ตอนที่ 713 อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของพลังวิญญาณขั้นสีม่วง (3) / ตอนที่ 714 ลงมือ (1)
ตอนที่ 713 อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของพลังวิญญาณขั้นสีม่วง (3)
คลื่นพลังที่กดดันและทรงอำนาจกดทับทุกผู้คนในที่นั้น ศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวทุกคนต่างหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ ลมหายใจขาดห้วง ใบหน้าของทุกคนซีดขาว หน้าอกถูกกดทับราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นของยักษ์คว้าจับเอาไว้ พวกเขาต่างพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะหายใจ!
นั่นคือรังสีกดดันของพลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่แท้จริง!
ยกเว้นหนิงรุ่ยกับคนอีกไม่กี่คน คนที่เหลือทั้งหมดต่างเซออกจากจุดที่ยืนอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ปล่อยออกมาจากเวินซินหัน
หนิงรุ่ยไม่เคยคิดฝันว่าเวินซินหันจะใช้วิธีการข่มขู่เผด็จการเช่นนี้เพื่อพาฟ่านจิ่นหนีไป ถึงแม้เวินซินหันจะปกป้องฟ่านจิ่น แต่เขาก็สุภาพอ่อนโยนมาโดยตลอด เวินซินหันตรงหน้าเขาในวันนี้ดูเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ต้องการแม้แต่จะอธิบายอะไรให้มากความ และปลดปล่อยพลังวิญญาณขั้นสีม่วงอันน่ากลัวของเขาในทันที!
กู่อิ่งมองไปที่เวินซินหันด้วยสายตาเกรี้ยวกราด เขาหรี่ตาลงครู่หนึ่งและในที่สุดก็ก้าวถอยหลัง
“ในเมื่อผู้อาวุโสเวินยืนกรานจะช่วยฟ่านจิ่นโดยไม่สนใจความจริงที่เกิดขึ้น พวกเราก็ไม่มีใครที่สามารถห้ามท่านได้อยู่แล้ว” เมื่อพูดจบ กู่อิ่งก็โค้งเล็กน้อยและผายมือออกเป็นสัญญาณ ‘เชิญ’ ให้เวินซินหันไป
เวินซินหันมองกู่อิ่งพลางประคองฟ่านจิ่นเดินออกไป ศิษย์ทุกคนรีบเปิดทางให้ด้วยความกลัว ไม่มีสักคนที่จะกล้าเอ่ยอะไรออกมา
ทุกคนมองดูเวินซินหันจากไป และในที่สุดพวกเขาก็ถูกปลดปล่อยออกจากรังสีกดดันที่มองไม่เห็น หนิงรุ่ยที่เหงื่อออกชุ่มรีบเข้ามายืนข้างๆ กู่อิ่งและถามอย่างร้อนใจว่า “เราจะปล่อยให้เขาพาฟ่านจิ่นไปแบบนี้น่ะหรือ”
กู่อิ่งยิ้มเยาะหนิงรุ่ย พลางพูดว่า “ถ้าเจ้าคิดว่าเจ้ามีปัญญาไปหยุดผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงได้ละก็ ทำเองเลยสิ”
หนิงรุ่ยนิ่งงันไปและไม่พูดอะไรออกมาอีก เขาแค่มองกู่อิ่งด้วยสีหน้าที่ยังคงซีดเผือด
ให้ข้าไปหยุดผู้ใช้พลังขั้นสีม่วงนี่นะ จะบ้าเรอะ!
