ตอนที่ 363 ไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดเวอร์ชั่นโบราณ
ป้ากุ้ยฮวาพูดพร้อมรอยยิ้ม “เดือนสิบสองพวกเจ้ามีสมาชิกใหม่เข้าบ้าน ปีหน้าก็ได้อุ้มหลานตัวขาวๆ อ้วนๆ ประเดี๋ยวชีวิตก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ! ”
วันที่ 6 เดือนสิบสอง ซัวถัวและหยาเอ๋อร์แต่งงานกัน บ้านตระกูลหลินยังเอาของขวัญไปให้ หลินเว่ยเว่ยมอบปิ่นเงินให้หยาเอ๋อร์ดูมีฐานะขึ้น
แม่เลี้ยงโก่วเชิ่งเอ๋อร์อิจฉายิ่งกว่าอะไร พอแต่งหยาเอ๋อร์เข้าบ้านแล้ว บ้านซัวถัวก็จะมีคนทำงานให้ตระกูลหลินเพิ่มอีกคน แต่ละเดือนมีรายได้เข้ามาตลอด คนในหมู่บ้านพากันอิจฉาไม่น้อย
เมื่อก่อนหยาเอ๋อร์ต้องหาเลี้ยงมารดาที่ดวงตาไม่ค่อยดีและยังมีน้องชายอีกสองคน ครอบครัวยากจนยิ่งกว่าอะไร ไม่มีใครอยากคบหากับบ้านนางเพราะกลัวจะพลอยลำบากไปด้วย
ตอนนี้น่ะหรือ หลังกินยาของหมอเหลียงแล้ว ดวงตาของมารดาก็ดีขึ้นมาก ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน น้องชายทั้งสองก็โตแล้ว แถมน้องชายคนโตยังถูกตระกูลหลินเลือกไปเป็นคนขับรถม้าด้วย เพียงเดือนเดียวหยาเอ๋อร์ก็มีรายได้กว่า 1 ตำลึง กลายเป็นบุปผาส่งกลิ่นหอมในสายตาของทุกคน
น่าเสียดายที่ยังไม่ทันลงมือก็ถูกเจ้าซัวถัวแย่งไปครองก่อนแล้ว ! แม้ว่าแม่เลี้ยงโก่วเชิ่งเอ๋อร์จะริษยามากเพียงใดก็ได้แต่มอง ใครใช้ให้บุตรชายทั้งสองของบ้านนางยังเป็นแค่เด็กน้อยที่แม้แต่ขนก็ยังไม่ขึ้น !
ขณะที่ทางฝั่งนี้สนทนากันอย่างสนุกสนาน อีกฝั่งก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเช่นกัน เจ้าหนูน้อยห่อซาลาเปาไส้ถั่วได้บิดเบี้ยวจึงโดนทุกคนหัวเราะเยาะ เขาชี้ไปที่จุกสองจุกบนก้อนซาลาเปาไส้ถั่วก่อนจะพูดแก้ตัว “ข้าห่อเป็นรูปเจ้าดำต่างหาก ! พวกท่านลองดูว่าตรงนี้เหมือนหูสองข้างของเจ้าดำใช่หรือไม่”
เจ้าดำที่กำลังนอนหมอบอยู่บนรองเท้าของเจ้าหนูน้อยก็ได้ยินนายน้อยเรียกชื่อ มันจึงเงยหน้าขึ้น หูตั้งตรงและยังส่งเสียงอ้อนออกมาคล้ายกำลังบอกว่า นายน้อยเรียกมันทำไม ? มีของอร่อยให้หรือ ?
“เจ้าดำ ทั้งดำทั้งโง่ ! เจ้าดำ ทั้งดำทั้งโง่ ! ” หงส์แดงลืมบทเรียนที่เคยได้รับไปหมดแล้ว มันเริ่มกลับมายั่วโทสะศัตรูอีกครั้ง แน่นอนว่าด้านกำลังสู้ไม่ไหวจึงได้แต่ใช้ฝีปากเพื่อเอาชนะ
เจ้าหนูน้อยหยิบก้อนแป้งขึ้นมาอีกก้อน ก่อนจะหัวเราะคิกคักพลางพูดว่า “ข้าจะห่อซาลาเปาไส้ถั่วเป็นรูปหงส์แดง ! ”
เมื่อห่อได้สักพักใหญ่ ทุกคนก็ได้แต่เห็นว่านั่นเป็นนกผ่านจะงอยปากแหลม ๆ เท่านั้น นกแก้วตัวน้อยร้องด้วยความดีใจ “หงส์แดง ! กากา ! หงส์แดง ! ซาลาเปาไส้ถั่ว ซาลาเปาไส้ถั่ว ! กากา ! ”
เจ้าหนูน้อยจิ้มหัวน้อย ๆ ของมัน “เจ้าเป็นนกแก้ว ไม่ใช่อีกา ! ใครสอนให้เจ้าร้องเหมือนอีกา ? ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเหล่าสหายของตนอย่างแน่นอน !
