บทที่ 484 สู้กับงูพิษ

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 484 สู้กับงูพิษ

บทที่ 484 สู้กับงูพิษ

ฉู่เหินเมื่อได้ยินดังนั้น เขาจึงเก็บเอากระบี่กลับไป หลังจากนั้นชายหนุ่มก็กางนิ้วทั้งสิบออก แล้วจึงโคจรพลังกิเลนออกมาทันที!

พลังกิเลนนั้นรุนแรงมาก เขาเพิ่งจะปล่อยมันออกมาไม่ทันไรก็ทะลุร่างงูพิษที่ซวยจำนวน 1 ตัวขาดเป็น 3 ท่อน! ส่วนตัวที่ไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัส!

เมื่อเห็นว่าได้ผล ฉู่เหินจึงใช้ดัชนีกิเลนโจมตีงูพิษต่อทันที! ส่งผลให้มีงูพิษหลายต่อหลายตัวนอนตายใต้เท้าของเขา! ขณะที่ฉู่เหินกำลังรู้สึกสนุกอยู่นั่น สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นจูจือที่พุ่งเข้ามาเช่นกัน

ในมือของจูจือถือดาบฟันปลาที่มีหนามแหลมปล่อยออกมาจากดาบ! ทันทีที่หนามจากดาบฟันปลาโดนงูพิษ พวกมันก็กลายเป็นเหมือนกับเต้าหู้นิ่ม ๆ ! งูหลายตัวพากันนอนตายอยู่ตรงนั้นในทันที

หลังจากเห็นฉากนั้นฉู่เหินก็ตกใจ พลังโจมตีของชายผู้นี้นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก! ทั้งยังใช้ได้กับสถานการณ์ที่หลากหลาย! ชายหนุ่มพบว่าเมื่อเทียบกันแล้วนั้น การโจมตีระหว่างเขากับอีกฝ่ายก็เหมือนเป็นภูเขาลูกเล็กกับลูกใหญ่ เทียบกันไม่ติดเลย!

ถ้าจูจือทำให้ฉู่เหินตะลึงแล้ว การโจมตีของเสี่ยวซุ่ยก็ทำให้ฉู่เหินยิ่งมึนงงขึ้นไปอีก! เขาเห็นเพียงเสี่ยวซุ่ยนั่งอยู่บนเหยี่ยวห้าสี เธอประคองพิณไว้ในมือ ก่อนจะดีดจนมันเกิดเสียง!

ที่ทำให้ฉู่เหินจินตนาการไม่ออกก็คือหลังจากที่เสียงถูกปล่อยออกมาแล้ว คลื่นเสียงเหล่านั้นก็ได้เปลี่ยนเป็นอาวุธนานาชนิด ทั้งกระบี่ ดาบ หอก กระบอง ที่พากันพุ่งลงมาจากท้องฟ้า

อาวุธเหล่านั้นพากันกระหน่ำเข้าใส่งูพิษดุจสายฝน พองูพิษสัมผัสกับอาวุธเหล่านี้ พวกมันก็พากันอ่อนกำลัง ไม่สามารถต้านทานได้ และตายตกไปทีละตัว ถ้าดูจากความเร็วในการฆ่าแล้ว เกรงว่าอีกไม่นานงูพิษคงต้องตายเพราะพวกเขาหมดแน่!

แต่เพียงชั่วอึดใจเดียว พวกเขาสองคนก็รีบถอยกลับ เพราะเดิมทีพวกเขาไม่สามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้นานท่ามกลางหมอกพิษพวกนี้ ทั้งสองทำได้เพียงถอยออกไปให้ไกลหน่อย จึงจะสามารถโจมตีต่อไปได้ ! และด้วยระยะที่ไกลเกินไป เลยทำให้ไม่สามารถฆ่างูพิษที่นี่ได้ทั้งหมด

ดังนั้นหลังจากโจมตีไม่กี่กระบวนท่า ก็ทำได้แค่ถอยกลับไปกลับมาอยู่อย่างงั้น ทางด้านฉู่เหิน เขากำลังจมอยู่ในภวังค์ ด้วยเพราะถูกการโจมตีของพวกเขาดึงความสนใจเข้าอย่างจัง! สำหรับฉู่เหินแล้ว นี่ถือเป็นการโจมตีรูปแบบใหม่! เขาศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ก่อนที่ชายหนุ่มจะพบว่าตอนที่ทั้งสองการโจมตี พวกเขาได้ใช้พลังธาตุร่วมด้วย

มันดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจ หากแต่ก็ยังไม่เข้าใจ ! ว่าแล้วชายหนุ่มจึงทดลองดึงพลังธาตุหนึ่งออกมาใช้ ก่อนที่เขาจะนั่งขัดสมาดตรงนี้และเริ่มทำการศึกษาทันที!

