บทที่ 501 น้ำวิญญาณ

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 501 น้ำวิญญาณ

บทที่ 501 น้ำวิญญาณ

ฉู่เหินเอาน้ำออกมาจากหม้อเซียนหยดหนึ่งเพื่อลองดูก่อน ซึ่งหลังจากมันออกมาแล้ว เขาก็สัมผัสได้ถึงกระแสพลังจิตที่เปล่งออกมา พอเห็นฉากนี้เข้าไปในใจก็คิดว่ามันต้องได้ผล ! ว่าแล้วเขาก็รีบหลอมรวมเข้ากับพลังจิตของตัวเองในทันที

อย่างไรก็ตามทันทีที่พลังของเขาถูกถ่ายเทเข้าไป พลังจิตที่พรั่งพรูเมื่อครู่ก็ไม่ได้มีการยืดขยายอีก ทว่ามันกลับหดตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งเข้าใส่จิตวิญญาณของฉู่เหิน !

พอเจอแบบนี้เข้าไปฉู่เหินก็ตกตะลึง ชายหนุ่มรีบเก็บพลังจิตของตนกลับมา ทว่ามันก็ไม่ทันเสียแล้ว ! พลังจิตที่อยู่ภายในหยดน้ำก็คล้ายจะหลอมรวมเข้ากับพลังจิตของเขา ! เมื่อทั้งสองรวมกันฉู่เหินก็รู้สึกราวกับหัวของตัวเองกำลังจะระเบิดขึ้นมา !

มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บจนยากจะทน เขาทรุดตัวกับพื้นและกุมศีรษะเอาไว้แน่น ด้วยหวังว่าวิธีนี้จะพอบรรเทาความเจ็บปวดไปได้บ้าง ! ทว่ามันกลับไม่ได้ช่วยเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มได้แต่ทรุดลงอย่างเจ็บปวดอย่างไม่อาจต่อต้าน !

ความเจ็บปวดที่พลังจิตของเขาได้รับก็คือความเจ็บปวดของจิตวิญญาณ มันเป็นความเจ็บปวดที่มากกว่าความรู้สึกเจ็บจากเนื้อหนังตั้งไม่รู้กี่เท่า คนธรรมดาแค่เจ็บเข้ากระดูกก็ไม่ไหวแล้ว แต่เขากลับเจ็บไปถึงจิตวิญญาณ ! ความเจ็บปวดที่กำลังทะลักทลายเข้ามาทำให้ฉู่เหินมึนหัว เขาคิดอะไรไม่ออกด้วยเพราะรู้สึกราวกับว่าศีรษะของตัวเองนั้นกำลังจะระเบิด !

คงมีแต่ต้องหมดสติเท่านั้นถึงจะช่วยให้เขาผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ เพราะถ้าหมดสติไปแล้วก็จะไม่มีความรู้เจ็บอีก ! เพียงแต่น่าเสียดาย เพราะไม่ว่าจะทำยังไงเขาก็ไม่สามารถสลบได้เลย ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกลายเป็นตัวบังคับที่ทำให้เขามีสติรับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตลอดเวลา !

เมื่อวิญญาณของฉู่เหินกำลังจะแตกออก เขาก็ได้พบเข้ากับสสารสีดำที่ลอยมาจากวิญญาณของตัวเอง ! ไม่ต้องให้คนอื่นพูดเขาก็รู้ว่าสสารสีดำก็คือสิ่งเจือปนอย่างแน่นอน เดิมเขานึกว่าจิตวิญญาณของตัวเองบริสุทธิ์พอแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมีสิ่งเจือปนซ่อนอยู่อีก !

เพียงพริบตาเดียวสิ่งเจือปนพวกนั้นก็ถูกขับออกมาข้างนอก ! ทว่ามันกลับยังไม่หมด มีสิ่งเจือปนมากเกินไป ! ฉู่เหินได้แต่เอามือกุมหัวด้วยความเจ็บปวดขณะที่สสารสีดำถูกขับออกมา กระบวนการดังกล่าวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด และหัวของเขาก็ปวดตุบ ๆ ไม่หยุด ชายหนุ่มไม่เคยรู้สึกอยากตายมากขนาดนี้มาก่อนเลย !

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน จิตวิญญาณที่เคยเจ็บก็ค่อย ๆ หายไปอย่างช้า ๆ ทว่าฉู่เหินกลับไม่รู้เลยว่าความเจ็บปวดนั้นได้หายไปแล้ว เพราะตอนนี้เขารู้สึกชาทั่วตัว ! ใครที่ต้องทนเจ็บอย่างนี้ตลอด 2 ชั่วโมง แล้วไม่ชาบ้างละ !

หลังจากนั้นไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ฉู่เหินก็เริ่มรู้สึกตัวอย่างช้า ๆ ! ซึ่งการได้สติครั้งนี้ก็ทำให้เขาพบว่าจิตวิญญาณบริสุทธิ์กว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่า ! ทั้งยังทำให้พลังวรยุทธ์ภายในดูจะไหลเวียนเร็วขึ้นอีกด้วย !

