บทที่ 360 พิสูจน์ความบริสุทธิ์

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 360 พิสูจน์ความบริสุทธิ์

บทที่ 360 พิสูจน์ความบริสุทธิ์

“พวกเราไม่เชื่อ!”

“ใช่ พวกเราไม่เชื่อ โรงเรียนมัธยมอันดับเจ็ดเป็นโรงเรียนแบบไหนหรือ ถึงได้ทำรายชื่อผู้สมัครตกหล่นน่ะ?”

“เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าโรงเรียนมีความเข้มงวดและระมัดระวังอยู่เสมอ ไม่มีทางที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้หรอก!”

“หรือเด็กพวกนี้คือคนที่ไม่ได้เข้าสอบแต่แทรกเข้ามา?”

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนประโยคนี้ออกมา ทันทีที่ทุกคนได้ยินก็ให้ความสนใจในทันที

“ไม่ใช่แบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม?” มีคนหนึ่งพุ่งเข้าไปถามครูที่ลงทะเบียน

“พวกคุณเป็นครูบาอาจารย์นะ เป็นคนสอนและให้ความรู้ผู้คน จะไร้มโนธรรมกันแบบนี้ไม่ได้!”

“การศึกษาต้องมียุติธรรมสิ จะมาให้คนอื่นเข้ามาแทรกแซงได้ยังไง!”

……

ทุกคนแย่งกันพูดจนฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ใจความสำคัญของมันคือ พวกเขาไม่เชื่อว่าโรงเรียนแห่งนี้จะทำชื่อเด็กที่สอบผ่านตกหล่น

ครูสาวร้อนรนขึ้น แล้วรีบให้ครูที่ลงทะเบียนทำเรื่องต่อ

เธอคิดว่าหลังจากลงทะเบียนเสร็จ ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น

“ทุกท่านเงียบกันก่อน ทางโรงเรียนจะอธิบายเรื่องนี้ให้ทุกท่านฟังเองค่ะ!”

ครูสาวตะโกนด้วยเสียงอันดัง แต่ในตอนนี้ฝูงชนกำลังชุลมุนและไม่คิดจะฟังเธอเลย

“พวกเราไม่ยินยอมรับเด็กที่สอบไม่ผ่านหรอกนะ!”

“ให้ครูใหญ่ออกมาชี้แจงสิว่าทำไมถึงลงทะเบียนเรียนให้เด็กที่ไม่มาสอบ”

“ถ้าเด็กพวกนั้นลงทะเบียนเข้ามาได้ พวกเราต้องไปหาคำอธิบายจากฝ่ายหัวหน้าของกระทรวงแล้วล่ะ!”

“พวกคุณจะทำให้การศึกษาเสื่อมไม่ได้นะ!”

“โยนไอ้เด็กไม่รู้ที่มาพวกนี้ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”

ทุกคนแย่งกันพูดไปหมดและมีอีกหลายครอบครัวที่กระตือรือร้นในการที่จะโยนพวกเสี่ยวเถียนออกไป

ฉืออี้หย่วน เสี่ยวลิ่ว และเสี่ยวชีกลัวว่าน้องจะทนทุกข์เลยออกไปยืนข้างหน้าเพื่อปกป้องเธอไว้ข้างหลัง

แต่เพราะบรรดาผู้ปกครองและนักเรียนมารุมล้อม เลยทำให้พวกเด็ก ๆ ถูกกลืนหายไปในฝูงชน

ส่วนคนอื่นที่ยืนอยู่เดี่ยว ๆ ก็หลงไปในกลุ่มคนด้วย

ตอนนั้นเองที่ครูอวี่มาถึงที่นี่พอดี

เขาเห็นคนกลุ่มหนึ่งทำท่าจะลงมือกับเด็ก ๆ ก็รีบเข้าไปขวางเอาไว้

“มีอะไรก็พูดกันดี ๆ ครับ นี่คิดจะทำอะไรกับพวกเด็ก ๆ กัน?”

