บทที่ 400 ยาพิษไทเฮาทรงเป็นคนมอบให้

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 400 ยาพิษไทเฮาทรงเป็นคนมอบให้

“เหอะ ผู้ที่พยายามจะวางยาฆ่าท่านแม่ของข้าอยู่หลายครั้งหลายหน ทั้งยังแอบลักลอบทำลายชื่อเสียงของนางอีก

หลังจากที่ท่านแม่ของข้าสูญเสียความโปรดปรานไป เจ้าก็แสร้งทำเป็นตีสนิทกับท่านแม่ พอนางได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าก็ทำการขโมยพิณกู่ฉินจื่อหลิงแล้ววางยาพิษให้กับนางอีก ให้นางค่อยๆตายไปอย่างทุรนทุราย หากท่านแม่ที่อยู่ในปรโลกได้เห็นเหตุการณ์ในตอนนี้ คงจะปรบมือชื่นชม”

หลานเยาเยาหัวเราะเยาะกับท่าทางที่น่าสมเพชของจ้าวซื่อ

ทำเหมือนนางเป็นคนโง่เขลา คิดว่านางไม่รู้เรื่องอะไรเลยงั้นหรือ?

ทันใดนั้น จ้าวซื่อก็ถึงกับตัวอ่อนลงไปกับพื้น

ที่แท้หลานเยาเยารู้ทุกสิ่ง ต่อให้นางจะแสร้งทำตัวน่าสงสารก็ไร้ประโยชน์

ก่อนที่จะแสดงธาตุแท้ออกมา แล้วกัดฟันพูด

“หลานเยาเยา เจ้ารู้แล้วจะทำสิ่งใดได้?มารดาของเจ้าก็ได้ตายไปแล้ว ไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้อีกแล้ว ถึงอย่างนั้นมีอีกเรื่องหนึ่งที่เจ้าคงยังไม่รู้สินะ?”

“เรื่องอะไร?”หลานเยาเยาบิดเคี้ยวเล็กน้อย

ดูจากสีหน้าของจ้าวซื่อแล้ว เรื่องที่นางจะพูดต้องไม่ใช่เรื่องดีอะไรเป็นแน่

“ก็คือแม่แพศยาที่สมควรตายคนนั้นของเข้า เดิมทีก็เป็นเพียงอนุภรรยาต่ำต้อยที่มีวิชาการรักษาเท่านั้น คิดว่าตัวเองมีตำแหน่งสูงส่งเพียงเพราะรักษาอาการป่วยของไทเฮา แล้วริอาจจะให้เจ้ามั่นหมายกับองค์รัชทายาท น่าเสียดาย นางกลับถึงที่ตายอย่างไม่รู้ตัว ที่ไทเฮาทรงทำเช่นนี้ ก็เพียงเพื่อที่จะได้ครอบครองพิณกู่ฉุนจื่อหลิงเท่านั้น แม้แต่ยาพิษที่ใช้ในการฆ่าแม่ของเจ้า ก็เป็นยาพิษที่ไทเฮาเป็นผู้มอบให้ เจ้าอยากจะแก้แค้นก็ไปหาไทเฮาสิ จะมาหาข้าด้วยเหตุ?ข้าเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในกำมือของไทเฮาเท่านั้น”

หากไม่ได้คำชี้แนะจากไทเฮา ต่อให้ฉูโหลจะได้รับบาดเจ็บสาหัส นางก็ยากที่จะหาโอกาสลงมือได้

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนการที่ไทเฮาทรงวางไว้ นางถึงได้ทำสำเร็จ

ตอนนี้จวนแม่ทัพล่มลง นางกลายเป็นคนไร้ค่าของไทเฮา ไทเฮาจึงได้สั่งมือสังหารมาตามฆ่านาง ทำลายนางคนนี้ที่รู้เรื่องทุกอย่าง

พอดี!

เช่นนั้นก็ให้พวกนางไปกัดกันเสียเอง

“ท่านคิดว่าข้าไม่รู้งั้นหรือ?”

เหตุผลที่นางอยู่กับจ้าวซื่อตรงนี้นานถึงเพียงนี้ ไม่ใช่เพื่อที่จะสังหารนางโดยทันที แต่เพราะอยากรู้ว่ายาพิษที่ใช้ฆ่าท่านแม่ ยาพิษชนิดนั้นมาจากหนใด?

