บทที่ 401 การตายของจ้าวซื่อ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 401 การตายของจ้าวซื่อ

น้ำเสียงเย็นชาเปล่งออกมาจากปากเขาทีละประโยคๆ

“เจ้ารออีกนิดก็จะรู้แล้ว”

หลานเยาเยาพอใจมากที่เห็นท่าทางอยากฆ่าคนของเขาตอนนี้ ริมฝีปากสีแดงเลือดยกรอยยิ้มประหลาดใจขึ้นเล็กน้อย

โบกมือเบาๆ และเส้นด้ายสีเงินที่พันรอบคือจ้าวซื่ออยู่นั้นก็ถูกถอนออกไป

ทันทีที่ได้อิสระ จ้าวซื่อก็รีบวิ่งไปยังที่มือของนายอำเภอตงเฉาอย่างหวาดกลัว พร้อมพูดเสียงสั่นว่า:

“ท่านพี่ ข้ากลัวมากเลย ท่านรีบฆ่าเขาเพื่อแก้แค้นแทนข้าเร็ว”

“ได้ ข้าจะฆ่าเขา น้องวางใจได้ แต่ก่อนหน้านั้น······”นายอำเภอตงเฉามองจ้าวซื่อแว็บนึง และมีดเล่มใหญ่ในมือก็แทงเข้าไปกลางท้องของจ้าวซื่ออย่างไร้ปรานี “คนที่รู้ความลับข้านั้นล้วนแต่ต้องตาย”

ถ้าหากนักฆ่าที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ไม่พูดออกมาว่าเขาแอบสร้างอำนาจแทนฮ่องเต้ บางทีจ้าวซื่ออาจยังมีชีวิตอยู่

แต่ว่า……

คนนั้นได้พูดออกมาแล้ว จ้าวซื่อก็ต้องตาย

“ทะ……ท่านพี่……”

จากนั้นนายอำเภอตงเฉาก็ค่อยๆดึงมีดใหญ่ออก จ้าวซื่อก็ค่อยๆล้มลงไปที่พื้น นายอำเภอตงเฉากดสายตาลงไปมองการตายจ้าวซื่อโดยไม่กะพริบตา

“แปะแปะแปะ……”หลานเยาเยาปรบมือยกใหญ่

“ไม่เลว ไม่มีการไว้หน้าใครทั้งนั้น ช่างเป็นคนที่ได้รับเลือกเหมาะสมที่สุด”

ฮ่องเต้และเฉิงเสี้ยงคนที่ได้รับมอบหมายให้ไปทำภารกิจนั้นช่างจิตใจโหดร้าย เกรงว่าจ้าวซื่อเองก็คงไม่เคยคิด ว่าตนเองจะต้องมาตายในน้ำมือของลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง

นางตั้งใจพูดความลับของนายอำเภอตงเฉาออกมา จากนั้นก็ตั้งใจปล่อยจ้าวซื่อ เพราะนางรู้ว่ายังไงจ้าวซื่อก็ต้องตายด้วยน้ำมือของนายอำเภอตงเฉา

แต่สิ่งที่ทำให้นางแปลกใจก็คือ นายอำเภอตงเฉานั้นลงมืออย่างไร้ปรานี

แม้แต่คำสั่งเสียก็ไม่ปล่อยให้จ้าวซื่อได้พูด นั่นเป็นผู้หญิงที่นอนร่วมเรียงเคียงหมอนกับเขามาไม่กี่วันนี้เองนะ!

คิดไม่ถึงว่าจะไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย นี่มันเป็นการฆ่าได้อย่างเลือดเย็น

ใครจะรู้……

สายตาที่ปกคลุมไปด้วยความร้ายกาจของนายอำเภอตงเฉามองไปยังนางทันที: “นางตายไปแล้ว ที่นี้ก็ตาเจ้าแล้ว”

เขายกมีดใหญ่ที่ยังมีเลือดหยดอยู่ขึ้นมาทางหลานเยาเยา จากนั้นก็พุ่งไปยังนางพร้อมตะโกนเสียงดัง

หลานเยาเยาแฉลบตัวหลบมีดที่ฟันมาของนายอำเภอตงเฉาด้วยความรวดเร็ว ร่างกายที่เบาหวิวพันรอบเสาต้นหนึ่งของศาลา จากนั้นก็บินมายังอีกฝั่งหนึ่งของศาลา

