บทที่ 360 เฉาซื่อพ่ายแพ้

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 360 เฉาซื่อพ่ายแพ้

บทที่ 360 เฉาซื่อพ่ายแพ้

ทันทีที่เฉาซื่อหันศีรษะไป นางก็เห็นกู้ฉวนลู่จ้องมองมาที่นาง เฉาซื่อกลัวกู้ฉวนลู่เล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ซุนซีเอ๋อร์ทำกับลูกของตน นางจึงกล่าวอย่างโกรธแค้น “พอดีเลย พี่ใหญ่ ท่านมาก็ดีแล้ว พวกเรามาตัดสินกัน ทำไมพี่สะใภ้ต้องผสมหินในข้าวให้ลูกชายข้ากินด้วย? ลูกชายของข้าฟันหักไปหนึ่งซี่!”

ในเวลานี้ ประตูของปีกฝั่งตะวันตกก็เปิดออก จากนั้นกู้ซินเถาก็ออกมาและกล่าวว่า “ท่านอากำลังพูดถึงอะไร? เหตุใดแม่ของข้าต้องผสมหินลงไปด้วย? กู้ถิงถิงและกู้ซุ่นสีมาพูดอย่างน่าสงสารว่าพวกเขาหิว แล้วแม่ของข้าก็ใจดีแบ่งให้อาหารให้ทั้งสองคนไป ยังไม่ทันได้เป็นคนดี แต่กลับต้องกลายเป็นคนชั่วไปเสียแล้ว ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ พวกข้าคงไม่ให้อาหารไปและปล่อยให้พวกเขาอดตาย”

“กู้ซินเถา เจ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้าเป็นผู้หญิง แต่เหตุใดถึงมีจิตใจโหดเหี้ยมเช่นนี้! ถิงถิงและซุ่นสีเป็นน้องของเจ้านะ!”

“ท่านอาสะใภ้สาม เราทำดีที่สุดแล้ว เราให้อาหารแก่พวกเขา ข้าแค่อยากถามว่าท่านอาไปอยู่ที่ไหนมาตอนที่พวกเขาหิวโหย? จริงอยู่ที่พวกเขาเป็นน้องชายและน้องสาวของข้า แล้วท่านอาล่ะ? ท่านคือแม่ของพวกเขานะ! ท่านอาทิ้งลูกของตนไว้ที่บ้านนานกว่าครึ่งเดือนอย่างไม่แยแส!” กู้ซินเถามีสีหน้าประชดประชัน เฉาซินเหลียนจึงยับยั้งเอาไว้ไม่ได้

แต่เมื่องนึกถึงฟันของกู้ซุ่นสี นางต้องการทำให้ชัดเจนในวันนี้

“เอาล่ะ แล้วฟันของซุ่นสีล่ะ? ข้าได้ยินมาว่าต้องไปหาหมอ แต่มันต้องใช้เงินมากและยังมีเลือดออกมากอีก!” เฉาซินเหลียนอยากจะขอเงินชดเชยเล็กน้อยจากซุนซื่อ กล่าวจบก็มองไปที่ใบหน้าของกู้ฉวนลู่ “พี่ใหญ่เป็นคนยุติธรรม ท่านบอกมาว่าควรต้องทำอย่างไร อย่างไรเสียฟันของซุ่นสีก็ร่วงออกมาแล้ว”

ใบหน้าของกู้ฉวนลู่มืดมน ครอบครัวนี้ไม่เคยปล่อยให้เขาสบายใจได้เลย เขากลับมาช้าไปเพียงสองวัน แต่ซุนซื่อและเฉาซื่อก็เริ่มเหน็บแนมกันอีกแล้ว

“ท่านอาสะใภ้สาม ท่านพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ใครจะไปรู้ว่าหินมาจากไหน! ข้าวในบ้านของท่านสะอาดมากจนไม่มีหินแม้แต่ก้อนเดียวอย่างนั้นหรือ!” กู้ซินเถากล่าว “ถึงแม้จะมีหิน แต่ก็ยังมีข้าวอยู่ข้างในนั้น! ใครจะสามารถใช้กระด้งร่อนข้าวจนสะอาดและรับรองได้ว่าไม่มีหินแม้แต่ก้อนเดียวอยู่ในนั้นได้บ้าง!”

กู้ซินเถากล่าวอย่างเย็นชาว่า “บางทีหินก้อนนั้นอาจอยู่ในข้าว! ท่านใส่ความพวกเรามากเกินไปแล้วหรือเปล่า”

ไม่เคยคิดเลยว่ากู้ซินเถาจะพูดจาได้เก่งกาจเช่นนี้!

กู้ถิงถิงตะโกนจากด้านข้างอย่างโกรธเคือง “ท่านพี่โกหก มีก้อนหินอยู่ในอาหาร เห็นได้ชัดว่าพวกท่านเป็นคนใส่มันลงไป!”

“ใช่แล้ว ๆ ข้าเพิ่งกัดมันและฟันก็หักไป” กู้ซุ่นสีที่สูญเสียฟันไปหนึ่งซี่ก็ยังคงโกรธเคืองอยู่

“เช่นนั้นแล้วจะตำหนิใครได้? หากจะตำหนิก็ต้องตำหนิเจ้านั่นแหละ!” กู้ซินเถากล่าวอย่างดูถูก “ท่านแม่ของข้าใจดีพอที่จะให้อาหารแก่พวกเจ้า แต่เจ้ากลับไม่ซาบซึ้ง และยังมากล่าวหาท่านแม่ของข้าอย่างผิด ๆ อีก หึ… หมาป่าตาขาวไร้หัวใจ”

“เจ้า…” เมื่อกู้ถิงถิงเห็นว่ากู้ซินเถาดุด่าตัวเองเช่นนี้ก็พูดอะไรไม่ออก

กู้ฉวนลู่จ้องมองอย่างดุดัน เมื่อกู้ถิงถิงเห็นก็รีบถอยกลับ ในเวลานี้กู้ฉวนลู่เข้าใจอย่างถ่องแท้และมองเฉาซื่ออย่างเย็นชาพลางสูดหายใจเข้าอย่างแผ่วเบา “ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมาเจ้าไปอยู่ที่ไหน? จึงไม่สนใจและปล่อยให้เด็กสองคนอยู่ที่บ้านกันตามลำพัง!”

หัวใจของเฉาซื่อขมขื่น นางสามารถบอกเรื่องที่นางกลับไปบ้านแม่ได้ แต่กลับไปเพราะเรื่องอะไรนั้น นางบอกไม่ได้

“พี่ใหญ่…” เฉาซื่ออย่างลำบากใจ “ข้า…”

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกัน” กู้ฉวนลู่กล่าวอย่างเกียจคร้านกับเฉาซื่อ “กลับไปได้แล้ว!”

เฉาซื่อพยักหน้าตอบรับ และเดินไปกับกู้ถิงถิงและกู้ซุ่นสี

เห็นได้ชัดว่าซุนซื่อเอาก้อนหินใส่อาหาร แต่พวกเขาก็ยังกล่าวผิดเป็นถูก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สนใจและยังโยนความผิดให้พวกนาง และบอกว่าพวกนางไม่มีจิตสำนึกอีก

พวกเขาทำผิดและยังมากล่าวหาพวกนางอย่างผิด ๆ

เมื่อกู้ซินเถาเห็นท่าทางที่ห่อเหี่ยวของเฉาซื่อ นางก็เชิดหน้าขึ้นสูง เหลือบมองไปที่กู้ซุ่นสี และนางก็สูดลมหายใจอย่างภาคภูมิใจหันหลังกลับเข้าไปในห้อง

กู้ถิงถิงและกู้ซุ่นสีรู้สึกคับแค้นใจอย่างยิ่ง และตามเฉาซื่อเข้าไปในห้องหลัก

เฉาซื่อถูกกู้ฉวนลู่สอนบทเรียน นางจึงรู้สึกหดหู่ใจและเศร้าใจอย่างยิ่ง เมื่อเห็นเด็กสองคนก้มศีรษะลง นางก็รู้สึกโกรธและตบหน้ากู้ถิงถิงไปหนึ่งที “เจ้าเด็กสารเลวทั้งสอง พวกเจ้าทำให้ข้าเสียหน้า”

สิ้นเสียงสะบัดมือก็มีรอยนิ้วมือห้านิ้วสีแดงสดบนใบหน้าของกู้ถิงถิง เกรงว่านางคงจะเจ็บมาก แต่กู้ถิงถิงก็กัดริมฝีปากไว้และไม่ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมา ดูเหมือนว่าการที่เฉาซื่อตบกู้ถิงถิงเช่นนี้จะเป็นเรื่องปกติ

“ท่านแม่ เห็นได้ชัดว่าพวกป้าใหญ่ใส่ก้อนหินลงไป … ฮึก ฮึก ฮึก…” กู้ซุ่นสีรู้สึกคับแค้นใจอย่างยิ่ง

“ท่านแม่ เห็นได้ชัดว่าเป็นท่านป้าใหญ่ และอาหารก็เต็มไปด้วยโคลน” ใบหน้าเล็ก ๆ ของกู้ถิงถิงมีรอยนิ้วสีแดงและนางก็ร้องไห้พลางกล่าวว่า “ท่านแม่ ถ้าเป็นอาหารธรรมดาและมีก้อนหินอยู่ เรารู้ว่ามันเป็นอย่างไร แต่มื้อนั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง”

เฉาซื่อขี้เกียจเกินกว่าจะฟังพวกเขา นางจ้องไปที่ห้องปีกตะวันตกด้วยความโกรธ “ออกไปให้พ้น อย่ามากวนข้า!”

เดิมทีนางต้องการขอเงิน แต่ถูกกู้ฉวนลู่เสียดสีและทำให้นางอับอายขายหน้า

ตอนนี้ใครจะไปสนใจเกี่ยวกับฟันของกู้ซุ่นสีกันล่ะ

เฉาซื่ออยากจะลากซุนซื่อออกมาทุบตีเพื่อบรรเทาความเกลียดชังของนาง

กู้ฉวนลู่เข้ามาในห้อง และตามมาด้วยกู้จือเหวิน

ในช่วงสองวันที่ผ่านมา กู้ฉวนลู่พากู้จือเหวินไปอวยพรปีใหม่ในเมือง

ญาติของกู้ฉวนลู่อยู่ในหมู่บ้านอู๋ซี แล้วทำไมกู้ฉวนลู่ถึงเข้าเมืองเพื่ออวยพรปีใหม่น่ะหรือ?

และยังพากู้จือเหวินไปด้วย!

นั่นเป็นเพราะกู้ฉวนลู่มีแผนการอยู่ในใจ เมื่อเห็นว่ากู้จือเหวินกำลังจะสอบระดับท้องถิ่นในปีหน้า ยิ่งรู้จักคนมากเท่าไร ก็ยิ่งไปได้ไกล ถ้าตอนนั้นมีอะไรผิดพลาดก็ค่อยไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น

ด้วยความคิดเช่นนี้ กู้ฉวนลู่จึงพากู้จือเหวินเดินไปพบปะกับหลายครอบครัวในเมือง

เมื่อเข้าในบ้านก็เจอกับอาหารเต็มโต๊ะ

ซุนซื่อเตรียมชามและตะเกียบด้วยรอยยิ้ม “สามี ข้ารู้ว่าเจ้าจะกลับมาวันนี้ ในตอนกลางวันข้าจึงเตรียมอาหารดี ๆ เอาไว้ และครอบครัวของเราจะฉลองปีใหม่กัน!” ซุนซื่อวางอาหารเต็มโต๊ะ มีปลา เนื้อ ไก่ ไข่ และอาหารก็อุดมสมบูรณ์มาก

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

สองแม่ลูกคู่นี้มันร้ายจริง ๆ นะคะ อยากรู้เหลือเกินว่าจะมีจุบจบยังไง

ไหหม่า (海馬)