ในเมื่อตอนนี้จ้าวซื่อได้พูดออกมาแล้ว ก็ไม่มีประโยชนอะไรที่จะให้นางมีชีวิตต่อไป

แล้วในตอนนั้นเอง

ดวงตาของจ้าวซื่อประกายขึ้นมา เมื่อนางได้เห็นร่างของใครบางคนที่กำลังเดินขึ้นมายังศาลา นางดีใจอย่างมาก ร้องตะโกนออกไปเสียงดัง

“ท่านพี่ รีบช่วยข้าเร็ว มีมือสังหารจะฆ่าข้า”

จ้าวซื่อแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

ท่าพี่ของนางเป็นลูกน้องผู้ทรงเกียรติของท่านอัครมหาเสนาบดีมีตำแหน่งเป็นตงเฉาหยวน เป็นตัวแทนท่านอัครเสนาบดีไปว่าการตรวจเขตมณฑลต่างๆ มีอำนาจในมือไม่น้อย ดูเหมือนว่าในบริเวณนี้เขาจะมีกองกำลังอันแข็งแกร่งอยู่ที่นี่ด้วย

หลังจากที่จวนแม่ทัพล่มจม นางก็หนีไปพึ่งบารมีของท่านพี่ ทุกวันนี้เพราะมีท่านพี่ของนางคอยปกป้อง นางถึงได้หลบพ้นการตามล่าฆ่าจากมือสังหารของไทเฮาได้

วันนี้ท่านพี่จะพานางไปยังสถานที่ลึกลับแห่งนี้ ให้นางใช้ชีวิตต่อไปที่นั่นอย่างไร้ยศนาม

ซึ่งศาลาชีลีก็คือที่นัดหมายของทั้งสอง

แต่ไม่คาดว่าระหว่างทางเทพธิดาจะปรากฏตัว……

เดิมทีนางคิดว่าจะสามารถฆ่าหลานเยาเยาได้อย่างง่ายดาย กลับลืมไปว่าหลานเยาเยานั้นมีวรยุทธ์ที่แกร่งกล้า นางจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลานเยาเยา ดังนั้นนางจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ รอให้ท่านพี่มาช่วยนาง

โชคดีที่ถ่วงเวลาจนได้……

นางบอกกับท่านพี่เพียงว่ามีมือสังหารจะฆ่านาง

แต่ไม่ได้บอกว่ามือสังหารนั้นคือเทพธิดา

เพราะนางเกรงว่า เทพธิดาที่ฮ่องเต้ให้ความเคารพ ท่านพี่ที่เป็นเพียงนายอำเภอตงเฉา ไม่มีทางทำร้ายเทพธิดาเพื่อนางเป็นแน่

หากนางบอกว่าเป็นมือสังหาร ท่านพี่จะต้องเข้าใจว่าเป็นมือสังหารของผู้อื่นที่มาฆ่านางแน่นอน ท่านพี่มีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่ง แล้วยังพาผู้ช่วยมาด้วยหลายคน อีกทั้งทุกวันนี้นางยังได้แสดงทักษะการเปลื้องผ้าให้กับเขา มีหรือที่ท่านพี่จะยอมให้นางตายได้?

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือของจ้าวซื่อ นายอำเภอตงเฉาที่กำลังเดินอยู่ระหว่างทาง ก็เร่งความเร็วเหาะเหินขึ้นมา พร้อมคำรามเสียงดัง

“ไปตายเสีย”

เมื่อเห็นว่ามีคนมา สีหน้าของหลานเยาเยาก็มุ่ยเล็กน้อย ก่อนที่สีหน้าจะเย็นชาลง

นายอำเภอตงเฉามาที่นี่ได้อย่างไร?

สายรายงานว่าวันนี้เขาจะอยู่ในเมืองหลวงหรอกหรือ อีกทั้งเพื่อความแน่ใจ นางยังได้ส่งคนไปขัดขวางเขาไว้แล้วด้วย คิดไม่ถึงว่าท้ายที่สุดเขายังมาปรากฏตัวจนได้

นายอำเภอตงเฉาเป็นคนสนิทของถังเฉิงเสี้ยง ส่วนถังเฉิงเสี้ยงก็เป็นคนสนิทของฮ่องเต้อีกด้วย กองกำลังที่ฮ่องเต้แอบซุ่ฝีกฝนนั้นก็ล้วนผ่านคำชี้นำของถังเฉิงเสี้ยงทั้งนั้น

กองกำลังในหมู่บ้านแห่งนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ฮ่องเต้ฝึกฝนเท่านั้น แต่พวกเขาก็เป็นกองกำลังที่ยอดเยี่ยมที่สุด หากที่นี่ถูกกวาดล้างไป ฮ่องเต้จะต้องพิโรธมากแน่ๆ

ซึ่งนายอำเภอตงเฉาก็เป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องหมู่บ้านแห่งนี้

เขาเป็นคนอำมหิตเจ้าเล่ห์ สามารถฆ่าคนได้นับพันโดยไม่อาจปล่อยผ่านแม้แต่คนเดียว

ดังนั้นตอนนี้ การปรากฏตัวของเขา สำหรับหลานเยาเยานั้นนับเป็นความยุ่งยากหนึ่งเลยทีเดียว

ทว่า!

ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไร

นายอำเภอตงเฉาเหาะเข้ามาในศาลา เหลือบมองไปยังจ้าวซื่อด้วยท่าทีร้อนรน เมื่อเห็นท่าทางที่น่าสงสาร ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นนี้ ก็ได้แต่เอ็นดู

“เจ้ารีบปล่อยนางเดี๋ยวนี้”

น้ำเสียงคำสั่ง และท่าทางเหยียดหยาม ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นรู้สึกอึดอัด

“ไม่ปล่อยแล้วจะเป็นอันใด?”

ก่อนที่นายอำเภอตงเฉาจะเข้ามาในศาลา หลานเยาเยาได้ใช้เข็มเงินราวยาวฝังไปที่คอของจ้าวซื่อเอาไว้แล้ว ทำให้นางไม่สามารถขยับตัวและไม่อาจพูดจาได้

“เจ้าเด็กอ่อนหัด ยังไม่ทันได้สิ้นกลิ่นน้ำนม ริอาจกล้าหาญมาทำเรื่องสังหารผู้อื่นเช่นนี้ ช่างเป็นเด็กที่มีผู้ให้กำเนิดแต่ไร้คนเลี้ยงดูสั่งสอนจริงๆ นับว่าเจ้ายังอายุน้อยนัก ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป หรือไม่ยอมปล่อยให้จับกุมเสีย ?”

ตอนแรกนายอำเภอตงเฉาคิดว่าจะเป็นมือสังหารที่มีความสามารถ พอเข้ามาได้เห็นว่าเป็นชายหนุ่มที่อายุยังไม่ครบยี่สิบปี ความระมัดระวังตัวของเขาก็ลดลงไปไม่น้อย

พอดูรูปร่างที่อัปลักษณ์ ตัวเตี้ย แล้วยังสวมชุดสีแดงเอาไว้ แววตาจึงเต็มไปด้วยความดูถูก

อัปลักษณ์!

อัปลักษณ์เกินไปแล้ว

ตอนนี้ผู้คนในเมืองหลวงบ้ากันไปหมดแล้วหรือ?

แต่ละคนๆเอาแต่งกายตัวเลียนแบบเทพธิดา ช่างเป็นกลุ่มคนที่บ้าบอไร้สมองเสียจริง

ส่วนมากแล้วนายอำเภอตงเฉามักจะอยู่ในหมู่บ้านฝึกฝนเหล่าทหาร ถึงแม้จะไม่เคยได้พบเห็นเทพธิดาผู้เลื่องลือแห่งเมืองหลวง แต่เขาเคยได้ยินว่าตั้งแต่ที่เทพธิดาเข้ามายังเมืองหลวง ก็มีคนส่วนหนึ่งที่แต่งกายตามแบบของเทพธิดา สิ่งนี้ทำให้รู้สึกเหยียดหยามเป็นอย่างมาก

วันนี้ได้เห็นบุรุษแต่งกายตามแบบเทพธิดา แล้วยังแต่งกายได้อัปลักษณ์ถึงเพียงนี้ ดวงตาของเขาก็ยิ่งเพิ่มความดูถูกมากยิ่งขึ้น

เอ่อ?

อัปลักษณ์?

นี่จะต้องเป็นเหมือนจ้าวซื่อที่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากหรือถึงจะดูน่าเอ็นดู?

ตาของคนผู้นี้มีปัญหาอันใดหรือเปล่า?

“เจ้าก็คือนายอำเภอตงเฉา?”

“เจ้ารู้จักข้า?”

นายอำเภอตงเฉาหรี่ตาลงทันที รีบระวังตัวขึ้นมาทันที มือที่กำมีดใหญ่ก็แน่นขึ้น

ถึงแม้เขาจะเป็นขุนนาง แต่ก็ไม่ค่อยจะได้ออกหน้าพบปะผู้คน คนที่รู้จักเขานั้นก็มีน้อย

ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่พบเห็นมาก่อน ทั้งยังเป็นมือสังหาร ตอนนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่ามือสังหารที่อยู่ตรงหน้านี้รู้จักเขาได้อย่างไร เขาก็จะต้องฆ่าเขาเท่านั้น

“แน่นอน คนสนิทของถังเฉิงเสี้ยง เชี่ยวชาญในการฝึกฝนกองกำลังลับ และชอบทำเรื่องไม่ดีคอยปิดบังผู้อื่น ที่ข้าพูดไม่ผิดใช่หรือไม่ นายอำเภอตงเฉา?”

หลานเยาเยาพดด้วยเสียงที่ไม่อบอุ่นแต่ก็ไม่เย็นชา

ดวงตาของนายอำเภอตงเฉาค่อยๆเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยม อดไม่ได้ที่จะเกิดอาการหน้าสั่นอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับว่าอีกเพียงครู่เดียวเขาจะกระโจนเข้ามาปาดคอของหลานเยาเยาเสียอย่างนั้น

“เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”