ความเร็วนั้นเร็วมากจนนายอำเภอตงเฉายังตื่นตะลึง

แต่นายอำเภอตงเฉาในตอนนี้โกรธจัด ในใจของเขามีเพียงความคิดเดียวก็คือ ฆ่านักฆ่าผู้นั้นที่รู้ความลับเขา

น่าเสียดาย……

ภายใต้การโจมตีของเขานั้น หลานเยาเยาก็ยังคงไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย รอจนกระทั่งเขาโบกมีดใหญ่จนเหนื่อย ลมหายใจของหลานเยาเยาก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลย

เมื่อรู้ว่าเจอกับคนที่รับมือได้ยาก ทั้งยังมีศิลปะการต่อสู้ที่เหนือกว่าตนเอง เขาจึงไม่สามารถใช้ความรุนแรงปะทะความรุนแรงได้

ดังนั้น!

แววตาดูถูกในสายตาของนายอำเภอตงเฉาก็เก็บหายไป

เขาเอาสายตามองไปยังเหล่าลูกน้องที่ยืนอยู่ตรงระเบียง พร้อมส่งสายตาให้พวกเขา ลูกน้องกลุ่มนั้นก็เป็นอันรู้กัน รีบพุ่งไปยังศาลา ล้อมหลานเยาเยาเอาไว้

ศาลาชีลีไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่เล็ก สามารถอัดคนได้ประมาณสิบ ยี่สิบคน

และจุดที่สำคัญที่สุดก็คือ ศาลานั้นสร้างอยู่ที่ไหล่เขา มันถูกสร้างขึ้นโดยโผล่ขึ้นมาบนหิน

ด้านใต้ศาลาเป็นหน้าผาสูงชัน เพียงแค่ตกลงไป ถึงไม่ตายก็พิการ

ในชั่วพริบตาศาลาก็มีคนเข้ามามากมาย

หลานเยาเยาถูหน้าผากอย่างปวดหัว

“อยากตาย งั้นก็จะช่วยทำให้พวกเจ้าได้สมหวัง”

พูดจบ หลานเยาเยาก็โบกแขนเสื้อแดง ทันใดนั้นก็มีด้ายเงินยาวๆบางๆ พุ่งมาพันรอบสองคนที่สวมเครื่องแบบทหารเอาไว้

จากนั้นก็ออกแรงดึง โยนพวกเขาออกนอกศาลาไป

ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องสองเสียง จากนั้นนางก็เหมือนได้ยินเสียงของสองคนนั้น ที่เป็นเหมือนก้อนหินกำลังกลิ้งลงจากไหล่เขาลงไป

ส่วนคนอื่นๆเมื่อเห็นสถานการณ์นี้ นัยน์ตาก็ประกายความกลัวออกมา

จะกลับก็กลัว แต่นายอำเภอตงเฉาก็สั่งการลงมาแล้ว พวกเขาก็จำต้องกัดฟันทำ ยังดีที่พวกเขากำลังคนเยอะมาก จะจัดการใครสักคน ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องง่ายมากเหรอ?

ดังนั้น!

พวกเขาจึงพุ่งเข้าไปพร้อมกัน แม้จะฆ่านางไม่ตาย แต่ก็ต้องบังคับให้นางลงศาลาไป

ด้านหลานเยาเยาที่ไม่อยากไปเสียเวลากับพวกเขาเยอะนัก จึงใช้กำลังภายในอย่างไร้ปรานี

ฆ่าและฆ่า

โยนลงจากหน้าผาสูง

จนกระทั่งหลังจากสองคนสุดท้ายถูกนางฆ่าตาย นางก็พบว่านายอำเภอตงเฉาหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

หลานเยาเยารีบย้ายสายตาไปยังบนระเบียงทางเดินที่อยู่ไกลออกไป และก็มีรอยยิ้มเลือดเย็นปรากฏขึ้นที่มุมปากนาง ขณะมองร่างที่บินหนีไปอย่างรวดเร็ว

คิดหนีเหรอ?

ไม่มีทางเสียหรอก!