ก่อนอื่นฉู่เหินต้องนำพลังธาตุของตัวเองมาเป็นแก่นหลัก หลังจากนั้นค่อยใส่พลังเข้าไป แต่ถ้าทำแบบนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะหาวิธีไหนเพื่อปลดปล่อยพลังโจมตีออกไป! ขณะที่เขากำลังงุนงงอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็นึกออก ถ้านำพลังวิญญาณของตัวเองมาเป็นฐาน และเสริมพลังเข้าไป จากนั้นก็ปล่อยออกไปอย่างฉับพลัน โดยใช้ร่างกายเป็นตัวพาพลังธาตุออกไป มันจะเป็นยังไงกันนะ?

เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็ลองทดสอบดูในทันที ด้วยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง ชายหนุ่มจึงสามารถทำอะไรได้ง่ายขึ้นพอตัว! หลังจากวิญญาณและพลังในร่างกายรวมเข้าด้วยกันแล้ว ฉู่เหินก็รู้สึกราวกับพลังวิญญาณได้รับการฟื้นฟู หากแต่ตอนนี้เขายังไม่สามารถปล่อยมันออกไปได้

หลังจากนั้นก็รีบดึงพลังธาตุไฟออกมา ก่อนที่ต่อมาภายในร่างกายเขาจะมีทั้งพลังวิญญาณและพลังธาตุไฟที่ผสานเข้าด้วยกัน

ฉับพลันก็ได้เกิดเปลวไปลุกท่วมโดยมีตัวของฉู่เหินเป็นจุดศูนย์กลางขยายออกไปในระยะ 10 เมตร โดยที่เปลวไฟพวกนี้นั้นมันก็ยังมีพลังกิเลนรวมอยู่ด้วย! ทันทีที่เปลวไฟนี้ปรากฏ มันก็ทำให้งูพิษที่อยู่ในรัศมี 10 เมตรถูกย่างกลายเป็นงูแห้ง ๆ ในทันที

พอเห็นฉากนี้เข้า ชายหนุ่มก็ดีใจ ก่อนที่ต่อมาเขาจะทำการโจมตีแบบนี้อีกครั้งด้วยความลิงโลด! เพียงชั่วพริบตารอบสี่ทิศก็ไม่เหลืองูพิษหลงเหลืออยู่แล้ว ทั้งนี้เพราะมีงูบางส่วนที่ตกตกใจจนหนีหายไป!

ต่อมาชายหนุ่มก็เริ่มปรับตัวให้เข้ากับพลังชนิดนี้ หากแต่ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นพลังธาตุน้ำแข็งบ้าง! ทันทีที่เขาโจมตีออกไป ฉู่เหินก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า งูพิษที่อยู่ในรัศมี 10 เมตรกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง เพียงสะกิดเล็กน้อยรูปปั้นเหล่านั้นก็พังทลายลงมา

เมื่อน้ำแข็งแตกออก งูพิษเหล่านั้นก็พากันสิ้นใจตายในที่สุด!

พอเห็นฉากนั้นเขาก็เดินห่างออกไปอีก หลังจากนั้นก็เริ่มใช้พลังธาตุสายฟ้าดูบ้าง ครั้งนี้สายฟ้าจำนวนมหาศาลก็ผ่าลงมา! ทำให้งูพิษที่อยู่รอบ ๆ ทั้งหมดเกิดแผลเหวอะหวะ และตายในที่สุด!

ตอนนี้ฉู่เหินเหมือนจะได้ของเล่นใหม่อะไรสักอย่าง เขาทำการทดลองอยู่อย่างนั้นอย่างต่อเนื่อง! จนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ก่อนที่ชายหนุ่มจะพบว่าบริเวณนี้ไม่เหลืองูพิษเลยสักตัวเดียว ขณะที่เขากำลังโมโหที่ไม่ได้ทดลองต่อ ชายหนุ่มก็พลันเห็นว่าด้านหน้านั้นมีสิ่งที่คล้ายกับหนูอยู่!

