บทที่ 347 จักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ ยอดสมบัติมรรคาสวรรค์

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 347 จักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ ยอดสมบัติมรรคาสวรรค์

กระบวนการปะทุของหานเจวี๋ยดูเหมือนจะรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริงกลับกินเวลายาวนาน ใช้เวลาครึ่งปีเต็มๆ กว่าที่โลกดาราจะสงบลง

ความเร็วในการหลอมรวมแรงกรรมของเขาเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายสิบเท่า ส่งผลให้ตบะของเขาเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว

คาดว่าใช้เวลาไม่ถึงสิบปีก็จะทะลวงระดับจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏได้

สิ่งที่หานเจวี๋ยเป็นกังวลมากที่สุดคือกระบี่พิพากษาอนธการและบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร

สมบัติทั้งสองชั้นนี้ซ้อนทับกันอยู่ กระบี่พิพากษาอนธการหมุนวนอยู่เหนือบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรไม่หยุด

บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรส่วนใหญ่ถูกปราณอนธการชำระล้าง จนค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นดอกบัวสีม่วง

หานเจวี๋ยรู้สึกพอใจอย่างมาก นอกเหนือไปจากความเร็วในการบำเพ็ญของเขาที่เพิ่มขึ้น เขายังรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ากระบี่พิพากษาอนธการและบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรกำลังสร้างพันธะพิเศษขึ้นมา แม้จะไม่แน่ใจว่าคือพันธะอะไร แต่เขามีสัญชาตญาณว่าตนกำลังจะแข็งแกร่งขึ้น

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ

แปดปีต่อมา

ในที่สุดโอกาสในการทะลวงระดับของหานเจวี๋ยก็มาถึง!

เขาไล่อู้เต้าเจี้ยนออกไป แล้วเริ่มการทะลวงระดับ

มีอาณาเขตเต๋า ก็ไม่จำเป็นต้องฝ่าด่านเคราะห์ ไม่ถึงสามปี การทะลวงระดับก็สำเร็จลุล่วง!

จักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ!

จิตวิญญาณของหานเจวี๋ยก้าวมาถึงขั้นที่สมบูรณ์แบบ หากดวงวิญญาณหลุดออกจากร่างก็จะสามารถเห็นดวงวิญญาณส่องแสงสีม่วงสุกใส ราวกับรูปปั้นสีม่วงที่ส่องประกายแวววาว

พลังจิตของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น นั่นคือจิตนึกคิด!

หานเจวี๋ยรู้สึกว่าแม้พลังเวทในตัวเขาจะเพิ่มพูน แต่ก็ไม่แข็งแกร่งเท่าจิตนึกคิด

เขาตั้งตารอคอยระดับเทพยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แท้จริงแล้วระดับเทพคืออะไรกันแน่!

หานเจวี๋ยเสริมพลังให้กับตบะไปพลาง เรียกหน้าจอแสดงคุณสมบัติออกมา

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุขัย: 4569/2,001,999,999,999,999]

[เผ่าพันธุ์: มนุษย์เซียน (กายดาราอนธการ) ]

[ตบะ: จักรพรรดิเซียนวัฏจักรเก้าวัฏ]

[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]

[มหามรรค: มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด มหามรรคแห่งกรรม]

อายุขัยสองล้านล้านปี! จืดชืดเสียไม่มี!

หลังจากผ่านการทะลวงระดับมาหลายครั้ง หานเจวี๋ยก็หมดความตื่นเต้นกับอายุขัยเพียงไม่กี่ล้านล้านปีไปเสียแล้ว

เขาต้องการความตื่นเต้นยิ่งกว่านี้!

ใช้เวลาสองถึงสามปี ตบะของหานเจวี๋ยก็เสถียรโดยสมบูรณ์

เขาฝึกบำเพ็ญต่อไป โดยหวังว่าจะได้ทะลวงระดับเทพ หลังจากการทะลวงระดับเทพสำเร็จลุล่วงแล้ว เขาจะเพิ่มพูนพลังวิเศษมรรคกระบี่

หานเจวี๋ยไม่แม้แต่จะสาปแช่งเป็นการเฉลิมฉลอง แสดงให้เห็นถึงความใจร้อนของหานเจวี๋ยที่มีต่อระดับเทพ

อีกด้านหนึ่ง

ณ เกาะปูทองคำ นอกทะเลแดนเซียน

หวงจุนเทียนกำลังนั่งฝึกบำเพ็ญเบื้องหน้าน้ำตก ทั่วทั้งกายมีกลิ่นอายพลังสีทองที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแผ่ซ่านออกมา

เมื่อเทียบสภาพร่างกายทั้งหมดของเขา ก็ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ตอนนี้เขาไม่ใช่บุคคลที่ใครก็สามารถข่มเหงได้อีกต่อไป

