ตอนที่ 241 จิตสำนึกที่ชั่วร้าย (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 241 จิตสำนึกที่ชั่วร้าย (1)
ในโถงตำหนักใหญ่โอ่อ่าของวังผลึกแก้วทะเลบูรพา ปลาสวยงามและสัตว์นานาชนิดต่างแหวกว่ายอย่างสบาย อยู่นอกห้องโถง ชายชราที่มีเศียรมังกรนอนอยู่บนบัลลังก์ในขณะที่มีสาวทะเลงดงามสองสามคนกำลังพัดวีให้เบาๆ และนวดขาให้เขา ที่จุดซึ่งอยู่ไม่ไกลหลังเสาหยกขาวสองต้น มีสาวทะเลมากกว่าสิบคนกำลังเล่นเครื่องดนตรีซึ่งเป็นสมบัติวิญญาณหลายประเภท

กิจวัตรประจำวันของราชามังกรเริ่มต้นและจบลงเช่นนั้น

จู่ๆ ฝูงมัจฉางดงาม และกลุ่มต่างๆ ที่อยู่นอกตำหนักต่างก็แตกกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง มังกรครามร่อนลงมาหยุดนอกตำหนักและกลายเป็นบุรุษหนุ่มรูปงาม เขายกเสื้อคลุมขึ้นและเข้าไปในโถงตำหนักอย่างรวดเร็ว

“พระบิดา! ลูก อ๋าวอี่ อยากขอพบท่านขอรับ!”

“หือ?” ดูเหมือนว่า ราชามังกรแห่งทะเลบูรพาจะเพิ่งตื่นขึ้น ทันใดนั้น เขาก็ลืมตาและโบกมือ

เหล่าสาวทะเลรีบล่าถอยไปอย่างรวดเร็วในขณะที่อ๋าวอี่รีบเดินไปที่บัลลังก์แล้วก้มศีรษะลง

เมื่อไร้ผู้ใดอยู่ในตำหนักแล้ว แม่ทัพมังกรสองสามคนที่เฝ้าอยู่นอกตำหนักก็เปิดใช้ค่ายกลเวทของตำหนัก ราชามังกรค่อยๆ นั่งตัวตรงขึ้น ใบหน้าของเขาเผยรอยเกียจคร้านและความเหนื่อยล้าออกมาเล็กน้อย…

“ลูกข้า มีเรื่องใดหรือ?”

“พระบิดา…”

อ๋าวอี่เอ่ยอันใดไม่ออกไปชั่วขณะพลางฝืนยิ้มขื่นและกล่าวว่า “เมื่อครึ่งเดือนก่อน ท่านขอให้ลูกตรวจสอบเรื่องที่มังกรถูกสังหารในวิหารเทพทะเลของเมืองอันสุ่ย ตอนนี้ ลูกพบว่ามีเสี้ยวความทรงจำบางส่วนหลงเหลืออยู่ในไข่มุกกักวิญญาณนี้ที่จะช่วยให้เราเห็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังแผนร้ายนี้ได้ขอรับ!”

ขณะที่กล่าว อ๋าวอี่ก็ถือไข่มุกกักวิญญาณและใช้พลังเซียนของเขาส่งมอบมันไปให้ราชามังกร ราชามังกรยกมือขึ้นจับไข่มุกก่อนจะหลับตาและเพ่งจิตจดจ่อ และในไม่ช้า เขาก็พยักหน้าเบา ๆ และทำลายไข่มุกกักวิญญาณทันที

อ๋าวอี่ตกตะลึงและรีบถามว่า “พระบิดา เหตุใดกันขอรับ!?!”

ราชามังกรจึงกล่าวว่า “ข้ารู้เรื่องนี้แล้ว”

อ๋าวอี่รีบแย้งว่า “แต่พระบิดา หากหลักฐานนี้ถูกทำลาย…”

“ฮ่าๆ เจ้าเด็กโง่”

ราชามังกรยิ้มพลางโบกมือและกล่าวว่า “ไปเถิด ไปใช้เวลาให้มากกว่านี้กับ… ของเจ้า…”

“ซือซือ…”

“ใช่ ไปอยู่กับนางให้มากกว่านี้ ก่อนงานอภิเษกของเจ้า อย่าได้กังวลในเรื่องต่างๆ ของเผ่าให้มากเกินไป”