คนเดียวในที่นี้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้กับเวินซินหันได้ก็คือกู่อิ่งเพียงคนเดียวเท่านั้น เขาถึงได้สั่งให้กงเฉิงเหล่ยไปพากู่อิ่งมาที่นี่ กู่อิ่งมาถึงแล้ว แต่เขาไม่คิดว่ากู่อิ่งจะปล่อยให้เวินซินหันจากไปพร้อมกับฟ่านจิ่นอย่างง่ายดายเช่นนี้
“เวินซินหันช่วยฟ่านจิ่นไปจากเราแบบนี้ ถ้าหากฟ่านจิ่นได้สติกลับมาแล้วปากโป้งบอกคนอื่น พวกเราก็พังน่ะสิ!” หนิงรุ่ยกังวลและร้อนรนมากจริงๆ แต่เนื่องจากมีศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวอยู่แถวนั้นมากมาย เขาจึงทำได้แค่พูดเสียงกระซิบ
กู่อิ่งยิ้ม “เจ้าคิดว่าฟ่านจิ่นจะหายจากสภาพนั้นได้อย่างนั้นรึหรือ”
หนิงรุ่ยอึ้งไป
“ข้าไม่ได้ไว้ชีวิตเขาเพื่อให้เขามาสร้างความยุ่งยากให้กับข้าหรอกนะ ไม่มีใครในสามโลกเบื้องล่างมีความสามารถทำให้เขาได้สติสัมปชัญญะกลับคืนมาได้หรอก ยิ่งกว่านั้น…ต่อให้เขาได้สติขึ้นมาจริงๆ แล้วอย่างไรเล่า ต่อให้เขาบอกความจริงให้ทุกคนฟัง จะมีใครเชื่อเขาอย่างนั้นรึ” กู่อิ่งย้อนถาม
หลังจากได้ฟังคำพูดของกู่อิ่ง หนิงรุ่ยก็สงบลง
จริงด้วย! ฟ่านจิ่นถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกรที่ฆ่าฟ่านฉี ต่อให้เขาก้าวออกมาพูดด้วยตัวเอง ผู้คนก็จะคิดว่าเขาโกหกเพื่อปกป้องตัวเองเท่านั้น และจะไม่มีใครเชื่อสิ่งที่เขาพูดเลยแม้แต่คำเดียว
“เราไม่จำเป็นต้องกลัวฟ่านจิ่นหรอก แต่ฟ่านจัวนี่สิ เมื่อไหร่เจ้าจะไปหาตัวเขาพบสักที” กู่อิ่งถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ตราบเท่าที่ฟ่านจัวยังมีชีวิตอยู่ ตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาเฟิงหัวของหนิงรุ่ยก็จะไม่มั่นคง และเขาก็จะไม่สามารถสั่งเคลื่อนกำลังลูกศิษย์ทั้งหมดในสำนักศึกษาไปที่ผาสุดขอบฟ้าได้ นั่นเป็นสิ่งที่กู่อิ่งไม่อยากให้เกิดขึ้น
“ข้าเพิ่มคนไปสืบหาแล้ว แต่นอกจากฟ่านฉีกับฟ่านจิ่น ก็ไม่มีใครรู้ว่าฟ่านจัวไปไหน…แต่…จวินเสียอาจจะรู้! ก่อนหน้านี้จวินเสียออกไปจากสำนักศึกษาเฟิงหัวกับฟ่านจัว แล้วครั้งนี้พวกเขาก็ออกไปกันทีละคน บางทีเขาอาจจะรู้เรื่องนี้ดีก็ได้!” หนิงรุ่ยร้องอุทานขึ้นมาอย่างตื่นเต้นเมื่อนึกได้ว่าจวินอู๋เสียกับฟ่านจัวเคยออกไปจากสำนักศึกษาเฟิงหัวด้วยกันในครั้งแรก
ตอนที่ 714 ลงมือ (1)
หลังจากได้ยินที่หนิงรุ่ยพูด กู่อิ่งก็หันไปมองหาจวินอู๋เสียในกลุ่มคน แต่เขาก็ต้องยืนอึ้งหลังจากศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวทั้งหมดสลายตัวไปแล้ว เขาก็ยังไม่เห็นจวินอู๋เสียอยู่ตรงไหนเลย!
กู่อิ่งตกใจมาก ร่างเขากลายเป็นแสงวูบวาบไปทั่วทุกมุมในพื้นที่ของสำนักศึกษาเฟิงหัวด้วยความเร็วสูงสุดของเขา แต่ก็ยังค้นไม่พบร่องรอยของจวินอู๋เสีย!
เป็นไปได้อย่างไร!
ลางสังหรณ์ร้ายคืบคลานเข้ามาในใจของกู่อิ่ง เขาไปที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณในทันที แต่เมื่อไปถึง เขาก็พบว่าทั้งฝ่ายว่างเปล่าไม่เหลือใครเลย
กู้หลีเซิงกับศิษย์ทุกคนหายตัวไปโดยไม่เหลือร่องรอย พื้นที่ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณตอนนี้ดูเหมือนเมืองร้าง
กู่อิ่งแทบคลั่ง เขาคิดย้อนกลับไปถึงการกระทำของจวินอู๋เสียทั้งหมดในช่วงสองวันที่ผ่านมาและไม่พบสิ่งใดผิดปกติ แต่ท่ามกลางพฤติกรรมธรรมดาทั่วไปของจวินอู๋เสีย มีเพียงสองครั้งเท่านั้นที่น่าสงสัย นั่นก็คือการพบกันตามลำพังของจวินอู๋เสียกับกู้หลีเซิง…
จวินอู๋เสียพบกับกู้หลีเซิงสองครั้งในสองวัน รวมกันแล้วพวกเขาพบกันก็ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ เวลาที่เหลือกู่อิ่งจับตาดูจวินอู๋เสียตลอด และไม่คิดว่าจะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น
แต่วันนี้เวินซินหันทำตัวแปลกไปจากเดิม และกู่อิ่งก็ไม่ได้สังเกตมาก่อน แต่ตอนนี้เขาเริ่มจะกระจ่างเมื่อปะติดปะต่อการกระทำทั้งหมดของจวินอู๋เสียหลังจากที่กลับมาเข้าด้วยกัน
พฤติกรรมที่ผิดปกติของเวินซินหัน เกิดขึ้นหลังจากจวินอู๋เสียกลับมา!