สิ่งเหล่านี้มีจำนวนค่อนข้างเยอะ กระทั่งอาจจะเยอะมากกว่างูพิษเมื่อครู่หลายเท่า! เมื่อเห็นแบบนั้นฉู่เหินจึงลองนำพลังธาตุทั้งสองมารวมกันเป็นสาม จนทำให้พลังของเขาเพิ่มความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ไม่รู้ว่านานแค่ไหน เมื่อกำจัดพวกหนูไปแล้วก็คล้ายจะไม่มีสัตว์อื่นอีก ก่อนที่ฉู่เหินจะเห็นว่าสัตว์อื่น ๆ พากันพุ่งไปข้างหน้าจากทุกทิศทุกทาง! จนเขาต้องรีบโคจรพลังอย่างรวดเร็ว

แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้นฉู่เหินก็ไม่ค่อยพอใจ เขารู้สึกว่าควรที่จะต้องมีอาวุธดี ๆ สักชิ้น ถ้ามีอาวุธแบบนั้น มันจะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นไปอีกหลายเท่า ในตอนนี้เขาคิดอยากจะได้อาวุธแบบนั้นมาลองศึกษา แต่มันก็เป็นแค่ฝันของคนบ้าเท่านั้น!

จูจือกับเสี่ยวซุ่ยพักมาครึ่งวันแล้ว ในที่สุดก็ฟื้นฟูพลังเสร็จ ต่อมาพวกเขาก็กวาดสายตามองรอบทิศอย่างหวาดระหวางกลัวว่าจะมีงูพิษมาจู่โจม แต่แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจอ้าปากค้าง เพราะตอนนี้ไม่เพียงแต่งูพิษกระทั่งสัตว์ตัวเล็กสักตัวก็ไม่เหลือ!

อย่างไรก็ตามบริเวณนี้มีร่องรอยความเสียหายอยู่ นอกจากร่องรอยไฟไหม้แล้ว ยังมีร่องรอยน้ำแข็ง และเมื่อเดินไปข้างหน้าก็จะพบกับร่องรอยความเสียหายจากสายฟ้า ! หรือแม้กระทั่งยังมีร่องรอยของทั้งหมดนั้นปรากฏขึ้นพร้อมกันด้วย !!!

ที่ทำให้พวกเขาแปลกใจที่สุดก็คือในรัศมี 10 เมตรนั้น ไม่มีกระทั่งสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ สักตัวเหลือยู่เลย ทั้งสองไล่ตามไปข้างหน้าเพราะพวกเขาอยากจะดูว่าใครเป็นคนสร้างวีรกรรมสุดโหดนี้ขึ้น!

การพึ่งพาอาศัยถือว่าเป็นวัฏจักรของพวกเขา งูพิษแม้ว่าจะเป็นพิษเป็นภัยกับพวกเขา แต่พวกมันก็มีประโยชน์ด้วยเช่นกัน เพราะการที่มีงูอยู่ที่นี่ ทำให้หนูในหมู่บ้านลดจำนวนลงไปเยอะ! เรียกได้ว่าเป็นระบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่งั้นแค่งูพิษธรรมดา ๆ มันก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่พวกเขาจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ต่อมาทั้งสองก็พากันไล่ตามไป ยิ่งเข้าใกล้พวกเขาก็สั่นกลัว! ต้องเข้าใจว่าพวกเขาอยู่ในบริเวณหลังภูเขาของหมู่บ้าน แต่ยิ่งเดินออกไปก็จะยิ่งเข้าใกล้เขตอันตราย ข้างหน้าก็คือป่าทึบหรือเรียกว่าป่าแห่งหมอก ทุกปีจะมีหมอกปกคลุมและควบคุมจิตใจของผู้คนโดยยากที่จะต้านทานได้

อีกทั้งป่าแห่งหมอกยังเป็นที่ซ่อนตัวของโจร และเพราะว่าเรื่องนี้ดูท่าจะเกี่ยวข้องกับป่าแห่งหมอก มันจึงทำให้ดวงตาของจูจือและเสี่ยวซุ่ยถึงได้สั่นไหวด้วยความไม่อยากจะเชื่อ!