ดังนั้น หลานเยาเยาแตะปลายนิ้วเท้าเบาๆ ออกจากศาลาชีลีที่กลายเป็นภาพหลังของการต่อสู้อย่างดุเดือด และมุ่งหน้าไล่ตามไปยังทิศทางที่นายอำเภอตงเฉาหนี

บนเส้นทางลงเขาขนาดใหญ่นั้นอ้างว้าง ไม่มีผู้คนสัญจรแม้แต่คนเดียว

มีเพียงชายกลางคนไว้หนวดเครา สวมชุดทหาร ร่างกายอ้วนเทอะทะ เขาทั้งบินทั้งวิ่ง เหมือนกับทหารที่รีบเร่งไปส่งข่าว มุ่งหน้าไปยังประตูตะวันออกของเมืองหลวง

หน้าอกขึ้นลงไม่มั่นคง……

เสียงหายใจหนักๆ……

พร้อมกับยังมีเสียง “ตึ้งๆๆ”สองเท้าย่ำไปไม่หยุด……

ไม่รู้ว่าวิ่งไปนานเท่าไหร่ ร่างของชายวัยกลางคนก็มีเหงื่อท่วมตัว และประตูตะวันออกของเมืองหลวงก็ค่อยๆปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา

แม้จะยังอยู่ห่างออกไปไกลมากๆ แต่ก็นับว่าเห็นความหวังแล้ว

แต่เขาเหนื่อยเกินไป จนแทบจะวิ่งไม่ออก

จึงทำได้เพียงมองสำรวจรอบๆอย่างระมัดระวัง หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีอันตราย ถึงจะหาที่อำพรางเพื่อพักผ่อน

“พู่ว……พู่ว……”

เสียงหอบหายใจเฮือกใหญ่ ถี่เร็วออกมาจากจมูกชายวัยกลางคน สูดเข้าไป แล้วก็พ่นออกมา

เขาคือนายอำเภอตงเฉาที่เพิ่งวิ่งหนีออกมาจากศาลาชีลี

บนหน้าผากเขามีเหงื่อเม็ดใหญ่ แต่เขาก็ไม่กล้าหยุดนานนัก หลังจากที่เขาผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ก็คิดจะยืนขึ้น เพื่อมุ่งไปยังปากประตูเมือง

ใครจะรู้……

มีเสียงดัง “แซ่บ”

ดูเหมือนเป็นเสียงของใบไม้แห้งถูกเหยียบ

“ใคร……ใครอยู่ตรงนั้น?”

นายอำเภอตงเฉาเบิกตากว้าง มองไปรอบๆอย่างรวดเร็ว มองหนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง……

ไม่รู้ว่ามองไปกี่รอบ ร่างกายหมุนไปรอบๆสองสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้เห็นร่างสีแดงนั่น

เขาค่อยๆตื่นตระหนก

เป็นนาง!

นักฆ่าคนนั้น

นักฆ่าคนนั้นต้องมาแล้วแน่ๆ

ไม่ได้ เขาไม่สามารถมานั่งรอความตายที่นี่ได้

แต่ในตอนนี้คิดจะอยากวิ่งไปยังประตูเมืองหลวงก็ไม่ทันเสียแล้ว เขาจะต้องคิดหาวิธีให้ตนเองรอดชีวิต

“แซ่บ……”

เสียงดังชัดขึ้นอีกครั้ง

นายอำเภอตงเฉารีบหันไปมองทางต้นเสียง สายตาหวาดกลัวมองจ้องไปยังทิศทางนั้น คอที่แห้งฝืดกลืนน้ำลายไม่หยุด

สองมือกำมีดใหญ่ไว้แน่น สุดท้ายก็ตะโกนเสียงดังออกมาว่า:

“เจ้าออกมาสิ! ข้ารู้นะว่าเป็นเจ้า”

ทันทีที่สิ้นเสียง

ก็มีร่างสีแดงลอยออกมาจากกลางป่าทันที และลงมาอยู่ตรงหน้าเขาห่างออกไปเพียงแค่ห้าก้าว

“เจ้าเป็นใครกันแน่?”

“จะรีบร้อนไปทำไม? ก่อนเจ้าตายจะต้องบอกให้เจ้ารู้อยู่แล้ว”

ความดุดันออกมาจากริมฝีปากแดงของหลานเยาเยา เดินเข้ามาใกล้นายอำเภอตงเฉาทีละก้าว ละก้าว มีรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก

จากแรงกดดันของนาง นายอำเภอตงเฉาก็ถอยไปทีละก้าว ละก้าว

มีเสียงดัก “ติ๊ก”

หยดเหงื่อตกลงมาจากคางของนายอำเภอตงเฉาลงสู่พื้น ยังไม่ซึมลงดิน นายอำเภอตงเฉาก็กลืนน้ำลายอีกหลายครั้ง

ราวกับเหมือนมีความกล้าหาญขึ้นมาในใจอย่างมาก ในมือก็บีบมีดใหญ่ไว้แน่น และตะโกนออกมา พุ่งไปฟันหลานเยาเยา