ครูอวี่ตะโกนลั่นขณะยืนอยู่เบื้องหน้าเสี่ยวเถียน

ก่อนหน้านี้ครูใหญ่กู้กับหัวหน้าอู๋กำลังคุยเรื่องรายชื่อนักเรียนอยู่ในห้องเก็บเอกสาร พวกเขาเลยเพิ่งได้ยินเรื่องนี้

และก็รู้แล้วว่าเด็กกลุ่มนี้สอบได้คะแนนดี แต่โดนคนลบชื่อออกไป

ยิ่งเห็นครูจากทางโรงเรียนออกมาปกป้องเด็กพวกนี้ พวกผู้ปกครองก็ยิ่งแน่ใจว่ามันต้องมีเรื่องลับลมคมในอยู่แน่

“ไม่ได้การแล้ว พวกเราต้องการพบครูใหญ่!”

“ครูใหญ่ต้องอธิบายเรื่องนี้ให้เราฟัง!”

“พวกเราต้องการคำอธิบายที่ชัดเจน ต้องการความยุติธรรมด้วย!”

ถึงสถานการณ์จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ร้ายแรงกว่าที่เสี่ยวเถียนคิดเหมือนกัน

เธอไม่กล้าจินตนาการเลย นี่ขนาดมีแค่ผู้ปกครองของเด็กที่สอบผ่านนะ แล้วถ้าข่าวนี้แพร่ออกไป ผู้ปกครองของเด็กที่สอบไม่ผ่านจะดีใจจนเนื้อเต้นขนาดไหนกัน!

“ทุกคนไม่ต้องเครียดนะคะ ฟังที่ฉันพูดก่อน ชื่อของเด็กกลุ่มนี้ตกหล่นจริง ๆ ค่ะ!”

ครูสาวกังวลมาก ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรเพื่อให้ทุกคนสงบลงสักที!

ส่วนผู้ปกครองที่กำลังชุลมุนก็เริ่มข่วนหน้าครูแล้ว ไม่พอยังคิดจะข่วนหน้าเด็ก ๆ ด้วย

ครูอวี่พยายามปกป้องเด็กบ้านซูที่อยู่ข้างหลังอย่างเต็มที่

“มีเรื่องอะไรก็พูดกันสิครับ ข่วนหน้าข่วนตาเพื่อให้ได้อะไรขึ้นมา? พวกเขาเป็นแค่เด็ก แต่พวกคุณโตเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้ว ไม่อายบ้างหรือครับ?” ครูอวี่ตะโกนลั่นทั้งยังต้านแรงข่วนจากพวกผู้ปกครองไปด้วย

และในตอนที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ในที่สุดโจวหรุ่ยซูก็หัวเราะออกมา

เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ปกครองเยอะขนาดนี้กลับไม่สามารถทำให้เรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาได้

ถ้ายังเอาไอ้กลุ่มคนน่ารำคาญออกไปไม่ได้ เธอจะออกไปข้างยอกแล้วป่าวประกาศให้พวกที่สอบไม่ผ่านได้รู้เอง

พอถึงตอนนั้น ต่อให้พวกผีสางบอกว่าไม่อยากมาเรียนแล้วก็ตาม เผลอ ๆ อาจจะไม่มีทางให้ไปด้วยซ้ำ

เสี่ยวเถียนประทับใจมากที่ครูอวี่และพี่ชายปกป้องเธอไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเราจะนั่งรอความตายแบบนี้ไม่ได้!

สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ โจวหรุ่ยซูตั้งใจทำทั้งนั้น

คนคนนี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ก็ยังกล้ามาสร้างปัญหาตรงนี้

เสี่ยวเถียนมองไปรอบ ๆ หาช่องทางที่จะออกไป แล้วพลิกตัวขึ้นไปบนโต๊ะ

ทุกคนตกใจมากที่จู่ ๆ เด็กสาวก็ขึ้นไปข้างบน

“โจวหรุ่ยซู เธอปลุกระดมคนให้ออกมาสร้างความวุ่นวายแบบนี้ เธอมีเจตนาอะไรกันแน่?” เสี่ยวเถียนมองไปรอบ ๆ ก่อนจะเห็นอีกฝ่ายกำลังจะเดินออกไปจากประตู

เดิมทีโจวหรุ่ยซูจะออกไปข้างนอกเพื่อก่อเรื่องต่อ แต่ไม่คิดว่าเสี่ยวเถียนจะเอ่ยเรียกตรง ๆ

จะไปตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว โจวหรุ่ยซูทำได้เพียงหยุดเดินแล้วหันไปมอง

“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? สอบไม่ผ่านก็สอบไม่ผ่านสิ ทำแบบนี้ไปทำไม? คนอื่นเขาถึงได้ดูถูกไงล่ะ!” โจวหรุ่ยซูแสร้งทำเป็นสงบ

เสี่ยวเถียนยิ้มเย็น “คุณครูคะ ต้องรบกวนครูอีกสักนิด รบกวนไปตามครูใหญ่กู้มาได้ไหมคะ ให้เขาเอาผลคะแนนของเรามาแสดงต่อหน้าทุกคน จะได้ให้พวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาบางคนได้ดูหน่อยค่ะ!”

ประโยคนี้ทำเอาโจวหรุ่ยซูหน้าซีดทันที

พ่อบอกว่าคะแนนเดิมที่เธอทำได้มันแย่มากใช่ไหมนะ? แถมยังบอกอีกว่าถ้าทำลายผลคะแนนพวกนั้นก็ไม่มีหลักฐานให้พิสูจน์แล้ว

แล้วทำไมเสี่ยวเถียนถึงให้ครูใหญ่เอาผลคะแนนมาที่นี่ล่ะ?

หรือว่าคนที่พ่อหามาจะไม่ได้ทำลายข้อสอบทั้งหมด?

“ได้สิ!” ครูสาวรีบตอบแล้วตะโกนบอกผู้ปกครองที่อยู่รอบ ๆ “เดี๋ยวฉันจะไปบอกครูใหญ่ให้เอาข้อสอบของเด็ก ๆ มาที่นี่เองค่ะ ทุกคนเห็นแล้วจะได้รู้กัน!”

ความมีเหตุผลของผู้ปกครองกลับมาบ้างแล้ว ก่อนจะเริ่มสงสัยว่าจริงหรือเปล่าว่าทางโรงเรียนเจอเรื่องผลคะแนนของเด็กตกหล่นไป

“โรงเรียนมัธยมอันดับเจ็ดเป็นโรงเรียนที่ดี และมีการสอนที่เข้มงวดที่สุดนะ แค่คะแนนของเด็กจะไปพลาดได้ยังไง?”

“ไม่สิ ไม่ว่ายังไงก็เป็นไปไม่ได้นะ คะแนนออกมาแล้ว แถมแต่ละคนก็ลงทะเบียนไปแล้วด้วย แล้วทำไมถึงตกหล่นล่ะ? แล้วยังโดนหลายคนด้วย!”

“ใครจะไปรู้เล่า? ยังไงฉันก็คิดว่าไม่น่าจะพลาดได้ งั้นรอดูก่อนก็แล้วกัน ถ้าครูใหญ่เอาข้อสอบของเด็กมาให้ดู ฉันจะยอมรับเอง ไม่งั้นฉันจะทำให้เรื่องนี้มันใหญ่ขึ้นอีก”

“พวกเราควรเชิญฝ่ายกระทรวงการศึกษาให้มาเป็นพยานนะ”

“พูดถึงฝ่ายกระทรวงแล้ว ฉันจำได้นะว่าพ่อของเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เคยคุยกับพวกเราเหมือนจะเป็นคนของที่นั่นนะ ได้ยินมาว่าเป็นหัวหน้าชั้นผู้น้อยด้วย”

“จริงหรือหลอกเนี่ย?”

“เหมือนจะจริงนะ แต่เคยเจอครั้งเดียวเอง เลยจำไม่ค่อยได้”

ทุกคนแย่งกันพูดจ้อ และไม่พุ่งเข้าไปโจมตีใส่เสี่ยวเถียนแล้วด้วย

พอเห็นสถานการณ์ไม่ถูกต้อง โจวหรุ่ยซูจึงพูดอีกครั้ง

“อย่ามาพูดไร้สาระที่นี่นะ โรงเรียนมัธยมอันดับเจ็ดเป็นโรงเรียนแบบไหน ใครในเมืองหลวงจะไม่รู้ล่ะ? พวกเขามีการสอนที่เข้มงวดที่สุด ไม่มีทางทำคะแนนเด็กตกหล่นหรอกนะ อีกอย่างพวกแกก็แค่พวกขาจุ่มโคลน สอบเข้าได้นี่สิถึงจะน่าแปลกใจ!”