก็ไม่วางใจ “ท่านแม่ ท่านกินขนมแต่ละอย่างแค่สองคำก็พอ อย่ากินของข้าหมดล่ะ ไม่อย่างนั้นพอข้าได้ของดีอะไรมาอีก ข้าจะไม่เก็บไว้ให้ท่านแล้ว ! ”

“เจ้าเด็กนี่ ใจกล้าแล้วสิ ถึงได้กล้าขู่แม่เจ้าน่ะ ! อยากโดนตีอีกใช่ไหม ? ” หลังเข้าบ้านไปแล้วแม่เลี้ยงโก่วเชิ่งเอ๋อร์ก็รีบเดินไปหยิบไม้กวาดทันที

ไฉนเลยมู่เกินเอ๋อร์จะกล้าอยู่เฉยให้นางตีตามใจชอบ ? เขารีบเข้าไปหลบหลังพ่อโก่วเชิ่งเอ๋อร์ทันที “ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย ! ท่านแม่จะตีข้าให้ได้ นางโลภกินขนมของข้าขอรับ ! ”

พ่อโก่วเชิ่งเอ๋อร์มองห่อขนมในมือบุตรชาย หลังอดทนฟังบุตรชายอธิบายถึงที่มาที่ไปของขนมพวกนี้แล้ว เขาก็ลูบศีรษะเด็กน้อย “ในเมื่อพวกเจ้าแลกมาด้วยความพยายามของตน เช่นนั้นพวกเจ้าก็เก็บไว้เองเถิด…”

แม่เลี้ยงโก่วเชิ่งเอ๋อร์รีบพูดทันที “ท่านพี่ พวกเด็กตะกละจะตายไป ไม่มีหมั่นโถวเหลืออยู่ในกรงสุนัขหรอก ถ้าให้พวกเขาเก็บไว้ ผ่านไปไม่ถึงสองวันก็หมด…”