แล้วความคิดที่น่าหวาดกลัวก็ผุดขึ้นในใจของกู่อิ่ง
การหายตัวไปของอาจิ้ง พฤติกรรมผิดปกติของเวินซินหัน และการจากไปอย่างกะทันหันของทุกคนในสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ…เรื่องทั้งหมดนี้ต้องเกี่ยวข้องกับจวินอู๋เสียเป็นแน่!
“จวินเสีย! ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไปจริงๆ!” ใบหน้าของกู่อิ่งบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยวพยาบาท กรามของเขาขบกันแน่น ขณะที่จ้องมองไปยังตึกสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณที่กว้างขวางและว่างเปล่า
เขาไม่เคยนึกฝันว่าการประเมินจวินอู๋เสียพลาดไปเพียงนิดเดียวจะนำพาหายนะมาให้ได้มากถึงเพียงนี้!
กู่อิ่งกลับมาที่ห้องหนังสือของหนิงรุ่ยและเตะประตูเปิดออกด้วยความโกรธ เขาคว้าคอเสื้อของหนิงรุ่ยที่กำลังสับสนและตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงคุกคามว่า “เรียกรวมตัวศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวทุกคนเดี๋ยวนี้ แล้วพาพวกมันไปที่ผาสุดขอบฟ้า!”
หนิงรุ่ยที่ถูกกู่อิ่งจ้องมองด้วยดวงตาดุร้ายแดงก่ำรู้สึกหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ
“เกิด…เกิดอะไรขึ้น…”
“เราโดนจวินเสียเล่นงานเข้าให้แล้วน่ะสิ ที่เวินซินหันช่วยฟ่านจิ่นหนีไป ต้องเกี่ยวข้องกับเขาด้วยแน่ๆ” กู่อิ่งพูดพร้อมกับหรี่ตา เขาโกรธจนควันออกหู
“เป็นไปได้อย่างไร…จวินเสียไม่รู้จักเวินซินหัน…ยิ่งกว่านั้นท่านก็อยู่กับจวินเสียตลอดเวลาไม่ใช่หรือ แล้วเขาจะมีโอกาสติดต่อกับเวินซินหันได้อย่างไร” หนิงรุ่ยกลืนน้ำลายเมื่อกู่อิ่งหันมามองเขาด้วยสายตาดุร้าย
“เขาอาจจะไม่มีโอกาสติดต่อกับเวินซินหัน แต่กู้หลีเซิงมี!” กู่อิ่งคิดย้อนกลับไปถึงตอนที่จวินอู๋เสียพบกับกู้หลีเซิงแล้ว จวินอู๋เสียก็พาเขาออกจากสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณโดยใช้ข้ออ้างที่จะสอนทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณให้เขาเป็นการล่อให้เขาออกห่าง เพื่อป้องกันไม่ให้เขารู้การเคลื่อนไหวของกู้หลีเซิง
จวินอู๋เสียวางแผนการได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ช่องโหว่ ไม่มีใครรู้ถึงแผนการของนางเลยสักคน ก่อนที่เรื่องทั้งหมดจะเผยออกมาต่อหน้าศัตรู ไม่มีใครเดาได้ว่านางกำลังวางแผนอะไรอยู่
กู่อิ่งพ่ายแพ้ในครั้งนี้ เขาชะล่าใจและมั่นใจในตัวเองมากเกินไป
การหายตัวไปของจวินอู๋เสียกับกู้หลีเซิงได้ทำลายแผนการของกู่อิ่งในการมาที่สำนักศึกษาเฟิงหัว ตอนนี้กู่อิ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบังคับให้ศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวไปสำรวจที่ผาสุดขอบฟ้าให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุร้ายเกิดขึ้นอีก!
“เวินซินหันจากไปแล้ว ตอนนี้เจ้าคือผู้มีอำนาจตัดสินใจในสำนักศึกษาเฟิงหัวนี้ ภายในสามวัน ข้าต้องการให้ศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวทุกคนออกเดินทางจากที่นี่ทันที!” กู่อิ่งเต็มไปด้วยความโกรธที่เกิดขึ้นเพราะหายนะจากความพลั้งเผลอของเขาเอง