บทที่ 304-2 ไทเฮาเอาใจ (2)

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

บทที่ 304 ไทเฮาเอาใจ (2)

กู้จิ่นอวี๋หน้าซีดเผือด “องค์ชายห้า!”

“เจ้าหลบไป! มิฉะนั้นเจ้าจะต้องโทษไปด้วย!” น้อยนักที่องค์ชายห้าจะพูดแรงๆ ใส่กู้จิ่นอวี๋ เห็นได้ชัดว่าเขาเดือดดาลขึ้นมาจริงๆ แล้ว

กู้จิ่นอวี๋ไม่กล้าส่งเสียงอีก

กู้เจียวขมวดคิ้วอย่างรำคาญ “ข้าจะพูดครั้งสุดท้าย หลบไป”

องค์ชายห้าเอ่ยอย่างโมโห “บังอาจ ใครก็ได้มาตบปากให้ข้าที!”

ขันทีผู้ติดตามแรงเยอะสองคนเดินมาหา ก่อนยื่นมือไปจะหิ้วตัวกู้เจียวขึ้นมา ทว่าพวกเขากลับยังไม่ทันได้แตะแม้แต่เสื้อผ้าของกู้เจียวด้วยซ้ำ ก็โดนโบกลงไปกองกับพื้นแล้ว

องค์ชายห้าโมโหจนกระทืบเท้า “นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้ากระทำชั่วร้ายในวังหลวง!” เขายกมือไปคว้ากู้เจียว

หนวกหูจะตายอยู่แล้ว!

นางแค่อารมณ์ชั่ววูบ!

ละแวกนั้นมีบ่อบัวอยู่ใกล้ๆ พอดี กู้เจียวจึงดึงคอเสื้อองค์ชายห้าโยนลงไปในบ่อน้ำทั้งตัว!

“อ้ากกก”

องค์ชายห้าหวีดร้อง

เขาล้มก้นจ้ำเบ้าลงในบ่อน้ำ เปียกชุ่มทั่วร่าง สองมือกระวีกระวาดจับขอบบ่อไว้ ดิ้นรนออกจากบ่อน้ำโดยที่ศีรษะมีดอกบัวดอกใหญ่เกาะอยู่

เสียงดังโครมครามทำเอาเซียวฮองเฮาที่เดินผ่านแถวนั้นตกอกตกใจ

วันนี้อากาศดี เดิมทีเซียวฮองเฮามาเดินเล่นในสวนหลวงเป็นเพื่อนฉินฉู่อวี้ จนใจที่ฉินฉู่อวี้วิ่งหนีไปจนไร้เงาเสียแล้ว

ยามนี้นางกำลังเดินเล่นทอดน่อง ได้ยินเสียงโครมครามจึงได้เดินมาดู ก็เห็นองค์ชายห้านั่งอยู่ในบ่อน้ำสภาพอเนจอนาถ อยากจะปีนขึ้นมากลับปีนไม่ได้

แม้สภาพองค์ชายห้าจะอเนจอนาถอยู่บ้าง แต่ก็น่าขันไม่น้อย

องค์ชายห้าหน้าตารูปงาม บนศีรษะมีดอกบัวสีชมพูนุ่มนิ่มเกาะอยู่ ช่างน่าขันเสียจนอดหัวเราะไม่ได้

“อะแฮ่ม!” เซียวฮองเฮากระแอมในลำคอ ก่อนหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดปาก แล้วสั่งนางกำนัลว่า “มัวนิ่งอึ้งอะไรอยู่ ยังไม่รีบไปพยุงองค์ชายห้าขึ้นมาอีก!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” ซูกงกงพาคนไปดึงองค์ชายห้าที่เปียกซกอยู่ในบ่อน้ำขึ้นมาด้วยตัวเอง

อากาศร้อนๆ เช่นนี้ เปียกน้ำทั้งตัวไม่มีทางหนาวแน่นอน แต่สภาพก็ดูไม่ได้เอาเสียเลย

สีหน้าองค์ชายห้ายิ่งดูไม่ได้มากกว่าเดิม

พวกนางกำนัลไม่กล้าหัวเราะเขา จึงกลั้นขำกันแทบตาย

เซียวฮองเฮาเดินไปหาอย่างเนิบช้า กวาดสายตามองจนทั่วก่อนเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้น”

“ถวายบังคมเสด็จแม่” องค์ชายห้าข่มอารมณ์คำนับให้

กู้จิ่นอวี๋ก็ค้อมกายคำนับให้เช่นกัน “ถวายพระพรฮองเฮา ฮองเฮาทรงพระเจริญหมื่นปี”

เซียวฮองเฮาเบนสายตามาตกอยู่บนร่างกู้เจียวที่อยู่ข้างๆ กู้จิ่นอวี๋ “นี่คนจากตำหนักใดรึ”

กู้จิ่นอวี๋รีบเอ่ย “ทูลฮองเฮา นี่เป็นพี่สาวหม่อมฉันเองเพคะ”

“พี่สาวเจ้าอย่างนั้นรึ” แม้ว่าเซียวฮองเฮาจะไม่เคยเจอกู้เจียว แต่ก็เคยได้ยินเรื่องอีกฝ่ายมาบ้าง แต่สมองของมนุษย์บางครั้งก็ความจำสั้น นางนึกไม่ออกว่ากู้จิ่นอวี๋มีพี่สาว

ยิ่งไปกว่านั้นใบหน้ากู้เจียวก็ไม่น่าดูยิ่งนัก

เซียวฮองเฮาขมวดคิ้ว ดึงสายตากลับมา

“เกิดอะไรขึ้น” เซียวฮองเฮาถามองค์ชายห้า

องค์ชายห้าชำเลืองมองกู้เจียวแวบหนึ่ง เขาไม่คิดจะฟ้อง แต่ห้ามขันทีปากบอนไว้ไม่ทัน

ขันทีคนหนึ่งคลานขึ้นมาจากพื้น คุกเข่าลงให้เซียวฮองเฮา “ทูลฮองเฮา เด็กสาวนางนี้บังอาจยิ่งนัก นึกไม่ถึงว่าจะกล้าลงมือกับองค์ชายห้าในวัง! หากท่านมาไม่ทันการณ์ องค์ชายห้าคงโดนนางทำร้ายไปแล้ว!”

สีหน้าเซียวฮองเฮาเย็นชาขึ้นมาทันที

ลอบทำร้ายองค์ชายในวังหลวง มีอย่างนี้ด้วยรึ

“ทูลฮองเฮา!” กู้จิ่นอวี๋คุกเข่าลง เสี่ยงตายร้องขอความเมตตา “องค์ชายห้ากับพี่สาวแค่เข้าใจผิดกันเล็กน้อยเท่านั้น พี่สาวไม่ได้คิดจะฆ่าองค์ชายห้านะเพคะ! ขอฮองเฮาโปรดพิจารณาด้วย!!”

“โอ๊ะ วันนี้สวนหลวงคึกคักไม่น้อยเลยนี่”

มีเสียงคล้ายหัวเราะของจวงกุ้ยเฟยลอยมาจากตรงทางเข้า

ข้างกายนางมีอวี๋เฟยตามมาด้วย

อวี๋เฟยคือมารดาแท้ๆ ของรุ่ยอ๋อง ทั้งสองสนิทสนมกันมานานแล้ว

หลังจากที่หนิงหวังเฟยแท้งไป เป็นครั้งแรกเลยที่จวงกุ้ยเฟยออกมาเดินเล่นที่สวน ใครจะคิดว่าจะเจอเรื่องน่าสนุกเข้า

จวงกุ้ยเฟยค้อมกายให้ฮองเฮาเล็กน้อย

อวี๋เฟยคำนับ “ถวายพระพรฮองเฮา”

องค์ชายห้าคำนับอย่างกระดากอาย “จวงกุ้ยเฟย อวี๋เฟย”

วันนี้จวงกุ้ยเฟยอารมณ์ดีไม่น้อย ระหว่างพุดคุยสีหน้าจึงประดับด้วยรอยยิ้มจางๆ “เสี่ยวอู่เป็นอะไรไปรึ อากาศร้อนเกินไปจึงไปเล่นน้ำเป็นเป็ดน้ำรึ เหตุใดบนหัวจึงมีดอกบัวเกาะอยู่ด้วยเล่า”

ดอกบัว!?

สีหน้าองค์ชายห้าพลันเปลี่ยน รีบยกมือขึ้นดึงดอกบัวบนศีรษะลงมา

เขานึกขึ้นได้ว่าองค์ชายองอาจอย่างเขานึกไม่ถึงว่าจะมีดอกไม้บานบนศีรษะต่อหน้าผู้คนมากมายเพียงนี้ เขาจึงทั้งอับอายและเดือดดาลยากจะทน แทบจะหารูบนพื้นมุดอยู่รอมร่อ!

เซียวฮองเฮามองกู้เจียวก่อนสะทกสะท้อนใจเอ่ย “เสี่ยวอู่ทะเลาะกันกับเด็กสาวคนนี้ ข้ากำลังไต่สวนเรื่องนี้อยู่”

จวงกุ้ยเฟยยิ้มมองกู้จิ่นอวี๋กับกู้เจียวที่อยู่ข้างๆ นาง “ดังนั้นแล้วเสี่ยวอู่ถูกนางผลักตกน้ำอย่างนั้นรึ เกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ไปตามซูเฟยมาดีกว่า ไม่ว่าอย่างไรเสี่ยวอู่ก็เป็นลูกชายของนาง”

เซียวฮองเฮาพยักหน้า “ไปตามซูเฟยมา”

“พ่ะย่ะค่ะ!” ซูกงกงไปรายงานซูเฟยที่ตำหนักฉางชุน

ซูเฟยทราบมาว่าลูกชายถูกคนผลักตกน้ำก็ไม่มีเวลามาสนใจว่าตัวเองยังป่วยอยู่ ไปที่สวนหลวงทั้งๆ ที่อากาศร้อนจัดทันที

เซียวฮองเฮานึกไม่ออกว่าพี่สาวของกู้จิ่นอวี๋คือใคร ซูเฟยมีหรือจะนึกไม่ออก

ปานแดงบนใบหน้าอัปลักษณ์จนพบหน้าใครไม่ได้ หากไม่ใช่หลานสาวที่เลี้ยงอยู่ในชนบทนางนั้นแล้วจะเป็นใครไปได้อีก!

นางประคองแขนองค์ชายห้าอย่างปวดใจ ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่กู้เจียวอย่างโหดเหี้ยม “เจ้าเป็นคนผลักเสี่ยวอู่ตกน้ำรึ ข้าว่าเจ้าคงบ้าไปแล้วกระมัง!”

เซียวฮองเฮาเอ่ย “ซูเฟย เรื่องยังไม่กระจ่างแจ้ง คุณหนูกู้พูดต่างกับขันทีคนนี้เลย ฟังเสี่ยวอู่กับเด็กสาวคนนี้ก่อนดีกว่าว่าจะเล่าอย่างไร”

ซูเฟยกัดเฟยเอ่ย “ข้าแค่ถามฮองเฮาว่านางเป็นคนผลักเสี่ยวอู่ตกน้ำใช่หรือไม่”

ขันทีข้างกายองค์ชายห้าร้องเอ่ย “ซูเฟย! นางพ่ะย่ะค่ะ! นางตีพวกบ่าว ซ้ำยังผลักองค์ชายห้าลงน้ำด้วย!”

ซูเฟยโมโหเสียจนตัวสั่น นางกำหมัดแน่น ใช้สติปัญญาสุดท้ายเอ่ยกับเซียวฮองเฮา “ฮองเฮา คนผู้นี้เป็นหลานสาวบ้านเดิมข้าเอง ขอฮองเฮาโปรดมอบนางมาให้ข้าด้วย”

เซียวฮองเฮาเอ่ยถาม “เจ้าคิดจะจัดการอย่างไร”

ซูเฟยมองกู้เจียวอย่างเย็นชา “นางมีแม่ให้กำเนิดแต่ไม่มีแม่สั่งสอน หม่อมฉันจะสั่งสอนนางแทนพี่สะใภ้เอง! ใครก็ได้! จับนางมาให้ข้า!”

เพิ่งจะเอ่ยจบ เสียงฉินกงกงก็ลอยมาจากไกลๆ ก่อนจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ “ไทเฮาเสด็จ…”

เซียวฮองเฮากับโฮ่วเฟยทุกคนรีบหันไปคำนับให้อย่างเคารพ

เกี้ยวหงส์ของจวงไทเฮาหยุดอยู่ที่สวนหลวงดุจดั่งนกสวรรค์ทองกระพือปีกร่อนลงมา บรรยากาศพลันน่าเกรงขามขึ้นมา

ในสวนหลวงเงียบกริบเสียจนเข็มตกก็ยังได้ยิน

และแล้วในฐานะที่เซียวฮองเฮาเป็นถึงหัวหน้าโฮ่วเฟย จึงจำต้องเอ่ยขึ้นอย่างใจกล้า “เสด็จแม่มาได้อย่างไรเพคะ”

“หากข้าไม่มาก็คงจะไม่รู้ว่าพวกเจ้าแต่ละคนสร้างปัญหาให้ข้าได้เช่นนี้ ข้าเชิญหมอมาจากนอกวัง ระหว่างทางดันมาโดนพวกเจ้าขวางไว้…โวยวายจะฆ่าจะแกง ทำไมรึ ข้าเพิ่งกลับวังพวกเจ้าก็ทนเห็นข้าสบายดีไม่ได้เลยรึ”

ข้อหาที่โยนมาให้กระทงนี้ เหลือแค่บอกว่าพวกนางขวางทางหมอของไทเฮาเพราะหมายจะทำร้ายชีวิตไทเฮาแล้ว!

“เสด็จแม่โปรดระงับโทสะด้วย!”

เซียวฮองเฮาคุกเข่าลงโดยมีนางกำนัลช่วยประคอง

ฮองเฮาคุกเข่าลงไปแล้ว พวกจวงกุ้ยเฟยจึงจำต้องพากันคุกเข่าลงตาม

“มานี่” จวงไทเฮาเอ่ยเรียบๆ

ประโยคนี้เอ่ยกับกู้เจียว

จวงไทเฮาอยากจะวางมาดต่อคนนอกเสียหน่อย

อันที่จริงแล้วเจตนาของนางคือจะทำให้กู้เจียวเดินมาข้างเกี้ยวหงส์ จากนั้นนางจะเล่นบทตัวร้ายทำลายบ้านเมืองจนคนตัวสั่นงันงกต่อ

ใครจะรู้ว่ากู้เจียวจะเข้าใจผิด มือข้างหนึ่งยันตัวขึ้นเกี้ยวหงส์ไปนั่งข้างท่านย่าอย่างเชื่อฟัง

จวงไทเฮา “…”

ทุกๆ คน “…”

จวงไทเฮา เฮ้อ นางตามใจอีกฝ่ายจนเคยยัง ถึงจะเสียคนอย่างไรก็ต้องตามใจต่อไป!