ต้องเข้าใจด้วยว่า ยิ่งเลื่อนขั้นขึ้นสูงเท่าไหร่ ตัวตัดสินว่าพลังวรยุทธ์จะสูงต่ำก็ขึ้นอยู่กับจิตวิญญาณ ! ตอนนี้จิตวิญญาณเขาบริสุทธิ์ขึ้นมาก ฉะนั้นความเร็วในการเลื่อนขั้นของพลังวรยุทธ์จึงรวดเร็วตามไปด้วย ก่อนที่พลังวิญญาและพลังปราณจะหลอมรวมกันในขั้นสุดท้าย ! ซึ่งมันก็ใช้เวลาไม่ใช่น้อย ๆ เลย !

หลังจากเลื่อนเป็นขั้นปราชญ์ดาราระดับต้น ทุกการเลื่อนขั้นจำเป็นต้องใช้พลังมหาศาล ในขั้นตอนนี้การใช้วิธีโคจรพลังแบบที่พวกเขาทำกันทั่วไปจะทำให้เลื่อนขั้นได้ยากมาก ๆ ดังนั้นพรรคใหญ่ ๆ ที่มีอำนาจจึงพากันเสาะหาวัตถุดิบชั้นเลิศ เพื่อดึงพลังภายในนั้นมาใช้เลื่อนขั้น !

แม้ว่าที่เกาะตระกูลฉู่จะไม่มีใครกล้าดูหมิ่นฉู่เหิน แต่เมื่อมาที่ต่างโลกเขาก็เป็นเพียงต้นหญ้าต้นหนึ่งเท่านั้น ! ไม่เพียงแต่วัตถุดิบวิเศษล้ำค่า ๆ เหล่านั้น กระทั่งยาเลื่อนขั้นเขายังซื้อไม่ได้เลย ! แน่นอนว่านอกจากนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าต้องไปซื้อที่ไหนด้วย

คนรากหญ้ากับคุณชาย สองอย่างนี้มีความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน ! แต่ถึงแม้คุณชายพวกนั้นจะมีทั้งเงินมีทั้งอำนาจ แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะมีการหลอมรวมของจิตวิญญาณทั้งสาม ! เมื่อเป็นแบบนี้ตอนฝึกฝนไม่เพียงแต่ต้องพึ่งยาพลังวรยุทธ์ พวกเขายังต้องพึ่งพาการกินของวิเศษเพิ่มพลังวิญญาณด้วย !

ไม่ผิดที่ของที่สามารถเพิ่มพลังวรยุทธ์ได้นั้นจะถูกเรียกว่ายา ! ซึ่งของวิเศษพวกนี้นั้นมองไปทางไหนก็มีแต่น้อยกับน้อย ทุกครั้งที่ปรากฏก็จะมีคนแย่งชิ่งกัน และการจะปรากฏขึ้นซักครั้งหนึ่งก็เป็นไปได้ยาก ! ต้องใช้เวลานับ 100 ปี

หลังจากโคจรพลังเพื่อฟื้นฟูตัวเองเพียงแค่ 10 นาที เขาก็พลันพบว่าจิตวิญญาณของตัวเองในตอนนี้ได้ฟื้นฟูเต็ม 100 แล้วแล้ว ! อีกทั้งตอนนี้ไม่เพียงแต่ไม่เจ็บแล้ว กระทั่งเขายังมีความรู้สึกเบาสบายไปถึงจิตวิญญาณเลยด้วย และเมื่อสำรวจจิตวิญญาณของตัวเองอย่างละเอียด เขาก็พบว่ามันแข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อนมากทีเดียว

เมื่อรู้แบบนั้น ชายหนุ่มจึงลองใช้พลังจิตของตัวเองอีกครั้ง ! คราวนี้พลังจิตเกือบครอบคลุมทั่วบริเวณแล้ว ! ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าวก็ทำให้ฉู่เหินเศร้าใจไม่น้อย หลังจากทนทรมานมาครึ่งวัน กลับได้เพียงแค่นี้นะเหรอ ? ว่าแล้วชายหนุ่มก็กัดฟันแน่น ก่อนจะลุกขึ้นยืน !

ต่อมาก็เห็นเพียงเขาหยิบหม้อเซียนเผ่ากูและเอาน้ำออกมาอีก 1 หยด ! ครั้งนี้เขาไม่ลังเลที่จะหลอมรวมกับพลังจิตของตัวเองอีกต่อไป ! แต่ที่ทำให้ชายหนุ่มประหลาดใจก็คือ น้ำหยดนี้คล้ายจะไม่ก่อให้เกิดผลอะไรกับเขานัก นี้ทำให้ฉู่เหินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่นด้วยความโกรธ ! เพราะถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัวเขาก็คงต้องอยู่ที่นี่ตลอดไปน่ะสิ !

