บทที่ 389 มาเรีย

เจ้าของร้านพิศวง

บทที่ 389 : มาเรีย

บทที่ 389 : มาเรีย

แสงจากหลอดไฟบนทางเดินของสมาคมแห่งสัจธรรมค่อนข้างร้อน ในขณะที่นักวิชาการระดับหัวกะทิของสมาคมแห่งสัจธรรมผู้ถือครองปัญญาเหนือผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาและมีเหตุผล

ด้านข้างทางเดินอันเงียบสงัดนี้เป็นกระจกใส เมื่อมองลงไปจะเห็นแขนกลและเครื่องมือต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงเหล่านักวิจัยใส่ชุดเกราะกระดองที่ง่วนกับงานเสียจนลืมตัว

ตัวตนที่สะดุดตาที่สุดในหมู่พวกเขาคือสตรีผู้ยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดแห่งความรู้ปัจจุบันทั้งมวล มาเรีย ประธานสมาคมแห่งสัจธรรมผู้ยืนบนหน้าต่างที่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน มองไปยังสมาคมแห่งสัจธรรมที่คุ้นตา แต่ไม่คุ้นเคย

ในระหว่าง ‘ช่วงเก็บตัว’ ของเธอ แอนดรูว์ทำเรื่องต่าง ๆ ลงไปมาก

หากเธอออกมาช้ากว่านี้ บางทีสมาคมอาจถูกเปลี่ยนชื่อไปก็ได้?

ถึงอย่างไร การหาญกล้าระเบิดทางเชื่อมระหว่างเขตบนและเขตล่างซึ่งสภาของสมาคมแห่งสัจธรรมถือครองมาหลายพันปีนี้ ไม่ใช่อะไรที่คนทั่วไปกล้าทำเลย

แอนดรูว์…ไม่เคยกล้าขนาดนี้มาก่อน!

มาเรียดันแว่นของเธอบนดั้ง ดวงตาสีน้ำเงินเปล่งประกายจาง ๆ

“ประธานมาเรียครับ”

ผู้ช่วยตะโกนจากข้างหลังเธอ “รองประธานและหัวหน้าฝ่ายต่าง ๆ ผู้บริหารและหัวหน้าทีมโครงการต่าง ๆ มารวมกันที่ห้องประชุมใหญ่หมดแล้วครับ”

มาเรียพยักหน้าอย่างครุ่นคิด “เข้าใจแล้ว”

เธอมองภาพที่ดูมีระบบระเบียบตรงหน้าเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันหลังเดินเข้าไปในห้องประชุม เสื้อโค้ตสีขาวไร้ร่องรอยด่างพร้อยและเส้นผมยาวสีดำพริ้วไสวในสายลม

แอนดรูว์นั่งบนเก้าอี้ตัวที่สองในห้องประชุม ดูสุขุมเยือกเย็นมาก

มันน่าแปลกใจเล็กน้อยที่มาเรียเลื่อนขั้นสู่ระดับเหนือนภาและรอดจากระเบิดมาได้ เรซิเอลคาดการณ์ไว้เต็มที่ถึงการกลับมาของเธอแล้ว และการระเบิดก่อนหน้านี้ก็เป็นของขวัญให้อีกฝ่าย ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ มันไม่น่าจะมีช่องโหว่ให้รั่วไหล

ถ้าเป็นแอนดรูว์เมื่อก่อน เขาคงเริ่มลังเลและยุ่งเหยิง

เพราะถึงอย่างไร แอนดรูว์คนก่อนก็ถูกอัจฉริยะผู้ไร้ปรานีคนนี้บดบังรัศมีมาโดยตลอด

แต่ตอนนี้เขามีพระเจ้าผู้แข็งแกร่งทุกด้านอยู่เบื้องหลัง แถมยังมีผู้ก่อตั้งอันยิ่งใหญ่ของสมาคมแห่งสัจธรรม ‘ปัญญาแห่งสวรรค์’ ให้ความร่วมมืออีก เขาจึงไม่มีความกลัวให้อีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

แอนดรูว์ยิ้มเยาะในใจ

อยู่ได้ก็อยู่ไป…!

ระหว่างผู้บุกเบิกที่ไม่รู้ความเป็นความตาย กับการเป็นผู้นำแทนที่เธอ เขายังคงต้องการอย่างหลัง

ถ้ามาเรียไม่ออกมา เธอก็จะเป็นผู้บุกเบิกที่ไม่รู้ความเป็นความตายต่อไป เป็นมหาปราชญ์ผู้พยายามเลื่อนสู่ระดับเหนือนภาในยุคที่สาม แต่ตอนนี้ดูจะไม่ใช่เช่นนั้น…

สิ่งเดียวที่เขาต้องใส่ใจก็คือสิ่งที่มาเรียค้นพบ…บันทึกจากเมืองเขตล่าง?