ราชามังกรเอนตัวกลับไปที่ตำแหน่งเดิมที่เขานอนแล้วกล่าวเตือนอย่างเกียจคร้านว่า “จงจำไว้ จงหาเหตุผลที่เหมาะสมเป็นครั้งคราวเพื่อมอบของขวัญให้เจ้าสำนักของเจ้าให้มากขึ้น หากเขามีคำขอใด ๆ เจ้าก็ยอมรับได้ สิ่งที่สำคัญคือ อย่าปล่อยให้มิตรภาพห่างเหินไป”

อ๋าวอี่ไม่เข้าใจเหตุผล ทว่าเมื่อนึกถึงสิ่งที่พระบิดากล่าวกับเขาก่อนหน้านี้ และสีหน้าท่าทีของเขาในครั้งนี้ เขาก็รู้สึกว่ามัน… กระจ่างชัดแล้ว

“ขอรับ เช่นนั้น ลูกขอลาไปพักผ่อนขอรับ”

ราชามังกรโบกมือและไม่เอ่ยวาจาอีก ไม่พูดอะไรมาก และดูเหมือนว่า เขาจะผล็อยหลับไปทันทีและกรนออกมาเล็กน้อย หลังจากที่อ๋าวอี่จากไปแล้ว สาวทะเลเหล่านั้นก็กลับเข้ามาอีกครั้ง พวกนางเล่นดนตรีและนวดขาให้ราชามังกรในขณะที่ราชามังกรชราเผยรอยยิ้มบางแล้วถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็ใช้ชีวิตประจำวันที่เรียบง่ายและน่าเบื่อในฐานะราชามังกรของเขาต่อไป

เหตุใดพระบิดาจึงไม่ให้ข้าตรวจสอบเรื่องนี้ต่อ?

อ๋าวอี่สับสน เขาเดินไปตามทางเดินที่ปกคลุมไปด้วยไข่มุกและเพลิดเพลินไปกับ… การนวดเท้าแสนสบาย

เขาไม่เข้าใจจริงๆ

หลังจากครึ่งเดือนของการทำงานหนัก การค้นหาและตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เขาได้ติดตามเบาะแสตามตามที่ศิษย์พี่เจ้าสำนักชี้แนะจนแน่ใจได้ว่ามีมังกรในเผ่ามังกรจำนวนมากที่กำลังกระทำการไม่เหมาะสมและก่อกบฏ

เหตุใดกัน…

หลังจากกลับไปที่ตำหนักของเขา อ๋าวอี่ก็มองไปที่เจียงซื่อเอ๋อร์ ซึ่งกำลังเล่นกับสาวทะเลสองสามคน และนึกถึงคำชี้แนะของท่านเจ้าสำนักได้

หากมีอะไรที่ไม่แน่ใจ ให้ปรึกษากับคู่บำเพ็ญเต๋าของเจ้า…

อ๋าวอี่ส่ายศีรษะเบาๆ และไม่รบกวนพวกนาง แต่หันหลังกลับไปที่โถงด้านข้างซึ่งปกติแล้ว เขาจะฝึกฝนและทำสมาธิเงียบๆ ในนั้น

เขายังคงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

เจตจำนงวิญญาณของอ๋าวอี่ดำดิ่งไปที่วิหารของสำนักเทพทะเลในเมืองอันสุ่ย ขณะที่เขากำลังจะสื่อสารกับเจ้าสำนักผ่านทางเจตจำนงวิญญาณของเขา ทว่าจู่ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่า… มีชายชราสองคนกำลังดื่มชาและพูดคุยกันอยู่ที่โถงด้านหลัง

อ๋าวอี่จำชายชราที่นั่งบนที่นั่งหลักได้อย่างแน่นอน เขาเป็นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋าของเจ้าสำนัก

นี่น่าจะเป็นร่างจำแลงที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูมอบให้ ไม่เช่นนั้น จะครองพลังระดับเซียนเทียนได้อย่างไร?