เมื่อคิด ๆ ดูแล้ว บางทีถ้าเอาออกมาเยอะหน่อย มันก็ควรที่จะแสดงผลได้ดีมากกว่านี้ ? ว่าแล้วฉู่เหินก็เอาออกมาอีกหยดเพื่อรวมกับของเก่า ! ก่อนจะเอาพลังจิตของตัวเองใส่เข้าไปภายในอย่างไม่ลังเล และแล้วชายหนุ่มก็ได้พบว่าเมื่อน้ำทั้ง 2 หยดเข้าไปถึงส่วนลึกสุดของพลังจิต มันก็ได้ทำให้พลังจิตของเขาเพิ่มสูงขึ้นในทันที !

หลังจากเห็นฉากนี้เขาก็รู้สึกดีใจ ! และเขาก็คิดว่าของอะไรก็แล้วแต่อย่าไปจำกัดความการใช้ของมัน น้ำวิญญาณเหล่านี้แม้ว่าจะดี แต่หากคิดจะเอามาใช้ซ้ำล่ะก็ ต้องใช้มากกว่าเดิมอีกหนึ่งเท่าตัว ! ตอนแรกใช้แบบไม่สนใจอะไร แต่ตอนหลังจากนี้จะต้องเป็นจำนวนที่น่ากลัวแน่ ๆ

แน่นอนว่าที่สำคัญคือฉู่เหินพบว่าครั้งแรกกับครั้งที่สองไม่เหมือนกัน ! เพราะครั้งที่ 2 นั้นให้ผลลัพธ์ที่อ่อนกำลังกว่าครั้งแรกครึ่งหนึ่ง เมื่อเป็นแบบนี้ถ้าใช้ต่อไปอีก 2-3 ครั้ง น่ากลัวว่ามันคงจะไม่ส่งผลกับจิตวิญญาณของตัวเองอีกแล้ว ถ้าอยากให้มันแสดงผลลัพธ์ก็ต้องเพิ่มจำนวนขึ้นในทุก ๆ ครั้ง

แต่สำหรับสายตาของฉู่เหินแล้ว เขาดูขาดแคลนน้ำวิญญาณหรือไง ! ดังนั้นหลังจากเขาดึงน้ำวิญญาณครั้งที่ 2 เสร็จ รอบนี้ชายหนุ่มก็เอาออกมาอีก 8 หยด! ที่จริงแล้วจำนวนเยอะมาก ๆ ขนาดนี้อาจะทำให้เป็นอันตรายได้ ควรลองใช้แค่ 4 หยดก่อนเพื่อความปลอดภัย ! แต่ทว่าเขากลับเอาออกมามากกว่านั้นหนึ่งเท่า ดังนั้นหลังจากนี้จึงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่จะทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น !

ผลลัพธ์หลังจากที่เขาใช้หยดน้ำวิญญาณ 8 หยด มันก็ได้ทำให้พลังวิญญาณของเขาเพิ่มพูนด้วยความรวดเร็ว แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจคือครั้งนี้ไม่มีความรู้สึกเจ็บแบบนั้นอีกแล้ว กลับเป็นความรู้สึกเบาสบายเสียด้วยซ้ำ !

หลังจากหลอมรวมน้ำวิญญาณไปเยอะขนาดนั้น ก็ทำให้จิตวิญญาณของเขาเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย ! ก่อนที่เขาจะรู้สึกว่าภายในจิตวิญญาณลึก ๆ ของตัวเองนั้นมีพลังขนาดใหญ่รวมตัวกันอยู่ในนั้น ! แต่ทว่านี่ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ! ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะปล่อยไปก่อน

ฉู่เหินที่กำลังยืนอยู่อย่างสงบ จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ดังมาจากข้างนอก ! หุบเขาสัตว์เทพจะเรียกว่าใหญ่ก็ไม่ใช่ จะเล็กก็ไม่เชิง เพราะไม่ว่าคุณจะหลบซ่อนตัวอย่างไง ไม่ช้าก็เร็วจะต้องถูกคนอื่นเจอตัวอยู่ดี !

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีผู้คนมากมายท่ามกลางผู้เข้าร่วมกว่า 3 หมื่นคนที่ถูกคัดออกไป ทั้งนี้ก็เป็นเพราะการต่อสู้ที่เกิดขึ้นอย่างดุเดือดตลอดทั้งวันทั้งคืนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ !

ตอนนี้เอง ท่ามกลางคนจำนวนมาก ก็ได้มีคน ๆ หนึ่งพุ่งตัวออกมา ถ้าฉู่เหินอยู่ที่นี่มองเพียงครู่เดียวก็รู้ว่าเป็นใคร คน ๆ นี้ไม่ใช่ใครอื่นเขาคือฉู่ตง ! ตอนนั้นที่พายุเฮอร์ริเคนพัดพวกเขาแยกจากกัน ซึ่งฉู่เหินก็เคยออกตามหาคนอื่น ๆ ทว่าก็ไม่พบ เพราะในโลกที่กว้างใหญ่ใบนี้การตามหาใครสักคนก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทรนั้นแหละ !