กระเรียนขาวบินโฉบลงมาเบื้องหลังของเขา ก่อนเอ่ยด้วยความเคารพ “เจ้านิกายมีเรื่องจะหารือ จึงเรียนเชิญเจ้าเจ้าเกาะทุกท่านมารวมตัวกัน”

เมื่อสิ้นคำ หวงจุนเทียนก็ลืมตาขึ้น เอ่ยถามพร้อมขมวดคิ้ว “มีเรื่องอะไร เจ้าพอจะรู้เรื่องภายในหรือไม่”

กระเรียนขาวตอบ “เกี่ยวกับการสนับสนุนวังสวรรค์ขอรับ”

คิ้วของหวงจุนเทียนขมวดแน่นกว่าเดิม ‘จะต้องเข้าร่วมเคราะห์หรือ? แล้วยังต้องรับใช้คนอื่นด้วย!’

หวงจุนเทียนรู้สึกดูแคลนนิกายเจี๋ยในใจลึกๆ เขารู้สึกว่านับวันนิกายเจี๋ยยิ่งไร้ประโยชน์ แต่เจ้านิกายมีคำสั่งลงมา เขาก็ต้องไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ได้ เข้าใจแล้ว ข้าจะไป” หวงจุนเทียนกล่าว

นกกระเรียนขาวกระพือปีกบินจากไปทันที

หวงจุนเทียนจมดิ่งในห้วงแห่งความกังวลไม่รู้จบ เขาเคยได้ยินว่านับวันมหาเคราะห์ยิ่งทวีความโหดร้าย สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนล้มตายทุกวัน ถึงขั้นที่ผู้ทรงพลังของแดนเซียนอันเลื่องชื่อก็ถึงคราวสิ้นลม

ไม่ได้! หากผลีผลามเข้าร่วมเคราะห์เช่นนี้ ต่อให้ร่วมมือกับนิกายเจี๋ยก็สามารถตกเป็นเบี้ยใช้แล้วทิ้งได้ง่ายๆ วังสวรรค์จะตกเป็นเป้านิ่งจากทุกทิศทาง! เขารู้สึกว่าตนต้องคิดหาวิธี อย่างน้อยก็ต้องเลื่อนตำแหน่งขึ้นให้ได้ เจ้าเกาะของนิกายเจี๋ยมีมากเกินไป ล้มหายตายจากไปไม่กี่ร้อยคนย่อมไม่เป็นปัญหา

แต่หากต้องการจะเลื่อนตำแหน่ง ก็ต้องเริ่มต้นจากตบะ

อย่างไรเสียนิกายเจี๋ยก็เป็นสำนักเต๋าดั้งเดิม และยังทุ่มเทสั่งสอนคนโดยไม่แบ่งแยก คนอ่อนแอย่อมตกเป็นเหยื่อของคนที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว

‘ดูเหมือนว่าจะต้องใช้สมบัตินั่นแล้วสินะ’ หวงจุนเทียนครุ่นคิดเงียบๆ ดวงตาเป็นประกาย

ยี่สิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หานเจวี๋ยปิดด่านฝึกบำเพ็ญตลอด ลืมกระทั่งการสาปแช่งศัตรู จนเมื่อบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรถูกชำระล้างจนหมดจด เขาจึงตื่นขึ้นมา

ในส่วนลึกของจิตวิญญาณ ท่ามกลางดวงดารา บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วง ดูแล้วคล้ายกับดวงวิญญาณของเขา ราวกับแกะสลักจากผลึก ส่วนกระบี่พิพากษาอนธการไม่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะภายนอก แต่มันกลับทรงพลังยิ่งขึ้น

หานเจวี๋ยพบว่ายอดสมบัติทั้งสองชิ้นดูเหมือนจะผสานเข้าหากัน ราวกับของวิเศษแม่และลูก

เขาลองตีตราเป็นนายของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรทันที

ในที่สุด! หลังจากผ่านการชำระล้างแล้ว การตีตราก็ง่ายดายนัด

เจ็ดวันต่อมา การตีตราเป็นนายของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรสำเร็จลุล่วง

[ตรวจสอบพบว่าท่านได้รับยอดสมบัติมรรคาสวรรค์เป็นครั้งแรก ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง สำเร็จมรรคขึ้นสู่สวรรค์ทันใด เข้าสู่มหาเคราะห์ ช่วงชิงดวงชะตาอันยิ่งใหญ่ จะได้รับวิชาสืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น และโอกาสยกระดับระบบหนึ่งครั้ง]

[สอง ฝึกบำเพ็ญต่อไป หลีกหนีมหาเคราะห์ จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น]

หานเจวี๋ยกดเลือกตัวเลือกที่สองโดยไม่ลังเล

จากนั้นเขาก็ตรวจสอบข้อมูลของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร

[บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร: ยอดสมบัติมรรคาสวรรค์ ผ่านการชำระล้างจากปราณอนธการ พลังแข็งแกร่งขึ้น พลังป้องกันเรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในมรรคาสวรรค์ และยังเพิ่มระดับความเร็วในการบำเพ็ญขึ้น

‘ขนาดนี้เชียว?’ หานเจวี๋ยเอาบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรออกมา แล้ววางไว้บนฟูกนอน จากนั้นเขาก็นั่งลงบนบัลลังก์ดอกบัว เขาเริ่มดูดซับปราณ และพบว่าความเร็วในการบำเพ็ญเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ไม่เพียงเท่านั้่นแม้แต่การดูดซับแรงกรรมของกายเนื้อก็เร็วขึ้นตามไปด้วย

ของดี!

หานเจวี๋ยนำเบาะสงบจิตใจวางไว้บนโต๊ะ เตรียมจะส่งให้กับเซียนซีเสวียน

หานเจวี๋ยใช้แบบจำลองการทดสอบทันที คิดจะทดสอบพลังของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรดู

ตัวเลือกแรก จักรพรรดิสวรรค์!

หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูปเต็มๆ เขาก็ลืมตาขึ้น

สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจระคนยินดี

แม้แต่จักรพรรดิสวรรค์ที่แข็งแกร่งก็ยังไม่อาจทะลวงเกราะป้องกันของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรได้ ทว่าร่างกายของหานเจวี๋ยอ่อนแอเกินไป จึงถูกสะเทือนตายทั้งเป็น

แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว!

เจ้าของเล่นชิ้นนี้สามารถปกป้องชีวิตได้! สมแล้วที่เป็นยอดสมบัติมรรคาสวรรค์!

หานเจวี๋ยใช้แบบจำลองการทดสอบต่อไป

นอกจากปรมาจารย์ลัญจกรสรวงและผู้ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งแห่งตำหนักเอกอนันต์แล้ว ก็ไม่มีใครสามารถทำลายเกราะป้องกันของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรได้เลย ขนาดผู้ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งยังโจมตีอยู่นานกว่าจะทะลวงได้

ส่วนปรมาจารย์ลัญจกรสรวงนั้น…เพียงโบกมือก็กวาดทั้งหานเจวี๋ยและบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรหายวับไปทันที เขาไม่อาจทานทนได้!

แต่โดยรวม หานเจวี๋ยก็ยังมีความสุขมากอยู่ดี

ตั้งแต่ได้ครอบครองยอดสมบัติชิ้นนี้ พลังของเขาก็ถือว่าพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

ตัวเขาที่กำลังอารมณ์ดีหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาเพื่อเตรียมการเฉลิมฉลอง

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ จักรพรรดิปีศาจ จู่ถู ไม่มีใครหนีพ้นแม้แต่คนเดียว!

หานเจวี๋ยตัดสินใจว่าจะสละอายุขัยให้คนละสองพันล้านปี ให้พวกเขาประหลาดใจไปเลย!

รายแรกคือบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์!

ท้องฟ้าเวลาพลบค่ำ ภายในหุบเขาอันกว้างใหญ่ มีแสงพุทธะส่องประกายเรื่อๆ

ท่ามกลางความมืดมิด บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์นั่งอยู่ที่พื้น มีแสงรัศมีโอบล้อมตัวเขาอยู่

เขาขมวดคิ้วมุ่น ด้วยความขุ่นแค้นที่ล้นทะลัก “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเวรนั่น เล่นงานข้าอีกแล้ว!”

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์เดือดดาลด้วยไฟโทสะแต่ต้องสะกดกลั้นเอาไว้

ก่อนหน้านี้เขาเคยเสียสติไปแล้ว และกว่าจะซ่อนเร้นจิตชั่วร้ายของเขาได้ก็ทำเอาลำบาก เขาไม่อยากสูญเสียการควบคุมตัวเองอีก

ตั้งแต่จู่ถูกลายเป็นอัจฉริยะผู้โดดเด่น เขาก็ไม่กล้าบุ่มบ่าม จักรพรรดิสวรรค์ จักรพรรดิปีศาจฆ่าเขาไม่ตาย แต่จู่ถูทำได้!

เขาเป็นบุคคลผู้แข็งแกร่งที่แดนเซียนยอมรับโดยทั่วกัน! เป็นเพราะเขาวังเทพจึงผงาดขึ้นมาได้ ไม่มีใครอาจหาญโค่นล้มวังเทพได้นับแต่นั้น

……………………………………….