แม้จะไม่ได้เอ่ยถามโดยตรง แต่อ๋าวอี่ก็คิดว่าคำตอบสำหรับคำถามนั้นชัดเจนแล้ว

ส่วนชายชราอีกคนหนึ่งนั้น อ๋าวอี่พบว่าเขาไม่คุ้นเคยด้วย

ชายชราอีกคนมีฐานพลังดี มีพลังสะกดข่มของเซียนจิน นอกจากนี้ยังดูสูงส่งเล็กน้อย น้ำเสียงและท่าทีทางอารมณ์ของเขาก็ดูเหนือสามัญเช่นกัน

เมื่อฟังอย่างระมัดระวังแล้ว อ๋าวอี่ก็พบว่าทั้งสองคนกำลังพูดถึงเผ่ามังกรอยู่จริงๆ…

อ๋าวอี่ได้ยินตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋าของเจ้าสำนักถอนหายใจ …

“เฮ้อ สถานการณ์ของเผ่ามังกรเริ่มยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ”

“ถูกต้อง ใช่แล้ว ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้เมื่ออยู่บนสวรรค์” ชายชราอีกคนที่อ๋าวอี่ไม่เคยเห็นมาก่อนถอนหายใจ “เทพแห่งท้องทะเล หลังจากที่เจ้ารายงานเรื่องนี้แล้ว ฝ่าบาทก็ทรงกังวลในเรื่องนี้ยิ่งนัก เผ่ามังกรเป็นเผ่าพันธุ์ใหญ่ในสี่คาบมหาสมุทร ฝ่าบาททรงมีพระประสงค์จะรับคน ทว่าน่าเสียดายที่เผ่ามังกรเย่อหยิ่งเกินไป พวกเขาจะไม่พอใจกับตำแหน่งเทพใดๆ ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะมีตำแหน่งเทพว่างมากมายในศาลสวรรค์ แต่ก็การจะมอบให้กับเผ่ามังกรสักสองสามตำแหน่งก็ยังต้องได้รับการยอมรับจากเต๋าสวรรค์”

“ยังไม่ถึงเวลา” หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจและกล่าวว่า “ในขณะนี้ ฝ่าบาทไม่ทรงมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากนัก เผ่ามังกรก็เย่อหยิ่งเกินไปจริงๆ ท่านแม่ทัพตงมู่ ฝ่าบาท องค์เง็กเชียน ทรงโปรดสิ่งใดหรือไม่?”

“ฝ่าบาทไม่ทรงโปรดอะไรมากมายนัก” แม่ทัพตงมู่ส่ายศีรษะและชี้แจงต่อไปว่า “บัดนี้ ฝ่าบาททรงรับหน้าที่รับใช้เต๋าสวรรค์ สนับสนุนสำนักบำเพ็ญเต๋า ปรับปรุงศาลสวรรค์ให้สมบูรณ์ และเป็นประโยชน์ต่อผู้คนทั่วทั้งสามอาณาจักร หากฝ่าบาทไม่ได้กำลังจัดการเรื่องต่างๆ ก็กำลังอยู่ในระหว่างจัดการงานต่างๆ”

ขณะกล่าว แม่ทัพตงมู่ก็ลดเสียงลงแล้วกล่าวเสียงเบาว่า “ในช่วงเวลานี้ แม้แต่สระหยก ฝ่าบาทก็ยังไปเยือนไม่บ่อยนักด้วยซ้ำ” หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อไปอย่างไม่ใส่ใจเพราะกล่าวถึงชีวิตส่วนตัวขององค์เง็กเชียนไปก็ไร้ประโยชน์

ทันทีที่เจตจำนงวิญญาณของอ๋าวอี่มาถึง หลี่ฉางโซ่วก็ย่อมรับรู้ได้เป็นธรรมดา บังเอิญที่วันนี้ ท่านแม่ทัพตงมู่ลงมาในเวลาเดียวกับอ๋าวอี่

ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วจึงได้ชี้แนะให้แม่ทัพตงมู่กล่าวผ่านการส่งข้อความเสียง

ในตอนนี้ นอกจากที่แม่ทัพตงมู่กล่าวถึงเมื่อเร็วๆ นี้ว่าองค์เง็กเชียนไม่ได้ไปเยือนสระหยกบ่อยนัก เรื่องอื่น ๆ ที่แม่ทัพตงมู่กล่าวถึงนั้น ความจริงแล้ว ล้วนเป็นสิ่งที่หลี่ฉางโซ่วบอกให้เขากล่าวออกมา

หลี่ฉางโซ่วหมดหนทางจึงต้องทำเช่นนี้ เพราะเขายังกลัวว่าแม่ทัพตงมู่จะกล่าวอะไรผิดไปแล้วจบลงด้วยการหมิ่นแคลนเผ่ามังกร ในขณะนั้น แม่ทัพตงมู่ก็แอบมองไปยังจุดที่รูปปั้นของอ๋าวอี่อยู่ และหลังจากแลกเปลี่ยนพูดคุยกันกับหลี่ฉางโซ่วแล้ว เขาก็จากไปพร้อมกับบันทึกเสนอแนะถึงองค์เง็กเชียนของหลี่ฉางโซ่ว