แอนดรูว์คิดเช่นนั้น สีหน้าก็มืดหม่น บางทีเขาคงต้องรายงานเรื่องนี้ต่อเจ้าของร้านหลิน เขาจำได้อยู่ว่าเจ้าของร้านหลินสนใจเมืองเขตล่างมาโดยตลอด

ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิด ร่างของมาเรียก็เดินเข้ามาในห้องประชุม ดึงความสนใจของทุกคนที่นั่น

“ทุกคน ฉันดีใจมากที่ได้พบพวกคุณอีกนะ” มาเรียดันแว่นของตัวเอง แสงจากหลอดไฟสะท้อนบนเลนส์แว่น ทำให้ยากจะเห็นสีหน้าของเธอได้

ทันทีที่เสียงของมาเรียดังขึ้น เธอก็ได้รับการตอบรับมากมาย แอนดรูว์เลิกคิ้วขึ้นและไม่พูดอะไร

“การเก็บตัวระยะยาวของฉันพิเศษเล็กน้อย ขอโทษที่ปิดบังพวกคุณนะ เพราะวิธีที่ฉันใช้พิเศษไปสักหน่อยและต้องไปเมืองเขตล่าง แต่ตอนนี้มันจบลงแล้วล่ะ…ดังนั้น ฉันจะประกาศเรื่องหนึ่งอย่างเป็นทางการที่นี่ ฉันเลื่อนขึ้นสู่ระดับเหนือนภาแล้ว”

มาเรียพูดอย่างใจเย็น

เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในห้องประชุม

“เยี่ยมเลย นี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับสมาคมแห่งสัจธรรมของเราเลยนะ!”

สีหน้าของเหล่านักวิชาการเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคลั่งไคล้ “หลังจากท่านผู้ก่อตั้งเมื่อหลายพันปีก่อน สมาคมแห่งสัจธรรมของเราก็มีสมาชิกระดับเหนือนภากับเขาสักที! ไม่สิ โดยเฉพาะในตอนนี้ที่ยืนยันได้แล้วว่าท่านผู้ก่อตั้งยังไม่ตาย การมีสมาชิกสมาคมแห่งสัจธรรมระดับเหนือนภาสองคนทำให้เราเหนือกว่าหอพิธีกรรมต้องห้ามอย่างเต็มตัว…นี่มัน…นี่คือโอกาสของสมาคมแห่งสัจธรรมของเรา!”

เสียงตะโกนแสดงความยินดีเต็มห้องประชุมไปหมด ถ้าไม่ใช่เพราะนักวิชาการเหล่านี้มีความเยือกเย็นไร้สีหน้าเป็นสันดาน รวมไปถึงหัวหน้าของพวกเขาก็อยู่ที่นี่ด้วยล่ะก็ พวกเขาคงได้เริ่มโห่ร้องกระโดดโลดเต้นกันแล้วแน่ ๆ

แอนดรูว์มองข้ามห้องประชุมด้วยรอยยิ้มที่คาดการณ์ไว้แล้ว

ดูเหมือนว่าเกียรติภูมิของมาเรียจะยังสูงเกินปกติ เพราะถึงอย่างไร เธอก็เป็นสตรีเปี่ยมพรสวรรค์ผู้เกิดมาในตระกูลที่มีชื่อเสียง ใช้พรสวรรค์เหนือธรรมชาติและการสนับสนุนของภูมิหลังขึ้นมาเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติผู้นำสมาคมแห่งสัจธรรมได้

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่โลกนี้มีระดับเหนือนภาอยู่ไม่กี่คน คนส่วนใหญ่ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าระดับเหนือนภาเป็นตัวตนแบบไหน ระดับเหนือนภานับว่าเป็นสิ่งเกินคาดคิดที่สามารถดัดแปลงกฎแห่งธรรมชาติ กลายเป็นนายของเขตแดนบางอย่างแล้ว…

ทว่านอกจากแอนดรูว์ ยังมีตัวตนระดับเหนือนภาไร้สมองให้เขาควบคุมตามใจ แถมยังมีเจ้าของร้านหลินซึ่งเป็นพระเจ้าที่แท้จริงอยู่ด้วย ดังนั้นระดับเหนือนภาของมาเรียจึงไม่มีผลกระทบต่อแอนดรูว์มากนัก เขาทำเพียงนั่งกับที่ เอนหลังเล็กน้อยมองสถานการณ์ทุกอย่างจากด้านข้าง

อันที่จริง แอนดรูว์เคลือบแคลงอย่างลึกซึ้งว่ามาเรียบรรลุกฎของเขตแดนแล้วหรือไม่?

ดวงตาของแอนดรูว์จดจ้องอย่างพินิจพิเคราะห์ ไร้ความกลัวใด ๆ

“โซเมย์” มาเรียตะโกนเรียกกะทันหัน นักวิชาการหญิงที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือของโต๊ะกลมลุกขึ้น มาเรียมองเธอพลางกล่าวว่า “เรามาเริ่มรายงานงานของฉันในระหว่างที่ฉันไม่อยู่กันเถอะ”

“ได้ค่ะ” เลขานุการโซเมย์หยิบเอกสารปึกหนาออกมา เตรียมพร้อมรายงาน

“ไม่ต้องยุ่งยากนักหรอก” มาเรียยกมือขึ้นขัดยิ้ม ๆ “เวลาของทุกคนที่นี่มีค่า รบกวนอธิบายให้รวบรัดที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แล้วส่งรายงานไปที่ห้องทำงานฉันทีหลังเถอะ”

“โอเค ได้ค่ะ”

โซเมย์ประหม่า วางรายงานลงทันที กระแอมให้คอโล่งแล้วเริ่มรายงาน

มาเรียเอนหลังสำรวจสีหน้าและการเคลื่อนไหวของเหล่านักวิชาการเบื้องล่างพลางฟังโซเมย์รายงานเกี่ยวกับงานต่าง ๆ ของสมาคมแห่งสัจธรรม โดยเธอจะชี้การละเลยและข้อบกพร่องใด ๆ หากพบ

เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าเธอกำลังเฝ้ามองลูกน้องอยู่ หรือกำลังครุ่นคิดอย่างรวดเร็วถึงเนื้อหารายงานอยู่กันแน่

ระดับเหนือนภาก็คือระดับเหนือนภาจริง ๆ ความรู้สึกกดดันแตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง…นักวิชาการทุกคนในห้องประชุมต่างคิดเหมือนกันหมด

“…แล้วก็ ในเหตุการณ์กระจกมนตรา” โซเมย์ดันแว่นของเธอพลางพูดต่อ “เจ้าของร้านหนังสือชิงออกมาแสดงพลังระดับเหนือนภาของเขาเป็นครั้งแรก เนื่องจาก…”

เธอลังเล

มาเรียที่เงียบอยู่ลืมตาขึ้นทันที “เพราะอะไร?”

โซเมย์เหลือบมองรองประธานซึ่งนั่งอยู่ถัดจากเธอ ก่อนจะพูดว่า “เอ่อ เพราะรองประธานแอนดรูว์ตัดสินใจผิดพลาด สมาคมแห่งสัจธรรมและร้านหนังสือจึงอยู่ฝั่งตรงข้ามกันค่ะ”

“แค่ก ๆ” แอนดรูว์กระแอมขัดจังหวะทันทีก่อนที่มาเรียจะทันได้ถามอะไร เคาะนิ้วของเขาลงบนโต๊ะประชุม “แต่ในภายหลัง ผมก็พบว่าเป็นฝีมือของไส้ศึกในองค์กร และได้รับการยกโทษจากเจ้าของร้านหนังสือแล้วนะครับ”

“ไส้ศึกเหรอ?” มาเรียขมวดคิ้ว

“วิถีแห่งดาบอัคคีส่งสายสืบเข้ามาปะปนในหมู่เจ้าหน้าที่ของสมาคมแห่งสัจธรรม พยายามควบคุมสมาคมแห่งสัจธรรมด้วยวิธีนี้ แต่ต้องขอบคุณรองประธานแอนดรูว์ที่เข้าใจเรื่องทันท่วงทีค่ะ” โซเมย์ตอบอย่างรวดเร็ว

“ไม่หรอกครับ” แอนดรูว์ยกมือขึ้นยิ้มอย่างถ่อมตัว “ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณท่านผู้ก่อตั้งต่างหาก”

ดวงตาของเขามองมาเรีย จงใจพูดคำว่าท่านผู้ก่อตั้งออกมา

“เอ๋?” มาเรียผู้มองแอนดรูว์อยู่หัวเราะคิกเบา ๆ ไม่แสดงความโกรธใด ๆ ออกมา “อย่างนี้นี่เอง…”

แอนดรูว์นั่งบนเก้าอี้โดยไม่เผยจุดอ่อน ดวงตาจ้องตรง ดูเหมือนเขาแค่พูดข้อเท็จจริงออกมา

มาเรียไม่ยิ้ม “ถึงแม้ว่าจะเป็นเพราะท่านผู้ก่อตั้ง แต่สมาคมแห่งสัจธรรมก็เฟื่องฟูในระหว่างที่ฉันไม่อยู่ ต้องขอบคุณรองประธานแอนดรูว์จริง ๆ”

“ไม่กล้าหรอกครับ”

แอนดรูว์ยังคงเจนจัดในศาสตร์การเสแสร้งของพวกผู้ดี ต่อให้เขาจะอายุมาก แต่ก็ยังมีใบหน้าของเพลย์บอยและรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบอยู่ “ผมเป็นแค่รองประธานอยู่ดี และทั้งหมดก็เป็นเพราะประธานมาเรียฝากฝังผมไว้ก่อนเก็บตัว ผมย่อมอยากทำสุดฝีมืออยู่แล้วครับ”

มาเรียไม่ถือจริงจัง หันไปพูดว่า “เอาล่ะ มาพูดเรื่องเจ้าของร้านหนังสือกันต่อเถอะ”

“ค่ะ”

โซเมย์พยักหน้า แล้วพูดทุกอย่างเกี่ยวกับหลินเจี๋ยตั้งแต่ต้นจนจบ

มาเรียหรี่ตา…

ทุกสิ่ง ทุกข้อขัดแย้ง ทุกการพิพาทในช่วงเวลานี้ล้วนแต่เกิดขึ้นมาก่อนนานแล้ว แต่เพราะเจ้าของร้านหนังสือ พวกมันต่างเกี่ยวข้องกันราววังน้ำวน เต้นรำราวหุ่นเชิดตามเจตจำนงของอีกฝ่าย

และสมาคมแห่งสัจธรรมก็กลายเป็นเครื่องมือในมือของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัวแล้วเช่นกัน

นักวิชาการที่อยู่ในห้องเหล่านี้กระทั่งรู้สึกภูมิใจที่สามารถช่วยเหลือหลินเจี๋ยได้

ไม่ถูกแล้ว เรื่องนี้ไม่มีทางถูกต้อง!

ส่วนอิทธิพลของอีกฝ่ายต่อสมาคมแห่งสัจธรรม ดูเหมือนจะเป็นแอนดรูว์…และผู้ก่อตั้งที่จู่ ๆ ก็ฟื้นจากสภาพแกล้งตาย

มาเรียครุ่นคิด แล้วการรายงานของโซเมย์ก็จบลง

“…นั่นล่ะค่ะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนับแต่คุณเก็บตัว และนี่คือรายงานของฉันค่ะ”

โซเมย์วางรายงานลงตรงหน้ามาเรีย ก่อนจะถอยกลับไป

มาเรียพยักหน้า อ่านรายงานเงียบ ๆ พลางใช้นิ้วเคาะโต๊ะ

นักวิชาการที่อยู่ในห้องประชุมต่างรอให้ประธานเอ่ยพูด พวกเขาเงียบไป บรรยากาศอึมครึมเล็กน้อยไปครู่หนึ่ง

หลังจากรออยู่นาน มาเรียก็เงยหน้าขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายกะทันหัน “เป็นเรื่องน่ายินดีจริง ๆ ที่สมาคมแห่งสัจธรรมของเราจะมีสมาชิกระดับเหนือนภาสองคนแล้ว แต่พิจารณาจากสถานะสูงส่งของท่านผู้ก่อตั้ง มันคงไม่ดีถ้าฉันจะยังเป็นประธานสมาคม ดีล่ะ ถ้าอย่างนั้นเราทำแบบนี้สิ…”

“ฉันสละเก้าอี้ของฉันดีไหม?”

มาเรียแย้มยิ้มราวกำลังปรึกษาเรื่องเล็กน้อยเช่นการพัฒนาคุณภาพอาหารในสมาคมแห่งสัจธรรม ซึ่งทำให้ห้องประชุมทั้งห้องเงียบสงัดไปครู่หนึ่ง ทุกคนต่างตกตะลึง

แอนดรูว์สูดหายใจลึก ไม่ทันตั้งตัวว่าอีกฝ่ายจะเล่นไม้นี้กะทันหัน

เธอต้องการจะทำอะไรกันแน่?

เธอไม่รู้หรืออย่างไรว่าตำแหน่งประธานคือเครื่องรับประกันที่ใหญ่ที่สุดเหนือความแข็งแกร่งของเธอเอง ตราบใดที่เธอลงจากตำแหน่ง แอนดรูว์จะสามารถทำให้เธอหายไปในสามวันได้แน่นอน ทำไมเธอถึงกล้าเอ่ยแนะว่าจะลงจากตำแหน่งล่ะ?! หรือว่านี่จะเป็น…กับดัก?!

“รองประธานแอนดรูว์ คุณคิดว่าอย่างไรล่ะ?” จู่ ๆ มาเรียก็มองมาที่เขา

แอนดรูว์เงียบไปสักพัก ก่อนจะตอบว่า “นี่เป็นเรื่องใหญ่ ผมเลยไม่สามารถตัดสินใจได้ง่าย ๆ…”

มาเรียมองเขาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็มองคนอื่น ๆ พลางพูดดัง ๆ “ทำไมพวกคุณไม่พูดล่ะ? งั้นฉันจะให้เวลาพวกคุณ สามเดือนจากนี้ เรามาลงคะแนนเลือกตั้งประธานกัน”