หลินเว่ยเว่ยก็ไร้เดียงสาเหมือนเด็ก นางห่อกระต่ายน้อยตัวอ้วนหนึ่งลูก เม่นน้อยน่ารักอีกลูก หลังนึ่งให้สุกแล้ว พวกสัตว์ตัวน้อยกลับมีรูปร่างต่างไปจากเดิม พวกเขาต่างคนต่างล้อ ต่างคนต่างบ่นกันเอง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีความสุขกันมากเพียงใด !
เมื่อรอให้ซาลาเปาไส้ถั่วนึ่งเสร็จหมดแล้ว ถาดในบ้านก็มีไม่พอเก็บ พวกนางเพิ่งพบว่าเผลอทำมากเกินไป !
ไม่เป็นไร ! หลินเว่ยเว่ยนำซาลาเปาไส้ต่าง ๆ ที่เพิ่งคิดขึ้นมาใหม่ให้หลินจื่อเหยียนนำไปส่งที่บ้านตระกูลเผิงและยังให้บัณฑิตหนุ่มเข้าเขตเริ่นอันเพื่อส่งซาลาเปาไส้ต่าง ๆ ให้ผู้อาวุโสเซวียอีกตะกร้าใหญ่ ทั้งยังเชิญให้ทางบ้านผู้อาวุโสมาฉลองปีใหม่ที่บ้านพวกนางด้วยกัน !
ผู้อาวุโสเซวียรับซาลาเปาไส้ถั่วไว้ แต่ปฏิเสธคำเชิญของเจียงโม่หาน ถ้าเป็นเขาคนเดียวก็คงจะไปอยู่หรอก แต่ตอนนี้มีพวกศิษย์หลานนายบ่าวและยังมีพ่อลูกเซวียจื้อเฉียนอีก แค่พวกเขาก็แทบจะเต็มโต๊ะแล้ว ยังจะกล้าไปรบกวนบ้านตระกูลหลินและตระกูลเจียงได้อย่างไร ?
ตระกูลเจียงและตระกูลหลินมาฉลองร่วมกัน คืนส่งท้ายปีเก่าจึงคึกคักยิ่งกว่าอะไร ผู้คนในฉือหลี่โกวต่างพูดว่า ความสัมพันธ์ฉันญาติมิตรของบ้านบ่าวสาวคู่นี้ยอดเยี่ยม เป็นคนในครอบครัวเดียวกันไม่ผิดเพี้ยน
ในเวลาปกติทั้งสองครอบครัวก็มากินข้าวร่วมกันอยู่แล้ว แม่ลูกสกุลเจียงให้เงินบ้านสกุลหลินจำนวน 1 ตำลึงทุกเดือนเพื่อเป็นค่าอาหาร แม้จะบอกว่าราคาข้าวสารในเวลานี้ขึ้นราคาแล้ว แต่ครอบครัวใหญ่ที่มีจำนวนสิบกว่าคนอย่างครอบครัวผู้ใหญ่บ้านก็ยังใช้เงินค่าข้าวสารไม่ถึง 1 ตำลึงต่อเดือน
แต่อย่าคิดว่าตระกูลหลินได้เปรียบ เพราะบ้านตระกูลหลินมีเนื้อกับขนมให้กินทุกวัน มื้อหนึ่งทำอาหารหลายชนิดแบบนั้น เงิน 1 ตำลึงยังไม่พอด้วยซ้ำ !
ดูแค่อาหารในวันส่งท้ายปีเก่านี่สิ มื้อหนึ่งก็เป็นเงินหลายตำลึง เนื้อกวางเอย เนื้อเสืออีก เนื้อกระต่ายก็มา เนื้อไก่ป่าก็มี แล้วไหนจะเนื้อหมูป่า…แม้จะเป็นร้านอาหารชั้นสูงของเมืองก็ยังไม่มีอาหารป่าให้กินครบรสขนาดนี้
นอกจากนี้ ในฤดูหนาวจะมีใครได้กินยำแตงกวา มะเขือเทศคลุกน้ำตาล ผัดผักรวม ผัดผักกาดใส่เห็ดหอม ผัดถั่วงอกและไข่กวนกุยช่ายบ้าง ผักเหล่านี้ปลูกขึ้นในฤดูหนาวตั้งแต่เมื่อใด ? แม้จะมีเงินก็หาซื้อไม่ได้ !
ไม่ว่าเอาอาหารจานใดบนโต๊ะนี้ออกไปขายก็จะได้ราคาหลายร้อยอีแปะทั้งนั้น ! ไม่ว่าจะเป็นที่เขตหรือตัวอำเภอก็มีเศรษฐีอยู่ ความคิดของพวกเขาก็เหมือนคนในชนบทที่ล้วนอยากให้คนในครอบครัวได้กินของดีและแปลกใหม่ในวันส่งท้ายปีเก่า แม้จะแพงหน่อยก็ไม่เสียดายเงิน !
ประเด็นสำคัญของอาหารบ้านตระกูลหลินคือไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือรสชาติก็ดีกว่าร้านอาหารขนาดใหญ่ ถ้ามีเงินแค่ 1 ตำลึงจะพอจ่ายค่าอาหารในร้านเหล่านั้นหรือ ? แค่มื้อเดียวก็ยังไม่พอด้วยซ้ำ ?
