บทที่ 483 ทีมปกป้องหมู่บ้าน
บทที่ 483 ทีมปกป้องหมู่บ้าน
“การที่นายมาที่หมู่บ้านของเราก็คือโชคชะตา อย่างไรก็ตาม หมู่บ้านเราไม่รับเลี้ยงคนเปล่า ๆ ดังนั้นวันนี้ที่เรียกนายมา ก็เพื่อจะถามเกี่ยวกับตัวตนของนาย ในหมู่บ้านของเรามีทีมปกป้องหมู่บ้าน ไม่รู้ว่านายจะยินดีเข้าร่วมไหม!” หัวหน้าหมู่บ้านพอเจอกับฉู่เหินก็ถามอย่างไม่เกรงใจทันที!
“ใครเขาพูดกันอย่างนี้ล่ะพ่อ พูดแบบนี้ใครได้ยินเขาก็หนีกันหมด!” ฉู่เหินยังไม่ทันได้อ้าปากพูด หญิงสาวคนนั้นก็ปฏิเสธแทนเขาไปก่อนแล้ว
“วิธีพูดของฉันไม่ดีตรงไหน? ไม่เห็นต้องเสียเวลาเป็นวันก็เข้าใจครบจบแล้ว! นี่แกกินยาผิดมาหรือไง” หัวหน้าหมู่บ้านตอกกลับอย่างไม่เกรงใจ หากแต่หญิงสาวกลับแลบลิ้นใส่อย่างไม่ใส่ใจ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้ฉู่เหินรู้นิสัยของหัวหน้าหมู่บ้านคนนี้มากขึ้น ว่าเขาก็พูดกับคนอื่น ๆ แบบนี้เช่นกัน!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็เริ่มทำการพิจารณาข้อเสนอดังกล่าวอย่างจริงจังในทันที ยังไงเสียเขาก็เพิ่งจะมาที่โลกใบนี้ ในเมื่อไร้ญาติขาดมิตรและก็ไม่รู้จะไปที่ไหน ไม่สู้อยู่ที่นี่ไปก่อนค่อยว่ากัน!
“ไม่ต้องห่วง การมาอยู่ในทีมปกป้องหมู่บ้านฉันไม่ใช่การใช้งานนายฟรี ๆ หรอกนะ ที่หมู่บ้านของพวกเรามีคลังสมบัติอยู่ ขอเพียงนายทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ก็จะสามารถเข้าไปเลือกของในนั้นได้! มันน่าจะพอพัฒนาพลังให้นายได้มากทีเดียว เอ๋ เดี๋ยวก่อน ทำไมพลังวรยุทธ์ของนายถึงเป็นแบบนี้กัน ฉันขอถอนคำพูด ทางที่ดีนายยอมแพ้ซะเถอะ!” ยังไม่ทันที่ฉู่เหินจะพูดอะไร หัวหน้าหมู่บ้านก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
แต่ไม่กี่ประโยคนี้ทำให้ฉู่เหินตกตะลึงมาก เขาคิดไม่ถึงว่าแม้แต่พลังวรยุทธ์ของเขาหัวหน้าหมู่บ้านคนนี้ก็ดูออกทั้งหมด! เห็นได้ชัดเลยว่าอีกฝ่ายนั้นต้องมีพลังที่สูงส่งอย่างแน่นอน
“ทีมปกป้องหมู่บ้านเป็นงานอะไรงั้นหรอ ถ้าเป็นงานปกป้องหมู่บ้านปกติฉันก็ยินดีเข้าร่วม!” ฉู่เหินคิดแล้วพูดออกมา
“ทีมปกป้องหมู่บ้านมีก็เพื่อคุ้มกันพวกชาวบ้านจากสัตว์ร้าย โจรภูเขา และก็คนชั่ว!” ยังไม่ทันที่หัวหน้าจะตอบ หญิงสาวก็แย่งพูดก่อน! หัวหน้าหมู่บ้านมองลูกสาวตัวเองแล้วค้อนตาเหลือก! แต่ในเมื่อเธอได้พูดไปหมดแล้ว ดังนั้นชายแก่ก็จะไม่พูดซ้ำอีก
หลังจากนั้นฉู่เหินก็อำลาหัวหน้าหมู่บ้าน ก่อนที่หญิงสาวจะพาเขามาที่ทีมปกป้องหมู่บ้าน หัวหน้าของทีมเป็นครูฝึกที่สอนวรยุทธ์ให้กับคนในหมู่บ้าน เขามีรูปร่างที่ไม่สูง หากแต่มีดวงตาที่เฉลียวฉลาด และถึงแม้จะยืนอยู่เฉย ๆ แต่ไอสังหารที่อีกฝ่ายปล่อยมานั้นมันก็ช่างรุนแรงเสียเหลือเกิน!
ฉู่เหินคิดว่าครูฝึกคนนี้น่ากลัวว่าจะมีพลังวรยุทธ์ที่สูงไม่น้อยว่าหัวหน้าหมู่บ้าน เมื่อมาถึงเขาจึงแนะนำตัวง่าย ๆ ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไร คนผู้นั้นเพียงแค่โยนป้ายหยกมาให้เขามาอันหนึ่ง ไว้ให้ชายหนุ่มเก็บติดตัวไว้!
ซึ่งเจ้าป้ายหยกนี้ก็จะทำหน้าที่บันทึกว่าเขาฆ่าโจรไปได้ทั้งหมดกี่คน มันจะเก็บบันทึกไว้อย่างชัดเจน และไม่สามารถโกหกได้!
อีกทั้งป้ายหยกนี้สามารถระบุตัวตนของพวกเขาได้ เมื่อเจ้าของหยกตาย ตราหยกก็จะหายไปด้วย! ดังนั้นป้ายหยกนี่จึงน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก!
ครูฝึกมองฉู่เหินอย่างเฉยเมยเพราะพลังวรยุทธ์ของเขาต่ำเกินไป! ตอนนี้ฉู่เหินอยู่ในขั้นจักรพรรดิดาราระดับกลาง พลังวรยุทธ์ที่ต่ำขนาดนี้ถือว่าเป็นขั้นที่ต่ำที่สุดในทีมก็ว่าได้!
แต่ถึงอย่างงั้นครูฝึกคนนี้ก็ยังให้ภารกิจหนึ่งแก่เขามา ตอนนี้ที่ทิศตะวันตกของภูเขามีงูพิษชนิดหนึ่ง งูพิษชนิดนี้มีพิษที่ร้ายแรงมาก อีกทั้งทุกครั้งที่ถึงฤดูฝน เจ้างูชนิดนี้ก็มักจะเข้าจู่โจมหมู่บ้านของพวกเขา ดังนั้นทุก ๆ ปีครูฝึกคนนี้จึงมักส่งคนไปจัดการกับงูพิษพวกนั้น
จัดการฆ่างูพิษสัก 100 ตัวก็ถือว่าไม่เลว ถ้าฆ่าได้มากกว่า 500 ตัวก็จะถือว่าภารกิจลุลวง แต่ถ้าสามารถฆ่าได้มากกว่า 1,000 ตัวขึ้นไปก็จะถือว่าภารกิจเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบ
เพราะพลังของงูพิษไม่สูง ดังนั้นทุกครั้งที่ส่งคนไป พวกเขาเหล่านั้นก็มักจะอยู่ในขั้นจักรพรรดิดาราระดับกลาง และระดับสูง! และด้วยขั้นพลังที่ไม่มาก จึงทำให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีคนสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบเพียงไม่กี่คนเท่านั้น! ที่จริงเป็นเพราะเมื่อคุณสู้กับพวกมันนาน ๆ เข้า พิษของงูพิษพวกนี้ก็จะทำให้คุณเกินต้านทาน!
ครั้งนี้มีคนไปทำภารกิจกับฉู่เหินด้วยอีก 2 คน ! คนหนึ่งเป็นผู้ชายอีกคนเป็นผู้หญิง ผู้ชายชื่อว่าจูจือ ผู้หญิงชื่อว่าเสี่ยวซุ่ย! ทั้งสามมีพลังวรยุทธ์เท่า ๆ กัน ถือว่าเหมาะสมที่จะทำภารกิจนี้มาก
อาวุธของพวกเขาทั้งสองนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง อาวุธของจูจือเป็นดาบฟันปลาด้ามหนึ่ง ส่วนอาวุธของเสี่ยวซุ่ยคือฮาร์ป*! ทั้งสองอยู่ในขั้นจักรพรรดิดาราระดับสูงสุด ดังนั้นตอนที่พวกเขาเห็นฉู่เหินก็พลันมีประกายเหยียดหยามพาดผ่าน
*พิณฝรั่ง
“อีกเดี๋ยวจะถึงรังงูพิษแล้ว นายก็ระวังตัวเองดี ๆ อย่าเป็นตัวถ่วงพวกฉันเชี่ยวล่ะ!” ฉู่เหินไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เขาเพียงแค่พยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ! ในสายตาของเขา แม้ว่าคนพวกนี้จะอยู่ขั้นจักรพรรดิดาราระดับสูงสุด แต่ถ้าต้องอยู่ระหว่างความเป็นกับความตายล่ะก็ ชายหนุ่มก็จะไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะทิ้งคนพวกนี้ไป!
สักพักฉู่เหินก็ตามมาพร้อมกับเจ้าหมาป่า พอทั้งสองเห็นหมาป่า สายตาก็ยิ่งดูถูกหนักเข้าไปอีก! ก่อนที่ต่อมาพวกเขาจะเรียกสัตว์พาหนะของตัวเอง สัตว์ของจูจือเป็นช้างแมมมอธ ส่วนของเสี่ยวซุ่ยเป็นเหยี่ยวห้าสีแสนสวย ซึ่งเจ้าเหยี่ยวห้าสีตัวนี้มีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!