เมื่อแม่ทัพตงมู่จากไป อ๋าวอี่ก็ส่งคำขอสำหรับการสื่อสารกับหลี่ฉางโซ่วผ่านเจตจำนงวิญญาณอย่างตื่นเต้นแล้วก่อนที่หลี่ฉางโซ่วจะทันได้มีเวลานำตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋าไปเก็บไว้ในห้องลับใต้ดิน…

เมื่อพวกเขาทั้งสองพบกันในความฝันที่พร่ามัว อ๋าวอี่ก็อดจะถามออกมาไม่ได้ว่า “ศิษย์พี่เจ้าสำนัก ปรมาจารย์ที่เพิ่งไปผู้นั้นคือ ท่านแม่ทัพตงมู่แห่งศาลสวรรค์ใช่หรือไม่ขอรับ?” หลี่ฉางโซ่วพยักหน้ารับพร้อมด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

ไม่แปลกที่ในชาติก่อนของเขา ผู้คนมักกล่าวกันว่า การเป็นผู้กำกับ นักเขียนบท และผู้จัดการการผลิตละครนั้นยากลำบากกว่าการเป็นนักแสดงจริงๆ

หลังจากคุยกับอ๋าวอี่เป็นเวลาครึ่งชั่วยามแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็ถอนเจตจำนงวิญญาณของเขาออกแล้วก้มศีรษะลง ปรับแต่งรากฐานค่ายกลสองสามฐานก่อนจะคัดแยกและจัดระเบียบบรรดาสมบัติและวัสดุล้ำค่าที่เขากำลังจะใช้ปรับแต่งต่อไป หลังจากนั้นเขาก็ออกจากห้องลับบนภูเขาแล้วเดินเล่นไปรอบหอโอสถพลางครุ่นคิดถึงสิ่งที่อ๋าวอี่พูดอย่างรอบคอบ…

ราชามังกรเฒ่าผู้นี้ไม่ธรรมดาเช่นกัน หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าราชามังกรเฒ่าเป็นผู้ที่เข้าใจสถานการณ์ เขาอยู่ตรงกลางที่สามารถนั่งรอนิ่งๆ อยู่บนภูเขาไท่[1]อย่างมั่นคงเพื่อเฝ้าสังเกตสถานการณ์ได้ ความจริงแล้ว เหล่าปรมาจารย์ที่มาจากสมัยโบราณ ล้วนแต่เป็นผู้ดำรงอยู่ที่ซ่อนความสามารถของตนเอาไว้…

อืม ยกเว้นท่านอาจารย์ลุงจ้าว

ต่อจากนี้ไป เขาต้องใส่ใจอย่างระมัดระวังและต้องไม่ให้เผ่ามังกรรู้สึกไม่พอใจศาลสวรรค์ได้

ราชามังกรแห่งวังมังกรทะเลบูรพา เป็นผู้นำของวังมังกรแห่งสี่คาบมหาสมุทรและทรงอำนาจสูงสุดในเผ่ามังกร ในเมื่อเขาเลือกที่จะนิ่งเงียบและอดทน มันจึงไม่น่าจะเป็นเพียงเพราะความกลัวและระมัดระวัง ราชามังกรเฒ่าอาจกำลังวางแผนใหญ่อยู่…

หากข้าเป็นราชามังกร ข้าจะช่วยกอบกู้เผ่ามังกรได้อย่างไร? หลี่ฉางโซ่วไพล่มือไปไว้ด้านหลังขณะเดินเล่นไปบนภูเขาด้านหลังของยอดเขาหยกน้อย เขาเอาแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้และเดินไปยังบริเวณที่เขาปลูกต้นไม้วิญญาณที่ใช้สำหรับพลังเวทตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์โดยไม่รู้ตัว

และอีกอย่าง ความจริงแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็มีตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ ‘ชาวนา’ คอยดูแลรับผิดชอบในการปลูกถั่วเซียนอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปที่นั่น

ถ้าเขาต้องการทำถั่ว เขาก็เพียงแค่ต้องมุ่งเน้นไปที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋าเท่านั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเขา

…………………………………………………………………………

[1] นั่งอยู่บนภูเขาไท่ เปรียบเสมือนกับเรานั่งมองลงไปจากมุมสูง แล้วจะเห็นปัญหาทุกอย่าง