แล้วสำหรับบ้านที่จะเกี่ยวดองกัน ต่างปฏิบัติกันอย่างพี่น้องคลานตามกันมา นางเฝิงปฏิบัติต่อว่าที่ลูกสะใภ้เหมือนบุตรสาวแท้ ๆ เสื้อผ้าบนตัวนางหนูรองมีชิ้นไหนที่นางเฝิงไม่ได้เย็บด้วยตัวเอง ? นางหวงก็อยากเย็บเสื้อผ้าให้บุตรสาวเช่นกัน แต่ฝีมือนางเทียบไม่ติด
ฝีมือเย็บปักของนางเฝิง ในสมัยก่อนถือเป็นผู้ผลิตสินค้าคุณภาพดีที่สุดในเขตเริ่นอัน หลังจากที่สกุลอู๋ไม่รับซื้องานของนางแล้ว พวกเขาเองก็สูญเสียลูกค้าเป็นจำนวนมาก
ตั้งแต่เด็กทั้งสองครอบครัวหมั้นหมายกัน นางเฝิงจึงกลายเป็นคนมีความสุขที่สุด นางสนุกอยู่กับการแต่งตัวให้ว่าที่ลูกสะใภ้ เย็บชุดกระโปรง ทำเสื้อคลุม จนหลินเว่ยเว่ยสงสัยว่าตนโดนมองเป็นตุ๊กตาไปแล้ว จึงตอบสนองความต้องการที่อยากจะแต่งตัวตุ๊กตาของนางเฝิงอย่างถึงที่สุด
เสื้อคลุมที่หลินเว่ยเว่ยสวมในฤดูหนาว แม้จะเป็นที่ตัวอำเภอหรือเผชิญหน้ากับคุณหนูสกุลใหญ่ นางก็ไม่แพ้ใคร !
หลินเว่ยเว่ยสนิทกับนางเฝิงยิ่งกว่ามารดาแท้ ๆ ของตน เพราะนางหวงมีนิสัยถ่อมตัวเกินไป แต่นางเฝิงขี้เล่นมากกว่า สามารถเห็นได้จากการที่มักรวมหัวกับหลินเว่ยเว่ยเพื่อกลั่นแกล้งบุตรชาย
ชาวบ้านฉือหลี่โกวคิดว่านางหนูรองเลือกคู่ครองได้ถูกต้องแล้ว อย่างน้อยหลังออกเรือนไปก็ไม่มีความขัดแย้งระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้แน่นอน
ดูเอาเถิด ในคืนส่งท้ายปีเก่าเช่นนี้ แม่สามีกับลูกสะใภ้ก็เอาศีรษะมาชนกันแล้ว พวกนางกำลังปรึกษาว่าจะลงไพ่ใบไหนเพื่อจัดการบัณฑิตหนุ่มกับหลินจื่อเหยียน !
เพราะหลินเว่ยเว่ยคิดว่าการนั่งรอให้ข้ามปีช่างน่าเบื่อเกินไป นางจึงลงมือวาดไพ่ขึ้นมาแล้วให้คนในบ้านมาเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด1กันบนเตียงเตา !
เวลานี้เจียงโม่หานกำลังเป็นเจ้าของที่ดิน ก่อนหน้านี้เขาชนะจนได้เงินอีแปะมาเป็นกอง เจ้าหมอนี่ขี้งกสุด ๆ ไม่ว่าได้ไพ่ดีหรือไม่ดีก็จะไม่แสดงสีหน้าใด นอกจากนี้เขายังจำลำดับไพ่ได้แม่นยำมาก มีแค่ตอนแรกที่ยังจำกฎกติกาไม่ค่อยได้จึงแพ้ไป 2 ตารวด แต่นอกนั้นก็ไม่เคยล้มอีกเลย !
“น้าเฝิง ลงสามใบนี้ ! ” ในสถานการณ์ทั่วไปย่อมมีโอกาสน้อยมากที่จะได้ไพ่เรียง หลินเว่ยเว่ยจึงคิดว่าถ้าลงไพ่เหล่านี้ไปแล้วบัณฑิตหนุ่มต้องสู้ไม่ได้แน่นอน
นางเฝิงก็คิดเหมือนกัน นางจึงลงไพ่สามใบนั้น เจียงโม่หานเหลือบมองพวกนางเบา ๆ ทันใดนั้นในใจของหลินเว่ยเว่ยก็มีเสียงดัง กึก…ท่าไม่ดีแล้ว !
เป็นอย่างที่คิด บัณฑิตน้อยมีไพ่ Q K A สามใบติด ชาวนาทั้งสองได้แต่มองตาปริบ ๆ ด้านหลินจื่อเหยียนบ่นทันที “พี่รอง ท่านเป็นคนบ้านเดียวกับศิษย์พี่เจียงใช่หรือไม่ ? ”
นางเฝิงหัวเราะพลางเอ่ย “ตอนนี้ยังไม่ใช่ แต่ก็ใกล้แล้ว ! ”
[1]
[1]ไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด หรือ โต้วตี้จู่ เป็นหนึ่งในเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศจีน