มาหาฉันกันทำไม

หลินเยวียนรีบรุดไปยังออฟฟิศตั้งแต่เช้าตรู่ในวันแรกของปี ปรากฏว่าทันทีที่คลิกเข้าปู้ลั่ว กดเข้าบัญชีผู้ใช้ของฉู่ขวง ก็เห็นคำท้าประชันวรรณกรรมจากนักเขียนนิทานตั้งเก้าคน เขารู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ถึงขั้นรู้สึกทำอะไรไม่ถูก เขาคิดมาตลอดว่าตนเก็บตัวเงียบไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากผู้คน

“หัวหน้า!”

จินมู่รุดมาหา

หลังจากกล่าว ‘สวัสดีปีใหม่’ อย่างรวดเร็ว จินมู่ก็เร่งร้อนกล่าวว่า “เรื่องที่วันนี้มีนักเขียนชื่อดังเก้าคนส่งคำท้าประชันวรรณกรรมมา หัวหน้าคงรู้แล้วใช่ไหมครับ คิดไว้หรือยังครับว่าจะรับคำท้าของนักเขียนท่านไหน”

จินมู่คล้ายกับกำลังกังวล

จะไม่กังวลได้อย่างไรล่ะ นักเขียนชื่อดังของวงการนิทานถึงเก้าคนเชียวนะ ต่อให้อิงตามกฎเกณฑ์ในการประชันวรรณกรรมของมณฑลเยี่ยน ผลงานหนึ่งชิ้นสามารถรับคำท้าได้เพียงครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น ตกเป็นเป้าหมายของยอดฝีมือพร้อมกันถึงเก้าคน จะให้แผ่นหลังไม่เปียกชุ่มเหงื่อก็ยากแล้ว!

“คิดแล้วครับ”

หลินเยวียนขบคิดเรื่องนี้ไว้บ้างแล้ว

เขามีแผนอยู่ในใจ

อันที่จริงหลินเยวียนมีประสบการณ์ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกท้าทายในนามของ ‘การประชันวรรณกรรม’ จำได้ว่าครั้งก่อนเป็นเหลิ่งกวงที่ยืนกรานว่าจะต้องต่อสู้กับหลินเยวียนด้วยวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนกับหลินเยวียนให้ได้ เพียงแต่ขนาดของการต่อสู้ในครั้งนี้ใหญ่กว่ามาก ไม่ทันไรก็กลายเป็นเก้าคนขึ้นมาซะอย่างนั้น

“เลือกใครครับ”

จินมู่เอ่ยอย่างรวดเร็ว “ที่จริงถ้าถามผม ผมแนะนำอาจารย์ฉีฉีกับอาจารย์จินซานครับ ทั้งสองท่านนี้เราเคยชนะมาครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าแข่งกันในรูปแบบการประชันวรรณกรรมเป็นครั้งที่สอง ต่อให้แพ้ก็จะนับว่าเสมอกันหนึ่งต่อหนึ่ง เราจะไม่เสียหน้า ส่วนทางชาวเยี่ยน พวกเขาส่งคำท้าไปแล้วถูกปฏิเสธเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรเสียหายครับ”

“เริ่มจากอาจารย์ฉีฉี”

หลินเยวียนแลดูผ่านการไตร่ตรองมาเป็นอย่างดี

จินมู่ผ่อนลมหายใจ ใบหน้าผุดรอยยิ้ม นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด ระดับในการเขียนนิทานของอาจารย์ฉีฉีเป็นรองอาจารย์จินซานอยู่เล็กน้อย เพราะฉะนั้นถ้าเลือกอาจารย์ฉีฉี โอกาสชนะจะมีค่อนข้างสูง

แตกต่างจากโลกภายนอก

ความเชื่อมั่นที่จินมู่มีต่อฉู่ขวงนั้นเหนือกว่าคนธรรมดา ไม่มีทางเคลือบแคลงในความสามารถของฉู่ขวงเพียงเพราะฉู่ขวงเคยเขียนนิทานมาเพียงเรื่องเดียว ในครั้งนี้เป็นเพราะความยิ่งใหญ่ของแนวรบคู่ต่อสู้ พลอยให้จินมู่ตื่นตระหนกโดยไม่รู้ตัว

“แล้วก็เลือกคนที่นามสกุลเดียวกับอาจิน”

หลินเยวียนมองไปทางบัญชีปู้ลั่วของจินซาน

รอยยิ้มของจินมู่ชะงักค้าง เข้าใจความหมายของหลินเยวียนแทบจะในทันที “หัวหน้าจะเล่นแบบสองต่อหนึ่งเหรอครับ กฎของการประชันวรรณกรรมคือผลงานหนึ่งเรื่องใช้ได้กับคู่แข่งเพียงคนเดียว ไม่มีใครใช้ผลงานชิ้นเดียวประชันกับคู่แข่งสองคนหรอก”

“ใครบอกว่าผมจะใช้ผลงานชิ้นเดียว?”

“หัวหน้าเตรียมผลงานไว้สองชิ้น?”

จินมู่เริ่มรู้สึกกังวลอีกครั้ง การประลองแบบหนึ่งต่อสองคือสงครามสองด้าน ความยากแตกต่างกับการต่อสู้แบบตัวต่อตัวอย่างสิ้นเชิง!

แต่หลินเยวียนไม่ได้ตอบคำถามของผู้จัดการในทันที

เขาเมนชันถึงอาจารย์ฉีฉีต่อหน้าจินมู่ พร้อมทั้งแนบข้อความว่า

‘ผลงานเรื่องใหม่ ซินเดอเรลลา โปรดชี้แนะ!’

……

บนโลกออนไลน์ในขณะนี้

ชาวเน็ตยังคงถกเถียงกันอย่างคึกคักเกี่ยวกับเรื่องที่ฉู่ขวงถูกนักเขียนชื่อดังเก้าคนท้าประลอง หลายคนคาดเดากันไปว่าสุดท้ายแล้วฉู่ขวงจะรับคำท้าจากนักเขียนท่านใด และสุดท้ายแล้วนักเขียนคนใดจะได้รับความสนใจมากที่สุด!

‘ฉันว่าเป็นอาจารย์ฉีฉี’

‘ระดับของอาจารย์ฉีฉีค่อนข้างตามหลังนักเขียนคนอื่นๆ นอกจากนั้นผลงานที่อาจารย์ฉีฉีปล่อยในราชานิทานก็ยังถูกเจ้าแก่ฉู่ขวงเกทับไป เจ้าแก่ฉู่ขวงเผชิญหน้ากับอาจารย์ฉีฉีย่อมได้เปรียบทางจิตวิทยาเป็นธรรมดา’

‘ถ้างั้นอาจารย์จินซานก็ได้เหมือนกัน?’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงเป็นคนที่ไม่ชอบวางไพ่ตามปกติอยู่แล้ว ผมว่าเขาน่าจะไม่เลือกทั้งจินซานและฉีฉี อาจสุ่มเลือกนักเขียนจากมณฑลเยี่ยนมาสักคน ไม่อย่างนั้นคนเยี่ยนกลุ่มนี้จะได้ใจ ไม่แน่อาจเริ่มป่าวประกาศว่าฉู่ขวงไม่กล้ารับคำท้าจากคนเยี่ยนแล้วก็ได้’

‘…’

ขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด จู่ๆ ก็มีคนเอ่ยว่า ‘ฉู่ขวงตอบแล้ว เหมือนว่าเขาจะตอบรับคำท้าของอาจารย์ฉีฉีนะ แต่ผมไม่เข้าใจ ซินเดอเรลลาคือศัพท์ทางเทคนิคอะไรหรือเปล่า’

‘อะไรนะ’

‘เลือกฉีฉี?’

‘ไม่สนุกเลย’

‘ครั้งนี้ฉู่ขวงควรเลือกชาวเยี่ยนมากกว่า ชาวเยี่ยนส่งคำท้าให้เขาเจ็ดคน แต่เขากลับไม่เลือกสักคน ดันมาเลือกคนฉิน ต่อสู้กับคนฉินกันเอง บางทีคนเยี่ยนอาจกำลังหัวเราะเยาะอยู่ก็ได้’

‘แอบผิดหวัง’

‘ฉันเองก็แอบผิดหวังเหมือนกัน ฉีฉีเป็นคนที่มีระดับต่ำที่สุดในเก้าคนนี้ ดูท่าครั้งนี้ฉู่ขวงคงไม่ได้มั่นใจในผลงานของตัวเองมากเท่าไหร่ เลยเลือกคู่แข่งที่เขามีโอกาสชนะมากที่สุด เข้าใจก็เข้าใจอยู่หรอก แต่มันก็น่าหงุดหงิดอยู่ดี’

‘วัยเยาว์ของผมจบสิ้นแล้ว’

‘ถึงนิทานอาจไม่ใช่หมวดหมู่ที่ฉู่ขวงถนัด แต่พอเห็นฉู่ขวงเปิดมาก็ใช้วิธีเพลย์เซฟแบบนี้แล้วเซ็ง นี่ผมแก่แล้วหรือฉู่ขวงแก่แล้วกันแน่?’

‘…’

ชาวเน็ตต่างรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง

แต่ถึงอย่างนั้น ยังไม่ทันได้ผิดหวังนานนัก ทุกคนก็พบว่าฉู่ขวงโพสต์เมนชันถึงอาจารย์จินซาน!

‘ผลงานเรื่องใหม่ หนูน้อยหมวกแดง โปรดชี้แนะ!’

ชาวเน็ตมากมายต่างตกตะลึง ฉู่ขวงทำแบบนี้หมายความว่าอะไรกัน

ทั้งๆ ที่รับคำท้าจากอาจารย์ฉีฉีแล้ว ทำไมถึงยังเมนชันถึงจินซานอีกล่ะ

‘เชี่ย!’

ในที่สุดก็มีคนตั้งสติได้ อันที่จริงคำตอบนี้ของฉู่ขวงนั้นชัดเจนมาก เขาคิดจะสู้สองต่อหนึ่งสินะ สงครามสองข้างดีๆ นี่เอง ประชันวรรณกรรมด้านนิทานกับฉีฉีและจินซานพร้อมกัน!

‘พระเจ้าช่วย!’

‘ฉู่ขวงโคตรโหด!’

‘สมแล้วที่เป็นฉู่ขวง!’

‘ฉู่ขวงอวดเบ่งไปอีก!’

‘แต่ฉันชอบนะ แหะๆ!’

‘ฉันคิดว่าฉู่ขวงจะใช้กลยุทธ์แบบเพลย์เซฟนะเนี่ย ปรากฏว่าเขาเล่นใหญ่สุด เห็นชัดๆ ว่าเจ้าแก่นี่มีแผนร้าย อยากจะสู้กับจินซานและฉีฉีอีกสักยก ความนัยก็คือ พวกคุณสองคนยังไม่ยอมจำนนอีกเหรอ งั้นฉันจะให้โอกาสอีกครั้ง!’

‘แบบนี้สิถึงจะสมกับเป็นฉู่ขวง!’

‘ถึงจะไม่สนใจคำท้าของชาวเยี่ยน แต่เขาก็กล้ามากเลยนะที่ทำสงครามสองด้านแบบนี้ ต่อให้เป็นทางชาวเยี่ยนก็คงปริปากบ่นไม่ออกหรอก พวกเขากล้าทำสงครามสองด้านกับนักเขียนนิทานสองคนเท่านี้หรือเปล่าล่ะ?’

‘ฉู่ขวงกล้าจริง!’

บรรยากาศบนอินเทอร์เน็ตครึกครื้นขึ้นมาฉับพลัน ทว่าครึกครื้นไปได้ไม่เท่าไหร่ บรรยากาศนี้ก็ถูกตัดบทขึ้นมาอีกครั้ง!

เพราะฉู่ขวงมีความเคลื่อนไหวขึ้นมาอีกครั้ง!

เขาเมนชันถึงหลานเมิ่งนักเขียนนิทานชื่อดังจากมณฑลเยี่ยน และใช้รูปแบบเดียวกันกับคำตอบที่ให้กับนักเขียนสองคนก่อนหน้านี้

‘ผลงานเรื่องใหม่ ฉลองพระองค์ใหม่ของพระราชา โปรดชี้แนะ!’

ชาวเน็ตตกตะลึงอีกครั้ง

นี่มัน…

สงครามสามด้าน…

สามด้านบ้าบออะไรล่ะเนี่ย!

ภายใต้สายตาของทุกคนที่จ้องมองมา การเคลื่อนไหวของฉู่ขวงว่องไวขึ้นเรื่อยๆ เมนชันถึงนักเขียนชื่อดังชาวเยี่ยนคนอื่นๆ

‘ผลงานเรื่องใหม่ ลูกเป็ดขี้เหร่ โปรดชี้แนะ!’

‘ผลงานเรื่องใหม่ เจ้าหญิงนิทรา โปรดชี้แนะ!’

‘ผลงานเรื่องใหม่ เจ้าชายกบ โปรดชี้แนะ!’

‘ผลงานเรื่องใหม่ เงือกน้อยผจญภัย โปรดชี้แนะ!’

‘ผลงานเรื่องใหม่ เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ โปรดชี้แนะ!’

‘ผลงานเรื่องใหม่ เรื่องเล่าของชาวประมงกับปลาสีทอง โปรดชี้แนะ!’

‘…’

สงครามสองด้าน?

สงครามสามด้าน?

ขอโทษเถอะ

สงครามเก้าด้านต่างหาก!

นี่มันไม่ใช่ลมพายุแล้ว!!

นี่มันพสุธากัมปนาท!!!

อีกหลายปีต่อจากนี้ เมื่อผู้คนหวนนึกถึงภาพเหตุการณ์ในวันนี้ พวกเขาจะยังคงรู้สึกขนลุกซู่และสมองชาวาบ…

ฉู่ขวง!!

หนึ่งต่อเก้า!!!

…………………………………………