ฉู่เหินมาที่หมู่บ้านนี้ไม่นานนัก แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็พอจะรู้เรื่องพื้นที่แถบนี้อยู่บ้าง แท้จริงแล้วที่แห่งนี้นั้นแบ่งสัตว์ออกเป็น 9 ระดับ ตั้งแต่ระดับ 1-9 สัตว์ระดับ 1 เป็นสัตว์ที่อ่อนแอที่สุด ระดับที่ 9 คือแข็งแกร่งที่สุด! พอถึงระดับ 9 พวกมันจะถูกเรียกว่าสัตว์ร้าย ซึ่งเจ้าสัตว์ร้ายก็ยังจะแบ่งออกไปอีก 9 ระดับ!
สัตว์ร้ายคือพลังในระดับที่ได้รับการยอมรับ เมื่อพวกมันถึงระดับสัตว์ร้ายก็จะได้รับการยอมรับจากคนอื่น ๆ! และจะถูกเรียกว่าภูต
มีสัตว์ร้ายแล้วก็ยังมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แต่คนในหมู่บ้านยังไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ฉู่เหินเคยได้ยินว่านอกจากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ก็ยังมีสัตว์เซียนและสัตว์เทพอีกด้วย! เพียงแต่ทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่องเล่า ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน !
ทั้งสามพากันขึ้นสัตว์พาหนะของตัวเอง ก่อนจะพากันออกตัวไปด้วยความรวดเร็ว! ตอนแรกชายหนึ่งหญิงหนึ่งตั้งใจที่จะชะลอความเร็วลงมาหน่อย เพราะกลัวฉู่เหินจะตามไม่ทัน แต่เมื่อพวกเขาพบว่าหมาป่าเขาฉู่เหินไม่ได้ช้าแม้แต่น้อย ถึงได้เพิ่มความเร็วขึ้น!
แต่ทว่าเมื่อสัตว์ของพวกเขาทำความเร็วสูงสุด ทั้งสองก็ยังคงตามหลังฉู่เหินอยู่ดี ถึงตอนนี้พวกเขาจึงได้รู้ว่าหมาป่าตัวนี้ไม่ธรรมดา!
การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาไม่นานนัก เมื่อมาถึงฉู่เหินก็พบว่าด้านหน้าเต็มไปด้วยงูพิษนับไม่ถ้วน อีกทั้งสถานที่ที่พวกมันอยู่ก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยหมอกชั้นหนึ่งอีกด้วย ! ซึ่งไม่ว่าจะหันไปที่ไหนก็มีมันเต็มไปหมด!
หมอกพวกนี้เป็นพิษ ถ้าไม่ระวังสูดเข้าไปก็อาจจะตายได้! แต่หลังจากที่ฉู่เหินเห็นหมอกพิษพวกนี้ สายตาของเขาก็พลันส่องประกายอย่างดีใจ! เพราะก่อนหน้านี้เขาฝึกฝนวิชาพลังกายมาตลอด ซึ่งพิษพวกนี้ก็ถือได้ว่าเป็นของดีที่จะช่วยเขาฝึกฝนพลัง ว่าแล้วชายหนุ่มก็โคจรพลังกายให้หมอกพิษเข้าร่างของตนในทันที
พอเขาโคจรพลังกาย กล้ามเนื้อของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น! พอเห็นว่าพิษนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายตัวเอง ชายหนุ่มจึงรีบหยิบเอากระบี่วิเศษสะพายขึ้นหลัง แล้วเดินไปข้างหน้าในทันที!
เห็นฉู่เหินพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่กลัวตาย ทั้งสองก็อดที่จะเตือนขึ้นมาไม่ได้ “น้องชาย อย่าเดินไปด้านหน้านั้น มันเป็นหมอกพิษ อันตรายมาก!”
เดิมทีฉู่เหินรู้สึกไม่ค่อยประทับใจทั้งสองเท่าไร แต่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้พวกเขาจะตักเตือนตัวเองแบบนี้ ดูเหมือนว่านิสัยจริงของพวกเขาจะไม่ได้เลวร้ายอะไร!
“ไม่ต้องห่วง เพียงแค่หมอกเท่านั้น ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก!” เมื่อพูดจบฉู่เหินก็ลงมือทันที เขาสะบัดกระบี่ในมือหลายครั้ง ซึ่งคลื่นกระบี่ที่ถูกปล่อยออกไปมันก็ได้ก่อให้เกิดเสียงหวีดร้อง ก่อนที่งูพิษจะพุ่งเข้ามา
แต่ที่ทำให้ฉู่เหินแปลกใจก็คือกระบี่นี้แม้ว่าจะรวดเร็ว แต่เมื่อปะทะกับร่างกายของงูพิษ มันกลับฟันได้เพียงภายนอกของงูพิษเท่านั้น ราวกับว่ากระบี่เล่มนี้ไม่สามารถทำอะไรงูพิษได้เลย!
“งูพิษชนิดนี้ต้องใช้พลังหรือไม่ก็อาวุธวิเศษโจมตีเท่านั้น! กระบี่แบบนั้นไม่ได้ผลหรอก!” พอเห็นฉู่เหินโจมตีไม่ได้ผล จูจือที่อยู่ด้านหลังก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนบอก!